Friday, 16 May 2025
NewsFeed

"ยาร์โมเลนโก" เอาใจสปอนเซอร์ หยิบน้ำอัดลม-เบียร์ วางตรงหน้า

ยังคงมีประเด็นให้พูดถึงต่อเนื่อง สำหรับงานแถลงข่าวของศึกยูโร 2020 หลังจาก คริสเตียโน โรนัลโด กัปตันทีมชาติโปรตุเกส หยิบขวดน้ำอัดลม โคคา โคล่า ที่วางอยู่ตรงหน้าออกไป จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก

จากนั้นก็มีกรณีของพอล ป๊อกบา เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศส ก็ได้หยิบขวดเบียร์ขวดเบียร์ไฮเนเกน ชนิดไร้แอลกอฮอล์ออกจากโต๊ะแถลงข่าวเช่นกัน

แต่ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา อังเดร ยาร์โมเลนโก กองหน้ากัปตันทีมชาติยูเครน ซึ่งทำประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 29 ก่อนคว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ก็ได้แถลงข่าวอย่างอารมณ์ดี พร้อมปั่นกระแสบนโลกโซเชียลจากเทรนด์ไม่ปลื้มน้ำอัดลมที่ โรนัลโด สร้างไว้ ด้วยการจับเอาขวดโค้กและขวดไฮเนเก้นขยับเข้าหาตัว ก่อนพูดติดตลกว่า

"ผมเห็นสิ่งที่โรนัลโดทำแล้วนะ แต่ผมอยากเอามันมาไว้ที่นี่ (ขยับขวดมาไว้ใกล้ตัวเอง) โปรดติดต่อผมด้วย ทั้งโค้กและไฮเนเก้นเลย ติดต่อเข้ามานะ"


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รัฐเร่งแก้หนี้ประชาชน โรงรับจำนำรัฐ นำร่องลดดอกเบี้ยผู้ถือบัตรคนจน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ห่วงใยสถานการณ์หนี้ภาคประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน และถูกซ้ำเติมด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19  ประชาชนบางกลุ่มขาดรายได้ จนทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง จึงสั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งกำหนดแนวทางช่วยบรรเทาภาระหนี้ประชาชน 

ทั้งนี้ ตามข้อสั่งการนายกฯ หลายหน่วยงานได้ร่วมกันออกมาตรการแก้ปัญหามาระยะหนึ่งแล้ว อาทิ มหกรรมไกล่เกลียหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นความร่วมมือระหว่างทางธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานศาลยุติธรรม และกรมบังคับคดี ซึ่งประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก มีสินเชื่อที่ขอรับความช่วยเหลือแล้ว กว่า 7 แสนบัญชี เข้าเงื่อนไขได้รับการช่วยเหลือประมาณ 30% ผู้ที่สนใจยังสามารถขอไกล่เกลี่ยหนี้ฯ ได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ 

อีกทั้งยังมีมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานศาลยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พร้อมกับผู้ให้บริการ 12 แห่ง โดยผู้เช่าซื้อสามารถเจรจาปรับลดวงเงินรายเดือน ยืดหนี้ ลดดอกเบี้ย หรือพักหนี้ได้หากจำเป็น นับตั้งแต่เริ่ม เมื่อ 1 มิ.ย. มีจำนวนผู้เช่าซื้อสนใจลงทะเบียนแล้ว 13,450 คัน และจะเปิดให้เข้าร่วมมหกรรมฯถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้ สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูล ได้ที่ 1213 ของธนาคารแห่งประเทศไทย

รวมทั้ง สถานธนานุเคราะห์ (สธค.) หรือโรงรับจำนำของรัฐ ทั้ง 40 แห่ง ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระรายจ่ายดอกเบี้ย ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 แล้ว เป็นการจัดโปรโมชั่น “จ่ายคนละครึ่ง” ลดดอกเบี้ย 50%  แก่ผู้มาใช้บริการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินจำนำไม่เกิน 5,000 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2564 จำกัด 1 คน 1 สิทธิ์ ต่อ 1 รอบตั๋วจำนำ โดยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ สามารถส่งดอกเบี้ยที่ ณ สาขา หรือผ่านร้าน 7-11 หรือกรุงไทย NEXT ได้ 

