Wednesday, 15 May 2024
PoliticsQUIZ

'บิ๊กป้อม' ลุย ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ ส่องความคืบหน้าโครงการสถานีสูบน้ำ

(8 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ชั้น 5 ห้องประชุมบัวหลวงปทุมธานี ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ จังหวัดปทุมธานี และมอบนโยบายให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง มีนายณรงศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ตัวแทนส่วนราชการในพื้นที่ เข้าร่วม อาทิ พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และส่วนราชการเกี่ยวข้อง เป็นต้น โดยพล.อ.ประวิตร ยิ้มแย้มแจ่มใสและทักทายผู้ว่าปทุมฯ อย่างอารมณ์ดี

‘เพื่อไทย’ เฉ่ง ‘ส.ว.’ ลามากสุดในประวัติศาสตร์ เจตนาชัดไม่อยากถูกตัดอำนาจเลือกนายกฯ

(8 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา พรรคเพื่อไทยนำโดย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่การประชุมร่วมรัฐสภานัดพิเศษล่มในวันนี้

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า เราอยู่ในการพิจารณารัฐธรรมนูญที่สำคัญ เป็นเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นข้อเรียกร้องของประชาชน ที่เราทราบกันดีว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ รวมถึงมาตราที่เรานำเข้าสู่สภาฯ ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 159 และมาตรา 272 ล้วนเป็นมาตราที่เป็นปัญหา ทำให้ประเทศไม่สามารถเกิดประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เราเองต้องการเพียงความร่วมไม้ร่วมมือกับเพื่อนสมาชิก เพื่อทำให้สภาฯ เดินหน้าต่อได้

นายสุทิน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะองค์ประชุมที่ล่มหลายครั้งจะเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญมาก แต่คราวนี้เป็นการประชุมวาระที่สำคัญที่สุด คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การล่มในวันนี้เป็นที่ทราบว่า เป็นการพยายามทำให้ล่มซึ่งทำมาแล้ว 2 ครั้ง ในครั้งที่แล้ววาระดังกล่าวก็ถูกขัดขวางจากสมาชิกวุฒิสภา ว่าเป็นการบรรจุวาระที่ไม่ถูกต้องบ้าง ไม่เชิญ ส.ว.ในการหารือบ้าง จึงทำให้เป็นเหตุให้การประชุมครั้งที่แล้วล้ม 

แต่ในคราวนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญวิปทั้ง 3 ฝ่ายหารือกันก่อน แต่ท้ายที่สุดก็ทำให้เห็นว่า ความพยายามที่จะทำให้การประชุมล่มก็ไม่เปลี่ยนไป ทั้งนี้มี ส.ว. อยู่ร่วมประชุมน้อยมาก ทางประธานก็รอจนถึงที่สุด แต่ก็ล่มเพราะ ส.ว. มากันน้อยมากกว่าทุกครั้ง กล่าวได้ว่า "ล้มครั้งนี้ก็เพราะ ส.ว.เป็นฝ่ายทำให้ล้ม" มองเจตนาอื่นไปไม่ได้ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เป็นการแก้ไขกระทบโดยตรงกับ ส.ว. จึงคิดว่า ส.ว.คงรับไม่ได้ จึงใช้วิธีนี้

‘บิ๊กป้อม’ แรงใจดี!! กลับจากอีสาน มุ่ง ‘ปทุมธานี’ ติดตาม - เร่งรัดโครงการพัฒนาคลอง-สถานีสูบน้ำ

(8 ก.พ.66) เวลา 14.00 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี /ผอ.กอนช. พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจราชการ ณ จ.ปทุมธานี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ และโครงการป้องกันอุทกภัย รวมทั้งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ที่สำคัญในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และลุ่มน้ำเจ้าพระยา

