Wednesday, 9 April 2025
10000บาท

‘เศรษฐา’ ยัน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ไม่มีการกู้เงิน ขอเวลาไม่เกิน 1 เดือน เพื่อสรุปแหล่งที่มา

(14 ก.ย.66) ที่กระทรวงการคลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย และประชาชนกำลังเดือดร้อน ดังนั้น กระทรวงคลังก็มีหน้าที่ช่วยซัพพอร์ตในทุกๆ เรื่อง แต่ว่าเหนือสิ่งอื่นใดได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารกระทรวง 2 เรื่องคือ 1.การทำนโยบายต้องใช้งบประมาณเยอะ เพราะฉะนั้นเรื่องวินัยการเงินการคลังสำคัญ ต้องตอบสังคมได้ว่านำเงินไปใช้อะไรบ้าง และในระยะยาวจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) หนี้สาธารณะ ควรมีสัดส่วนอย่างไรที่เหมาะสม

นายเศรษฐากล่าวว่า 2 เรื่อง วิธีการทำงานและเรื่องความเป็นธรรม เป็นเรื่องที่สำคัญที่รัฐบาลนี้จะให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารจัดการระบบเส้นสาย ระบบการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม และระบบการปูนบำเหน็จ เป็นเรื่องที่เราเห็นใจข้าราชการ ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงการคลัง

“แต่ในวันนี้ผมมาพูดในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะกระทรวงนี้เป็นกระทรวงที่มีข้าราชการที่มีความสามารถเยอะ ทุ่มเทกายและใจตลอด หลายๆ คนก็ใฝ่ฝันตำแหน่งใหญ่ๆ ดังนั้น ใครที่มีผลงานที่ดีก็ควรจะได้รับการปูนบำเหน็จที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการกระทรวงที่สามารถออกไปภาคเอกชนที่ให้ผลตอบแทนสูงได้ แต่เลือกเสียสละเพื่อประเทศชาติ

“การที่ผู้มีอิทธิพลเข้ามามีเส้นสาย หรืออำนาจ ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็จะเป็นเกราะกำบังให้ ทำให้ข้าราชการทำงานได้อย่างสบาย” นายเศรษฐากล่าว

นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้หารือเรื่องเศรษฐกิจโดยทั่วไป และเรื่องนโยบายรัฐที่ออกมาแล้วต้องเจออุปสรรคบ้างก็จะหาทางแก้ไขและปรับวิธีการทำงานต่อไป

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตยืนยันว่าไม่มีการกู้เงิน ขณะเดียวกัน การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งจำเป็น ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ จีดีพีเพิ่ม สัดส่วนหนี้สาธารณะก็อาจจะไม่เพิ่มหรือคงที่ รัฐบาลนั้นมีความตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก็ต้องมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว

“ยืนยันว่า 10,000 บาท ทำได้แน่นอน มีแหล่งเงินแน่นอน แต่ในรายละเอียดขอเวลาพิจารณานิดนึง แล้วจะมาชี้แจงให้ทราบภายในไม่เกิน 1 เดือนนี้ โดยจะใช้ข้อมูลจากแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ เป็นดาต้าเบสในการเขียนบล็อกเชนแอปใหม่

“สำหรับมาตรการดิจิทัลวอลเล็ตตอนนี้ยังไม่อยากพูดไป เพราะเดี๋ยวไม่มีความชัดเจนแล้วหาว่าผมเป็นคนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ใจเย็นๆ นิดนึง ตอนนี้มีหลายออปชัน จึงจะไปดูให้ว่าออปชันไหนที่เหมาะสมสุดและมีผลกระทบในวงการน้อยที่สุด และยืนยันว่าไม่มีการกู้เงินแน่นอน” นายเศรษฐาระบุ