“นายกฯ มอบหมายคณะทำงาน ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. ที่มีรองนายกรัฐมนตรี สุพัฒนพงศ์ พันธ์มีเชาว์ เป็นผู้รับผิดชอบ โดยเน้นการขับเคลื่อน 3 เรื่องควบคู่กัน คือ การให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน การกำกับดูแลเจ้าหนี้เพื่อให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรม และการปรับโครงสร้างหนี้และการไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สิน ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติจะประกอบด้วยมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว อาทิ การใกล่เกลี่ยหนี้สินลดการดำเนินคดี เช่น หนี้กยศ. หนี้สหกรณ์ การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ อาทิ สหกรณ์ สินเชื่อรายย่อย PICO และ NANO การส่งเสริมการแข่งขันให้ดอกเบี้ยถูกลง การเพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุน ซึ่งความคืบหน้าการแก้ปัญหาจะมีการรายงานให้ท่านนายกทราบอย่างต่อเนื่อง”

ส่อง 5 เสื้อทีมชาติสุดปัง ในฟุตบอลยูโร 2020

ไม่นานมานี้ เคยมีกรณีดราม่า ‘ทำไมพวกผู้ชายชอบใส่เสื้อบอลไปเดินห้างสรรพสินค้า?’ เอาเป็นว่า โปรดลืมความดราม่าเหล่านั้นไปได้เลย หากคุณได้เห็นเสื้อฟุตบอลของเหล่าทีมชาติในศึกยูโร 2020 หนนี้

THE STATES TIMES ไปส่องชุดฟุตบอลของ 24 ทีมที่เข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ บอกเลยว่า งามไส้ เอ้ย! งามมั่ก!! งานนี้เลยไปหยิบมา 5 ตัวที่งามที่สุด ได้แก่ เสื้อทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์, เสื้อทีมชาติโครเอเชีย, เสื้อทีมชาติฟินแลนด์, เสื้อทีมชาติโปแลนด์ และเสื้อทีมชาติเยอรมัน ซึ่งมั่นใจว่า ใส่ไปเดินห้างฯ ได้สบาย เพราะสวยจริงอะไรจริง ใครสนใจตัวไหน เราไม่มีขายนะจ๊ะ บอกไว้ก่อน แต่สามารถหาซื้อได้ตามช้อปออนไลน์ทั่วไป ลองเซิร์ชพวกคำว่า Kit National Team Euro 2020 รับรองเจอแน่!


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว'​ สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงานวุฒิสภา มอบสิ่งของให้แก่ โรงพยาบาลตำรวจ

วันที่ 18 มิ.ย. 2564 ณ​ มูลนิธิพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงานวุฒิสภา ในนามโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) และ มูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ได้ร่วมกับ บริษัท คิงส์แพค อินดัสเตรียล จำกัด บริจาคอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ของไวรัส Covid-19 ประกอบด้วย

- หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอร์เจล สำหรับมอบให้แก่ข้าราชการเกษียณอายุราชการ จำนวน 200 ชุด
- ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุขยะ จำนวน 54,000  ใบ
- อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE)​ จำนวน 10 ชุด
- เครื่องฉีดพ่นป้องกันเชื้อไว้รัส Covid-19 จำนวน 1 เครื่อง

รวมมูลค่ากว่า 284,000 บาท (สองแสนแปดหมื่นสี่พันบาท) โดยมีพล.ต.ต.สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงศ์ รองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เป็นผู้แทนรับมอบ

รัฐบาล แก้หนี้ประชาชน ให้ 40 โรงจำนำของรัฐ ออกมาตรการลดภาระดอกเบี้ย จัดโปรฯ จ่ายคนละครึ่ง- 1รน 1สิทธิ์ ต่อ 1 ตั๋วจำนำ

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยสถานการณ์หนี้ภาคประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน และถูกซ้ำเติมด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประชาชนบางกลุ่มขาดรายได้ จนทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง จึงสั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งกำหนดแนวทางช่วยบรรเทาภาระหนี้ประชาชน โดยข้อมูลจากกรมบังคับคดีรายงานว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 (ต.ค. 63-เม.ย. 64) มีคดีแพ่งเข้าสู่การบังคับคดีจำนวน 138,997 คดี คดีส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น 80-90% เป็นหนี้ครัวเรือน คือหนี้บัตรเครดิต เช่าซื้อรถ รวมถึงสินเชื่อส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม คดีที่เข้ามาสู่การบังคับคดีนั้นส่วนใหญ่ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นมาก่อนการระบาดของโควิด-19