โดยเมื่อ เดินทางถึงศาลากลางจังหวัด พล.อ.ประวิตร ได้ประชุมหารือร่วมกับ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ. (ผู้ว่า หมูป่า), เลขาฯ สทนช., รองอธิบดีกรมชลประทาน, รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสรุป จ.ปทุมธานี พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และในทุก ๆ ปี จะประสบปัญหาจากสถานการณ์น้ำท่วม ในช่วงฤดูฝน โดยปีที่ผ่านมา ล่าสุดก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากภาวะน้ำหลาก เข้าท่วมบ้านเรือน และพืชสวนไร่นา สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและเกษตรกรจำนวนไม่น้อย ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยและไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ให้ความช่วยเหลือ เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับทั้งแผนงาน/โครงการระยะสั้น และระยะยาว ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายที่สำคัญ แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยกำชับ สทนช., จังหวัด, กรมชลประทาน, กรมโยธาธิการและผังเมือง ตลอดจน กรมทางหลวง ให้บูรณาการทำงานแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งการสูบน้ำ การระบายน้ำ การพัฒนาแหล่งน้ำ การเตรียมความพร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ระบบระบายน้ำ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา และการแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ ให้สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่การเตรียมแผนเผชิญเหตุ รองรับภัยพิบัติในการช่วยเหลือประชาชนให้ได้ ทันท่วงที โดย ผวจ.ได้รายงานให้ทราบเพิ่มเติมด้วยว่า ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ได้รับการช่วยเหลือ และเงินเยียวยาแล้ว จึงได้ฝากมาขอบคุณ พล.อ.ประวิตร และ รัฐบาลในโอกาสนี้ด้วย

‘เสี่ยเฮ้ง’ ฉะ นักการเมืองหาเสียงบิดเบือนข้อมูล ย้ำ ควรเล่นการเมืองอย่างมีเกียรติ - ไม่พูดใส่ร้ายคนอื่น

‘สุชาติ ชมกลิ่น’ โพสต์เฟซบุ๊กกระทุ้งฝ่ายตรงข้ามใส่ร้ายให้ข้อมูลบิดเบือนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด สอนมวยเป็นนักการเมืองอย่าหาเสียงใส่ร้ายป้ายสี ย้ำเป็นคนกตัญญูรู้คุณพ่อแม่สั่งสอนมาดี แต่คนที่จ้องทำร้ายอย่าไปเสวนาด้วยมองข้ามให้เขาหลุดพ้น

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ ระบุว่า…

#อย่าได้เสวนา
กับคนที่ให้ข้อมูลบิดเบือน ทำร้ายเรา

#แม่ทัพอัลไซเมอร์
เนื่องจากมีพี่ๆ น้องๆ ที่เห็นการให้ข้อมูลที่บิดเบือน ในพื้นที่และรู้สึกเป็นห่วงผมได้ส่งภาพและเสียงมาให้ดู แต่ผมก็ติดภารกิจหลายอย่าง จึงคิดว่าปล่อยผ่านดีกว่าเอาเวลาทำงานมาดู เพราะเรารู้ว่า (อีกแล้ว) เขาทำเพื่ออะไร ที่ผ่านมาผมคิดว่าไม่เป็นไปตามเนื้อข่าว แล้วเดี๋ยวเรื่องก็ผ่านไป

ทุกวันนี้ผมเข้าใจท่านที่เป็น ดารา-นักร้อง บุคคลสาธารณะมากขึ้นว่าเขาใช้ชีวิตกับข่าวได้ยากลำบากมากแค่ไหน หากมีข่าวอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรา ถ้าไม่จริง ควรต้องออกมา บอกเล่าข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะเมื่อเราปล่อยผ่านไป ‘นานวันคนที่ปล่อยข่าวก็ได้ใจ คนทั่วไป ก็เริ่มสับสนและอาจเริ่มเชื่อในข้อมูลนั้นๆ’

ผู้ร่วมก่อตั้ง 'อนาคตใหม่' ลาขาด 'ก้าวไกล' ไร้ประชาธิปไตย ไม่ฟังความเห็นต่าง

(9 ก.พ. 66) หลังจากมีข่าวสะพัดว่า นายคริส โปตระนันทน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตจตุจักร พญาไท ราชเทวี ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และมูลนิธิเส้นด้าย เตรียมประกาศลาออกจากพรรคก้าวไกล พร้อมทีม ส.ก.อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อไปก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น

ล่าสุด นายคริส โปตระนันทน์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงสาเหตุการลาออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกลว่า  สวัสดีครับประชาชนที่รักทุกท่าน วันสองวันนี้มีคนสอบถามผมเข้ามาเยอะว่า ผมยังเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลอยู่หรือไม่? ผมเรียนถึงทุกท่านตามตรงว่า ผมมีความภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งในพรรคนี้ไม่น้อยกว่าใคร แต่ตัวผมก็ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพราะเหตุผลสามประการ

1. ผมอยากจะทำการเมืองในพรรคที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ความเป็นประชาธิปไตยของพรรคยังห่างจากที่พรรคโฆษณาอีกมาก การที่ผมได้มาร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่กับคุณธนาธรเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561 เพราะผมไม่ได้มาทำการเมืองเพื่อให้ใครได้เป็น ส.ส. หรือเพื่อให้ใครได้อำนาจ หรือมาทำการเมืองเพื่อผลักดันวาระทางการเมืองของใครบางคน

