Tuesday, 22 April 2025
California

‘สหรัฐอเมริกา’ ประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก  เผชิญสงครามความยากจน หลังคนไร้บ้านพุ่งสูงเข้าขั้นวิกฤต



ภาพอันน่าตกใจที่แสดงให้เห็นแถวรถยนต์ชนิดต่างๆ ที่จอดเรียงรายต่อกันยาวกว่าสองไมล์ (ราวสามกิโลเมตร) ซึ่งประกอบด้วยผู้คนที่อาศัยอยู่ในรถบ้าน (รถ RV) รถบรรทุก และรถพ่วง บนถนนทางหลวงหมายเลข 101 ในเขตเทศมณฑลมาริน (Marin) ทางตอนเหนือของนครซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยถูกขับไล่ออกจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เคยเป็นของพวกเขา ด้วยรายได้เฉลี่ยของครัวเรือนในเขตเทศมณฑลมาริน อยู่ที่ปีละ 131,000 ดอลลาร์ โดย 78% ของคนไร้บ้านเคยมีบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ ก่อนที่จะถูกบังคับให้ย้ายออกจากถิ่นที่อยู่ อันเนื่องมาจากถูกยึดทรัพย์จนต้องไปตั้งแคมป์ ดังที่เห็นตามภาพ


ภาพเหล่านี้ ถ่ายโดย DailyMail.com แสดงให้เห็นครอบครัวหลายครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเต็นท์ และนำแผงพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เป็นกระแสไฟฟ้า ขณะที่ข้าวของของพวกเขาล้นทะลักออกมาจากยานพาหนะ ในขณะเดียวกัน มลรัฐแคลิฟอร์เนียต้องใช้เงินมากกว่า 3 ล้านดอลลาร์ เพื่อพยายามช่วยผู้ที่อาศัยอยู่ในยานพาหนะ และเพื่อใช้ในการหาบ้านพักอาศัย ชาวบ้านหลายร้อยคนในเทศมณฑลที่มั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งของนครซานฟรานซิสโก ถูกบีบให้ต้องใช้ชีวิตของพวกเขาในรถบ้าน และรถพ่วงบ้าน หลังจากถูกขับออกจากบ้านพักที่ตนอาศัยอยู่


ภาพถ่ายที่น่าตกใจแสดงให้เห็นแถวของรถบ้าน รถพ่วงบ้าน รถบรรทุก และยานพาหนะอื่นๆ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามทางหลวงหมายเลข 101 ซึ่งตอนนี้ทอดยาวไปกว่าสองไมล์แล้ว จนกลายเป็นค่ายพักผู้ไร้บ้านใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เมืองต่างๆ ในเทศมณฑลมาริน ซึ่งบ้านโดยเฉลี่ยราคา 1.4 ล้านดอลลาร์ กำลังผลักดันให้เส้นทางเลียบทางหลวงยุติลง หลังจากจำนวนผู้อาศัยในรถยนต์เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการระบาดใหญ่


บางครอบครัวก็ใช้ธงเพื่อทำเครื่องหมายพื้นที่ถนนที่พวกเขาใช้เป็นบ้าน โดยมีหลายคนดึงผ้าใบมาคลุมรถเพื่อปกป้องทรัพย์สินของพวกเขา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มียานพาหนะอย่างน้อย 135 คัน บนถนนบินฟอร์ด (Binford) ชานเมืองโนวาโต เนื่องจากจำนวนยานพาหนะชนิดต่างๆ ที่ถูกใช้เป็นบ้านได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ


รายได้เฉลี่ยของครัวเรือนในเทศมณฑลมาริน อยู่ที่ 131,000 ดอลลาร์ ซึ่งทำให้ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า ไม่สามารถหันไปทางไหนได้ จนผู้อยู่อาศัยในบริเวณโดยรอบต้องรวมตัวกันเพื่อพยายามช่วยให้ยุติการตั้งชุมชนผู้ไร้บ้านด้วยการยื่นมือเข้าไปช่วยผู้คนในการค้นหาบริการต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องการ ทุกเดือนพวกเขาจะได้รับของอุปโภคบริโภคฟรี ความช่วยเหลือในการจัดการกรณีที่อยู่อาศัย ความช่วยเหลือทางสังคม การแพทย์ และอื่นๆ โดยชุมชนคนไร้บ้านยังต้องดิ้นรนกับปัญหาสุขภาพ อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และสุขภาพจิต และซึ่งจะมีการผลักดันให้มีการขยายบริการหลังจากที่รัฐมอบเงินทุนให้แก่ เทศมณฑลโนวาโต (Novato), ซอซาลิโต (Sausalito) และ ซาน ราฟาเอล (San Rafael) และให้แก่ เทศมณฑลมาริน สำหรับพื้นที่ที่คนไร้บ้านอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ ถนนบินฟอร์ด


แต่ละเมืองและเทศมณฑลได้รับเงิน 500,000 ดอลลาร์ เพื่อแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน โดยมลรัฐจะมอบทรัพยากรมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือแต่ละพื้นที่ ผู้อยู่อาศัยที่มีรายได้น้อยในเขตเทศมณฑลมาริน บอกว่า “พวกเขาไม่มีที่ไป” เนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพที่เกาะกุมพื้นที่นี้มาเป็นเวลานานแล้ว ‘Gary Naja-Riese’ ผู้อำนวยการสำนักงานดูแลคนไร้บ้านของเทศมณฑลมาริน กล่าวว่า “สิ่งสำคัญอันดับแรกและเร่งด่วนของพวกเขาคือ การจัดการกับผู้คนที่อาศัยอยู่บนถนนบินฟอร์ด”


จำนวนยานพาหนะยาวเกินสองไมล์และเกิดปัญหาสุขอนามัย และการแพร่ระบาดของโรค และชุมชนคนไร้บ้านดังกล่าวยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลายคนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไว้บนรถเพื่อให้สามารถจ่ายไฟฟ้าและปรุงอาหารในรถ RV ได้ เจ้าหน้าที่บางคนได้ผลักดันให้มีการห้ามจอดรถข้ามคืน ซึ่งไม่ได้ถูกนำมาใช้ เทศมณฑลมาริน กำลังวางแผนที่จะจ้างนักสังคมสงเคราะห์เต็มเวลาเพื่อดูแลคนไร้บ้านที่อยู่อาศัยในชุมชนดังกล่าว เพื่อแก้ปัญหาของพวกเขาโดยตรง เทศมณฑลมาริน ประเมินว่า มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 80 ครอบครัวอาศัยอยู่บนถนนบินฟอร์ดอย่างถาวร แต่ก็มีบางส่วนที่ทิ้งรถไว้ริมถนน และบางคนก็มีสุขภาพที่ดีพอที่จะทำงานเต็มเวลาได้ แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถซื้อที่อยู่อาศัยในเทศมณฑลมาริน ด้วยค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้น


เมืองอื่นๆ ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ออกกฎหมายบังคับใช้ห้ามรถบ้าน (รถ RV) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 แล้ว เนื่องจากมีผู้คนมากมายที่ได้รับผลกระทบเมื่อผู้อยู่อาศัยในรถบ้าน (รถ RV) ปฏิเสธที่จะย้าย เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เนื่องจากชุมชนคนไร้บ้านที่ถนนบินฟอร์ดได้รับความช่วยเหลือหลายทาง จึงมีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในพื้นที่สุดท้ายที่เหลือของคนไร้บ้านที่อาศัยอยู่ในรถบ้าน ซึ่งจะไม่ถูกรบกวนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเช่นพื้นที่อื่น ๆ ‘Zoe Neil’ ผู้อำนวยการสำนักงานถนนในเขตเมืองของเทศมณฑล Marin กล่าวว่า “ในอดีตการนอนหลับอย่างปลอดภัยในยานพาหนะหรือจุดตั้งแคมป์นอกบ้านของเทศมณฑลมารินเป็นเรื่องยาก บินฟอร์ดเป็นหนึ่งในสถานที่เดียวที่คนไร้บ้านสามารถนำรถไปจอดอยู่ได้ แม้ว่า ถนนสายดังกล่าวจะไม่ใช่ที่หลบภัยก็ตาม”