นายเศรษฐากล่าวว่า ส่วนนโยบายพักหนี้เกษตรกรที่ทำมา 13 ครั้งใน 9 ปีก็ยังต้องทำต่อไป รัฐบาลตระหนักดีว่าถ้าทำการพักหนี้ แต่ไม่ควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้ก็จะไม่เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวตามที่ควร ดังนั้น รัฐบาลจึงอยากเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร เพราะถือเป็นภาคส่วนที่ใหญ่มาก มาตรการนี้ถือเป็นมาตรการแรกที่ออกมาช่วยเกษตรกร ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังทั้ง 2 คน ก็พยายามช่วยดู และหวังว่าจะมีมาตรการใหม่ๆ ออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเรื่องหนี้ต่อไป

“ขณะที่ปัญหาภาคส่วนอื่นๆ นั้นเดี๋ยวจะมีการคุยกันต่อแน่นอน แต่ตอนนี้ถ้าทำอะไรได้ก็จะทำการก่อน ผมไม่อยากคอยให้เสร็จทุกภาคส่วนแล้วค่อยประกาศก่อน บางส่วนจะได้สบายใจ ส่วนนี้หนี้อื่นๆ เดี๋ยวจะไปดูและจะมานำเสนอต่อๆ ไป ผมตระหนักดีถึงปัญหาทุกภาคส่วน” นายเศรษฐาระบุ 

‘นายกฯ’ มั่นใจ!! ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ได้ใช้แน่ ส่วนโครงการดีเลย์เพราะต้องรับฟังทุกเสียง

(13 พ.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแจกเงิน 10,000 บาท ที่สังคมมีทั้งคนเห็นด้วย เห็นต่างและสนับสนุน ว่า ต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจน และไม่อยากให้สังคมไทย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายตรงข้าม หรือพวกเดียวกัน ไม่อยากให้มีธง อยากให้รับฟังความคิดเห็นว่าข้อดีข้อเสียคืออะไร แล้วหยิบยกมาพูดคุยกัน 

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุโครงการดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นจริง และอาจไม่ผ่านสภา ประชาชนจะไม่มีโอกาสได้รับเงินจริง นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมมั่นใจว่าเสียงของผม อย่างพรรคร่วมรัฐบาลมี 320 เสียง ผมว่าเสียงของผมมั่นคง และเราทำงานเป็นทีม เชื่อว่าผ่าน” 

เมื่อถามย้ำว่า คนไทยจะมีโอกาสได้ใช้เงิน 10,000 บาท หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่า มั่นใจ เป็นหน้าที่ผู้นำรัฐบาลต้องรับฟังเสียงประชาชน โครงการดีเลย์จากที่ประกาศไว้เพราะทีมงานของเราต้องรับฟังความเห็นทั้งหมด ทั้งเรื่องการออก พ.ร.บ. กำหนดเกณฑ์คนรวย การจำกัดรายได้ที่พูดคุยและถกเถียงกัน

เมื่อถามว่าโครงการนี้จะมีอุบัติเหตุที่จะทำให้สะดุดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจว่านโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดี เหมาะสม และไม่เกี่ยวกับเรื่องเทคนิคหรือกฎหมาย รัฐบาลยืนยันว่าทำถูกต้องทั้งหมด และทางคณะกรรมการกฤษฎีกาคงจะให้ข้อคิดเห็นในเชิงที่เป็นบวกและเราสามารถทำโครงการนี้ได้ แต่มีจุดเดียวคือ มีคำถามว่าตอนนี้เราอยู่ในวิกฤต หรือไม่ได้อยู่ในวิกฤต มีวิกฤตและความจำเป็นที่ต้องทำหรือไม่ ถ้าบอกว่ามีวิกฤตและความจำเป็นคือเรามีจีดีพีติดลบ แบบนั้นคงไม่ต้องทำ เพราะจีดีพียังไม่ติดลบ แต่ 9-10 ปี ที่ผ่านมา จีดีพีแค่ 1.9% ต่อปี เราไม่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ประเทศอื่นโตกว่าเรา 2 เท่า คู่แข่งของไทยทั้งประเทศเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ มีการเติบโต สมัยก่อนอาจจะอยู่ในโลกของเราคนเดียวได้แต่ปัจจุบันอยู่ในโลกการแข่งขัน ถ้าไม่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ วันหนึ่งอาจไม่มีใครอยากมาลงทุนที่ไทย รัฐบาลเชื่อว่าเราอยู่ในวิกฤตที่ต้องการการกระตุ้น แม้คนอื่นจะบอกว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องใช้เงินขนาดนี้ กระตุ้นแค่คนจนที่มีรายต่ำจริงๆก็พอ หากเถียงกันไปอย่างนี้ก็ไม่จบ