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ตามข้อสั่งการนายกฯ หลายหน่วยงานได้ร่วมกันออกมาตรการแก้ปัญหามาระยะหนึ่งแล้ว อาทิ มหกรรมไกล่เกลียหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นความร่วมมือระหว่างทางธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานศาลยุติธรรม และกรมบังคับคดี ซึ่งประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก มีสินเชื่อที่ขอรับความช่วยเหลือแล้ว กว่า 7 แสนบัญชี เข้าเงื่อนไขได้รับการช่วยเหลือประมาณ 30% ผู้ที่สนใจยังสามารถขอไกล่เกลี่ยหนี้ฯได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ และยังมี มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานศาลยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พร้อมกับผู้ให้บริการ 12 แห่ง โดยผู้เช่าซื้อสามารถเจรจาปรับลดวงเงินรายเดือน ยืดหนี้ ลดดอกเบี้ย หรือพักหนี้ได้หากจำเป็น นับตั้งแต่เริ่ม เมื่อ 1 มิ.ย. มีจำนวนผู้เช่าซื้อสนใจลงทะเบียนแล้ว 13,450 คัน และจะเปิดให้เข้าร่วมมหกรรมฯถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้ สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูล ได้ที่ 1213 ของธนาคารแห่งประเทศไทย

น.ส.รัชดา กล่าวว่า รวมทั้ง สถานธนานุเคราะห์ (สธค.) หรือโรงรับจำนำของรัฐ ทั้ง 40 แห่ง ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระรายจ่ายดอกเบี้ย ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 แล้ว เป็นการจัดโปรโมชั่น “จ่ายคนละครึ่ง” ลดดอกเบี้ย 50% แก่ผู้มาใช้บริการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินจำนำไม่เกิน 5,000 บาท  เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2564 จำกัด 1 คน 1 สิทธิ์ ต่อ 1 รอบตั๋วจำนำ โดยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ สามารถส่งดอกเบี้ยที่ ณ สาขา หรือผ่านร้าน 7-11 หรือกรุงไทย NEXT ได้ 

“นายกฯ มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนให้เบ็ดเสร็จ โดยมอบหมายคณะทำงาน ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่มีรองนายกรัฐมนตรี สุพัฒนพงศ์ พันธ์มีเชาว์ เป็นผู้รับผิดชอบ โดยเน้นการขับเคลื่อน 3 เรื่องควบคู่กัน คือ การให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน การกำกับดูแลเจ้าหนี้เพื่อให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรม และการปรับโครงสร้างหนี้และการไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สิน ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติจะประกอบด้วยมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว อาทิ การใกล่เกลี่ยหนี้สินลดการดำเนินคดี เช่น หนี้กยศ. หนี้สหกรณ์ การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ อาทิ สหกรณ์ สินเชื่อรายย่อยPICO และ NANO การส่งเสริมการแข่งขันให้ดอกเบี้ยถูกลง การเพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุน เป็นต้น ซึ่งความคืบหน้าการแก้ปัญหาจะมีการรายงานให้ท่านนายกทราบอย่างต่อเนื่อง” น.ส.รัชดา กล่าว

รองนายกฯ ศก. เผย บิ๊กตู่ จ่อลงภูเก็ต 1 ก.ค. นับหนึ่งเปิดประเทศให้ รอฟัง ศบค.ชุดใหญ่เคาะมาตรการผ่อนปรนวันนี้ แนะ ปชช.ต้องช่วยกัน อย่าโยนภาระให้รัฐบาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่จ.ภูเก็ต ในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ว่า วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันเปิดโครงการวันแรก ส่วนก่อนหน้านั้นคงมอบหมายผู้ที่เกี่ยวข้องลงไปเตรียมความพร้อม ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันนี้จะผ่อนคลายมาตรการใดเป็นพิเศษหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ขอให้รอฟังผลการประชุมศบค. ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คงได้เตรียมข้อมูลในส่วนที่เหมาะสม เมื่อถามว่า นอกจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้วเห็นว่ากำลัวจะเปิดเกาะ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจ.สุราษฎร์ธานีด้วย นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ขอให้รอฟังผลการประชุมศบค. ที่ชัดเจน คงมีการเสนอในวาระเพื่อหารือ และจะผ่อนคลายอย่างไรหรือไม่ อย่างไรก็ตามการผ่อนคลายมาตรการนั้น ย่อมให้เกิดการทำธุรกิจในประเทศได้คล่องตัว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางการแพทย์ยังมีความคิดเห็นว่าไม่ต้องการให้เปิดประเทศอย่างเต็มที่ รองนายกฯ กล่าวว่า คงหารือกันมาก่อน โดยทีมเลขา ศบค. มีองค์คณะร่วมประชุมหลากหลายสาขา ก่อนที่จะมีข้อสรุปเพื่อนำเสนอ ต่อศบค. ชุดใหญ่รวมถึงความเป็นห่วงของทุกคนและฝ่ายต่างๆ และคงได้หารือกันแล้ว ในที่ประชุมศบค. ชุดเล็ก ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลกำหนดไทม์ไลน์ที่ชัดเจนว่าห้วงเวลา 120 วัน จะทำอะไรบ้าง รองนายกฯ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าศบค. คงนำเสนอและขอให้ติดตามกัน

