Thursday, 15 May 2025
Lite

วันเกิดครบรอบ 71 ปี ‘ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี’ ศิลปินแห่งชาติ เจ้าของฉายาในตำนาน ‘จอมยุทธขลุ่ย’

‘ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี’ หรือที่นิยมเรียกและรู้จักกันดีในชื่อ ‘อาจารย์ ดร.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี’ เกิดเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2494 ที่ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จบการศึกษาจากวิทยาลัยการศึกษาปทุมวันและมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ด้วยความที่เคยเป็นอาจารย์สอนวิชาดนตรีอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและวิทยาลัยครูจันทรเกษม จึงถูกเรียกติดปากว่า อาจารย์ธนิสร์ ได้เข้าร่วมวงคาราบาว ในปี พ.ศ. 2526 พร้อมกับ เทียรี่ เมฆวัฒนา และเป้า - อำนาจ ลูกจันทร์ ในการเป็นนักดนตรีแบ็กอัปในห้องอัดของอโซน่า เมื่อคาราบาว โดยแอ๊ด - ยืนยง โอภากุล ได้มาอัดเสียงที่นี่ และชักชวนเข้าร่วมวง

บทบาทของ อ.ธนิสร์ในวงคาราบาวนั้นนับว่าโดดเด่นมาก โดยจะเป็นผู้เล่นในตำแหน่ง คีย์บอร์ด และการประสานเสียง แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และความสามารถเฉพาะก็คือการเป่าขลุ่ย โดยเฉพาะในเพลง เมด อิน ไทยแลนด์ ที่อยู่ในอัลบั้มประวัติศาสตร์ของวงนั้น อ.ธนิสร์ได้เป่าทั้งเพลง รวมทั้งการส่งเสียงแซวในเนื้อเพลงด้วย จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกสีสันประจำตัวเมื่อมักจะแซวสมาชิกในวงคนอื่นๆ โดยเฉพาะแอ๊ดเมื่อเล่นคอนเสิร์ตเสมอๆ ทำให้อ.ธนิสร์เปรียบเสมือนสีสันของวง

อ.ธนิสร์ได้แยกตัวออกจากวง เมื่อปี พ.ศ. 2531 ภายหลังวงคาราบาวออกอัลบั้มชุดที่ 9 คือ ทับหลัง โดยขัดแย้งในความเห็นกับแอ๊ด นับเป็นสมาชิกคนแรกที่แยกตัวออกไป จากนั้นเทียรี่และเป้าก็แยกออกจากวงคาราบาวตามอ.ธนิสร์ไปด้วย หลังจากนั้นทั้งสามคนได้ร่วมกันออกอัลบั้มชุดแรกของพวกเขาในปี พ.ศ. 2532 ชื่อชุด ขอเดี่ยวด้วยคนนะ มีเพลงที่ได้รับความนิยม ซึ่งร้องโดย อ.ธนิสร์และเทียรี่ คือ วันเกิด และ เงินปากผี

หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2535 อ.ธนิสร์ก็ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของตนเองชื่อชุด ‘ลมไผ่’ มีเพลงที่เป็นที่จดจำ มีเอกลักษณ์ของตนเอง และมีความไพเราะมาก คือ ทานตะวัน ที่นำเนื้อร้องมาจากบทกวีของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งแต่งไว้เมื่อได้รับแรงบันดาลใจจากการชมทุ่งทานตะวัน ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อครั้งเดินทางไปพร้อมกับวงคาราบาวในการทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศ ซึ่งเป็นการร้องประสานเสียงพร้อมเสียงขลุ่ย

ย้อนรอยเหตุการณ์สะเทือนขวัญรับ ‘ตรุษจีน’ จากเหตุ ‘พลุ-ดอกไม้ไฟ’ ระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี

เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 ท่ามกลางงานรื่นเริงรับเทศกาลวันตรุษจีน ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้น ณ อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งในวันนั้นได้มีการจัดงาน ‘ตรุษจีนสุพรรณบุรี ปีทองมังกรสวรรค์’ โดยจัดขึ้นในช่วงวันที่ 23-29 มกราคม พ.ศ. 2555 มี นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี 

โดยเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นในเวลา 19.30 น. ในระหว่างการแสดงพลุดอกไม้ไฟไพโรเทคนิคชุด ‘ปีทองมังกรสวรรค์อวยชัยให้พรตรุษจีน’ ได้เกิดเหตุพลุจำนวนมากระเบิดขึ้นพร้อมกัน จนสามารถเห็นเป็นลำแสงที่พุ่งสู่ท้องฟ้าในยามค่ำคืนและเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว 