ผมอยากได้พรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงคือพรรคการเมืองที่ประชาชนเป็นเจ้าของ

เวลาจากวันนั้นถึงวันผ่านมา 5 ปี  ต้องถามกลับไปที่ประชาชนผู้เป็นสมาชิกพรรค จำนวนกว่า 60,000 คน ว่าทราบบ้างหรือไม่ว่าพรรคมีประชุมสามัญวันไหน พรรคมีการคัดเลือกผู้สมัครส.ส.กันอย่างไร กลไกในการคัดเลือกนโยบายที่จะหาเสียงในคราวนี้ คุณเคยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจหรือไม่? ใครจะได้เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ คุณรู้หรือไม่?

ผมในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกตลอดชีพทั้งพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล ตอบได้เลยว่า เรื่องทั้งหมดที่เป็นเรื่องที่สำคัญมากทั้งสิ้น ล้วนเป็นเรื่องของการตัดสินใจของคนกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ผมให้ชื่อเล่นกลุ่มนี้ว่า 'โปลิตบูโร'

หากการบริหารพรรคยังเป็นอย่างนี้ หากพรรคก้าวไกลได้อำนาจในการบริหารประเทศ พรรคก้าวไกลจะบริหารประเทศอย่างไร ก็คงต้องอยู่ที่คนกลุ่มนี้ ไม่ได้อยู่สมาชิกพรรคแต่อย่างใด
เรื่องดีๆ ใครก็พูดได้ แต่ทำยาก ผมก็เข้าใจ มิฉะนั้น พรรคก้าวไกลในอนาคตคงจะมีชะตากรรมไม่ต่างจากพรรคการเมืองที่ดีแต่พูด (Hypocrital party)

เรื่องนี้ผมสะท้อนให้แกนนำฟัง ผมพูดในที่ประชุมใหญ่พรรคทุกปี พูดกับทุกคน คำตอบที่ได้มีเพียงแค่ “ขอเวลาหน่อย” “เรายุ่งมาก อดทนหน่อยนะ ทำให้แน่ ๆ” “เลือกตั้งคราวหน้า เราทำแน่ ๆ” ฟังดี ๆ มันคล้ายที่คุณประยุทธ์พูด “ขอเวลาอีกไม่นาน”

เรื่องนี้ผมรับรู้อย่างลึกซึ้งด้วยตัวเอง เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมสอบถามผ่านแกนนำว่า ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจะจัดการอย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ที่ผมจะขยับไปลงส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เพราะมีโอกาสสูงมากที่เขตที่ผมลงรอบปี 62 (ราชเทวี พญาไท จตุจักร 2 แขวง) จะถูกแบ่งใหม่แยกเป็นสามส่วน และผมก็เชื่อว่า ความรู้ความสามารถของเราสามารถที่จะช่วยให้พรรคหาเสียงทั่วประเทศได้ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา การทำงานของผมและเพื่อนๆในกลุ่มเส้นด้ายลงไปทำงานกับชุมชนแออัดทั่วทุกเขตในกทม. และในอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ จนส.ก.ในกลุ่มของผมได้รับเลือกตั้งจำนวนมาก และเกือบชนะอีกจำนวนหนึ่ง

คำตอบที่ได้กลับมาคือ คุณจะมาเป็นได้ยังไง? คุณเหยียบย่ำหัวใจคนในพรรคขนาดนี้ ผมก็งงสิครับนี่มันเรื่องอะไร ผมไปเหยียบใครตอนไหน พอนั่งนึกก็ถึงบางอ้อ

- ผมคัดค้านการลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของส.ส.วิโรจน์ เพราะเห็นว่าตัวผู้สมัครของเราไม่ดีพอที่จะสู้กับผู้ว่าชัชชาติ

ผลคือ พรรคก้าวไกลแพ้ต่อผู้ว่าชัชชาติชนิดคะแนนทิ้งกัน 2 แสนกับ 1.2 ล้านเสียง

- ผมคัดค้านการแต่งตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อคนหนึ่งมาเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งส.ส.ซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ เพราะส.ส.บัญชีรายชื่อไม่มีทางที่จะเข้าใจการเลือกตั้งแบบเขต หากไม่เคยลงเลือกตั้งมาก่อน

