Saturday, 29 June 2024
โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ

‘หมอเหรียญทอง’ แจงเหตุตบหน้าเด็ก 14 สูบบุหรี่ในห้องน้ำ รพ. ลั่น!! รพ.เป็นเขตปลอดบุหรี่ - ไม่มีสิทธิละเมิดสิทธิผู้อื่น

(14 พ.ค. 67) มารดา ของชายอายุ 14 ปีรายหนึ่ง ได้เดินทางไปแจ้งความว่า ลูกชายถูกทำร้ายร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านแจ้งวัฒนะ

โดยเธอเล่าว่า ระหว่างที่​ลูกชายได้เดินทางไปเฝ้าภรรยาที่รอคลอด ​ระหว่างนั้นได้เข้าไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำชั้น 12 ของโรงพยาบาล เมื่อสูบบุหรี่เสร็จออกมาจากห้องน้ำ พบว่าเจ้าหน้าที่ของ รพ.ที่เป็นผู้ชาย ได้ยืนถ่ายภาพ และนำตัว ด.ช.วัย 14 ลงมาบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน และโทรหาให้ผู้ปกครองมาเสียค่าปรับ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท

จากนั้นเมื่อ ด.ช.โทรหาผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ได้นำโทรศัพท์ไปคุยต่อโดยไม่ได้ส่งคืน และให้ ด.ช.นั่งรอหน้าห้องฉุกเฉิน เวลาต่อมาได้มีชายเดินมาทำร้ายร่างกาย ด.ช. ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นบังคับให้ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด และเดินออกจาก รพ.ไป เมื่อ ด.ช.เดินออกจาก รพ. จึงยืมโทรศัพท์บุคคลที่อยู่บริเวณนั้น โทรหาญาติให้มารับ และแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้ระบุว่า ชายไทยสูงวัย ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้น เดินเข้ามาทางประตูหน้าตรงห้องฉุกเฉิน เดินตรงเข้ามาที่ ด.ช.วัย 14 จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ถามว่า “มึงสูบบุหรี่ในนี้ได้ไง” หลังจากสิ้นคำถาม ชายคนดังกล่าวก็ตบมาที่บริเวณใบหน้า​ 1 ครั้ง

จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ตบที่บริเวณใบหน้าอีก 3 ครั้ง แม้ว่าจะพยายามขอโทษ และร้องไห้ออกมา ก่อนที่จะถูกตะคอกใส่ว่า จะร้องทำไม ​โดยพบว่าได้รับบาดเจ็บบริเวณคิ้วข้างซ้ายเป็นรอยช้ำแดง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า..

ได้โปรดแชร์ให้ทราบข้อเท็จจริงทั่วกันว่าเมื่อดึกคืนวันที่ 13 พ.ค.67 มีไอ้วัยรุ่นกุ๊ยมาสูบบุหรี่ในห้องสุขา แผนกผู้ป่วยนอก หรือ โอ พี ดี ชั้น 1 อาคาร 3 ซึ่งเป็นอาคารใหม่ส่งกลิ่นควันบุหรี่เข้าสู่ระบบปรับอากาศคละคลุ้งทั่วพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ป่วย โอ พี ดี ที่รอรับการตรวจ

ทั้ง ๆ ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะก็ประกาศจัดการผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดรุนแรง แต่ไอ้กุ๊ยตัวนี้ก็ยังท้าทายลองดี ทั้ง ๆ ที่ภริยาของมันได้เข้ารับการรักษาตัวใน รพ.มงกุฎวัฒนะ ด้วยสาเหตุทารกในครรภ์ไม่ดิ้น จนอาการดีขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินค่ารักษา

แต่ไอ้กุ๊ยตัวนี้กลับตอบแทน รพ.มงกุฎวัฒนะด้วยการท้าทายสูบบุหรี่ ณ โอ พี ดี รพ.มงกุฎวัฒนะ อาคาร 3 ชั้น 1 ส่งความรำคาญแก่ผู้ป่วยที่มารอตรวจได้สูดควันบุหรี่ที่เป็นสารก่อมะเร็งปอดกันถ้วนหน้า

