Monday, 20 May 2024
3นิ้ว

‘4 แกนนำสามนิ้ว’ ลั่นไม่ขอยื่นประกันตัวอีก ชี้! มติศาลไม่ให้ประกันตัว=ปิดโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์!

(28 ธ.ค. 64) นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการคุมขังผู้ต้องขังทางการเมือง โดยระบุว่า...

ผมในฐานะทนายความของผู้ต้องขังทางการเมือง 4 คน อันประกอบด้วย ทนายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ได้เข้าเยี่ยมพวกเขาทั้งสี่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และได้รับการร้องขอจากพวกเขาทั้งสี่ ให้แจ้งข้อความดังต่อไปนี้ให้แก่พ่อแม่ญาติพี่น้อง และบรรดามิตรสหายเพื่อนฝูงรวมทั้งสื่อมวลชนให้ทราบว่า

1.) ภายหลังจากที่ผู้บริหารของศาลอาญาได้มีมติไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) พวกเขาในระหว่างการพิจารณาคดีตามคำร้องขอของทนายความเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 นั้น พวกเขาเห็นว่าเหตุผลของศาลอาญาไม่ชอบด้วยหลักกฎหมาย หลักยุติธรรม และไม่เป็นไปตามกติการะหว่างประเทศที่ไทยได้ให้สัตยาบันรับรองไว้ พวกเขาทั้งสี่เชื่อว่าการไม่อนุญาตให้เขาได้รับการประกันตัวไปสู้คดีอย่างเต็มที่นั้น เป็นการปิดโอกาสที่เขาจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาและเป็นการพิพากษาเสียล่วงหน้าแล้วว่าพวกเขาเป็นผู้กระทำความผิด

ด้วยเหตุผลข้างต้น พวกเขาทั้งสี่จึงขอประกาศว่า นับจากนี้พวกเขาจะไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) ในระหว่างพิจารณาคดีต่อศาลอาญาอีก และจะไม่อนุญาตให้ทนายความและบุคคลใดไปดำเนินการดังกล่าวทั้งสิ้น

อดไม่ได้!! เมื่อ 'เด็กสามนิ้ว' ต้องหมดอนาคตในคุกตาราง แล้วใครกันที่ควรร่วมรับผิดชอบชีวิตที่แหลกสลายนี้?

ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แม้จะเอือมระอากับพฤติกรรมของ 'เด็กสามนิ้ว' ที่ดาหน้ากันออกมาก่อกวนสังคม และจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงไม่หยุดหย่อน ราวกับว่าสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย เป็นสิ่งที่ต้องล้มล้างทำลายให้หายไป

แต่เมื่อเราเห็นเด็กหนุ่มเด็กสาวต้องโดนคดี 112 ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำ ต้องหมดอนาคตลงทันทีอย่างน่าเสียดาย บางอารมณ์ก็คงจะอดสงสารไม่ได้ และคงมีคำถามผุดขึ้นในใจมากมายว่าใครกันบ้างที่ใจอำมหิต มีส่วนทำให้ 'เด็กหนุ่มเด็กสาวสามนิ้ว' เหล่านี้ ต้องลงเอยที่คุกตาราง?

1.) พ่อ แม่ ที่ไม่เคยห้ามปรามลูก ไม่เคยสั่งสอนให้ลูกของตัวเองตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบสังคมที่ดีงาม หากพ่อแม่มีความละเอียดอ่อนในการดำเนินชีวิต คิดดี คิดเป็น ลูกของตัวเองจะไม่มีทางตกเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองที่นิยมการล้างสมองเด็ก ให้ออกหน้ามากระทำการอันชั่วร้ายแทน พ่อแม่ที่ดีจะสั่งสอนอบรมลูกไม่ให้จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันกษัตริย์ และไม่กระทำการใด ๆ ที่เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายทั้งปวง 

