Friday, 19 April 2024
Moderna

คนไทยฉีด AZ, ไฟเซอร์, โมเดอร์น่า, J&J เข้าประเทศอังกฤษได้แล้ว 11 ต.ค.นี้

เฟซบุ๊กเพจ ‘Amthaipaper (หนังสือพิมพ์ไทยในอังกฤษ)’ ได้เปิดเผยข่าวดีของคนไทยที่จะไปยังประเทศอังกฤษ ว่า... 

ขอแสดงความยินดีกับ #Thailand แดนสยาม ที่กำลังจะได้ออกจากบัญชีแดงของอังกฤษ ในวันที่ 11 ตุลาคมนี้
โดยอังกฤษจะยอมรับการฉีดวัคซีน AZ, ไฟเซอร์, โมเดอร์น่า, จอห์นสัน & จอห์นสัน (J&J) จากประเทศไทย 

หมายความว่า อังกฤษจะยอมรับการฉีดวัคซีนจากประเทศไทย พร้อมกับให้ ประเทศไทย ออกจาก List แดงตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคมนี้ โดยผู้เดินทางมาจากประเทศไทย ที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็ม จะสามารถเข้าสหราชอาณาจักรได้ แบบไม่ต้องกักตัว 

#ขอแสดงความยินดี
#วีซ่านักท่องเที่ยว
#ก็มาได้แล้ว

*** ทั้งนี้ วัคซีนที่ยอมรับมีเพียง AZ, ไฟเซอร์, โมเดอร์น่า, จอห์นสัน & จอห์นสัน (J&J) ครบสองเข็มเท่านั้น (ฉีดสลับกันได้ภายในวัคซีนที่ระบุนี้) ต้องฉีดครบ 2 เข็มตาม List ก่อน 14 วันที่จะเดินทาง

>> หากฉีดวัคซีนอื่น หรือฉีดเพียง 1 เข็ม จาก List ที่อังกฤษยอมรับ จะถือว่ายังไม่ได้ฉีด!!

และผู้ที่ฉีดไม่ครบ ต้องทำตามกฎสีอำพันเดิม คือ กักตัวที่บ้าน 10 วัน (Day2 & Day8 COVID Tests) หรือ กักตัวแบบเร่งรัดที่บ้าน 5 วัน (Test to release)

>> ก่อนเดินทางต้อง:
▶️ตรวจโควิดก่อนขึ้นเครื่องบิน 72 ชม.
▶️กรอกใบ Passenger locator
???????? https://www.gov.uk/provide-journey-contact-details-before-travel-uk
▶️จองที่ตรวจโควิดตามรายชื่อบริษัทที่รัฐบาลอังกฤษกำหนด
????????https://www.gov.uk/find-travel-test-provider
รายละเอียดเพิ่มเติม ตามที่แอมไทยเคยโพสต์ข้อปฏิบัติก่อนเดินทางมายังสหราชอาณาจักร จากลิสต์สีอำพัน????ตามลิงก์ ????????
https://www.facebook.com/178210772217942/posts/4391072974265013/?d=n

หมายเหตุ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศอังกฤษ ผู้ที่ฉีดสองเข็มครบ ตามลิสต์วัคซีนที่อังกฤษยอมรับ จะไม่ต้องกักตัวตามกฎบัญชีเขียว???? (Green List) (อังกฤษยกเลิกบัญชีสีอำพัน Amber list)

กระทรวงการต่างประเทศ ตบหน้า 'รพ.ธรรมศาสตร์' แจงดีล Moderna ล่ม เหตุโปแลนด์ไม่ให้เอาไปขาย

กระทรวงการต่างประเทศ แจงเหตุ ดีลบริจาควัคซีน Moderna จากโปแลนด์ล่ม เพราะรพ.ธรรมศาสตร์ จะขอรับวัคซีน 1 ใน 3 ส่วนอีก 2 ใน 3 ให้เอกชนที่เป็นหุ้นส่วนนำไปจำหน่ายให้ผู้สนใจ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งโปแลนด์แจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำวัคซีนที่ได้รับบริจาคไปขาย

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ ออกคำชี้แจง หลังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ อ้างว่ากระทรวงการต่างประเทศ ไม่ทำหนังสือยืนยันตัวตนให้ รพ.ธรรมศาสตร์ในการขอรับบริจาควัคซีน Moderna ซึ่งยังมีอายุใช้งานได้ถึงเดือนเมษายน 2565 จำนวน 1.5 ล้านโดส จากประเทศโปแลนด์ เป็นเหตุให้ต้องยุติการขอรับบริจาคลง โดยระบุว่า…

