Saturday, 26 April 2025
Starbucks

Starbucks เล็งถอนตัวจากสหราชอาณาจักร หลังเจอพิษเงินเฟ้อ - การแข่งขันรุนแรง

Starbucks เล็งถอนตัวจากตลาดสหราชอาณาจักร หลังเจอพิษเศรษฐกิจจากภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้งยังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากแบรนด์เจ้าถิ่น

มีรายงานข่าวจากบีบีซี ระบุว่า Starbucks เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่จากสหรัฐ อเมริกา อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้กับธุรกิจในกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร (United Kingdom) เหตุเพราะเศรษฐกิจของ UK กำลังเผชิญวิกฤตอย่างหนัก

จากปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งภาวะเงินเฟ้อรุนแรงและปัญหาข้าวยากหมากแพง รวมไปถึงการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจนี้ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าสู้ต่อไม่ไหว อาจนำไปสู่การขายกิจการ เหมือนกับที่เคยขายธุรกิจสิทธิ์การบริหารในประเทศไทยให้กับบริษัทในกลุ่มไทยเบฟไปแล้วก่อนหน้านี้ 

อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจของ UK ไม่ต่างจากคนไข้ที่แพทย์ต้องจับตาดูอาการอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมาตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 9.1% สูงสุดในรอบ 40 ปี นับเป็นตัวเลขที่สูงสุดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) อีกด้วย และหากสถานการณ์ยังเลวร้ายต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าปีนี้ตัวเลขเงินเฟ้ออาจพุ่งเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 11%

ขณะที่ ก่อนหน้านี้ องค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้ประเมินเศรษฐกิจของ UK กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย และปี 2023 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อาจไม่ขยายตัวเลย

ข้อมูลเชิงลบดังกล่าว ทำให้ผู้บริโภคต้องคิดให้รอบคอบว่าจะกินจะดื่มอะไร เพราะอาหารทุกจานและเครื่องดื่มทุกแก้วย่อมส่งผลต่อจำนวนเงินในกระเป๋า ในภาวะข้าวยากหมากแพงเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ทาง Starbucks ยังคงจับตาสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจใน UK อย่างใกล้ชิดด้วยความกังวล แม้ว่าปัจจุบันยอดขายกำลังกระเตื้องกลับขึ้นมา หลังคนวัยทำงานต่าง ๆ ถูกเรียกตัวกลับบริษัท ทั้งแบบเต็ม 5 วันทำงานหรือสลับกับการทำงานอยู่บ้านก็ตาม

ขณะที่ The Times หนังสือพิมพ์เก่าแก่ของอังกฤษรายงานว่า Starbucks กังวลต่อสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจของ UK อย่างมาก และกำลังคิดหาทางว่าจะทำอย่างไร

จนต้องไปหารือกับ Houlihan Lokey บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินของสหรัฐฯ ที่เชี่ยวชาญการปรับโครงสร้าง ควบรวมและขายกิจการ โดยทางออกต่าง ๆ ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณานี้มีการขายกิจการรวมอยู่ด้วย

‘สตาร์บัคส์’ โอด!! ต้นทุนเพิ่ม ขอขึ้นบางเมนู 5-10 บาท หลังขึ้นครั้งล่าสุดปี 2563 เคาะ!! 4 ม.ค.67 เริ่มวันแรก

(4 ม.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ เตรียมปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มและอาหาร บางรายการในระดับประมาณ 5-10 บาท เริ่มต้นวันที่ 4 มกราคม 2567 นี้ เป็นวันแรก

โดยจากการสอบถามพนักงานร้าน ระบุว่า สินค้าที่ขึ้นราคาประกอบด้วย เครื่องดื่มปั่นทุกเมนู ส่วนเครื่องดื่มอื่น ๆ บางเมนูขนาด Tall จะยังคงเป็นราคาเดิม ส่วนกลุ่มอาหารจะขึ้นราคา เช่น แซนด์วิชจะขึ้นเป็นบางรายการ

การปรับราคาครั้งนี้จะมีผลในทุกช่องทางทั้งหน้าร้านและการสั่งออนไลน์ผ่านแพล็ตฟอร์มต่าง ๆ เช่น LINEMAN, Grab ฯลฯ

ขณะที่สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ยังไม่ให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาในครั้งนี้ แต่แหล่งข่าวรายหนึ่ง อธิบายว่า การปรับขึ้นราคาเป็นผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ต้องปรับราคาขายให้สัมพันธ์กับต้นทุน