ผู้สื่อข่าวถามว่าโหวตเตอร์พรรคเพื่อไทยบางส่วน รู้สึกผิดหวัง ที่ไม่เข้าเกณฑ์ได้รับเงิน เนื่องจากมีเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท ทั้งที่เกิดจากวินัยการออม และมีรายรับไม่เกิน 7 หมื่นบาท นายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจและเห็นใจแต่ต้องรับฟังทุกภาคส่วน ทั้งสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทย มีความชัดเจนไม่ให้แจกคนรวย และมีการสอบถามถึงกำหนดเกณฑ์คนรวย โดยจะต้องกำหนดตัวเลขให้ชัดเมื่อถึงจุดหนึ่ง โดยคนที่มีรายได้เกิน 7 หมื่นบาท และเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท รัฐบาลได้ออกโครงการอีรีฟัน หากมีการใช้จ่ายจะได้เงินคืนประมาณ 1 หมื่นบาท เทียบเท่ากับเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทีมงานคิดมาแล้ว รวมถึงโครงการระยะยาวในกองทุนส่งเสริมการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมใหม่ เป้าหมาย เช่น รถอีวี ไมโครชิพ จำนวน 1 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มใช้ในเดือนมิ.ย. 2567 ที่ต้องทำเร่งด่วน

เมื่อถามว่ากรณีที่ประชาชนมีข้อสงสัยว่าเงินฝาก 5 แสนบาท รวมไปถึงสลากออมสิน หุ้นกู้ กองทุนรวม และเงินเกษียณ ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า นับเฉพาะเงินฝากอย่างเดียว ไม่นับกองทุนรวมเพราะตรวจสอบไม่ได้ ส่วนเงินเกษียณ ถ้าไปในบัญชีก็นับรวมด้วย ส่วนเงินสดที่เก็บอยู่ที่บ้านไม่นับ โดยจะเริ่มตรวจสอบว่ามีเงินในบัญชีตั้งแต่เดือน ก.ย.66 ทั้งนี้ เมื่อครั้งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เติมเงินในแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่พบว่า 15 % ไม่มีการใช้จ่ายเพราะคนไม่ได้ใช้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีเงินพอที่จะนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประชาชนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย หาเงินได้ ใช้เงินเป็น นายกฯ กล่าวว่า “ผมเป็นนายกฯ ที่มาจากพรรคอะไร พรรคเพื่อไทย สื่อก็บอกว่าหาเงินได้ใช้เงินเป็น ผมก็มั่นใจว่าผมหาเงินได้ใช้เงินเป็น ส่วนเรื่องที่มาของการออกจะเป็น พ.ร.บ. เงินกู้ ทางผู้ว่าธปท.ได้บอกเองว่านายกฯ กู้ดีกว่า ตอนนี้จาก 61% เป็น 64% เพราะเพดานเงินกู้อยู่ที่ 70% ให้กู้เลย ถ้านำมาใส่โครงการฯบวกกับโครงการอื่น และหากยกระดับจีดีพีขึ้นไป สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะลดตามไป แม้หนี้จะเพิ่มแต่ถ้าจีดีพีมากกว่าหนี้จะลดลง”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top