Tuesday, 2 July 2024
NBT

ฟังให้เคลียร์!! ปมดราม่าดูถูกคนลาว 'รถไฟลาว-จีน' ที่แท้เทียบ ‘ค่าบริการยุคนี้’ ทำคนทั่วไปเข้าถึงยาก

อย่าฟังความข้างเดียว 'ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้' ปมดราม่า 'รถไฟลาว-จีน' คนลาวจะไม่มีปัญญาได้นั่งเพราะราคาตั๋วรถไฟแพง ที่แท้เทียบเคียงรถไฟใต้ดิน-บนดินของไทยที่ค่าโดยสารแพง คนไทยไม่สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ทุกคน 

ดูคลิปเต็มได้ที่ >> https://www.youtube.com/watch?v=y_qFePulPDY&feature=youtu.be

(22 ธ.ค. 64) หลังจากกรณีที่สื่อรัฐบาล สปป.ลาว ออกมาตำหนิถึงการนำเสนอข่าวของ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ รายการ ‘ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้’ จัดโดย ‘นายถนอม อ่อนเกตุพล’ ที่กล่าวถึงการเปิดให้บริการเดินรถไฟลาว-จีน ทำนองว่าคนลาวจะไม่มีปัญญาได้ขี่ เพราะคนลาวมีเงินเดือนน้อย แต่ราคาตั๋วรถไฟแพง จนทำให้นายถนอม ต้องออกมากล่าวขอโทษชาวลาวไปแล้วนั้น

ล่าสุดนายถนอม ได้โพสต์คลิปรายการดังกล่าว ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 64 พร้อมระบุว่า “ทั้งสื่อไทย สื่อลาว ว่าผมดูหมิ่นคนลาว โปรดฟังชัดๆ ถ้าหมิ่นเขาแล้วทำประเทศเสียหาย ผมยินดีขอโทษ! เพราะไม่มีใครที่ไม่ผิด ขอว่า อย่าฟังความข้างเดียว”

สำหรับ รายการ ‘ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้’ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายถนอม กล่าวถึง ขบวนรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวรอบปฐมฤกษ์ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา 1,035 กม. กรุงเวียงจันทน์ถึงมณฑลยูนนาน ที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน อัตราค่าโดยสารจากเวียงจันทน์ - บ่อเต็น 680 - 1,510 บาท

นายถนอม กล่าวว่า...ยินดีกับพี่น้องลาวด้วยที่มีรถไฟฟ้าความเร็วสูงวิ่งบริการในประเทศทั้งขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร นี่คือสิ่งที่คนไทยรู้สึกว่าทำไมเรายังเปิดไม่ได้ ประเทศไทยเพิ่งสร้างได้ 3.5 กม. กรุงเทพ-โคราช 3.5 กม. แล้วเมื่อไหร่จะแล้วเสร็จ และจากโคราชระยะที่ 2 ไปถึงหนองคาย อีก 356 กม. แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ

‘แฟนข่าว’ ถาม!! เหตุ ‘คุยถึงแก่น’ ถูกปลดจากผัง NBT ปี 67 เพราะอยากปรับลุคให้เหมือน ‘เกาหลี’ คือ ครอบงำสื่อใช่หรือไม่?

จากกรณี นายปรเมษฐ์ ภู่โต (ก๊อง) สื่อมวลชนอาวุโส พิธีกร ผู้ประกาศข่าว รายการคุยถึงแก่น ได้ออกมาประกาศว่ารายการคุยถึงแก่น ถูกปลดออกจากผังของ NBT ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 เป็นต้นไป

ล่าสุด (28 ธ.ค. 66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Pat Sangtum' แฟนข่าวรายการคุยถึงแก่น ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

SO LONG DOESN'T MEAN YOU'RE GONE.