อย่างไรก็ตาม พร้อมการปรับขึ้นราคานี้ สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวเมนูใหม่ 4 เมนู คือ ไอซ์ เวียนนา ครีมมี ลาเต้, เวียนนา ครีมมี แฟรบปูชิโน่, ไอซ์ ฮันนี่ พลัม เพียว มัทฉะ ลาเต้ และ ไอซ์ พีช พลัม เพิร์ลส อู่หลง

รวมถึงขนมสำหรับเทศกาลวาเลนไทน์อีกหลายเมนู อาทิ ช็อกโกแลตลาวาเค้ก, มาการองราสเบอร์รี่, โดนัทสอดไส้ราสเบอร์รี่, บราวนี่คัพรสช็อกโกแลต และอื่น ๆ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาสตาร์บัคส์ ประเทศไทย เคยปรับขึ้นราคาในระดับประมาณ 5 บาท มาแล้ว อาทิ เมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 2.5 ปี โดยขึ้นราคาทุกรายการยกเว้นเมนูปั่น ด้วยเหตุผลเรื่องต้นทุนสินค้า

‘สตาร์บัคส์’ พลาดเป้า!! กำไร-รายได้ Q1/67 ต่ำกว่าที่คาด หลังถูกบอยคอตอย่างหนักในสหรัฐฯ-การตัดราคาของจีน

เมื่อวานนี้ (31 ม.ค. 67) สตาร์บัคส์ (Starbucks) ธุรกิจร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลกำไรและรายได้ในไตรมาส 1/2567 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากทำยอดขายทั้งในสหรัฐและต่างประเทศต่ำกว่าคาด

โดยสตาร์บัคส์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้น 90 เซนต์ในไตรมาส 1/2567 ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 93 เซนต์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 9.43 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 9.59 พันล้านดอลลาร์

นายลักษมัน นรสีหาญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์ว่า กิจการของบริษัทกำลังเผชิญกับ ‘แรงต้าน’ ซึ่งรวมถึงการถูกบอยคอตอย่างหนักในสหรัฐและการตัดราคาโดยบรรดาคู่แข่งในจีน

“ยอดขายในสหรัฐเริ่มชะงักตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจุดยืนของบริษัทในสงครามอิสราเอล-ฮามาส อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากลูกค้าขาจร” นรสีหาญ กล่าว

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อสหภาพแรงงานสตาร์บัคส์ (Starbucks Workers United) โพสต์ข้อความสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ผ่านเอ็กซ์ (X) โดยมีการใช้สัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์ ทางบริษัทสตาร์บัคส์จึงฟ้องร้องสหภาพแรงงานฐานละเมิดเครื่องหมายการค้า ซึ่งทำให้คนจำนวนมากรู้สึกว่าสตาร์บัคส์มีจุดยืนฝักใฝ่อิสราเอล

Starbucks โตสดใสในจีน ทั้งปีเปิดสาขาใหม่แล้ว 790 แห่ง เจาะตลาดระดับอำเภอ สะท้อนนอกเมืองใหญ่กำลังซื้อสูง

เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.67) สตาร์บัคส์ (Starbucks) เผยแพร่รายงานงบการเงินประจำปีที่ระบุว่าสตาร์บัคส์สร้างสถิติเปิดร้านสาขาใหม่รวม 790 แห่ง และเข้าสู่ตลาดระดับอำเภอใหม่ 166 แห่ง บนแผ่นดินใหญ่ของจีนในปีงบการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 29 ก.ย. 2024 แม้ยอดจำหน่ายของร้านสาขาที่เปรียบเทียบได้ทั่วโลกลดลง

ยอดจำหน่ายของร้านสาขาที่เปรียบเทียบได้ทั่วโลกของสตาร์บัคส์ในไตรมาสสี่ของปีงบการเงินข้างต้นลดลงร้อยละ 7 เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งเป็นผลจากธุรกรรมที่เปรียบเทียบได้ลดลงร้อยละ 8 โดยยอดจำหน่ายของร้านสาขาที่เปรียบเทียบได้ในตลาดจีนลดลงร้อยละ 14 ซึ่งเป็นผลจากยอดซื้อเฉลี่ยต่อใบเสร็จลดลงร้อยละ 8 และธุรกรรมที่เปรียบเทียบได้ลดลงร้อยละ 6