"แต่ที่สำคัญ ทันทีที่รัฐบาลประกาศ คนมักจะมองว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สำคัญที่สุดคือพวกเรา ที่ต้องรู้ทิศทางประเทศ ว่าทิศทางเช่นนี้เป็นเรื่องที่ดี ใครๆ ก็อยากให้เปิดประเทศ เราควรจะดีใจ ที่วันนี้เรามีเป้าหมาย และก็รู้แล้วว่าช่วง 120 วัน พวกเราก็เตรียมตัวเตรียมใจสนับสนุน ช่วยกันคิดช่วยกันทำ ทำอย่างไรให้ประเทศเปิดได้ เป็นไปไม่ได้หรอกที่รัฐบาลจะทำคนเดียว เราต้องลุกขึ้นมาแล้วกลับมาคิดเหมือนกันว่า แต่ละหน่วยงาน และประชาชนทุกคน แล้วอย่างที่ผมเคยบอกแล้วว่าเอกชนก็ปรับตัวในทันทีเปิดประตูที่ภูเก็ต เขาก็จะอาศัยภูเก็ตทำการค้าขายและพบประเทศพันธมิตร พูดคุยกันในภาคการลงทุน ตอนนี้เป็นอีกมุมหนึ่งนอกจากภาคการท่องเที่ยว 

ดังนั้นถ้าปรับตัวตามลำดับถือเป็นเรื่องที่ดีขึ้นเพื่อให้เราปรับปรุงทำให้ดีขึ้น อะไรที่ควรจะปรับปรุงก็ยินดีที่จะปรับปรุง ถือเป็นความร่วมมือและเตรียมพร้อม เข้าไปสู่ความร่วมมือที่จะช่วยรัฐบาลเดินไปข้างหน้า ผมไม่อยากให้พวกเราคิดว่า พอรัฐบาลประกาศปุ๊บ แล้วก็นั่งเฉยๆ เพื่อรอดูว่านายกฯ หรือรัฐบาลจะทำอะไร แล้วเราจะได้ประโยชน์จากตรงนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลฝ่ายเดียวมันคงไม่ใช่ ส่วนพื้นฐานของพวกเราทุกคนก็คือการควบคุมการระบาด ให้ปลอดภัย ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ตรงนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในระดับประชาชน" 

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เราจะรอดูจาก ผลพวงของการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยในวันที่ 25 มิถุนายน ผู้แทนของรัฐบาลจะลงไปเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ตนยังเชื่อมั่นในชาวจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการจังหวัดภูเก็ต รวมถึงทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุข ที่ช่วยกันดูทุกด้านอย่างรอบคอบอยู่แล้ว ตนถึงได้ย้ำว่า อย่าไปเพียงตั้งข้อสงสัยแล้วรอให้ใครมาบอก แต่เราสามารถค้นหาติดตามได้ โดยสอบถามจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หรือหน่วยงานจากจังหวัดภูเก็ตก็ได้ว่า ได้เตรียมภาคสนามไว้อย่างไร มีความพร้อมแค่ไหน การควบคุมดูแลและตรวจการเป็นอย่างไร ขอให้รอ ไม่ใช่รอให้ส่วนกลางรอสั่งลงไป เพราะทันทีที่จังหวัดภูเก็ตได้รับทราบว่าเขาได้รับการสนับสนุน เขาก็ขยับตัวทันก่อนที่จะลงมือทำ เพราะเห็นประโยชน์ ซึ่งเชื่อว่าเขาทำในฐานะประเทศไทย มีความตระหนักเป็นอย่างดีและทำอย่างเต็มที่ เพราะรู้ว่าการเปิดประเทศผ่านเมืองเขาเป็นเมืองแรก เป็นสิ่งที่อยากจะทำให้เกิดและอยากทำให้ดีด้วย ซึ่งประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ โดยผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมตามลำดับ เพื่อให้ประเทศประเทศทยอยทดสอบการเปิดประเทศผ่านช่องทางเล็กๆ ของเราคือภูเก็ต

