Monday, 7 April 2025
แอ๊ดคาราบาว

'น้าแอ๊ด' เรียกเสียงเฮ!! ใน 'ล้อมวงลา คาราบาว' บอก!! "ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมยังไม่อยากเลิก"

“ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมยังไม่อยากเลิก” แอ๊ด คาราบาว กล่าวหลังจบการแสดงคอนเสิร์ต ล้อมวงลาคาราบาว คืนวานนี้ (3 เม.ย. 67) จนเรียกเสียงเฮจากแฟน ๆ ที่มาร่วมชมการแสดงคอนเสิร์ตที่บอกว่า จะเป็น 'ครั้งสุดท้าย' ของคาราบาวอย่างล้นหลาม

สำหรับคอนเสิร์ต 'ล้อมวงลา คาราบาว' เดิมถือเป็นคอนเสิร์ตเกือบสุดท้ายก่อนหยุดพักวงตามที่ 'แอ๊ด คาราบาว' หรือ 'ยืนยง โอภากุล' ประกาศไว้ โดยแฟนคลับผู้ชื่นชอบ กว่า 5,000 คน เดินทางมาชม คาราบาว แสดงสด อย่างเนืองแน่น BCC Hall เซ็นทรัล ลาดพร้าว

ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ มีศิลปินร่วมขึ้นแสดงสร้างสีสันก่อนวงคาราบาวขึ้นเล่น ไม่ว่าจะเป็น ไววิทย์, พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ และ แอน อรดี

โดยหลังจากจบการแสดง แอ๊ด คาราบาว กล่าวว่า "ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมยังไม่อยากเลิก" เรียกเสียงเฮจากแฟน ๆ ลั่น BCC Hall

‘แอ๊ด คาราบาว’ เสียใจต่อ ‘ก้าวไกล’ ในความไม่เป็นธรรม พร้อมหวังให้สู้ต่อ ย้ำ!! อย่าท้อ ขอให้อดทนถึงวันฟ้าดินเห็นใจ

(7 ส.ค. 67) ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ยุบ พรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุด 1 และชุด 2 รวม 11 คน มีกำหนด 10 ปี นับแต่ศาลมีคำสั่งยุบพรรค ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ‘แอ๊ด คาราบาว’ หรือยืนยง โอภากุล โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Add Bao’ โดยระบุว่า “ขอแสดงความเสียใจต่อพรรคก้าวไกลในความไม่เป็นธรรมของบ้านเมืองเราในยุคนี้ครับ หวังว่าพวกคุณจะยังคงมุ่งมั่นสู้ต่อไปในอุดมส์การณ์ที่พวกคุณเชื่อมั่น ผมจะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้พวกคุณ ‘คนรุ่นใหม่ผู้เป็นความหวังในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง’ อย่าท้อขอให้ทนอดทน อดทนถึงวันฟ้าดินเห็นใจ…”

'อัษฎางค์' มอง!! 'โพสต์พี่เล็ก' ไม่เอี่ยวการเมือง แต่เตือน 'พี่แอ๊ด' ให้หยุดพูดเรื่องการเมือง

(14 ส.ค. 67) อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า…

จากแอ๊ด เล็ก จนมาถึงเอ็ด

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่า เห็นข่าวนี้มาตั้งแต่แรก และไม่อยากมีดราม่าหรือมีส่วนร่วมในดราม่านี้เลย แต่มันเห็นข่าวหรือที่มีคนเอามาแชร์กันซ้ำ ๆ สุดท้ายก็อดใจไม่ได้ที่อยากจะพูดในมุมที่ตัวเองเห็นบ้าง

จากที่เห็นในข่าวหรือที่คนพูดกันสนั่นโซเชียลคือ พี่เล็กโพสต์ข้อความแสดงพฤติกรรมเหมือนพี่แอ๊ดที่เชียร์ก้าวไกลว่าโดนศาลรังแกตัดสินยุบพรรค แต่เท่าที่ผมอ่านจากโพสต์ของพี่เล็ก ซึ่งเป็นต้นเรื่องดรามานี้ ผมว่าไม่น่าจะใช่

ขอเริ่มต้นแบบนี้ ผมไม่รู้หรอกว่าพี่เล็กเชียร์ก้าวไกลหรือไม่ หรือพี่เล็กสนับสนุนการเมืองฝ่ายไหน เพราะยังไม่เคยเห็นพี่เล็กเชียร์ใครหรือด่าใคร แต่จากที่อ่านตามตัวหนังสือจากโพสต์ของพี่เล็ก ผมว่าประเด็นสำคัญเลยคือ “เรื่องที่พี่เล็กทั้งเตือน ทั้งห้าม ทั้งปราบให้พี่แอ๊ดหยุดพูดเรื่องการเมืองเสียที” ก็เท่านั้น

