ถอดแบบความเสื่อม 3 นิ้ว ไทย-เมียนมา ถอดแบบม็อบจากไทย ตั้งใจทำให้เหมือน?
เวลาที่เอย่ามองไปที่ม็อบสามนิ้วที่ไทยทีไรจะมีเรื่องให้แปลกใจทุกครั้ง ตั้งแต่การเปิดตัวออกมาเดินขบวนอย่างกับเทศกาลคานิวาลในบราซิล จนมาถึงเรื่องคอสตูมบันลือโลก จนเอย่าเคยสงสัยว่านี่มันเอาคนกำกับม๊อบไทยมาทำม๊อบที่เมียนมา หรือว่าตั้งใจจะก๊อปร้อยให้เป็นแบบไทยกันแน่
ประมวลภาพประท้วงแฟนซีในเมียนมา
ประมวลภาพประท้วงแฟนซีในไทย
ประท้วงโดยชูข้อความหาคู่แบบเดียวกัน (ซ้าย) เมียนมา (ขวา) ไทย
ภาพการแต่งกายมาประท้วงอย่างล่อแหลม (ซ้าย) ไทย (ขวา) เมียนมา
ภาพคอสตูมว่าถูกทำร้าย (บน) ไทย (ล่าง) เมียนมา
และมีสิ่งหนึ่งที่ฝ่ายม็อบในเมียนมาก็มีแต่ระบาดในโซเชียลมีเดียในขณะนี้คือการมีเพจหรือเว็บไซต์ที่บอยคอตหรือแบนธุรกิจของกองทัพ อารมณ์มาแบบเดียวกันกับเพจ No Salim Shopping List ของฝั่งสามนิ้วไทย โดยบางเพจก็ยังแอคทีฟอยู่แต่บางเพจก็เงียบไม่มีการโพสต์อะไรใหม่ตั้งแต่เดือนเมษาเป็นต้นมา ส่วนเนื้อหาที่เข้าไปเช็คนั้นบางธุรกิจก็เป็นของทหารจริงแต่บางธุรกิจก็ไม่ใช่และสร้างความเสียหายให้แก่เจ้าของธุรกิจตัวจริงเป็นอันมาก
อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมามีข่าวการวางเพลิงบ่อยครั้งและภาพที่เห็นมาแล้วคือการวางเพลิงห้าง Ruby Mart และ Grandamar Wholesale ในย่างกุ้ง แม้จะมีข่าวว่าทั้งสองธุรกิจนั้นทำธุรกิจกับกองทัพ เพราะเช่าพื้นที่ของกองทัพในการทำห้างแต่ผู้ได้รับผลกระทบตัวจริงไม่น่าจะใช่กองทัพแต่เป็นผู้ประกอบการและผู้ลงทุนเสียมากกว่า
สภาพตึกไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของกองทัพเมียนมา (ซ้าย) ห้างรูบี้มาร์ท (ขวา) ห้างค้าส่งแกรนดามาร์
คนเมียนมาหลายคนบอกว่าการเผาห้างครั้งนี้เจ้าของห้างทั้งสองไม่ได้รับผลกระทบเพราะมีประกันอัคคีภัยอยู่แล้ว แต่ในกรณีนี้การเผาห้างแบบนี้ไม่ได้เข้าข่ายในการประกันอัคคีภัย แต่เป็นอัคคีภัยที่เกิดจากการก่อการร้าย ซึ่งไม่อยู่ในขอบข่ายของการประกันอัคคีภัยโดยทั่วไป เช่นเดียวกันกับตอนห้างเซ็นทรัลเวิลด์ในกรุงเทพโดนเผาเมื่อหลายปีก่อนนั้นแล
เอย่าได้ทราบมาพอสมควรว่าการที่กลุ่ม CRPH มีสมาชิกบางส่วนลดลงไม่ได้มาจากทหารแต่มาจากการแบนสินค้าหรือบริการที่โดนแอบอ้างว่าสนับสนุนหรือค้าขายกับกองทัพ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ค้าขายแค่กับกองทัพเท่านั้น หลายคนค้าขายทั้งกองทัพและรัฐบาลซูจีมาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์รัฐประหารเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อเกิดรัฐประหารขึ้นแม้คนกลุ่มนี้จะสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม CRPH แต่เมื่อโดนโจมตีจากคู่แข่งที่ใช้ฐานกำลังจากผู้สนับสนุน CRPH มาถล่มแบบไม่ยั้ง คนเหล่านี้ก็เลือกที่จะอยู่เฉยๆไม่เข้าข้างใครเลยดีกว่า เพราะสุดท้ายแม้เขาจะให้การสนับสนุนกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยแต่กลับถูกมองเป็นตัวร้ายอยู่ดี และคนเมียนมาก็พร้อมจะเชื่อโดยไม่ค้นหาเหตุผลอะไรก่อนเสียด้วย ผิดจากการทำธุรกิจของไทยที่เลือกจะไม่นำอุดมการณ์หรือความเห็นต่างทางการเมืองเข้ามาแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
แอดมินเพจชาเขียว อิโตเอ็น บอกนโยบายชัดเจนว่าไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง
เพราะธุรกิจเป็นเรื่องของปากท้องไม่ใช่เรื่องของประชาธิปไตย การทำลายธุรกิจคือการทำลายช่องทางทำมาหากินใน คนที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่มีเพียงแต่เจ้าของกิจการแต่รวมไปถึงพนักงานทุกคนที่อาจจะเป็นผู้ร่วมสนับสนุนอุดมการณ์ของพวกคุณก็เป็นได้
ขอบคุณภาพจาก
IRRAWADDEE NEWS
FRONTIER MYANMAR
MYANMAR NOW
THE SPECTRUM
สำนักข่าวไทย
Page No Salim Shopping List
โดย : AYA IRRAWADEE