“แรมโบ้" เหน็บ “โฆษก พท. สวยแต่หน้า หลังไม่ฟังกระแสปชช. พอใจ” นายกฯ-รบ. ประกาศเปิดประเทศภายใน 120 วัน ชี้ หากไม่ช่วย อย่าเอาเท้าราน้ำ ขัดขวางทุกเรื่อง 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี เตรียมเปิดประเทศใน 120 วัน โดยถามถึงความเสี่ยง และความพร้อมของการฉีดวัคซีนครบหรือไม่นั้น ว่า นายกฯรับทราบสถานการณ์ประเทศเป็นอย่างดีว่าขณะนี้เป็นอย่างไร เพราะทำงานแก้ไขปัญหาโควิดมาตลอด พิจารณาทั้งปัจจัยภายในและภายนอกควบคู่กันไป รวมทั้งพยายามรักษาสมดุลระหว่างสุขภาพและปากท้องประชาชนทุกกลุ่ม ส่วนที่ออกแถลงการณ์เตรียมเปิดประเทศในอีก 120 วัน เริ่มจากจังหวัดภูเก็ต ทราบดีว่ารัฐบาลเตรียมที่จะทำอะไรอยู่ ซึ่งแม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงอยู่บ้างจากการระบาดของเชื้อโควิด แต่นายกฯอยากให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวขึ้น เพราะทุกอย่างต้องมีแผน ต้องเตรียมการล่วงหน้า ต้องมีเป้าหมายร่วมกันของทุกภาคส่วน ไม่ใช่อยู่อย่างหวาดผวาจนเกินเหตุ จนละทิ้งความกล้าเผชิญหน้าอย่างมีเหตุผล และมีความรู้เท่าทันสถานการณ์

นายเสกสกล  กล่าวว่า การประกาศเปิดประเทศของนายกฯ มั่นใจว่านายกฯ ไม่ได้คิดเอง แต่อยู่ในฐานะผู้นำที่จะต้องตัดสินใจนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า หรือดีที่สุด บนพื้นฐานของการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน จากคณะที่ปรึกษาต่างๆ เชื่อมั่นว่าจากนี้ไปจนถึง 120 วัน นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันหารือเพื่อหามาตรการให้รัดกุมมากที่สุดก่อนที่จะเปิดประเทศ มีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นรายวัน ขณะเดียวกันเชื่อว่าเมื่อถึงเวลา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่น่าจะได้ฉีดวัคซีนครบแล้ว เช่นเดียวกันกับคนไทยที่ ศบค. ยืนยันแล้วว่าภายในเดือนตุลาคมนี้คนไทยจะต้องได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 50 ล้านคน เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ 

นายเสกสกล  กล่าวว่า หากโฆษกพรรคพท.หรือแม้แต่คนในพรรคไม่อยากช่วยเหลือประชาชน และประเทศชาติ ขอย้ำว่า มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ ขัดขวางไปทุกเรื่อง แม้ว่านายกฯ และรัฐบาล จะทำดีแค่ไหน เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติ พรรคพท.จะออกมาตำหนิ ขัดขวาง และจะสนใจเฉพาะผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง อาศัยจังหวะที่ประเทศเกิดวิกฤต เรียกร้องให้นายกฯลาออก เพราะมีความหวังว่าจะเข้าไปเป็นรัฐบาล ไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนของพรรคพท.ถึงไม่อยากให้ประเทศพ้นวิกฤตตรงนี้ให้ได้ก่อน  

“โฆษก พท. หน้าตาดูสวยดี แต่ความคิดกลับดูไม่สวยงามเหมือนหน้าตาเอาเสียเลย ไม่ลองหัดไปฟังกระแสตอบรับจากประชาชนดูบ้างว่า สิ่งที่นายกฯต้องการเปิดประเทศเพื่อเศรษฐกิจฟื้นกลับคืนสู่ภาวะปกติ เป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้ประเทศไทยรอดพ้น น่าเสียดายความคิดที่ดูไม่สวยงามเอาเสียเลย ขอถามกลับสักคำ ความคิดสั้นๆแคบๆเพียงแค่นี้ เป็นความคิดส่วนตัว หรือเป็นมติพรรค ผมจะได้ป่าวประกาศให้คนไทยได้รับรู้ว่า พรรคพท.ไม่เอาด้วย เพราะไม่อยากให้ประชาชนกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องการให้เศรษฐกิจดีขึ้น และไม่ต้องการให้คนไทยพ้นภัยจากโควิดร้าย" นายเสกสกล กล่าว