ผมจัดการไอ้กุ๊ยรายนี้อย่างดุเดือดรุนแรงตามที่ผมประกาศไว้ตามเสียงตามสายของ รพ.มงกุฎวัฒนะทุก ๆ 2 ชั่วโมง เมื่อไอ้กุ๊ยละเมิดสิทธิผู้ป่วยรายอื่น ๆ สร้างความสุ่มเสี่ยงต่ออัคคีภัยใน รพ.ที่มีผู้ป่วยนอนจำนวนมาก สุ่มเสี่ยงต่อโศกนาฏกรรมแล้ว ทั้งเคยเกิดเหตุอัคคีภัย ณ รพ.มงกุฎวัฒนะ จากการสูบบุหรี่ในพื้นที่ของ รพ.มาแล้วถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2558 และ 2564

ดังนั้นผมจึงจัดการไอ้กุ๊ยรายนี้ด้วยตนเองด้วยการตบหน้าสั่งสอน ยึดโทรศัพท์มือถือ แล้วสั่งให้แก้ผ้าล่อนจ้อน ไล่ออกจากพื้นที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไอ้กุ๊ยตัวนี้ยังยกพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์มาข่มขู่หน้าทางเข้า รพ.มงกุฎวัฒนะ 6-7 คันเสียด้วย

แต่ขอบอกตามตรงว่ารู้สึกเฉย ๆ ก็ลองแหยมเข้ามาท้าตีท้าต่อยก็จะโต้ตอบรุนแรงกลับไป แถมยังให้ข่าวว่าถูกผมตบคิ้วแตกเสียด้วย โกหกสิ้นดี 

ผมขอเรียนว่าผมประกาศต่อสาธารณะมาเสมอว่าเราไม่ง้อ ไม่สนผู้ใช้บริการที่เป็นกุ๊ยอันธพาลเกเร คิดจะฝ่าฝืนสูบบุหรี่ เกเร อวดเบ่งบุคลากรทางการแพทย์ กระทำอะไรตามอำเภอใจ ก็ขอเชิญไป รพ.อื่นก็แล้วกัน

แต่สำหรับ รพ.มงกุฎวัฒนะแล้วจะมีผู้ใช้บริการที่รู้กฎระเบียบสังคมมาใช้บริการอย่างสบายใจ ผมไม่สนหรอกครับว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ผมกลับเห็นว่าสมควรแก่เหตุเสียด้วยซ้ำ 

ควันบุหรี่เป็นสารก่อมะเร็งแก่ผู้ใช้บริการรายอื่น ๆ โดยที่เขาไม่สมควรได้รับ ดังนั้นความเด็ดขาดในการปกป้อง รพ.ทุกแห่งในโลกให้เป็นเขตปลอดบุหรี่จึงต้องเด็ดขาดเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

สาธารณชนจะตัดสินใจแยกแยะได้ว่าเมื่อเขาเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว เขาจะมา รพ.มงกุฎวัฒนะได้อย่างปลอดภัยจากบุหรี่ รวมถึงปลอดกุ๊ยอันธพาลเกเรด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบข้อเท็จจริงทั่วกันครับ คนโลกสวยเห็นว่าเกินแก่เหตุไม่สมควรใช้บริการ รพ.มงกุฎวัฒนะครับ

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
14 พ.ค. 67 เวลา 12.58 น.

'หมอเหรียญทอง' ยืดอกรับผิดปมลงโทษกุ๊ย 14 ลั่น!! 'ไม่ขอโทษ-ไม่หนีความผิด' ยัน!! เมื่อกฎหมายหน่อมแน้ม ต้องจัดการเองเพื่อลดเสี่ยงต่อผู้ป่วยรายอื่นๆ

(15 พ.ค. 67) พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีตบหน้า แก้ผ้า ยึดโทรศัพท์เด็กชายอายุ 14 ปีที่สูบบุหรี่ในห้องน้ำของโรงพยาบาล ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนผู้ใช้บริการท่านอื่น ระบุว่า..