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลูกไฟได้ตกใส่บ้านเรือนของประชาชนที่ตั้งติดกันอยู่กันนับร้อยหลังคาเรือนจนเกิดไฟโหมไหม้กว่า 50 หลัง ทั้งยังมีผู้ได้บาดเจ็บกว่า 75 ราย และเสียชีวิต 4 ราย นอกจากนี้หลังจากเหตุการณ์ได้มีผู้มาแจ้งความเสียหายของบ้านเรือนทั้งหมด 435 หลัง ซึ่งมีกว่า 71 ราย ที่บ้านเสียหายทั้งหลัง อีกทั้งวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดเช่นกัน 

Nastya วัย 7 ขวบ โกยเงินกว่า 900 ลบ. ขึ้นแท่นยูทูบเบอร์หญิงที่ทำรายได้สูงสุดปี 2021

เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นกับวงการยูทูบเบอร์ (YouTuber) ในรอบปี 2021 เมื่อหนูน้อย Nastya ที่มียอดผู้ติดตามสูงถึง 85.8 ล้านคน ถูกจัดอันดับให้เป็นยูทูบเบอร์หญิงที่ทำรายได้สูงสุดในรอบปีดังกล่าว ด้วยจำนวนเงินสูงถึง 28 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 935 ล้านบาทเลยทีเดียว

อนึ่ง หนูน้อย Nastya มีชื่อจริงว่า Anastasia Radzinskaya (อนาสตาเซีย ราดซินสกาย่า) ซึ่งเธอและพ่อแม่ได้ร่วมกันผลิตคอนเทนต์สำหรับเด็ก โดยมี Nastya เป็นตัวชูโรง ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ประเภทมิวสิกวิดีโอ คอนเทนต์เสริมการเรียนรู้ และสำรวจสิ่งต่างๆ ตามประสาเด็ก และ ณ ปัจจุบันยอดวิวรวมทั้งหมดภายในช่องของเธอที่เพิ่งสร้างมาได้เพียง 5 ปีเศษก็มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 6 หมื่นล้านวิวเข้าไปแล้ว

ขณะเดียวกัน นอกเหนือไปจากรายได้จาก YouTube แล้ว ทางช่อง Nastya เองก็ยังมีรายได้จากช่องทางอื่นอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา คอนเทนต์จากเหล่าสปอนเซอร์ ตลอดจนสินค้า Merchandise ฯลฯ เรียกได้ว่ากลายเป็นเศรษฐีกันตั้งแต่วัยกระเตาะเลย

55 ปี วันก่อตั้ง ‘วิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลก’ ซึ่งยกฐานะขึ้นเป็น ‘มหาวิทยาลัยนเรศวร’ ในปัจจุบัน

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2510 ตรงกับวันก่อตั้ง ‘วิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลก’ โดยสาเหตุของการก่อตั้งเกิดจาก วงการการศึกษาได้ประสบปัญหาเข้ามาอีกทั้งภาวะการขาดแคลนครูเป็นอันมากและวุฒิการศึกษาครูสูงที่สุดคือ วุฒิ ป.ม. (ประกาศนียบัตรประโยคครูมัธยม) ซึ่งเทียบเท่ากับอนุปริญญาเท่านั้น ทำให้เกิดความล้าหลังในอาชีพครู

อีกทั้งครู ป.ม. บางคนเมื่อศึกษาเพิ่มเติมสูงขึ้นได้ปริญญาทางด้านอื่นแล้วต่างลาออกไปประกอบอาชีพใหม่ที่เข้าใจว่ามีความก้าวหน้ามากกว่า ผู้บริหารในวงการศึกษาจึงได้มีการปรึกษาหารือและดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาตามลำดับ

โดย 'ดร. สาโรช บัวศรี' ถือเป็นบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้เข้าชี้แจงให้คณะรัฐบาลเข้าใจถึงเหตุและผลที่จะดำเนินการและสิ่งที่เกิดขึ้น หากให้สามารถเปิดสอนครูถึงระดับปริญญา และสามารถชี้แจงจนเข้าใจร่วมกันได้ ซึ่งในที่สุดที่ประชุมจึงได้มีมติยอมรับ และในที่สุดก็ผ่านพระราชบัญญัติวิทยาลัยวิชาการศึกษาได้ในปี พ.ศ. 2497

และได้มีการขยายวิทยาเขตไปสู่ภาคต่างๆ ทุกภาค โดยได้เปิดสอนแห่งเดียวในแต่ละภาค คือ ภาคเหนือเปิดที่พิษณุโลก (25 มกราคม พ.ศ. 2510) ภาคใต้ที่สงขลา (1 ตุลาคม พ.ศ. 2511) ภาคตะวันออกที่ชลบุรี (8 กรกฎาคม พ.ศ. 2498) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มหาสารคาม และกรุงเทพมหานครที่บางเขน (27 มีนาคม พ.ศ. 2512)

