Saturday, 7 June 2025
GISTDA

กฟผ. ผนึกกำลัง GISTDA เสริมศักยภาพนวัตกรรม-AI ใช้ข้อมูลสร้างความมั่นคงระบบพลังงานและไฟฟ้าไทย

เมื่อวันที่ (11 ต.ค. 67) ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาสร้างนวัตกรรมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในภารกิจของ กฟผ. รวมถึงความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวิชาการ การใช้นวัตกรรม และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระหว่างสองหน่วยงาน ณ กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า GISTDA เป็นหน่วยงานที่พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ โดยหนึ่งในภารกิจเป็นการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม Thailand Earth Observation Satellite 2 หรือ THEOS-2 และข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมอื่น ๆ ทั้งทางด้านการเกษตร ภัยพิบัติ จุดความร้อน (Hot Spot) ข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา และอุทกศาสตร์จากสถานีเรดาร์ชายฝั่งและดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา สำหรับจัดทำฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการส่งเสริมนวัตกรรมที่จะช่วยสนับสนุนภารกิจของ กฟผ. ในทุกด้าน เพื่อให้ กฟผ. มีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ พร้อมสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับงานด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศอีกด้วย

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวเพิ่มเติมว่า GISTDA เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพในด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ โดยข้อมูลจากดาวเทียม และข้อมูลภูมิสารสนเทศ ประกอบกับความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของ กฟผ. ได้เป็นอย่างดี เช่น 

การประเมินการประมาณการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ทั้งประเทศได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ ยังใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบการบุกรุกในเขตแนวสายส่งไฟฟ้า และพื้นที่ของ กฟผ. รวมถึงการประเมินศักยภาพพลังงานประเภทต่าง ๆ และการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพผลงาน รวมถึงเปิดโอกาสให้เกิดการพัฒนาศักยภาพบุคลากร กฟผ. อีกด้วย

กระทรวง อว. แท็กทีม GISTDA ลงนามสหรัฐ ร่วมมือ 'Artemis Accords' กรุยทางนักวิจัยไทย สู่อวกาศระดับโลก

(16 ธ.ค. 67) นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ GISTDA ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านอวกาศ โดยมีนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนจากฝั่งสหรัฐอเมริกา และ NASA เข้าร่วมในการร่วมลงนามครั้งนี้ ณ โรงแรมอนันตรา กรุงเทพฯ 

นางสาวศุภมาส กล่าวว่า การเข้าร่วม Artemis Accords นับเป็นก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมอวกาศไทยให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนโครงการสำรวจและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในอวกาศอย่างยั่งยืน สร้างโอกาสการเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีระดับสูงจากชาติสมาชิกอื่นๆ ตลอดจนสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ นักวิชาการ และนักวิจัยไทยให้ได้เติบโตในเทคโนโลยีอวกาศในอนาคต

“การลงนามในข้อตกลง Artemis Accords ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการก้าวสู่เวทีอวกาศระดับโลก ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีอวกาศของประเทศ และสร้างโอกาสให้กับนักวิจัย นักศึกษา และผู้ประกอบการไทยในการเรียนรู้และพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมเสริมศักยภาพในการแข่งขันบนเวทีโลกอย่างยั่งยืน”

สำหรับข้อตกลงอาร์เทมิส (Artemis Accords) เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสำรวจอวกาศ โดยเน้นภารกิจสำรวจดวงจันทร์และดาวอังคารเป็นหลัก ซึ่งริเริ่มโดยสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2020 ปัจจุบันมีประเทศเข้าร่วมแล้ว 47 ประเทศ ภายใต้โครงการอาร์เทมิส ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งมนุษย์กลับไปยังดวงจันทร์ และปูทางสำหรับภารกิจสำรวจดาวอังคารในอนาคต

หลักการสำคัญของข้อตกลงอาร์เทมิส ตั้งอยู่บนหลักการสำคัญ 10 ข้อ เพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลการสำรวจอวกาศ คือ วัตถุประสงค์เชิงสันติ การสำรวจอวกาศต้องดำเนินการอย่างสันติและสอดคล้องกับสนธิสัญญาอวกาศ The Outer Space Treaty ที่ลงนามเมื่อปี 1967

ส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิด การแบ่งปันข้อมูลระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์, มาตรฐานและขั้นตอนร่วมกัน การกำหนดขั้นตอนที่ชัดเจนเพื่อประกันความปลอดภัยระหว่างภารกิจ, ช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน วางแผนช่วยเหลือภารกิจอวกาศเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน, การลงทะเบียนวัตถุอวกาศ กำหนดให้ลงทะเบียนวัตถุอวกาศทั้งหมดเพื่อความรับผิดชอบที่ชัดเจน, การเผยแพร่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลเพื่อการพัฒนาร่วมกัน, การปกป้องสถานที่สำคัญในอวกาศ อนุรักษ์สถานที่ประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุอวกาศ, การใช้ทรัพยากรอวกาศอย่างรับผิดชอบ สกัดทรัพยากรเพื่อประโยชน์ส่วนรวม, การยุติความขัดแย้ง ลดความขัดแย้งระหว่างภารกิจจากประเทศต่าง ๆ และสุดท้ายในด้านลดขยะอวกาศ ควบคุมการสร้างขยะอวกาศและลดผลกระทบจากเศษวัตถุที่ลอยอยู่ในอวกาศ

ข้อตกลงอาร์เทมิสมุ่งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการสำรวจอวกาศ เปลี่ยนจากการแข่งขันเป็นความร่วมมือ เพื่อลดความขัดแย้งด้านดินแดนและทรัพยากรในอวกาศ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้ เพื่อเพิ่มนวัตกรรมและประสิทธิภาพทางเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่าข้อตกลงนี้อาจเอื้อประโยชน์ต่อสหรัฐอเมริกาเป็นพิเศษ และยังขาดกลไกที่แข็งแกร่งในการแก้ไขข้อขัดแย้ง หรือรับรองการกระจายทรัพยากรอย่างเท่าเทียมกันระหว่างประเทศสมาชิก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top