Thursday, 24 April 2025
LuckinCoffee

ร้านกาแฟจีน Luckin จับมือเจ้าพ่อสุรา ‘เหมาไถ’ เสิร์ฟ ‘ลาเต้รสเหล้าขาว’ วันแรกโกย 5.42 ล้านแก้ว

(5 ก.ย.66) ลัคกิน คอฟฟี่ (Luckin Coffee) เครือร้านกาแฟเจ้าดังของจีน ประกาศจับมือบริษัทสุรา กุ้ยโจว เหมาไถ (Kweichow Moutai) ออกเมนู ‘กาแฟนมผสมเหล้าขาว’ หวังจับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ โดยหลังเปิดตัววันแรกเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ปรากฏว่าทำยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 5.42 ล้านแก้ว

ลัคกิน แถลงว่า กาแฟนมผสมเหล้าขาวเพียงเมนูเดียวสร้างรายได้ให้บริษัทกว่า 100 ล้านหยวนในวันจันทร์ (4 ก.ย.) ทุบสถิติเมนูยอดนิยมอื่น ๆ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ เช่น cheese latte ซึ่งมียอดจำหน่ายในวันเปิดตัว 1.31 ล้านแก้ว และ coconut cloud latte ซึ่งขายได้ในวันแรก 660,000 แก้ว

กาแฟผสมเหล้าขาวซึ่งทางร้านตั้งชื่อว่า ‘sauce-flavoured latte’ เปิดจำหน่ายวันแรกในราคาเพียง 19 หยวน หรือลดจากปกติ 50% ซึ่งปรากฏว่ามีชาวจีนในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้แห่ไปต่อคิวรอซื้อจนขายหมดเกลี้ยงในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง

ลัคกิน และกุ้ยโจว เหมาไถ ระบุว่า sauce-flavoured latte มีปริมาณแอลกอฮอล์ผสมไม่เกิน 0.5%
สำหรับสุราเหมาไถนั้นได้รับยกย่องว่าเป็น ‘สุราแห่งชาติจีน’ โดยเป็นเหล้าขาวดีกรีแรงที่นิยมเสิร์ฟกันตามงานเลี้ยงต่างๆ และสำหรับ กุ้ยโจว เหมาไถ นั้นผู้ที่เคยดื่มส่วนใหญ่บอกว่ามีกลิ่นและรสชาติใกล้เคียงกับ ‘ซอสถั่วเหลือง’

Luckin Coffee บริษัทกาแฟจากจีน พลิกกลับมาชนะคดีเครื่องหมายการค้าในไทย ศาลฯ สั่งคู่กรณีชดใช้ 10 ล้านบาท และต้องจ่ายค่าเสียหายต่อเนื่องวันละ 100,000 บาท

(13 มี.ค. 68) Luckin Coffee บริษัทกาแฟชื่อดังจากประเทศจีน ได้รับชัยชนะในคดีเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย โดยศาลสั่งให้คู่กรณีชดเชยความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท

Luckin Coffee เป็นบริษัทกาแฟจากประเทศจีนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Starbucks ในตลาดจีน ด้วยกลยุทธ์การขายที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก เน้นการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน และมีราคาที่ถูกกว่าคู่แข่ง ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของ Luckin Coffee ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เพราะในปี 2020 บริษัทถูกเปิดโปงว่ามีการ ตกแต่งบัญชี โดยอ้างว่ายอดขายสูงกว่าความเป็นจริงถึง 2,200 ล้านหยวน (ประมาณ 10,000 ล้านบาท) ส่งผลให้หุ้นของบริษัทในตลาด NASDAQ ร่วงลงอย่างรุนแรง จนต้องถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์ในที่สุด

อีกทั้งในปีเดียวกัน Luckin Coffee ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) สอบสวนเรื่องการตกแต่งบัญชี ส่งผลให้บริษัทต้องจ่ายค่าปรับ 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,500 ล้านบาท) เพื่อระงับข้อพิพาท และถูกหน่วยงานกำกับดูแลของจีนยังสั่งปรับบริษัท 61 ล้านหยวน (ประมาณ 282 ล้านบาท)

กระทั่งในปี 2023 Luckin Coffee สามารถฟื้นตัวและเติบโตได้ โดยบริษัททำรายได้กว่า 24.9 พันล้านหยวน (ประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีร้านกาแฟมากกว่า 20,000 สาขาทั่วประเทศจีน
ส่งผลให้ Luckin Coffee เข้ามาเปิดตลาดในไทย แต่ถูกบริษัท R50 ยื่นฟ้องว่าเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า Luckin Coffee ในประเทศ 

ต่อมาศาลชั้นต้นตัดสินให้ Luckin Coffee ชนะคดี แต่ในชั้นอุทธรณ์ ศาลกลับตัดสินให้ R50 เป็นฝ่ายถูกต้อง ทำให้ Luckin Coffee ต้องเผชิญกับข้อพิพาททางกฎหมาย ทำให้ต้องว่าจ้างสำนักงานกฎหมาย Tilleke & Gibbins เพื่อหาทางแก้ไขข้อพิพาทดังกล่าว 

Tilleke & Gibbins เข้ามาจัดการคดีด้วยกลยุทธ์ทางกฎหมายใหม่ โดยอ้างอิงกฎหมายสากลและหลักการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าระดับนานาชาติ ส่งผลให้ Luckin Coffee พลิกกลับมาชนะคดี และได้รับคำตัดสินให้เป็นเจ้าของสิทธิ์เครื่องหมายการค้าอย่างถูกต้องในประเทศไทย

โดยในปี 2025 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางของประเทศไทยได้ตัดสินให้ Luckin Coffee บริษัทกาแฟรายใหญ่จากประเทศจีน ชนะคดีเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย และสั่งให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท (ประมาณ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินสูงสุดที่เคยได้รับในคดีละเมิดเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย 

นอกจากนี้ ศาลยังกำหนดให้จำเลยต้องจ่ายค่าเสียหายต่อเนื่องเป็นรายวันวันละ 100,000 บาท นับจากวันที่ยื่นฟ้อง (4 มีนาคม 2567) จนกว่าจำเลยจะยุติกิจกรรมละเมิดลิขสิทธิ์ และสั่งให้จำเลยร่วมกันจ่ายค่าทนายความของโจทก์

ในการตัดสินครั้งนี้ ศาลได้สั่งให้ยกเลิกการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยในประเทศไทย รวมถึงสั่งให้จำเลยเปลี่ยนชื่อบริษัทและห้ามใช้หรือแสดงคำว่า “Luckin Coffee” ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษในชื่อบริษัท นอกจากนี้ จำเลยยังถูกห้ามใช้คำว่า “Luckin Coffee”, “瑞幸咖啡” และโลโก้รูปกวางในการดำเนินธุรกิจกาแฟ

กรณีของ Luckin Coffee ถือเป็นบทเรียนสำคัญของธุรกิจสตาร์ตอัปที่เติบโตเร็ว แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในด้านกฎหมายและการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตามด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง บริษัทยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดกาแฟโลกต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top