เทศมณฑลมาริน กำลังหาเงินทุนเพิ่มเติมอีก 1.5 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลมลรัฐ ซึ่งจะช่วยให้สามารถจ้างเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่เพิ่มได้อีก 2 คนที่จะทำงานเต็มเวลาแก้ปัญหาชุมชนคนไร้บ้านที่ถนนบินฟอร์ด โดยเฉลี่ยแล้วเทศมณฑลมาริน จะหาบ้านพักให้คนไร้บ้านซึ่งมีอยู่ทั่วเทศมณฑลมาริน ได้เฉลี่ยเดือนละสิบครอบครัว โดยส่วนใหญ่ผ่านโครงการหุ้นส่วนเจ้าของบ้านของสำนักงานการเคหะของเทศมณฑลมาริน โดยประมาณ 78% ของคนไร้บ้านในพื้นที่เคยมีที่พักอาศัยในเทศมณฑลมาริน ก่อนที่จะถูกไล่ออกจากที่อยู่อาศัยเดิม


สหรัฐอเมริกาเริ่มทำสงครามต่อสู้กับความยากจน (War against poverty) ในปี ค.ศ. 1964 และต้องยอมรับต่อความพ่ายแพ้ในการทำสงครามดังกล่าว เมื่อปี ค.ศ. 2014 หรือ 50 ปีต่อมา แม้ว่ารัฐบาลกลางจะมีเงินงบประมาณเพื่อแก้ไขได้ แต่กลับไม่ทำ และเอาเงินงบประมาณไปทุ่มกับงบกลาโหม และงานต่างประเทศจนหมด หากสหรัฐอเมริกาเลิกทำตัวเป็นตำรวจโลก ลดงบประมาณด้านการทหาร ย่อส่วนโครงการอวกาศลง สหรัฐฯ จะสามารถผันเอาเงินงบประมาณจำนวนมาก มาแก้ปัญหาความยากจนในประเทศ (Domestic poverty) ได้อย่างสบายๆ

แผ่นดินไหว 7.0 ใกล้แคลิฟอร์เนีย ไร้เตือนสึนามิ แต่ยังประเมินความเสียหายไม่ได้

เมื่อเวลา 10.44 น.ของวันที่ (5 ธ.ค. 67) ตามเวลาท้องถิ่นของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตรงกับเวลา 01.44 น ของวันที่ 6 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นในไทย เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.0 นอกชายฝั่งตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ส่งผลให้มีการประกาศเตือนภัยสึนามิชั่วคราว ก่อนจะยกเลิกในเวลาต่อมา  

รายงานจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเวลา 10.44 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ หรือ 01.44 น. ตามเวลาในไทย จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองเฟิร์นเดลไปทางตะวันตกราว 63 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้พื้นดินประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ประชากรเบาบาง  

ศูนย์เตือนภัยสึนามิแห่งชาติออกคำเตือนครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ตั้งแต่เมืองดูนส์ ซิตี รัฐออริกอน ไปจนถึงนครซานฟรานซิสโกและซานโฮเซ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ระยะทางรวมกว่า 643 กิโลเมตร คำเตือนดังกล่าวถูกยกเลิกหลังผ่านไป 90 นาที  

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ประชาชนราว 19,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้ชั่วคราว แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม แรงสั่นสะเทือนส่งผลกระทบต่ออาคารหลายแห่ง รวมถึงห้องปลูกกัญชาที่ได้รับอนุญาตของบริษัท Humboldt Flower Company ซึ่งมีภาพความเสียหายปรากฏตามรายงานข่าว  

ในเขตซาคราเมนโต มีคลิปวิดีโอจากโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นสระว่ายน้ำในบ้านหลังหนึ่งที่น้ำกระเพื่อมอย่างรุนแรงจนกระเซ็นออกมานอกสระ เบื้องต้นหน่วยงานรัฐบาลในท้องถิ่นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

แม้จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังคงตอกย้ำความเสี่ยงของภัยธรรมชาติในพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ

ไฟป่าแอลเอโหมหนัก!! เผาวอดย่านฮอลลีวูดฮิลส์-ร้านอาหารไทยชื่อดัง คร่าชีวิตแล้ว 5 อเมริกันนับแสนรายอพยพ