ข่าวเศร้าใจในวันนี้ คือรายการข่าวคุยถึงแก่น โดยคุณก๊องและน้องหนิง จะไม่อยู่ในผังรายการของ NBT ในปีหน้าอีกต่อไป

รายการคุณภาพทั้งเนื้อหา ความคมคายไหวพริบของผู้เสนอ และฝ่ายเทคนิค ฝ่ายภาพ ที่คล่องแคล่ว จัดภาพได้ตรงเนื้อหาว่องไว ถูกถอดออก เพราะผู้บริหารต้องการปรับให้เป็นช่องที่มีรสชาติและอารมณ์แบบ เกาหีล

คงไม่ได้หมายถึง สไตล์เกาหีล หรือรสนิยมเกาหีล เพราะความลึกซึ้งใน pop culture ของเกาหีลคงมีไม่พอ

แต่น่าจะหมายถึง ‘การควบคุมข่าวอย่างเข้มงวดโดยรัฐบาลเกาหีล’ มากกว่า เพราะ ‘คุยถึงแก่น’ เสนอข่าวตามความจริง ด้วยเสรีภาพของสื่อคุณภาพ ที่ตลกคือ เห่าหอนเรื่อง ซอฟต์เพาเวอร์ของไทยเป็นวรรคเป็นเวร แต่จะเอาช่องของกรมประชาสัมพันธ์ มาทำเป็น เก า หี ล ล ล..ล..ล...

All the best to คุณก้องและน้องหนิง ฝีมือระดับนี้ ฟ้าย่อมมีตา

‘ลอรี่ พงศ์พล’ ใจหาย!! ได้ออกรายการ ‘คุยถึงแก่น’ เทปสุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงาน เชื่อ!! แฟนข่าวรอดูผลงานดีๆ อีกเพียบ

จากกรณี นายปรเมษฐ์ ภู่โต สื่อมวลชนอาวุโส พิธีกร ผู้ประกาศข่าว รายการคุยถึงแก่น ได้ออกมาแจ้งข่าวว่า ‘รายการคุยถึงแก่น’ ได้ถูกปลดออกจากผังของ NBT ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 เป็นต้นไปนั้น

ล่าสุด (29 ธ.ค. 66) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ หรือ ลอรี่ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า…

“พึ่งออกรายการ ‘คุยถึงแก่น’ เมื่อเช้านี้…ไม่น่าเชื่อจะเป็นเทปสุดท้ายที่ได้ออกอากาศ (อีกเทปถูกออนแอร์พรุ่งนี้ นอกผังตอนช่วงบ่าย)

จะสืบเนื่องจากเหตุอะไรก็ตามแต่ ที่ทำให้รายการที่เรตติ้งดีที่สุดของช่อง หลุดผัง NBT แบบสายฟ้าแล่บ ...ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่ก๊อง, คุณหนิง และทีมงาน ทุกท่านผลิตผลงานดี ๆ ต่อไป ยังเชื่อมีคนดูที่รอติดตามงานคุณภาพอีกเพียบ”

‘รัฐบาล’ เล็งดัน NBT เป็นโทรทัศน์ซอฟต์พาวเวอร์ อาจปรับผังรายการ เพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น

(9 พ.ค. 67) น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการโทรทัศน์ซอฟต์พาวเวอร์ ว่า จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อรองรับการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ เมื่อเราต้องการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ รัฐบาลก็จำเป็นต้องมีที่ปล่อยของสื่อสารกับประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยที่เล็งไว้คือสถานีโทรทัศน์ที่รัฐบาลกำกับดูแล เช่น ช่อง NBT ซึ่งต้องหารือในรายละเอียดอีกครั้ง และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ที่มีอยู่ 11 คณะ ว่าคณะไหน สาขาไหน มีศักยภาพ ต้องดึงขึ้นมาก่อนหรือไม่อย่างไร ยืนยันว่าเป็นการปรับผังรายการเท่านั้น ไม่ได้ตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นมาใหม่ จะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรามีอยู่ เพื่อประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และเป็นประโยชน์ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล

ส่วนกรณีได้รับมอบงานให้กำกับดูแลบริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) และกรมประชาสัมพันธ์ มีนโยบายขับเคลื่อนอย่างไร น.ส.จิราพร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเชิญหน่วยงานมาหารือ อยากให้เป็นสื่อฯ สะท้อนนโยบายของรัฐบาล ขณะเดียวกันอยากให้สื่อสารนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสื่อที่สะท้อนเสียงของประชาชน

ส่วนจะปรับเปลี่ยน 2 สถานีโทรทัศน์ดังกล่าวให้มีความเป็นคนรุ่นใหม่หรือไม่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องคุยรายละเอียดที่มีค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม หากช่อง NBT สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับซอฟต์พาวเวอร์ได้ จะมีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งจากการพูดคุยกับคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ มีสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีที่ให้ความสนใจอยากจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งรัฐบาลยินดีที่จะให้คอนเทนต์ เพราะเป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงของรัฐบาล และมีหลายภาคส่วน เช่น ภาคเอกชนที่อยากร่วมมือด้วย

ส่วนจะจ้างงานใหม่หรือไม่นั้น น.ส.จิราพร กล่าวว่า เป็นการให้ภาพใหญ่ในทิศทางการทำงาน ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างมีระเบียบที่หน่วยงานต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ส่วนงบประมาณดำเนินโครงการนี้กำลังหารือรายละเอียดอยู่ อย่างไรก็ตาม ต้องดูงบประมาณเก่าว่า ส่วนที่ได้รับมาได้ใช้จ่ายไปในส่วนใดบ้าง หรือจะต้องหาความร่วมมือกับภาคเอกชนเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องดูก่อน

'ธีรัตถ์-คำผกา' ลุย 'คุยคลายข่าว' เอ็นบีทีวันแรก  ยัน!! มาทำรายการตามกระบวนการคัดสรรปกติ

(17 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการคุยคลายข่าวที่ออกอากาศผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ ออกอากาศเป็นวันแรก โดยมีนายธีรัตถ์ รัตนเสวี และ น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา อดีตผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี (VOICE TV) ที่ปิดกิจการไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นผู้ดำเนินรายการ ในช่วงกลางรายการยังมีนายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข โฟนอินเข้ามาในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และนายภูวนาท คุนผลิน มาจัดรายการช่วงสุดท้าย

น.ส.ลักขณากล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าพวกตนจะมายึดช่องนั้น คำว่ายึดช่องเป็นภาษาจากคลิกเบต (Clickbait หรือ ล่อให้คนเข้ามาคลิก) นิดหนึ่ง ต้องทำความเข้าใจว่าในยุคของสื่อใหม่มีการช่วงชิงเอนเกจเมนต์ (Engagement หรือการที่ผู้ชมหรือผู้อ่านมีส่วนร่วมกับสื่อใหม่) หรือยอดวิว เพราะฉะนั้นถ้าใครเขียนพาดหัวหวือหวาที่สุดก็ดึงดูดความสนใจ แต่ไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะการยึดช่องไม่มีวันเกิดขึ้นและไม่มีวันเป็นไปได้ อีกทั้งตนและนายธีรัตถ์ไม่มีศักยภาพที่จะไปยึดช่องไหนแน่นอน รายการนี้มานั่งพูดคุยกัน อัปเดตสถานการณ์ พร้อมกับคลี่คลายประเด็นไปด้วย

ด้านนายธีรัตถ์กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดจะมายึดช่องอะไรทั้งสิ้น ทำงานแบบที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการคัดสรรมาตามปกติ รายได้ที่ได้รับก็ตามปกติเหมือนกับที่ทุกคนได้มา รายการนี้เป็นรายการที่ให้ผู้ชมเข้าใจข่าว เราอาจจะไม่ใช่รายการที่เอาทุกข่าวมาคุยกัน แต่เป็นข่าวที่พวกเราสนใจ เพราะฉะนั้นเราอาจจะไม่ได้มีข่าวทุกข่าว ยึดไม่ไหว ไม่ได้มีพลังที่จะไปยึดขนาดนั้น กว่าที่จะมาทำรายการตรงนี้ได้ ลุ้นกันทุกนาทีจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีรายการ ‘คุยกับเศรษฐา’ ในวันเสาร์ เวลา 08.00 น. ซึ่งจะไปคุยวิธีคิดการทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าทำไมถึงทำแบบนั้นออกมา