หลังจากนั้นในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2517 ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. 2517 ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นการรวมวิทยาลัยเขตทั้งหมด เป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และโอนสถานะไปสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย ซึ่งวิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลกนั้น จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาเขตหนึ่งของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 

โดยมีวิทยาเขตประสานมิตรเป็นศูนย์กลางการบริหารของมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับวิทยาลัยวิชาการการศึกษาอื่นๆ อีก 8 แห่ง การจัดการเรียนการสอนในสมัยนั้นเปิดสอนเพียง 5 คณะ คือ คณะศึกษาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ และบัณฑิตวิทยาลัย โดยสถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตพิษณุโลกยังคงใช้สถานที่เดิมของวิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลก

‘วันแห่งคอลลาเจน’ ถูกจดสิทธิบัตรอย่างถูกต้อง โดยนักวิจัยชื่อ ‘นิชิฮาระ โทมิโอะ’

วันแห่งคอลลาเจน เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2503 โดยวันที่ 26 มกราคม ของปีดังกล่าว เป็นวันที่คอลลาเจนถูกจดสิทธิบัตรอย่างถูกต้อง โดยนักวิจัยชื่อว่า “นิชิฮาระ โทมิโอะ” 

คอลลาเจน เป็นโปรตีนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากกรดอะมิโนในร่างกายของคนเราและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยมีส่วนช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างต่างๆ ของร่างกาย และยังทำหน้าที่ช่วยปกป้องโครงสร้างของผิวจากการถูกทำร้ายโดยแสงแดด และมลพิษจากสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 


ที่มา : https://www.newtv.co.th/news/10873
 

‘วันรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล’ โดยกองทัพแดงของสหภาพโซเวียต ทำการปลดปล่อยค่ายมรณะ ‘Auschwitz-Birkenau’ จากนาซี 

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติได้มีมติกำหนดให้วันที่ 27 มกราคม เป็น ‘วันรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล’ (International Holocaust Remembrance Day) เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1945 ซึ่งกองทัพแดงของสหภาพโซเวียตทำการปลดปล่อยค่าย Auschwitz-Birkenau ค่ายกักกันของนาซีที่ใหญ่ที่สุด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

เหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ถือเป็นความทรงจำที่เลวร้ายที่สุดของชาวยุโรป นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ที่เกิดจากความเกลียดชังในใจมนุษย์จนนำไปสู่การทำลายล้าง และเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่กระตุ้นให้เรารู้จักยอมรับในความแตกต่างของผู้อื่น
 

‘ตั๊ก บริบูรณ์’ อำลา ร.ร.วรรณวิทย์ ไม่ลืมพระคุณครูใหญ่ให้เรียนแม้ไม่มีค่าเทอม

"ตั๊ก บริบูรณ์" อำลาโรงเรียนเก่า หลังเตรียมปิดตำนาน 76 ปี เผย “ครูให้เรียนแม้ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม” 

"ตั๊ก บริบูรณ์" นักแสดงตลกอารมณ์ดี โพสต์อำลาโรงเรียนเก่าแก่ ที่เตรียมปิดตัวลง และเตรียมจัดงานสิ้นเสียงระฆังวรรณวิทย์ ในวันที่ 26 ก.พ. 65 นี้

เป็นข่าวที่หลายๆ คน ถึงกับใจหาย หลังโรงเรียนวรรณวิทย์ ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 76 ปี เตรียมปิดตัวลง ซึ่งปัจจุบันมีหม่อมราชวงศ์รุจีสมร สุขสวัสดิ์ อายุ 101 ปี เป็นครูใหญ่ 

ล่าสุดในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนักแสดงตลกอารมณ์ดีอย่าง "ตั๊ก บริบูรณ์ จันทร์เรือง" ได้เผยภาพตนเองไปเยี่ยมชมโรงเรียนเก่า ที่เตรียมปิดตัวลงในอีกไม่ช้า

วันนี้เมื่อปี 2551 “สมัคร สุนทรเวช” ได้คะแนนเสียงจาก ส.ส. ให้ดำรงตำแหน่ง ‘นายกรัฐมนตรีคนที่ 25’ ของประเทศไทย

“สมัคร สุนทรเวช“ ผู้คร่ำหวอดในแวดวงการเมืองไทยมาอย่างยาวนาน เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน พรรคที่พัฒนามาจากพรรคไทยรักไทยในอดีตที่ถูกยุบพรรคไปเมื่อ พ.ศ. 2549 พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และทำให้นายสมัครได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดคือนายกรัฐมนตรีคนแรกหลังจากเหตุการณ์การรัฐประหาร พ.ศ. 2549