“เมื่อผมกระทำผิดกฎหมาย ผมก็ต้องรับผิดตามกฎหมาย ลูกน้องของผมเสนอให้ผมตัดภาพวงจรปิดด้วยการเอากล้องวงจรปิดจากจุดที่เกิดเหตุดังเช่นส่วนราชการหลายแห่งกระทำกันเมื่อเกิดเหตุเพื่อจะได้ไม่เป็นหลักฐานเอาผิดผมออกตั้งแต่คืนวันที่เกิดเหตุ 

แต่ผมสั่งการว่า "ไม่ต้อง หากผมทำผิด ผมจะรับผิดเอง แม้จะต้องจำคุกก็ตาม"...ผมเป็นอดีตหัวหน้านักเรียนผู้บังคับบัญชา ผมมีระบบเกียรติศักดิ์สูงยิ่ง ไม่โกหก ไม่หนีความผิด ติดคุกก็ติดคุก ไม่เคยรู้สึกอับอายหากต้องจำคุก 

ลูกน้องของผมขอเสนอตัวเป็นผู้กระทำความผิดเอง ผมก็บอกว่า "พี่ขอขอบใจ แต่พี่ทำเอง พี่รับผิดเอง ไม่ต้องมีใครมารับผิดแทนพี่ทั้งนั้น" 

ดังนั้นคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ตลอดจนผู้พิพากษาตัดสินคดีง่ายครับ เพราะผมจะรับผิดในสิ่งที่ผมกระทำ คดีนี้โจทก์ไม่จำเป็นต้องมีทนายเก่ง เพราะผมต้องการให้คดีนี้เป็นการพิสูจน์ความดี เก่ง กล้า ในการรับผิดตามกฎหมายของผม ถึงแม้ต้องจำคุกนานนับ 10 ปีก็ตาม

ผมไม่ทราบหรอกว่าไอ้วัยรุ่นกุ๊ยอายุเท่าไหร่ ทราบแต่ว่าผมยาว หน้าแก่เกินวัย มีเมียตั้งครรภ์แล้วเท่านั้น ก็คิดไม่ถึงหรอกครับว่าจะมีอายุ 14 ตามที่สื่อต่าง ๆ ประโคมข่าวว่าผมตบเด็ก เพื่อให้สังคมประณามผม ซึ่งผมก็ไม่แคร์อะไรกับใครก็ตามที่รุมประณามสะใจโจมตีผมทั้งนั้น 

คนอย่างผมเป็นคนเข้มแข็ง และมีที่ยืนในสังคมอย่างมากมาย มีคนเคารพรักชื่นชมในความกล้า แม้ในบางครั้งหากต้องบ้าบิ่น คนอย่างผมก็กล้าตัดสินใจทำ แม้คนอย่างผมจะเลือกชีวิตที่สุขสบายลอยตัวได้ แต่ชีวิตหนึ่งของคนเรานั้นสั้นและผ่านไปอย่างรวดเร็ว คนอย่างผมจึงไม่กลัวอะไร

เมื่อผมปกป้องให้ รพ.มงกุฎวัฒนะให้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย ญาติ บุคลากรจำนวนมาก โดยเฉพาะปลอดภัยจากบุหรี่อย่างเด็ดขาด ไม่ให้ควันบุหรี่ที่เป็นสารก่อมะเร็งปอด ส่งผลเสียต่อผู้ป่วยรายอื่น ๆ จำนวนมาก ต่อญาติผู้มาเยี่ยมจำนวนมาก ต่อบุคลากรในสังกัดจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปกป้องไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมจากอัคคีภัยที่เกิดจากบุหรี่ 

แม้กฎหมายบ้านเราจะหน่อมแน้มในการปกป้อง รพ. หรืออาคารสาธารณะทุกแห่งให้ปลอดภัยจากบุหรี่ แต่ผมจะปล่อยให้ความหน่อมแน้มทางกฎหมายที่ผู้มีอำนาจรัฐไม่เคยใส่ใจเอาจริงเอาจังจัดการให้เด็ดขาดได้ แต่ผมก็จะไม่ปล่อยให้ความหน่อมแน้มของกฎหมายกลายเป็นความเสี่ยงต่อผู้ป่วยรายอื่น ๆ จำนวนมาก ต่อญาติผู้มาเยี่ยมจำนวนมาก ต่อบุคลากรในสังกัดจำนวนมากใน รพ.มงกุฎวัฒนะที่มีผมเป็นผู้นำรับผิดชอบ

ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเมื่อกฎหมายจัดการผู้สูบบุหรี่ที่มีโทษเพียงแค่ปรับ ทั้งหากเป็นเยาวชนยังได้รับการยกเว้นโทษอีกด้วย ในขณะที่ผู้ประกอบการจะต้องรับผิดทั้งอาญาและแพ่ง หากเกิดอัคคีภัยจนเกิดโศกนาฏกรรม และการชดเชยการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก หากสถานประกอบการต้องเลิกกิจการจากอัคคีภัย คนอย่างผม ผมกลับกล้ารับผิด ไม่โกหก ไม่ปฏิเสธความผิด แม้จะต้องจำคุกนานนับ 10 ปี ในวัย 64 แล้วก็ตาม แม้อาจจะต้องตายในคุกก็ไม่กลัว เพราะผมคือตำนานของลูกหลานเหลนโหลน และคนที่เคารพรักผม โดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชาของผม

แม้จะต้องจำคุกเมื่อเป็นผู้สูงวัย ผมก็จะจำคุกอย่างมีระบบเกียรติศักดิ์ของการเป็นอดีตหัวหน้านักเรียนผู้บังคับบัญชา นักเรียนแพทย์ทหาร วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ที่ผมได้รับการปลูกฝังมานานกว่า 43 ปี ตั้งแต่เข้ารับการฝึกจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และเรื่อยมาในขณะเป็นนักเรียนแพทย์ทหาร วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ตราบจนปัจจุบันที่เป็นทหารเกษียณอายุในวัย 64 แล้วก็ตาม

ผมขอรับรองว่าไม่มีทางที่คนอย่างผมจะขอขมาไอ้กุ๊ยส้นตีนสร้างความเดือดร้อนสังคมส่วนรวม ไม่มีทางที่คนอย่างผมจะวิ่งเต้นคดี ท่านทั้งหลายจะได้เห็นผมรับผิดตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาชัดเจน 
ผมจะพิสูจน์ให้เห็นกันตั้งแต่การรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งหมายเรียกมาถึงผม
พระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ มีพระบรมราโชวาทถึงการส่งเสริมคนดี แต่พระองค์ท่านไม่ได้หมายความว่า คนดีทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย ถึงแม้จะทำคุณงามความดีมามากมายในหลายสถานการณ์วิกฤตก็ตาม แต่เมื่อผมทำผิด ผมก็ต้องรับผิด

นี่คือ An Officer and a Gentleman...อ่านว่า 'แอนอ๊อฟฟิสเซอร์ แอนด์อะเจ็นเทิลแมน' แปลว่า 'นายทหาร และ สุภาพบุรุษ' ...ผมเป็นนายทหารสุภาพบุรุษ กล้ารับผิดเสมอ

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
15 พ.ค.67 เวลา 8.32 น.”

‘แม่เด็ก 14’ อึ้ง!! เจอซองผงขาว-ไฟแช็กในถุงเสื้อผ้าลูกชาย ลั่น!! เชื่อ 50/50 แต่ถ้าเป็นของลูกจริง จะพาไปตรวจหาสารเสพติด

(15 พ.ค. 67) ภายหลังจากเเม่ของเด็กชายอายุ 14 ปีที่สูบบุหรี่ในห้องน้ำโรงพยาบาล เเล้วถูกหมอชื่อดังตบหน้า เข้าให้ปากคำที่ สน.ทุ่งสองห้อง เด็กชายวัย 14 ปี พร้อมมารดาเดินทางไปที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อขอรับทรัพย์สินคืน หลังขึ้นไปบนชั้น 8 ในระหว่างการตรวจรับสิ่งของเจ้าหน้าที่ได้หยิบเสื้อผ้า มือถือ สิ่งของ ออกมาจากถุงพลาสติกสีฟ้า 