ก่อนหน้านี้ นายธีรัตถ์ และ น.ส.ลักขณา กล่าวในรายการ Sit Beautiful with KamPhaka ในตอนหนึ่งระบุว่า การจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท คำดี จำกัด ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อยึดช่องเอ็นบีทีแต่อย่างใด เพราะกรมประชาสัมพันธ์ไม่มีวิธีการเข้าไปผลิตรายการในรูปแบบบริษัท นอกเสียจากซื้อเวลาไปผลิตรายการเอง ซึ่งช่องเอ็นบีทีเป็นทีวีของรัฐ มีโฆษณาไม่ได้ ยกเว้นรายการกีฬาบางรายการ เรื่องการทำรายการให้กับช่องเอ็นบีทีมีการคุยกันมาก่อนตั้งแต่วอยซ์ทีวีปิดกิจการ แต่พวกตนชี้แจงว่ายังเป็นลูกจ้างของวอยซ์ทีวีอยู่ ตราบใดที่ยังไม่ยุติกิจการเราไม่มา การไปช่องเอ็นบีทีเราไม่ได้ไปแย่งพื้นที่ใคร การที่เราไปเป็นการเสริมสร้างเนื้อหาข่าวให้กับช่องเอ็นบีทีเท่านั้นเอง ไม่มีทางที่จะไปยึดช่อง ไปแบบคนตัวเล็ก ๆ ไม่คิดจะยึดสถานี

ทั้งนี้ รายการดังกล่าวเตรียมตัวโปรโมตมา 2 สัปดาห์ และวันที่ 11 มิ.ย. เป็นวันเปิดตัวสปอตรายการอย่างเป็นทางการจากช่องเอ็นบีที เรื่องที่จะไปจัดรายการที่ช่องเอ็นบีทีตนได้บอกกับคนใกล้ชิดไปหมดแล้ว แต่ยังไม่โพสต์ลงในสื่อโซเชียลฯ เพราะตัวโปรโมตหลักยังไม่ออก แล้วจู่ ๆ กลุ่มฟ้าเดียวกันมาโพสต์ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่สปอตโปรโมตของช่องเอ็นบีทีจะออก ซึ่งถ่ายทำมา 3 สัปดาห์แล้ว ที่ผ่านมามีการเตรียมตัวและประชุมกับช่องเอ็นบีทีมา 3 เดือนแล้ว และยังต้องซ้อมการจัดรายการ ซึ่งต้องให้เกียรติคนทำงานทุกคนเพราะเราเป็นคนใหม่ที่นั่น เพราะฉะนั้นเราทำงานแบบมืออาชีพ มีขั้นตอน เรียนรู้ระบบ รู้จักคน รู้จักวิธีการทำงานในฐานะผู้ร่วมผลิตรายการ การทำงานต้องทำร่วมกันเป็นทีม ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเก่งกว่ากัน และเห็นใจซึ่งกันและกัน

อนึ่ง ก่อนหน้านี้บนโซเชียลฯ มีการก๊อปรูปภาพจากเฟซบุ๊ก ‘Teerat Ratanasevi’ ของนายธีรัตถ์ ที่ซ้อมการจัดรายการก่อนออกอากาศจริง แล้วปรากฏว่ามีชาวเน็ตจับผิดภาพฉากด้านหลังว่ามีลายน้ำของเว็บไซต์ 123RF ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายภาพสต๊อก ปรากฏว่าในวันนี้ซึ่งเป็นวันออกอากาศจริง ไม่ได้ใช้รูปดังกล่าว แต่เป็นรูปอาคารในกรุงเทพมหานครที่ไม่มีลายน้ำใด ๆ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top