Monday, 21 April 2025
ThaiZeroDropout

‘นายกฯ’ สั่ง!! เร่งแก้ปัญหา ‘เด็ก-เยาวชน’ หลุดระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ ผ่านมาตรการ ‘ค้นหา-ช่วยเหลือ-ส่งต่อ-ดูแล’ ทุกจังหวัดเริ่มดำเนินการ ก.ค.นี้

เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายสมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระบุว่า สถานการณ์เด็กออกกลางคัน หรือเด็กหลุดระบบการศึกษาในปัจจุบันหนักหน่วง โดยมีตัวเลขเด็กออกกลางคันเมื่อปี 2566 ประมาณ 1 ล้านคน จากเดิมปีละ 5 แสนคน เนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งจากปัญหาสังคม การเมือง และเศรษฐกิจนั้น ด้วยความห่วงใยของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่ออนาคตของเยาวชน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการการทำงาน แก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ค้นหาช่วยเหลือเยาวชน อายุ 3-18 ปี ที่ไม่พบข้อมูลในระบบการศึกษา และดูแลช่วยเหลือเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ตามมาตรการขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ โดยเริ่มปฏิบัติการค้นหาช่วยเหลือเยาวชนนอกระบบการศึกษาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ในทุกจังหวัด เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ของไทย และเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

นายชัยกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบมาตรการขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ ได้แสดงถึงความห่วงกังวลที่รัฐบาลมีต่อเด็กและเยาวชนนอกระบบ จัดให้เป็นวาระแห่งชาติ ประกอบด้วย 4 มาตรการสำคัญคือ 

1.มาตรการค้นหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาผ่านการบูรณาการ และเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การค้นพบเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา

2.มาตรการติดตาม ช่วยเหลือ ส่งต่อ และดูแลเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา โดยบูรณาการ การทำงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนแต่ละรายอย่างเหมาะสม ทั้งด้านการศึกษา สุขภาวะ สภาพความเป็นอยู่ และสภาพสังคม 

3.มาตรการจัดการศึกษาและเรียนรู้แบบยืดหยุ่น มีคุณภาพ และเหมาะสม กับศักยภาพของเด็กและเยาวชนแต่ละราย มีเป้าหมายให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษา และการพัฒนาเต็มศักยภาพของตนเอง 

4.มาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมจัดการศึกษา หรือเรียนรู้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา หรือการเรียนรู้ในลักษณะ Learn to Earn โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ให้ทุกจังหวัดคิกออฟกระบวนการค้นหา และช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาทั้งประเทศ ใช้ Application Thai Zero Dropout สนับสนุนภารกิจ สำรวจค้นหา วางแผน ช่วยเหลือ และเชื่อมโยง ส่งต่อการช่วยเหลือทั้งระดับพื้นที่และระดับประเทศ รวมถึงติดตามความก้าวหน้า

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ศธ.ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเด็กออกกลางคันอย่างมาก โดยเร่งแก้ไขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในการทำนโยบาย ไทยแลนด์ซีโร่ดร็อปเอาต์ การขยายโมเดล 1 โรงเรียน 3 ระบบ ที่เอื้อให้เกิดการจัดการศึกษา 3 รูปแบบ ได้แก่ 

1.การศึกษาในระบบ 

2.การศึกษานอกระบบที่ยืดหยุ่นด้วยเนื้อหา หลักสูตรที่สอดคล้องกับปัญหา และความต้องการของผู้เรียน

3.การศึกษาตามอัธยาศัย เรียนรู้ตามศักยภาพและความสนใจ 

เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง ยังมีเรื่องของชุดนักเรียน ซึ่ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ได้ประกาศเรื่องการยกเว้น หรือผ่อนผัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top