IMD ประกาศขีดความสามารถแข่งขันไทยดีขึ้น 1 อันดับ 

“ธีรนันท์ ศรีหงส์” ประธานสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) เปิดเผยผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยสถาบันการจัดการนานาชาติ หรือ IMD สวิตเซอร์แลนด์ ประจำปี 64 ว่า ประเทศไทยมีอันดับที่ดีขึ้น 1 อันดับจากปีก่อน มาอยู่ในอันดับที่ 28 จาก 64 เขตเศรษฐกิจในปีนี้ โดยผลจากวิกฤตการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ทำให้คะแนนสุทธิเฉลี่ยของทั้ง 64 เขตเศรษฐกิจลดลงจาก 71.82 ในปี 63 เหลือเพียง 63.99 จากคะแนนเต็ม 100 ในปี 64 ขณะที่ประเทศไทยยังคงมีคะแนนสุทธิในปีนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยอยู่ที่ 72.52 โดยลดลงเล็กน้อยจาก 75.39 ในปี 63 

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาผลการจัดอันดับของไทยในปัจจัยหลัก 4 ด้าน พบว่ามีผลการจัดอันดับดีขึ้น 3 ด้านเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน คือ ด้านประสิทธิภาพของภาครัฐ ดีขึ้น 3 อันดับ จากอันดับที่ 23 มาอยู่ที่อันดับ 20 ด้านประสิทธิภาพของภาคธุรกิจดีขึ้น 2 อันดับ จากอันดับที่ 23 มาอยู่ที่อันดับ 21 และด้านโครงสร้างพื้นฐาน ดีขึ้น 1 อันดับ จากอันดับที่ 44 มาอยู่ที่อันดับ 43 

ขณะที่ด้านสมรรถนะทางเศรษฐกิจ มีอันดับลดลงถึง 7 อันดับ มาอยู่ที่อันดับ 21 โดยประเด็นสำคัญมาจากด้านการค้าระหว่างประเทศที่มีอันดับลดลงจากอันดับที่ 5 เป็นอันดับที่ 21 ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกภาคบริการที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักมีอันดับลดลงค่อนข้างมากจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19

ด้านภาพรวมในระดับโลก เขตเศรษฐกิจที่มีอันดับความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุด 5 อันดับแรกในปีนี้ อันดับ 1 สวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 สวีเดน อันดับ 3 เดนมาร์ก อันดับ 4 เนเธอร์แลนด์ และอันดับ 5 สิงคโปร์
 

“วิรัช” รับ กระแสดัน “ธรรมนัส” เสียบเลขาฯ เป็นความจริง ย้อนสื่อ ข้อมูลเหมือนอยู่ในเหตุการณ์

ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่พรรค ถึงความชัดเจนที่จะมีการเสนอชื่อร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคว่า มีความใกล้เคียง ขอให้รอการประชุมอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งคิดว่าใช้เวลา 2-3 ชม.ก็เรียบร้อย ดังนั้นสิ่งที่จะพูดล่วงหน้า ของให้ผ่านที่ประชุมเสียก่อน 

เมื่อถามว่าจะมีการเสนอชื่อเพียงชื่อเดียวใช่หรือไม่นายวิรัช กล่าวว่า ก็ทำนองนั้น ต่อข้อถามว่าก่อนการเสนอชื่อได้มีการหารือกับกลุ่มต่างๆ ของพรรคหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า เมื่อสักครู่ก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่าจะเป็นคนเก่าหรือว่าที่คนใหม่ ทุกอย่างอยู่พร้อมกันหมด