จากนั้นแม่เด็กก็ได้ตรวจสอบ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ทักว่า ยังมีสิ่งของในถุงอีกแล้วเทออกมา ปรากฏว่า มีไฟแช็ก ซองถุงซิปล็อกสีขาวตกลงมา ลักษณะเป็นผงสีขาว หลอดตักยา และไฟเเช็กที่ปะปนอยู่กับเสื้อผ้า ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกใจ เเละพยายามจะไม่เชื่อว่าเป็นของเด็ก มีการถามว่ามาจากไหน เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ทราบ แต่พบในเสื้อเด็ก

เมื่อถามว่า มีคลิปวีดีโอ ตอนที่เก็บเสื้อผ้าเด็กไว้หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ก็ยืนยันว่ามีกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาล จากนั้นทางโรงพยาบาลได้ประสานไปที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้มาตรวจสอบว่า วัตถุที่อยู่ในถุงซิปล็อกคืออะไร

เมื่อตำรวจมาถึงได้นำถุงทั้งหมดกลับไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อ ระบุมีซองพลาสติกสีขาวจริง ต้องส่งให้พฐ.ตรวจพิสูจน์ต่อไป ส่วนจะเชิญแม่กับเด็กให้สอบปากคำอีกหรือไม่ ต้องรอพนักงานสอบสวนแจ้ง

ด้าน แม่เปิดเผยภายหลังว่า ยอมรับว่าตกใจที่เห็นถุงซิปล็อกที่มีผงสีขาวอยู่ในถุงเสื้อผ้าของลูก ซึ่งตอนแรกยังไม่เห็น แต่พอเทถุงแล้วพบว่าเจออยู่ในก้นถุง ยังไม่รู้ว่าคืออะไร ตอนนี้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และยังไม่ได้คุยกับลูกชาย แต่ถ้าหลังจากนี้ตรวจสอบแล้วหากเป็นของลูกชายก็จะพาไปตรวจหาสารเสพติด

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาน้องเคยมีประวัติเสพสารเสพติดหรือไม่ แม่บอกว่าไม่รู้เลย และถ้าผลตรวจออกมาว่าลูกชายเสพสารเสพติดก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย

‘หมอเหรียญทอง’ สละสิทธิ์ จับสลากเข้ารอบไขว้ ‘สว.กทม.’ ชี้!! หลีกทางให้ผู้สมัครที่มีคุณภาพ พร้อมฝากปชช. ตรวจสอบติดตาม

(16 มิ.ย.67) นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 4 กลุ่มการสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังสละสิทธิ์จับสลากเข้าสู่รอบไขว้ ว่า ตนแสดงจุดยืนตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าต้องการเข้ามาเลือก สว.ในครั้งนี้ เพื่อเลือกคนดีเข้าไปทำหน้าที่ ส่วนตนยอมรับว่าไม่มีความตั้งใจมากพอ ดังนั้นในการเลือกที่ผ่านมา จึงไม่ได้เลือกตัวเอง แต่ในวันนี้มีผู้ที่ลงคะแนนให้ตน จนทำให้มีคะแนนเท่ากับผู้สมัครรายอื่น

“เมื่อดูรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบและผู้ที่ได้คะแนนเท่ากับผม จนต้องจับสลาก ถือว่าเป็นผู้มีคุณภาพ และรู้จักกัน ผมจึงสละสิทธิ์ในการจับสลาก และจากนี้ก็คงไม่ต้องไปจับตากันเลือก สว. ระดับประเทศ แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน ที่จะต้องตรวจสอบติดตาม” นพ.เหรียญทอง กล่าว

‘โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ’ ประกาศถอนตัวจาก ‘ประกันสังคม’ ในปีหน้า หลังโดนผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ รักษาที่อื่น แต่ให้รพ.รับผิดชอบกว่า 8 หมื่นบาท