แม้ยอดจำหน่ายของร้านสาขามีแนวโน้มลดลง แต่สตาร์บัคส์เพิ่มร้านสาขาใหม่บนแผ่นดินใหญ่ของจีนในไตรมาสสี่ 290 แห่ง ซึ่งคิดเป็นกว่าร้อยละ 40 ของร้านสาขาเปิดใหม่ทั่วโลก 722 แห่ง โดยตัวเลขนี้ทำให้จำนวนร้านสาขาบนแผ่นดินใหญ่ของจีนรวมอยู่ที่ 7,596 แห่ง ครอบคลุมตลาดระดับอำเภอราวหนึ่งในสามของทั้งหมดในจีน

ทั้งนี้ จำนวนร้านสาขาในสหรัฐฯ และจีนคิดเป็นร้อยละ 61 ของร้านสาขาสตาร์บัคส์ทั่วโลก เมื่อนับถึงสิ้นไตรมาสสี่

จูตานเผิง นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอาหาร กล่าวว่าตลาดระดับอำเภอกลายเป็น 'น่านน้ำสีน้ำเงิน' (blue ocean) หรือตลาดที่ยังมีคู่แข่งน้อยสำหรับการบริโภคกาแฟในจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสตาร์บัคส์สะท้อนความเชื่อมั่นในตลาดกาแฟของจีน

มอลลี หลิว ซีอีโอของสตาร์บัคส์ ไชน่า เน้นย้ำว่าธุรกิจของสตาร์บัคส์ยังคงแข็งแกร่งและยืดหยุ่น โดยสตาร์บัคส์ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการพัฒนาระยะยาวในตลาดจีนต่อไป

Starbucks เปิดสาขาใหม่บน DMZ จิบกาแฟชมวิวโสมเหนือ จากฝั่งเกาหลีใต้

(3 ธ.ค. 67) Starbucks ได้เปิดร้านกาแฟแห่งใหม่บนหอสังเกตการณ์ในเขตปลอดทหาร (DMZ) ฝั่งเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ที่ Aegibong Peace Ecopark ในเมืองกิมโป ห่างจากกรุงโซลประมาณ 20 ไมล์ โดยร้านขนาด 30 ที่นั่งนี้ จะมอบประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้าได้จิบกาแฟพร้อมชมวิวข้ามแม่น้ำโจ (Jo River) ไปยังฝั่งเกาหลีเหนือ ท่ามความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลี  

สาขาเปิดใหม่ในจุดที่มีความเสี่ยงเช่นนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2024 ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์หากถูกโจมตี หลังประธานาธิบดีเกาหลีใต้เตือนว่าการใช้กำลังจะนำไปสู่ "จุดจบของระบอบการปกครองฝั่งเหนือ"  

แม้จะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ถือว่าอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แต่ Starbucks สาขาใหม่นี้กลับได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม นับตั้งแต่เปิดสาขาเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา โดยลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับกาแฟ พร้อมชมวิวฟาร์มและอาคารเตี้ย ๆ ในเมืองแกปง (Kaepung) ของฝั่งเกาหลีเหนือ โดยในวันที่อากาศดี ลูกค้าที่มีกล้องส่องทางไกลหรือสมาร์ทโฟนอาจสามารถซูมได้เห็นชีวิตของชาวเกาหลีเหนือที่อาศัยในบริเวณดังกล่าว

ลิม จอง-ชุล (Lim Jong-chul) ชายวัย 80 ปี ผู้เคยเข้าร่วมสงครามเวียดนามและเป็นหนึ่งในลูกค้าร้านนี้กล่าวว่า "ความเคร่งเครียดของพื้นที่ทำให้รู้สึกกดดัน แต่การมี Starbucks อยู่ที่นี่ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบและอบอุ่นขึ้น"  

เมืองกิมโปได้ใช้ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ DMZ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยนายกเทศมนตรีเมืองกิมโป คิม บยอง-ซู ระบุว่า สถานที่นี้มีความเอกลักษณ์พิเศษ และสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของวัฒนธรรมเกาหลีอย่างแท้จริง  

องค์การการท่องเที่ยวเกาหลี ยังกล่าวว่าการเปิด Starbucks ในพื้นที่ดังกล่าว มีส่วนช่วยให้เพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เยี่ยมชมเขต DMZ ซึ่งดึงดูดผู้คนจำนวนมากในแต่ละปี  

ทั้งนี้ บริษัททัวร์สองแห่งที่รับหน้าที่พาทัวร์เกาหลีเหนือ เปิดเผยว่า ในเร็วๆนี้ เกาหลีเหนืออาจกำลังเตรียมกลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งช่วงสิ้นปี 2024 หลังปิดพรมแดนมานานกว่า 5 ปีตั้งแต่โควิดระบาด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top