Monday, 21 April 2025
Leopard2

Leopard 2 สุดยอดรถถังของยุโรป กลายเป็นเศษเหล็ก หลังเผชิญหน้ารถถังรัสเซีย ในสมรภูมิยูเครน

(6 ม.ค. 68) สงครามระหว่างกับรัสเซีย-ยูเครนจะครบ 3 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ปัจจัยที่ทำให้ยูเครนยังคงสามารถยืนหยัดต่อต้านกองกำลังของรัสเซียได้นั้น ส่วนใหญ่ที่สุดมาจากการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร NATO สมาชิกองค์การ NATO จำนวนมากมายมหาศาลตั้งแต่อาวุธเบาเช่นปืนเล็กยาว ปืนกล ขีปนาวุธนานาชนิด ปืนใหญ่ รถถัง รถหุ้มเกราะ สารพัดชนิด กระทั่งเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 (จนอาวุธยุทโธปกรณ์ในคลังสำรองของประเทศเหล่านั้นแทบจะหมดเกลี้ยง) อีกทั้งรัสเซียเองก็ไม่ได้ทุ่มสรรพกำลังเต็มที่ในการทำสงครามครั้งนี้ ด้วยยังคงกองกำลังส่วนใหญ่ไว้ในประเทศเพื่อป้องกันประเทศจากการรุกรานของชาติต่าง ๆ ที่เป็นปรปักษ์ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้

รถถังหลัก (Main battle tank : MBT) แบบ Leopard 2 ก็เช่นเดียวกัน รถถังรุ่นนี้ถือเป็นรถถังหลักที่ล้ำหน้าที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ด้วยเชื่อว่า รถถังหลักแบบ Leopard 2 จะเป็นรถถังหลักที่จะช่วยยูเครนเปลี่ยนรูปโฉมของสงครามกับรัสเซียได้ ดังนั้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 รัฐบาลยูเครนได้ร้องขอให้ชาติพันธมิตรได้ให้การสนับสนุนด้วยการส่งมอบรถถังหลักแบบต่าง ๆ ที่ผลิตในประเทศตะวันตก ซึ่ง โปแลนด์ ฟินแลนด์ และประเทศอื่น ๆ ต่างประกาศความตั้งใจที่จะสนับสนุนรถถังหลักแบบ Leopard 2 จากคลังสำรองของประเทศเหล่านั้นในเบื้องต้นประมาณ 100 คันให้กับยูเครน อย่างไรก็ตาม เมื่อเยอรมนีส่งออกรถถังไปยังประเทศเหล่านี้ เยอรมนีได้กำหนดให้การส่งออกซ้ำต้องมีเงื่อนไขได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเยอรมนีก่อน จึงเกิดเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อรัฐบาลเยอรมนีพยายามบ่ายเบี่ยงการอนุญาตดังกล่าว อีกทั้งยังเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาให้คำมั่นในการจัดหารถถัง M1 Abrams ก่อนที่จะส่งรถถังหลักแบบ Leopard 2 ที่ผลิตในเยอรมนีไปยังยูเครน

หลังจากที่ประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ ตัดสินใจส่งมอบรถถังหลักแบบ M1 Abrams ให้กับยูเครน เนื่องจากเยอรมนียืนกรานที่จะดำเนินการร่วมกับพันธมิตร NATO ซึ่งการตัดสินใจส่งมอบรถถังหลักแบบ M1 Abrams ให้กับยูเครนของประธานาธิบดี Biden ก่อนหน้านี้เคยถูกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ คัดค้านมาแล้ว ปัจจุบัน ยูเครนได้รับมอบรถถังหลักแบบ Leopard 2 รุ่นต่าง ๆ จากชาติพันธมิตร NATO อาทิ เยอรมนี โปแลนด์ นอร์เวย์ แคนาดา สเปน โปรตุเกส กรีซ สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ รวมแล้วกว่า 200 คัน ซึ่งจาการสู้รบที่ผ่านมา Oryx เว็บไซต์ข่าวด้านความมั่นคงของเนเธอร์แลนด์ระบุว่า จากการยืนยันด้วยภาพ รถถังหลักแบบ Leopard 2 ของยูเครนถูกกองกำลังรัสเซียทำลายไปแล้วกว่า 40 คัน เป็น Leopard 2 รุ่น 2A4 จำนวน 21 คัน, 2A6 จำนวน 13 คัน และ Strv 122 จำนวน 7 คัน (Leopard 2 รุ่น 2A5 ของสวีเดน) หรือราว 20% จากที่มีอยู่ และอีกหลายคันทั้งที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์และเศษซากจากการทำลายโดยกองกำลังรัสเซีย ถูกยึดและส่งไปยังสหพันธรัฐรัสเซีย

