สหรัฐฯ สั่งเพิกถอนวีซ่า Bob Vylan ปมตะโกน ‘Free Palestine’ ตำรวจอังกฤษเปิดสอบสวนทางการ ฐานยุยงเกลียดชัง
(2 ก.ค. 68) แร็ปเปอร์แนวพังก์สัญชาติอังกฤษ บ็อบ ไวแลน (Bob Vylan) จุดกระแสร้อนกลางเวที Glastonbury Festival หลังตะโกนคำว่า “Free Palestine” (ปลดปล่อยปาเลสไตน์) และ “Death to the IDF” (ความตายจงมีแก่กองทัพอิสราเอล) ระหว่างการแสดงสดที่ถ่ายทอดผ่านช่อง BBC โดยคำพูดดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการปลุกปั่นเกลียดชัง กระทบต่อความมั่นคงและอาจเข้าข่ายยุยงให้เกิดความรุนแรง
แม้กองทัพอิสราเอล (IDF) จะปฏิเสธให้ความเห็นโดยกล่าวสั้น ๆ ว่า "ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้" แต่สถานทูตอิสราเอลในลอนดอนออกแถลงการณ์ว่า “รู้สึกกังวลอย่างลึกซึ้ง” ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศเพิกถอนวีซ่าของศิลปินโดยทันที พร้อมระบุว่า “ผู้ที่ยกย่องความรุนแรงและความเกลียดชังไม่ควรได้รับการต้อนรับในอเมริกา”
ตำรวจท้องถิ่นเอวอน (Avon) และ ซอมเมอร์เซ็ท (Somerset) ได้เปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการในข้อหาละเมิดกฎหมายด้านความสงบเรียบร้อย โดยย้ำว่า “ไม่มีที่ว่างในสังคมสำหรับถ้อยคำแห่งความเกลียดชัง” ขณะที่ BBC ซึ่งออกอากาศสดในเหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่ามีเนื้อหา “รุนแรงและไม่เหมาะสม” พร้อมถอดคลิปการแสดงออกจากแพลตฟอร์ม iPlayer และเริ่มทบทวนขั้นตอนการควบคุมเนื้อหา
ด้านนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ (Sir Keir Rodney Starmer) และรัฐมนตรีหลายคน ออกมาประณามการกระทำว่าเป็น “วาจาแห่งความเกลียดชังที่น่ารังเกียจ” และเรียกร้องให้ BBC แสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนมากขึ้น พร้อมทั้งผลักดันให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย หากพบว่ามีความผิดชัดเจนจากการเผยแพร่เนื้อหาที่ยุยงปลุกปั่น
อย่างไรก็ตาม บ็อบ ไวแลน ยังคงยืนยันจุดยืน โดยโพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมว่า “ผมพูดในสิ่งที่ผมเชื่อ” และเรียกร้องให้เยาวชนกล้าลุกขึ้นพูดความจริงเพื่อการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่ทีมผู้จัดเทศกาล Glastonbury แถลงว่า “คำพูดของ Bob Vylan ข้ามเส้นความเหมาะสมไปไกลมาก” พร้อมย้ำว่าทางเทศกาลต่อต้านการยกย่องความรุนแรง การเหยียดเชื้อชาติ และการยุยงให้เกิดความเกลียดชังในทุกรูปแบบ