(26 มิ.ย.67) พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ออกประกาศ เรื่อง การเตรียมการถอนตัวออกจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม ระบุว่า เนื่องจากคณะกรรมการอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 คําวินิจฉัยที่ 235/2567 ลงวันที่ 29 ก.พ. 2567 ได้แจ้งให้สํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 มีคําสั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของผู้ประกันตนรายหนึ่ง จํานวน 80,295.20 บาท ทั้ง ๆ ที่เป็นกรณีผู้ประกันตนตั้งใจไปรับการรักษากับ รพ.นอกสิทธิเอง แต่ผู้ประกันตนกลับร้องเรียนให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเป็นการใช้สิทธิของผู้ประกันตนโดยไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ คณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ได้พิจารณาอุทธรณ์จากเอกสารและการสอบถามผู้ร้องเรียนเพียงฝ่ายเดียว การฟังความข้างเดียวดังกล่าวทําให้เกิดการวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทั้งยังกล่าวหาว่า รพ.มงกุฎวัฒนะให้การตรวจวินิจฉัยรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ประกันตนไม่เหมาะสมตามมาตรฐานทางการแพทย์ และไม่เป็นไปตามสัญญาให้บริการทางการแพทย์ อีกทั้งยังมีมติบังคับให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินนอกเหนือจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามระบบ Adjust RW ถึงแม้จะเป็นเงินจํานวนน้อยแค่ 80,295.20 บาทก็ตาม แต่กรณีนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้ผู้ประกันตนที่เจ้าเล่ห์ไม่ประสงค์ใช้สิทธิกับ รพ.ตามสิทธิอ้างอิงคําวินิจฉัยที่ 235/2567 ลงวันที่ 29 ก.พ. 2567 เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการไปรักษากับ รพ.นอกสิทธิตามอําเภอใจ แล้วร้องเรียนให้ รพ.ตามสิทธิตามจ่ายค่ารักษาพยาบาลโดยไม่ถูกต้อง บรรทัดฐานดังกล่าวจะก่อให้เกิดการพิพาทร้องเรียน รพ. จากกรณีผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ในลักษณะเช่นนี้อีกอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด

ดังนั้น ในกลางปีหน้า พ.ศ. 2568 รพ.มงกุฎวัฒนะจะขอถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสํานักงานประกันสังคม การที่ รพ.มงกุฎวัฒนะประกาศขอถอนตัวแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่บัดนี้ก็เพื่อให้ผู้ประกันตนจํานวนมากกว่า 100,000 คนที่ขึ้นทะเบียนกับ รพ.มงกุฎวัฒนะได้เตรียมการล่วงหน้าเพื่อย้ายสิทธิไปยัง รพ.อื่น ๆ โดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.มงกุฎวัฒนะไปได้อย่างต่อเนื่องไปอีก 18 เดือน จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 หรือสิ้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม รพ.มงกุฎวัฒนะขอแนะนําให้ผู้ประกันตนเริ่มพิจารณา รพ.แห่งใหม่ตั้งแต่บัดนี้ หากท่านสามารถย้ายสิทธิได้แต่เนิ่น ๆ ก็จะทําให้ท่านไม่ประสบปัญหาฉุกละหุกในช่วงกลางปีหน้า พ.ศ. 2568 ไปแล้ว ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถติดต่อ ขอรับสรุปประวัติการรักษาของท่านได้ที่แผนกเวชระเบียน (ประกันสังคม) อาคาร 1 ชั้น 6 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 67 เป็นต้นไป

'หมอเหรียญทอง' เห็นใจ!! หากถอนจากประกันสังคม กระทบคนนับแสน เสนอ 2 เงื่อนไข 'คู่กรณีต้องย้ายสิทธิออก-เลิกบีบมงกุฎวัฒนะจ่าย 8 หมื่น'