รถถังหลักแบบ Leopard 2 ทั้งที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์และเศษซากจากการทำลายถูกนำไปตั้งแสดงในอนุสรณ์สถาน Patriot Park และ Leopard 2 ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์คันหนึ่งได้ถูกส่งไปยังโรงงาน UVZ (UralVagonZavod : โรงงานผลิตยานยนต์แห่งเทือกเขาอูรัล) ในเมือง Nizhny Tagil ซึ่งเป็นโรงงานที่มีหน่วยงานวิจัย พัฒนา และผลิตอุปกรณ์ทางการทหาร รวมถึงรถถังหลักและรถบรรทุกรถถังบนรางรถไฟ เพื่อทำการถอดชิ้นส่วนเพื่อทำการศึกษาวิจัยต่อไป นอกจากนั้นแล้ว โรงงาน UVZ เป็นโรงงานรถยนต์ รถบรรทุก เพื่อการเกษตร ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องมือ และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยการผลิตรถถังหลักแบบ T-90 คิดเป็น 18-20% ของการผลิตทั้งหมดของบริษัท 

ในปี 2008 โรงงาน UVZ ผลิตรถถังประมาณ 175 คัน รวมถึง T-90A 62 คันสำหรับกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย และ T-90S 60 คันสำหรับกองทัพบกอินเดีย ซึ่งถือเป็นระดับการผลิตรถถังสูงสุดของโรงงาน UVZ และในรัสเซียโดยรวม ตามรายงานของ Moscow Defense Brief ระบุว่า ในปี 2008 จำนวนรถถังที่บริษัทผลิตได้มากกว่าจำนวนรถถังหลักที่ผลิตโดยประเทศอื่น ๆ ทั่วทั้งโลกรวมกัน และตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 โรงงาน UVZ ได้ถูกโอนไปอยู่ภายใต้ Rostec ซึ่งเป็นวิสาหกิจที่มีลักษณะเป็นบริษัท Holding ของรัฐบาลรัสเซียตามคำสั่งของประธานาธิบดี ในปี 2020 บริษัทรายได้มากถึง 28 พันล้านรูเบิล ในปี 2022 โรงงาน UVZ ถูกกำหนดให้อยู่ภายใต้มาตรการการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ชาติพันธมิตร และสหภาพยุโรป อันเป็นผลมาจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

รถถังหลักแบบ Leopard 2 ที่มีใช้ในประเทศใกล้บ้านเราได้แก่ สิงคโปร์ (247 คัน) และอินโดนีเซีย (113 คัน) นอกจากรถถังหลักแบบ Leopard 2 แล้ว อาวุธยุทโธปกรณ์ของยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร NATO ทั้งรถถังหลัก (รวมทั้งรถถังหลักแบบ M 1 Abrams ของสหรัฐฯ) รถหุ้มเกราะ นานาชนิด ถูกกองทัพรัสเซียทำลายและยึดเอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยรูปแบบของการรบในสงครามครั้งนี้เปลี่ยนโฉมไปมาก เมื่อทั้งสองฝ่ายนำโดรนโจมตี (Attack/Killer drone) เข้ามาปฏิบัติการ ดังนั้นนอกจากจาก เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง ทุ่นระเบิดดักรถถัง และปืนใหญ่รถถังด้วยกันเองแล้ว กำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากของทั้งสองฝ่ายได้ถูกทำลายโดยโดรนโจมตี ดังนั้นสงครามต่อไปในอนาคตโดรนจะมีบทบาทที่สำคัญในการรบทั้ง การลาดระเวน ตรวจการณ์ ชี้เป้า และโจมตี ฯลฯ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top