ผลคือ พรรคก้าวไกลแพ้ในเขตชนิดคะแนนทิ้งกันเกือบหมื่นคะแนน

- ผมคัดค้านการแต่งตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อคนหนึ่งมาเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งส.ส.ในกรุงเทพมหานคร ปี 66 อีกครั้ง เพราะเรากำลังเอาคนที่ทำเลือกตั้งแพ้มาแล้วครั้งหนี่งมาคุมเลือกตั้งที่สำคัญกว่าและใหญ่กว่า

- ผมในฐานะอดีตประธานมูลนิธิเส้นด้ายแถลงข่าวกรณีที่อาสาของมูลนิธิเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากอดีต ส.ก. พรรคก้าวไกล

ผลคือ ผมโดนถล่มจากสมาชิกพรรคว่า ไม่ปกป้องพรรค

ผมไม่เคยกลัวในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่เคยกลัวในการกระทำที่เราคิดว่าถูกต้อง และที่ผ่านมา ผมพูดตรง ๆ กับพรรคเสมอถึงความยุติธรรมในประเด็นต่าง เช่น การเกลี่ยทรัพยากรของส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กับส.ส.เขต ความน้อยเนื้อต่ำใจของคนที่ลงพื้นที่เหล่านี้อยู่ในใจของผู้สมัครท้องถิ่น หรือผู้สมัครส.ส.เขตทุกคนแต่ไม่มีใครกล้าพูด แต่การที่ผมพูดกับแกนนำแบบนั้น มันทำให้ผมกลายเป็น

-ทำไมคุณถึงมีปัญหาตลอดเลย?

-ผมเป็นคนเลว เพราะผมต้องการแย่งเงิน แย่งทรัพยากรจากส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ?

-ผมเป็นคนไม่จงรักภักดีกับพรรค?

วันที่ผมนั่งคุยกับแกนนำเรื่องการขยับไปลงส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ วันนั้นแกนนำท่านหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท เปรียบเทียบให้ผมฟังว่า หากมีเซลล์ในบริษัท 2 คน คนแรกเป็นคนเก่ง คนฉลาด ยอดขายดีมาก ๆ แต่ต่อรองผลประโยชน์ตลอด กับอีกคนยอดขายครึ่งเดียวของคนแรก แต่จงรักภักดีมากๆ เค้าจะเลือกคนที่สอง

ผมก็เลยรู้แล้วว่า ชะตากรรมผมในพรรคนี้จะเป็นตาย ร้าย ดี ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผมจะพิสูจน์ความจงรักภักดีกับ “โปลิตบูโร” ได้หรือไม่? แน่นอนนั่นคือวิธีการบริหารงานแบบหนึ่ง เรื่องนี้ไม่มีถูก ไม่มีผิด แต่เมื่อคุณโฆษณากับประชาชนแล้วว่าคุณเป็นพรรคประชาธิปไตย พฤติกรรมของคุณต้องทำให้ได้ตามที่คุณพูด ไม่งั้นจะกลายเป็น สำนวนไทย ข้างนอกสุกใส ข้างในตะติ๊งโหน่ง

2. ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายหลายประการของพรรคก้าวไกล

พรรคการเมืองอนาคตใหม่ที่ผมร่วมจัดตั้ง ผมฝันว่าพรรคจะเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นเหมือนร่มคันใหญ่ ที่สามารถโอบรับได้กับความหลากหลายของสมาชิกพรรค ไม่ว่าจะเป็นความคิดการเมืองแบบฝั่งซ้าย ความคิดการเมืองแบบฝั่งขวา ความคิดเศรษฐกิจแบบเสรี ความคิดเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม

วันแรกจุดร่วมของจุดใหญ่คือการไม่เอาเผด็จการ (เรื่องการแก้ไข 112 ในวันนั้นยังไม่ใช่วาระของพรรคด้วยซ้ำ) ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่เหลือ อ.ปิยบุตรยังเคยบอกผมตอนเถียงกับอ.ษัษรัมย์ (ตอนนั้นอ.เสนอเรื่องรัฐสวัสดิการ แต่ผมเสนอว่าคำตอบน่าจะเป็นเศรษฐกิจแบบเสรีมากกว่า) เรื่องนโยบายเศรษฐกิจของพรรคว่า เดี๋ยวค่อยไปคุยกัน เมื่อเราทำภารกิจสำเร็จ ต่างฝ่ายค่อยแยกออกไปตั้งพรรคก็ได้

5 ปี เดินผ่านไป วันนี้นโยบายของก้าวไกลหล่นลงมาจากฝากฟ้า หล่นลงมาจากห้องแอร์ ไม่ว่าคุณจะเรียกชื่อมันว่าอะไร