(27 มิ.ย. 67) จากกรณี ‘หมอเหรียญทอง’ ประกาศเตรียมถอน ‘รพ.มงกุฎวัฒนะ’ ออกจากโรงพยาบาลคู่สัญญากับ ประกันสังคม มีผล 31 ธ.ค. 68 หลังถูกผู้ประกันตนหัวหมอ ไปรักษาที่อื่น แล้วร้องเรียนให้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล 8 หมื่นบาท โดยโพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว และ เพจเฟซบุ๊ก ‘Mongkutwattana Hospital-โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ’ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา หรือ ‘หมอเหรียญทอง’ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงการเตรียมถอนตัวจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคมเพิ่มเติม โดยยื่นข้อเสนอให้ ‘ผู้ประกันตน’ คู่กรณีดำเนินการใน 2 เงื่อนไข เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนนับแสนคน โดยมีรายละเอียดระบุว่า..

“ผมและบุคลากรในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะได้อ่านข้อความในเฟซบุ๊ก ตลอดจนรับทราบความพึงพอใจของผู้ประกันตนจำนวนมากที่ใช้บริการกับ รพ.มงกุฎวัฒนะแล้ว”

“ทั้งได้รับทราบความเดือดร้อนของผู้ประกันตนจำนวนมากกว่า 100,000 คน หาก รพ.มงกุฎวัฒนะต้องถอนตัวออกจากระบบประกันสังคม”

“ในขณะเดียวกัน ก็ได้รับทราบว่าผู้ประกันตนจำนวนมากที่ให้กำลังใจผมและ รพ.มงกุฎวัฒนะอีกด้วย ทั้ง ๆ ที่ท่านทั้งหลายจะต้องเดือดร้อนจากการย้ายสิทธิจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ไป รพ.ใหม่ แต่ท่านก็ยังเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและความถูกต้อง”

“ผมขอเรียนตามตรงว่าผมรู้สึกเบื่อและท้อกับการใช้อำนาจบังคับจากหน่วยงานต่าง ๆ ดังเช่น 'คณะกรรมการอุทธรณ์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533' ดังนั้นผมจึงไม่คิดที่จะต่อสู้กับใคร หรือฟ้องร้องใคร และขอใช้ชีวิตอย่างสงบ”

“แต่เมื่อคำนึงถึงผู้ประกันตนจำนวนมากกว่า 100,000 คน ที่จะต้องเดือดร้อนจากผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ 1 ราย และคณะกรรมการอุทธรณ์ที่ใช้หัวแม่ตีนคิดสั่งการเพียงไม่กี่ตัวแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะหาทางออกว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ผู้ประกันตนนับแสนต้องเดือดร้อน ผมจึงมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ ดังต่อไปนี้”

“1. นางปXXXX ศXXXX ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์จะต้องขอย้ายสิทธิตนเองออกจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ หรือมิฉะนั้น สำนักงานประกันสังคมจะต้องย้าย นางปXXXX ศXXXX ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ออกจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ไปขึ้นสิทธิกับ รพ.อื่น”

“2. คณะกรรมการอุทธรณ์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ต้องยกเลิกคำวินิจฉัยที่ 235/2567 ลงวันที่ 29 ก.พ.2567 ที่ได้แจ้งให้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 มีคำสั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของ นางปXXXX ศXXXX ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์จำนวน 80,295.20 บาท”

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ข้อเรียกร้องทั้ง 2 ข้อมีการดำเนินการเป็นรูปธรรม ผมจะออกประกาศยกเลิกประกาศการถอนตัวออกจากระบบประกันสังคมทันที”

“อย่างไรก็ตามการดำเนินการตามข้อ 2 มักไม่เกิดผล อันเนื่องจากการถือศักดิ์ศรีของคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ จากการเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้นผู้ประกันตนจึงควรเตรียมการย้ายสิทธิ์ไปยัง รพ.อื่น ๆ ไว้ล่วงหน้าก่อน อย่าได้คาดหวังอะไรจากคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ เพราะคุณท่านทั้งหลายเหล่านี้มันยอมไม่ได้จากการถูกด่าที่มาจาก 'เสียงคำรามจากพระเจ้ามาราโดน่า' [Voice of God] พวกคุณท่านมันแค้นพระเจ้ามาราโดน่ามาก ๆ ครับ”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top