ตามรายงานจากเว็บไซต์ USA Today และ CNN (9 ม.ค.68) สถานการณ์ไฟป่าในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ยังคงทวีความรุนแรง เนื่องจากลมแรงทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 5 คน และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันหลายร้อยหลังคาเรือนถูกไฟเผาทำลาย และมีประชาชนกว่า 100,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่

กรมดับเพลิงแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า ไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของลอสแอนเจลิส โดยไฟป่าพาลิเซดส์ (Palisades Fire) ได้ทำลายพื้นที่กว่า 15,800 เอเคอร์ (ประมาณ 39,974 ไร่) และยังไม่สามารถควบคุมได้ โดยได้เผาบ้านเรือนมากกว่า 1,000 หลัง

ร้านอาหารไทยชื่อดัง 'ชลดาไทยลองบีช' (Cholada Thai Cuisine Long Beach) ซึ่งมีสาขาหลักในเมืองมาลิบู ก็ถูกไฟป่าเผาทำลายจนไม่เหลือซาก นับเป็นการสิ้นสุดตำนานของร้านอาหารที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 25 ปีตั้งแต่ปี 1999 เจ้าของร้านโพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมข้อความว่า "เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องประกาศว่า ร้านอาหารของเราถูกไฟป่าพาลิเซดส์เผาทำลาย ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก"

ขณะที่นครลอสแองเจลิสกำลังเผชิญกับไฟป่าหลายจุด โดยไฟได้ลุกลามไปยังฮอลลีวูดฮิลส์ (Hollywood Hills) เมื่อวันที่ 8 มกราคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และบ้านเรือนอีกหลายร้อยหลังถูกเผาผลาญ เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังในการดับไฟและใช้น้ำอย่างเต็มที่

ประชาชนกว่า 100,000 คนได้รับคำสั่งให้อพยพ หลังจากที่สภาพอากาศแห้งแล้งและลมแรงทำให้การควบคุมไฟทำได้ยาก ไฟยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นในวันที่ 7 มกราคม

คริสติน ครอว์ลีย์ หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงท้องถิ่นระบุว่า มีไฟป่าเพิ่มขึ้นอีกจุดในฮอลลีวูดฮิลส์ในช่วงค่ำวันที่ 8 มกราคม ทำให้ต้องอพยพประชาชนเพิ่ม และขณะนี้มีไฟป่าเกิดขึ้นพร้อมกันถึง 6 จุดในเทศมณฑลลอสแองเจลิส

ไฟป่า 5 จุดยังคงอยู่ในภาวะควบคุมไม่ได้ รวมถึงไฟป่าขนาดใหญ่ในฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเมืองที่ยังคงลุกลามต่อไป

ไฟป่าที่ฮอลลีวูดฮิลส์ซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่า Sunset Fire ได้ลุกลามเป็น 2 เท่าภายในไม่กี่นาที ขยายพื้นที่เป็น 20 เอเคอร์ ข้อมูลจาก Cal Fire ระบุ

สำนักงานดับเพลิงลอสแองเจลิสได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ Hollywood Boulevard, Mulholland Drive, Freeway 101, และ Laurel Canyon Boulevard ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในวงการบันเทิง

ผลกระทบจากไฟป่าทำให้การประกาศผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถูกเลื่อนออกไป 2 วัน เนื่องจากการประสบปัญหาจากเหตุการณ์ไฟป่า

ไฟป่าในย่าน Pacific Palisades ได้เผาพื้นที่กว่า 15,832 เอเคอร์ รวมถึงบ้านเรือนหลายร้อยหลัง ในขณะที่ไฟป่า Eaton ที่บริเวณเชิงเขาซานเกเบรียล ได้ทำลายพื้นที่ไปแล้ว 10,600 เอเคอร์ และมีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 5 คน

คาดว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากไฟป่านี้อาจสูงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เกือบ 1 ล้านหลังคาเรือนในลอสแองเจลิสประสบปัญหาขัดข้องไฟฟ้าจากเหตุการณ์นี้ และทางการสั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่จนถึงวันที่ 9 มกราคม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top