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีมีขึ้นในวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2551 ครั้งนั้นมีเรื่องสำคัญที่ฝ่ายพรรคพลังประชาชนกับฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์หยิบขึ้นมาพูดคุยกันสองประเด็น คือ หนึ่ง การเสนอให้ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องอภิปรายแสดงวิสัยทัศน์ และสอง การเสนอชื่อคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี

สืบเนื่องจากผลจากการเลือกตั้ง แม้ว่าพรรคพลังประชาชนจะได้คะแนนเสียงเกือบเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร แต่ฝ่ายพรรคพลังประชาชนกับฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนเสียงไม่ห่างกันมาก ที่สำคัญคือภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ส.ส.ของแต่ละพรรคไม่จำเป็นต้องทำตามญัตติพรรค ส.ส.สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้อิสระตามความคิดของแต่ละคน ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์จึงเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมาแข่งกับนายสมัคร สุนทรเวช จากพรรคพลังประชาชน

ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้มีการอภิปรายแสดงวิสัยทัศน์ มีการลุกขึ้นชี้แจงของบุคคลกลุ่มต่าง ๆ ส่วนฝ่ายพรรคพลังประชาชนไม่ต้องการให้มีการอภิปรายแสดงวิสัยทัศน์ จึงเสียเวลาประชุมหาข้อสรุปกันในเรื่องนี้

ทั้งสองฝ่ายต่างชิงไหวชิงพริบกันในที่ประชุม โดยหลังจากนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ส.ส.พรรคพลังประชาชน (แบบสัดส่วน) เสนอชื่อนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจึงมีการประชุมเรื่องการแสดงวิสัยทัศน์ โดยนายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (แบบสัดส่วน) มีความเห็นว่า “เพราะนายกเป็นผู้นำในการบริหารประเทศ วิสัยทัศน์การบริหารประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการจัดสรรบุคคลให้มาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี ผมคิดว่าจะต้องเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถและที่สำคัญคือความซื่อสัตย์”

ลูกชายงัดสัญญา ‘ทวงเงินพ่อ’ หลังยืมจากกระปุกไป 500 แล้วไม่คืน

น่าเอ็นดู!! ลูกชายสุดเซ็ง พ่อยืมเงินในกระปุกไป 500 บาท แล้วยังไม่คืน ขอร่างสัญญาทวงเงิน ลั่น "เอาเงินผมคืนมา"

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 มีเรื่องราวให้หนูน้อยรายหนึ่งเป็นอันต้องปวดหัว เมื่อคุณพ่อยืมเงินแต่ไม่คืน น้องเลยต้องหาทางออกเอง !! ซึ่งเฟซบุ๊ก ปันปัน อันนี้กี่บาท ได้เผยภาพกระปุกออมสิน และไดอารี่ของน้องปันปัน ที่เขียนลายมือเป็นเอกสารสัญญา "พ่อยืมเงินแล้วไม่คืน"

โดยน้องปันปัน เขียนว่า คุณพ่อได้ยืมเงินจากกระปุกออมสินของตนไป 500 บาท แล้วไม่คืน ปันปันไม่มีปัญญาจะฟ้องใครแล้วจะฟ้องแม่ก็ไม่ได้ เพราะแม่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พร้อมลงท้ายว่า "เอาเงินผมคืนมา"
 

วันนี้ในอดีต ‘แดนเนรมิต’ หนึ่งในตำนานสวนสนุกของประเทศไทย ได้เปิดทำการเป็นวันแรก

“แดนเนรมิต” เป็นสวนสนุกกลางแจ้ง บนเนื้อที่ 33 ไร่ เยื้องกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ริมถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2518 มีเครื่องเล่นจากต่างประเทศกว่า 30 ชนิด ต่างจากสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ ที่เปิดดำเนินการในช่วงเดียวกัน ซึ่งใช้เครื่องเล่นที่ล้าสมัยกว่า 

แดนเนรมิตมีความโดดเด่นที่ปราสาทเทพนิยาย ซึ่งตั้งอยู่ส่วนหน้าของพื้นที่ สร้างขึ้นตามแบบที่ผสมผสาน จากปราสาทเทพนิยายของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ กับปราสาทนอยส์ชวานสไตน์ ของเยอรมนี ภายในมีเครื่องเล่นต่าง ๆ อาทิ รถไฟเหาะ เครื่องเล่นรถไฟรางเดี่ยว เรือไวกิ้ง ส่วนจัดแสดงสัตว์โลกล้านปี เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีพาเหรดแฟนตาซี ซึ่งออกเดินไปตามถนนโดยรอบบริเวณ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top