ตามที่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ได้ลงข้อความพาดพิงถึงการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอรับบริจาควัคซีนโมเดอร์นาจากสำนักงานสำรองทางยุทธศาสตร์ของโปแลนด์ จำนวน 1.5 ล้านโดส โดยระบุว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอให้กระทรวงการต่างประเทศออกจดหมายยืนยันว่า รัฐบาลไทยยินดีรับบริจาควัคซีนดังกล่าว เนื่องจากหน่วยงานผู้บริจาคประสงค์ให้รัฐบาลไทย โดยหน่วยงานภาครัฐที่มีสถานะเป็นผู้แทนรัฐบาล แจ้งเจตนาจะรับบริจาค แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่ออกหนังสือดังกล่าวให้ ทำให้การบริจาควัคซีนดังกล่าวต้องยกเลิกไปนั้น

กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงดังนี้ว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แจ้งกระทรวงการต่างประเทศว่า ในการรับบริจาควัคซีนจากโปแลนด์ครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงจะรับวัคซีนจำนวน 1 ใน 3 ของวัคซีนที่ได้รับบริจาคไว้เอง เพื่อให้บริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และจะมอบวัคซีนที่ได้รับบริจาคมาอีก 2 ใน 3 ให้เอกชนที่เป็นหุ้นส่วน เพื่อนำไปจำหน่ายให้ผู้สนใจ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

กระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์แล้ว ได้รับแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำวัคซีนที่ได้รับบริจาคไปขาย และฝ่ายไทยต้องได้รับ market authorization จากบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นาด้วย ซึ่งทั้งสองประเด็นเป็นแนวปฏิบัติโดยทั่วไปของการบริจาควัคซีนและเวชภัณฑ์ระหว่างประเทศ และไม่สามารถเจรจาต่อรองเป็นอื่นได้

เชียงใหม่ - อบจ.เชียงใหม่ เปิดศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีน Moderna ให้ประชาชน ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วนรักษ์ วัชระศักดิ์ศิลป์ รองผู้อำนวยการศูนย์ศรีพัฒน์  และคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเยี่ยมชมศูนย์บริการฉีดวัคซีน Moderna ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) Moderna จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 60,000 โดส เพื่อนำมาฉีดให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทุกกลุ่มเป้าหมายให้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) อย่างทั่วถึง ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

ณ อาคารหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ,หอประชุมโรงเรียนอนุบาล เทศบาลตำบลสันกำแพง อำเภอสันกำแพง, หอประชุมเทศบาลตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว,โรงพยาบาลฝาง อำเภอฝาง, หอประชุมประจำอำเภอดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ และหอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา อำเภอสันป่าตอง

'Moderna' ยื่นฟ้อง 'Pfizer-BioNTech' ข้อหาละเมิดสิทธิบัตรพัฒนาวัคซีนโควิด-19

โมเดอร์นาดำเนินการยื่นฟ้องไฟเซอร์และไบโอเอ็นเท็คซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนคู่แข่งการค้า โดยกล่าวหาว่าบริษัททั้งสองละเมิดสิทธิบัตรในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งกระจายไปสู่หลายร้อยล้านคนทั่วโลก

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 กล่าวว่า โมเดอร์นา (Moderna TX, Inc.) บริษัทยาสัญชาติอเมริกัน ดำเนินการฟ้องร้องการละเมิดสิทธิบัตรในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ต่อไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทยาสัญชาติอเมริกัน และไบโอเอ็นเท็ค (BioNTech) บริษัทยาสัญชาติเยอรมัน

โดยโมเดอร์นาออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า "บริษัทฯเชื่อว่าวัคซีน Comirnaty (วัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคโควิด-19) ที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ ร่วมกับไบโอเอ็นเท็ค ทำการละเมิดสิทธิบัตรของโมเดอร์นา ที่ได้ยื่นจดทะเบียนระหว่างปี 2553-2559 ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ของโมเดอร์นา โดยทั้งไฟเซอร์และไบโอเอ็นเท็ค ได้คัดลอกเทคโนโลยีชนิดนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโมเดอร์นา เพื่อสร้างวัคซีนดังกล่าว"

โมเดอร์นากล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯได้เริ่มคิดค้นเทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอในปี 2553 และจดสิทธิบัตรงานเกี่ยวกับโคโรนาไวรัสในปี 2558-2559

"โมเดอร์นาคาดหวังให้บริษัทต่างๆ เช่น ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเท็ค เคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทฯ และจะพิจารณาใบอนุญาตที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ให้ หากพวกเขาดำเนินการขอใบอนุญาตอย่างถูกต้องจากเจ้าของสิทธิบัตร แต่ทว่าไฟเซอร์และไบโอเอ็นเท็คกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น" โมเดอร์นาระบุ

การดำเนินคดีครั้งนี้ ถือเป็นการเดิมพันทางธุรกิจครั้งสำคัญระหว่างบริษัทผู้ผลิตวัคซีนชั้นนำที่มีบทบาทอย่างมากในการต่อสู้กับโรคโควิด-19

ด้านไฟเซอร์และไบโอเอ็นเท็คกล่าวว่า พวกเขายังไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดในการดำเนินคดีดังกล่าว แต่แสดงความประหลาดใจที่มีประเด็นแบบนี้เกิดขึ้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top