Sunday, 11 May 2025
JustinTrudeau

ทรัมป์แนะทรูโด จบปัญหากำแพงภาษี ด้วยการรวมชาติเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ

(3 ธ.ค. 67) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ได้เดินทางไปยังมาร์อาลาโก้ สถานที่ตากอากาศของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐฟลอริด้า โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเพื่อหารือเป็นการส่วนตัว

การเยือนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาขู่ว่าแคนาดาอาจจะโดนกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% เมื่อกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว เพื่อบีบบังคับให้เร่งจัดการกับปัญหายาเสพติดและผู้อพยพที่เข้ามาในสหรัฐ โดยเรื่องนี้ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าสงครามการค้าในภูมิภาคอาจจะเกิดขึ้น นายกทรูโดจึงรีบรุดหารือเป็นการส่วนตัวกับทรัมป์

ในระหว่างการหารือมื้อค่ำของสองผู้นำ นายกแคนาดาได้รับปากว่าจะแก้ปัญเรื่องภาษีศุลกากรแต่ก็อาจมีข้อจำกัดบางประการในประเด็นที่รัฐบาลท้องถิ่นในบางแคว้นของแคนาดาที่มีอาณาเขตติดกับพรมแดนสหรัฐฯ สามารถกำหนดอัตราภาษีศุลกากรได้ด้วยตนเอง 

ทรูโดกล่าวกับทรัมป์ว่า เขาไม่สามารถเรียกเก็บภาษีนำเข้าได้เพราะจะทำลายเศรษฐกิจของแคนาดาอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งเป็นสิทธิ์ของรัฐบาลแคว้นท้องถิ่น ซึ่งทรัมป์ตอบเชิงติดตลกว่า 

"ถ้าแคนาดาไม่สามารถจัดการปัญหาภาษีศุลกากรได้ ประเทศคุณก็คงไม่สามารถเลี่ยงกำแพงภาษีสหรัฐได้ เว้นเสียแต่บางแคว้นของแคนาดาจะเข้าร่วมเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ" อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐรายงานผลการหารือในมื้อค่ำเป็นเวลา 3 ชั่วโมงของสองผู้นำเป็นไปอย่างราบรื่น

ทรัมป์ได้ทีชวนแคนาดาร่วมเป็นรัฐที่ 51 หลังทรูโดลาออกจากนายกฯ

(7 ม.ค. 68) ไม่นานหลังจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความคิดเห็นว่า แคนาดาควรเข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศลาออกจากตำแหน่ง

ทรูโดได้ประกาศลาออกในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม โดยอ้างถึง "การต่อสู้" ภายในพรรคลิเบอรัลของเขา แต่จะยังคงดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีไปจนกว่าจะมีการเลือกผู้นำพรรคคนใหม่ ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ในช่วงเลือกตั้งทั่วไปที่มีกำหนดจัดขึ้นปลายเดือนตุลาคม

"ผู้คนจำนวนมากในแคนาดาต้องการให้ประเทศของพวกเขากลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ" ทรัมป์โพสต์ผ่านโซเชียลแพลตฟอร์มของตัวเองในช่วงบ่ายวันจันทร์ "สหรัฐฯ อาจไม่สามารถทนกับการขาดดุลการค้าขนาดใหญ่และการอุดหนุนที่จำเป็นเพื่อให้แคนาดายังคงอยู่ได้อีกต่อไป และจัสติน ทรูโดก็รู้เรื่องนี้ดี"

"หากแคนาดารวมเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ จะไม่มีการเก็บภาษี แคนาดาจะจ่ายภาษีที่ต่ำลง และจะได้รับการปกป้องเต็มรูปแบบจากภัยคุกคามของกองเรือรัสเซียและจีนที่คอยคุกคามพวกเขา" ทรัมป์กล่าว "เมื่อรวมกันแล้วมันจะกลายเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่"

การลาออกของทรูโดเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันภายในพรรค ซึ่งส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นผลมาจากการคุกคามของทรัมป์ที่จะเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก โดยทรัมป์ได้กล่าวหาว่าผู้อพยพ, อาชญากร และพวกค้ายาได้ลักลอบเข้ามาในอเมริกา ขณะเดียวกันก็มีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ผ่านการละเมิดสนธิสัญญาการค้าเสรี

นอกจากนี้ มาตรการเก็บภาษีของทรัมป์ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ คริสเตียน ฟรีแลนด์ รองนายกรัฐมนตรีแคนาดาลาออก และส่งผลให้เกิดความตึงเครียดในพรรคลิเบอรัลมากขึ้น

ผู้นำแคนาดาได้พยายามหารือเรื่องนี้กับทรัมป์โดยตรง ถึงขั้นเดินทางไปพบทรัมป์ที่มาร์อาลาโกในช่วงต้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้กล่าวติดตลกว่า ทรูโดควรจะเป็น "ผู้การรัฐ" และว่าแคนาดาควรเข้าร่วมเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ

ทรัมป์ยังได้พูดถึงความเป็นไปได้ที่แคนาดาอาจถูกแบ่งเป็นสองรัฐ โดยรัฐหนึ่งจะเป็นรัฐเสรีนิยมและอีกรัฐจะเป็นรัฐอนุรักษนิยม นอกจากนี้ เขายังเคยพูดถึงการซื้อเกาะกรีนแลนด์ที่อยู่ในอาร์กติก ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กและตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งแคนาดา

ถึงแม้ว่าผู้บริหารของออตตาวาจะปฏิเสธข้อเสนอในการรวมชาติตามที่ทรัมป์พูดถึง แต่เควิน โอเลียรี นักลงทุนและดาราดังของแคนาดา ได้กล่าวว่า ราวครึ่งหนึ่งของชาวแคนาดาให้การสนับสนุนแนวคิดนี้

โพสต์ล่าสุดของทรัมป์เกี่ยวกับแคนาดามีขึ้นไม่นานก่อนที่สภาคองเกรสจะรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 โดยยืนยันว่าเขาจะสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top