วันนี้หนึ่งในนโยบายหาเสียงที่สำคัญที่สุดของพรรคก้าวไกลคือ เงินบำนาญของคนที่อายุเกิน 60 ปี ถ้วนหน้าเดือนละ 3,000 บาท หากนโยบายนี้สำเร็จ รัฐบาลจะมีรายจ่ายจากแปดหมื่นกว่าล้าน เป็นสามแสนล้านหกหมื่นล้านบาททันที

'พปชร.' เสริมทีมโทรโข่ง สื่อสารนโยบายพรรค ดึงคนรุ่นใหม่ 'ฟิล์ม รัฐภูมิ - นพวรรณ' ร่วมทัพ

(9 ก.พ. 66) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ต้องการให้พรรคใกล้ชิดกับประชาชน และเข้าใจการทำงานของพรรค โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านทีมโฆษก จึงได้แต่งตั้งบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถ มาร่วมทีมโฆษกพรรคเพิ่มเติมคือ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และ น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.บางเขน มาเสริมทัพ จากที่มีคือ ตน และ น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ เพื่อช่วยสื่อสารนำนโยบายของพรรคให้เข้าถึงประชาชน แทนบุคคลเดิมที่ลาออกจากสมาชิกพรรค

‘นายกฯ’ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรเคีย ร่วมส่งทีมกู้ภัยให้ความช่วยเหลือ หวังให้ตุรเคียผ่านพ้นวิกฤต

(9 ก.พ. 66) เวลา 09.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในนามรัฐบาลไทยมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเบื้องต้นให้แก่รัฐบาลสาธารณรัฐตุรเคียผ่าน นางแซรัป แอร์ซอย (H.E. Mrs. Serap Ersoy) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรเคียประจำประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี ในนามของรัฐบาลและประชาชนไทย กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่จังหวัดคาห์รามันมาราช (Kahramanmaras) สาธารณรัฐตุรเคีย (ตุรกี) ( ซึ่งห่างจากกรุงอังการาประมาณ 580 กิโลเมตร) และบริเวณใกล้เคียง ในช่วงเช้าของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 พร้อมขอมอบความช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 5 ล้านบาทแก่รัฐบาลตุรเคีย และรัฐบาลไทยจะได้จัดส่งทีมหน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความช่วยเหลืออื่น ๆ ตามความต้องการ พร้อมหวังว่า รัฐบาล และประชาชนตุรเคียจะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ได้โดยเร็ว โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากตุรเคียต้องการความช่วยเหลือขอให้ประสานผ่านมายังกระทรวงการต่างประเทศ

“ในวันนี้ได้มีการมอบเงินจำนวนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาในตุรเคีย ซึ่งประเทศไทยได้เตรียมความพร้อม จัดชุดทีมกู้ภัยให้พร้อม และให้ตรงกับความต้องการของตุรเคีย ซึ่งหวังว่าสถานการณ์นี้จะเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งในวันนี้ก็เป็นการแสดงความจริงใจ และมิตรต่อกันระหว่างไทยและตุรเคีย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รับทราบเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ว่ามีหญิงชาวไทย 1 ราย เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วย และขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมาก และได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา เร่งประสานงานกับทางการตุรเคีย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลตุรเคียช่วยดูแลชาวไทยซึ่งบางรายอาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวที่ทางการตุรเคียจัดหาให้ด้วย

นอกจากนี้ ยังไม่มีรายงานว่าคนไทยได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม และยังมีคนไทยดำรงชีวิตอยู่ในตุรเคีย รวม 30 ราย ซึ่งบางรายอาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวที่ทางการตุรเคียจัดหาให้ รวมทั้ง คืนนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2566) ทีมช่วยเหลือ/กู้ภัย จำนวน 42 นายจะเดินทางไปตุรเคีย พร้อมสิ่งของสำหรับการกู้ภัย การบรรเทาสาธารณภัย และเวชภัณฑ์

ด้านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรเคียประจำประเทศไทย กล่าวว่าขอบคุณน้ำใจของรัฐบาลไทย และประชาชนไทยในโอกาสนี้ โดยได้เห็นถึงน้ำใจและความช่วยเหลือของทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ประชาชน และภาคเอกชนที่ได้ส่งกำลังใจ และแสดงความช่วยเหลือมาทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรเคียประจำประเทศไทยอย่างมากมาย

เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและหนักที่สุดครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ มิตรประเทศได้แสดงน้ำใจ ความช่วยเหลือ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในเพื่อนแท้ของตุรเคีย เชื่อว่าตุรเคียจะผ่านเหตุการณ์ที่ยากลำบากครั้งนี้ไปได้ พร้อมกล่าวขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือและกำลังใจของประเทศไทยในครั้งนี้

'พี่คนดี' ร่ายกลอนสุดเจ็บ 'นางร้าย' โผล่คอกแม้ว ชุบ 'แสง' ให้ผ่อง แล้วย่องเข้าการเมืองแบบเนียนๆ

(9 ก.พ. 66) เพจเฟซบุ๊ก P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์บทกลอนเรื่อง "นางร้าย นายอิจฉา" ระบุว่า

ปลื้มดารา กล้าคอลเอ้าท์ ว่าเข้าท่า
ในไม่ช้า เขาอาสา เป็นสอสอ
รู้ยังว่า ที่พวกเขา เฝ้าด่าทอ
เพราะเขารอ ลงสมัคร กับพรรคใด

ผลประโยชน์ ที่ทับซ้อน ไม่ซ่อนเงื่อน
แท้เป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง กับกองไหน
ที่ทำท่า เป็นพิโรธ โกรธเป็นไฟ
ปูทางไว้ หวังพวกอวย มาช่วยกา

รัฐบาล งานก้าวหน้า ก็ด่าแย่
สร้างกระแส ว่าไม่ดี มีปัญหา
อาศัยความ ที่คนเห็น เป็นดารา
เมื่อพูดจา วีนเหวี่ยง เกิดเสียงดัง

‘สมศักดิ์’ ชวน ‘ทนายตั้ม’ ซบ พปชร. หลังลาออก ‘พท.’ เชื่อฝีมือดีช่วยชาวบ้านได้เยอะ

(9 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้เดินทางเข้าพบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โดยนายษิทรา ได้กล่าวว่า ตนได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว วันนี้จึงได้เดินทางมาเข้าพบเพื่อขอคำปรึกษา หารือทิศทางการเมืองว่าควรจะเป็นอย่างไรต่อไป 

โดยทางนายสมศักดิ์ ได้สอบถามนายษิทราว่า “จะออกไปไหนล่ะ งานด้านการเมือง ทนายตั้มไม่ควรหยุดเล่น เพราะเป็นคนมีความสามารถ หากทำงานในด้านนี้ก็จะช่วยเหลือประชาชนได้ ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐก็ยังเปิดรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานการเมืองอยู่ หากทนายตั้มสนใจ คิดว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี เพราะหากทนายตั้มมีโอกาสเป็น ส.ส. น่าจะช่วยประชาชนได้เป็นจำนวนมาก”

‘โรม’ โต้ ‘คริส’ ไม่มี ‘โปลิสบูโร’ ในก้าวไกล น้อมรับคำติชม จะนำไปพัฒนาให้ดีขึ้น

(9 ก.พ. 66) เวลา 11.40 น. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายคริส โปตระนันทน์ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ได้ประกาศถอนตัวจากพรรคก้าวไกล และได้มีการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า พรรคก้าวไกลมีคนนอกครอบงำกระบวนการคัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และไม่เป็นประชาธิปไตยตามคำโฆษณา ว่า ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่นายคริส ลาออกจากพรรคตั้งแต่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งการลาออกทำให้เขตพญาไท ราชเทวี และจตุจักรต้องเว้นว่างผู้สมัคร ดังนั้นพรรคต้องแก้ปัญหาด้วยการหาผู้สมัครใหม่มาแทนที่ เพราะเขตดังกล่าวถือเป็นพื้นที่สำคัญในสนามการเลือกตั้ง กทม.

นายรังสิมันต์ กล่าวว่าในส่วนของการลาออก ตนอยากให้มองเป็นเรื่องปกติ เพราะมีความไม่พอใจ ซึ่งนายคริสก็เขียนเอาไว้ในเฟซบุ๊ก หลายเรื่องพรรคคงต้องน้อมรับและนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดี
ขึ้น 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนกรณีการคัดสรรผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อนั้น ต้องคำนึงหลายอย่าง เพราะตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ การที่จะมีผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ต้องสะท้อนถึงความหลากหลายของสังคม มีปัจจัยประกอบหลายอย่าง เช่น เพศ เชื้อชาติ และคนพิการ เข้ามาพิจารณา ส่วนนี้จึงอาจเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้นายคริสเลือกเดินทางในเส้นทางของตนเอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top