2.) พรรคการเมืองที่มีความคิดอยากล้มล้างสถาบัน พรรคการเมืองพรรคนี้ถนัดแต่ 'ซุกกระโปรงเด็ก' เลือกหลอกใช้เด็กที่มีความกล้า ปนความคิดที่อยากได้รับการยอมรับในแบบที่แตกต่างจากเด็กรุ่นเดียวกันมาเป็นเครื่องมือ เพื่อจะบรรลุเป้าหมายชั่ว ๆ ของตัวเอง แต่เมื่อถึงคราวที่เด็กถูกดำเนินคดี สังคมคนส่วนใหญ่ลุกฮือขึ้นมาปกป้องสถาบัน พรรคการเมืองพรรคนี้ก็ทอดทิ้งชีวิตของ 'เด็กสามนิ้ว' ให้ไปเผชิญชะตากรรมร้ายในคุกโดยลำพัง

3.) สื่อที่มีแนวคิดเป็นลบกับสถาบัน มีซุกซ่อนอยู่ในสังคมไทยยุคสมัยนี้ไม่น้อย ถือเป็น 'สื่ออีแอบ' ที่มักจะสนับสนุน 'เด็กสามนิ้ว' ให้ดูเป็นฮีโร่ของสังคม เชิดชูและยกย่องเวลาที่เด็กสามนิ้วแสดงความใจกล้าในทางที่ผิด แต่ในเวลาที่เด็กสามนิ้วต้องถูกดำเนินคดี ก็จะใช้วิธีเขียนข่าวว่าเด็กถูกกลั่นแกล้งจากมาตรา 112 ทั้ง ๆ ที่กฎหมายอยู่ของมันเฉย ๆ 

4.) ผู้คนในสังคมที่ไม่ลงลึกกับที่มาที่ไป มักนิยมสิ่งที่ถูกใจมากกว่าจะรักษาสิ่งที่ถูกต้อง โหมใช้สื่อโซเชียลในแต่ละวันของตัวเองสนับสนุนการกระทำของ 'เด็กสามนิ้ว' จนกลายเป็นเด็กที่มีตัวตน เป็น 'ไอดอลกลวง ๆ กาก ๆ' ของเด็กรุ่นใหม่ จนมีความกล้าออกมาทำสิ่งที่ท้าทายอำนาจรัฐ 

ถ้า 'เด็กสามนิ้ว' สักคนต้องจบชีวิตลงในคุก คนในข่าย 4 ข้อนี้แหละครับสมควรต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ความผิดของกฎหมายมาตราใดเลย

‘เอกชัย ศรีวิชัย’ โพสต์เดือด!! พร้อมอิโมจิรูปเท้า “หากลูกเขาตายใครรับผิดชอบ? มึงบอกให้ลูกมึงกินข้าว จบ”

ก่อนหน้านี้ นายเอกชัย ศรีวิชัย นักร้อง นักแสดง ผู้กำกับหนัง และผู้เคยแสดงจุดยืนเชียร์พรรคก้าวไกล ได้ออกมาเคลื่อนไหวกรณี ‘กลุ่มทะลุวัง’ บีบแตรและขับรถแซงขบวนเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในขณะที่ขบวนกำลังแล่นผ่านทางด่วน พร้อมระบุว่า เป็นการกระทำที่ทำร้ายความรู้สึกของคนไทย และทำลายศรัทธาที่เคยมีต่อกลุ่มการเมืองหนึ่งจนหมดสิ้น

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (27 ก.พ. 67) เอกชัย ศรีวิชัยก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘บุญรอบ ศรีวิชัย’ ระบุข้อความว่า “หากลูกเขาตายใครรับผิดชอบ? มึงบอกให้ลูกมึงกินข้าว จบ👣”

ภายหลังจากโพสต์ข้อความไปแล้ว แฟนคลับและผู้ติดตามต่างเข้ามาคอมเมนต์ตอบโต้มากมาย และแม้จะไม่ได้ระบุว่าเป็นเรื่องอะไร แต่คอมเมนต์ก็ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ถูก, จริง, ชอบกินตรีนทำยังไงล่ะครับ, จริงค่ะพี่เอกมึงต้องกินข้าวจะได้ไม่ตาย ฯลฯ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top