เมื่อถามว่าขณะนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรรค ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้วหรือยัง นายวิรัช กล่าวว่า วันนี้ข่าวลงไปทุกอย่างหมดแล้วก็เลยไม่รู้จะตอบอย่างไร ต่อข้อถามว่าข่าวที่เสนอออกไปเกี่ยวกับตำแหน่งต่างๆ จะ อาทิ รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการ ตรงกับความจริงใช่หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า เหมือนกับนั่งอยู่ในเหตุการณ์ การประชุมวันนี้ตำแหน่งกรรมการพรรคจะมีสัดส่วนลดลง ส่วนการเปลี่ยนตัวเลขาฯพรรค เพื่อเตรียมการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า เพราะนายกฯรัฐมนตรีบอกว่าจะอยู่ครบวาระ

ชุมชนหลังวัดปทุมฯ ร้องโควิดระบาดอีกรอบ พบคนติดเชื้อแล้วเกือบ 60 คน กักตัวอีก 60 ครัวเรือน วอนขอรถตรวจเชื้อเคลื่อนที่ด่วน

นายใจพิชญ์ สุขุมาลจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตปทุมวัน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในชุมชนหลังวัดปทุมวนาราม กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะอีกครั้ง ภายหลังจากที่เกิดการระบาดรอบที่แล้วกรณีคลัสเตอร์ห้างดังย่านปทุมวัน จึงขอเรียกร้องสำนักงานเขตขอรถตรวจเชื้อเคลื่อนที่เข้ามาตรวจหาเชื้อคนในชุมชนหลังวัดปทุมวนารามโดยด่วน ทั้งนี้จากการที่ตนพร้อมด้วยครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ลงพื้นที่ชุมชนหลังวัดปทุมวนารามหลังได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.สุวรรณวิลาศ จันทร์เดชะ ผู้นำชุมชนหลังวัดปทุมวนารามว่าขณะนี้ชุมชนหลังวัดปทุมวนาราม พบการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างน่าเป็นห่วงอีกครั้งภายหลังจากที่พบการระบาดของรอบที่แล้วจากกรณีคลัสเตอร์ห้างดังเมื่อเดือนก่อน โดยช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 60 คนและค่อยๆ ทยอยส่งตัวไปรักษาตามขั้นตอนในโรงพยาบาลจนขณะนี้ ยังเหลือผู้ติดเชื้อในชุมชนอีกประมาณ 10-20 คน 

นายใจพิชญ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาหลักที่ผ่านมา คือภาครัฐไม่ใส่ใจแก้ปัญหาโควิดระบาดในชุมชนอย่างจริงจัง ยกตัวอย่างคลัสเตอร์ห้างดังรอบที่แล้ว รัฐแก้ปัญหาให้แต่คนรวย คือมาตรวจเชื้อในชุมชนจริง แต่ตรวจให้แต่พนักงานของห้างและคนใกล้ชิดเท่านั้น คนในชุมชนมีเป็นพันคน เขาตรวจแค่ 3-4 ร้อยคนแล้วก็กลับไป แต่คนในชุมชนอีก 5-6 ร้อยคนที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างแออัด กลับไม่ตรวจหาเชื้อให้เขา พอเรียกร้องไปที่สำนักงานเขตก็บอกให้ไปตรวจเชื้อกับรถตรวจเชื้อที่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ เอาเอง โดยที่คนในชุมชนทั้งหมดเป็นแรงงานหาเช้ากินค่ำ การลาไปตรวจหาเชื้อไกลๆ ต้องลางาน ขาดรายได้ และไม่ได้มีหลักประกันว่าจะได้ตรวจ 

นอกจากนี้ชาวชุมชนหลังวัดปทุมวนารามก็ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด แต่ก็ไม่กล้าไปถาม ผอ.เขต ผู้นำชุมชนก็ไม่กล้าร้องเรียนบ่อยเพราะกลัวถูกเพ่งเล็ง วิธีการทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกแบบนี้ ชาวชุมชนหลังวัดปทุมวนารามไม่สบายใจ อยากให้เห็นคนจนได้รับการปฏิบัติดูแลรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมแม้ในยามป่วยไข้แบบนี้ ทั้งนี้ ชาวชุมชนหลังวัดปทุมวนารามกังวลกับการกลับมาระบาดใหม่รอบนี้  เพราะยังมีผู้ติดเชื้อคงค้างอยู่ในชุมชนอีกประมาณ 15-20 คน และมีผู้มีความเสี่ยงสูงกักตัวอีก 60 ครัวเรือน จึงอยากขอรถตรวจเชื้อเคลื่อนที่เข้ามาตรวจเชื้อโดยด่วน และแยกตัวผู้ป่วยออกไปโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะกลายเป็นคลัสเตอร์ระลอกสองเร็วๆ นี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top