ประโยคนี้ที่พี่เล็กเล่าว่า… “เมื่อวานขณะอยู่บนเวทีพี่แอ๊ดพูดกับผู้ชมว่า "ผมแก่แล้ว ไม่อยากพูดเรื่องการเมืองแล้ว" แล้วแกก็หันมาทางผมพร้อมพูดว่า "เดี๋ยวโดนพี่เล็กว่า พี่เล็กเค้าห้ามไว้" 

ตรงนี้มันแสดงให้เห็นผ่านตัวหนังสือว่า “ไม่มีใครกล้าเตือนพี่แอ๊ด และพี่แอ๊ดไม่ฟังใคร แต่พี่แอ๊ดฟังพี่เล็ก และอาจจะมีพี่เล็กคนเดียวที่ทำได้” และทบทวนดูดี ๆ ไอ้คำพูดของพี่แอ๊ดที่ว่า "ผมแก่แล้ว ไม่อยากพูดเรื่องการเมืองแล้ว" ผมว่าเกิดการเตือนมาหลายครั้งแล้ว และทุกครั้งพี่แอ๊ดก็ทำซ้ำ แล้วหลังจากนั้นก็พูดซ้ำอีกว่า “ไม่เอาแล้ว ไม่พูดแล้ว” แต่เชื่อเถอะ แกไม่หยุดหรอก มันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำ ๆ ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว

บรรทัดต่อมาพี่เล็กเขียนต่อว่า… “ในมุมของผม เห็นว่าพี่แอ๊ดยังทำอะไรเกี่ยวกับการเมืองและประเทศของเราได้อีกมากมาย เช่นเขียนหนังสือเป็นต้น อีกอย่าง พวกเราสว.กันแล้ว ควรปล่อยให้ลูกหลานเค้าแสดงฝีมือแสดงพลังกันบ้าง“

ตรงนี้ อ่านดูดี ๆ ว่าพี่เล็กไม่ได้พูดถึงพรรคการเมืองหรือนักการเมือง ไม่ได้พูดว่า “ปล่อยให้ก้าวไกลได้แสดงฝีมือบ้าง“

ประโยคนี้… “พวกเราสว.กันแล้ว ควรปล่อยให้ลูกหลานเค้าแสดงฝีมือแสดงพลังกันบ้าง” ผมเข้าใจว่า พี่เล็กพูดถึงพวกเราประชาชนคนอื่น ๆ พูดว่า ปล่อยให้คนอื่นเค้าพูดเรื่องการเมืองกันไป วิจารณ์การเมืองกันไป เรา พี่แอ๊ด พี่เล็ก เป็น สว. เป็นผู้สูงวัยแล้ว หยุดเถอะแล้วปล่อยให้เด็ก ๆ เขาพูดกันไป ปล่อยให้เด็ก ๆ เค้าวิจารณ์การเมืองไป แต่พี่แอ๊ดควรหยุดพูดได้แล้ว” ไม่ใช่  “ปล่อยให้เด็ก ๆ (พรรคก้าวไกล) เขาแสดงฝีมือกันไป”

ส่วนตรงนี้…. “พี่แอ๊ดเองก็พูดให้ได้ยินอยู่บ่อย ๆ ว่า เด็ก ๆ สมัยนี้เก่ง และมีแนวคิดที่น่าสนใจ แกว่าแกยังชอบฟังพวกเค้าเวลาอภิปรายกันเลย” ตรงนี้ชัดเจนว่า พี่เล็กพูดให้เห็นภาพว่าพี่แอ๊ดเชียร์ก้าวไกล ชอบดูการอภิปรายของก้าวไกลในสภา

ส่วนตอนท้ายซึ่งเป็นเหมือนบทสรุปที่ว่า…“เมื่อเวลาพี่แอ๊ดนิ่ง ๆ และปล่อยวาง แกดูน่าเคารพมาก ๆ เลย”

ตรงนี้แปลว่า “พี่แอ๊ดอยู่นิ่ง ๆ นะดีแล้ว”

“มะม่วงไม่เด็ดก็ร่วงเองถ้ามันสุก” ผมไม่แน่ใจว่าพี่เล็กเปรียบเทียบมะม่วงกับอะไร แต่มันเป็นเรื่องจริงของมะม่วงสุก

สรุปนะ พี่เล็กสนับสนุนการเมืองขั้วไหน ผมไม่รู้ และเอาจริง ๆ ลองทบทวนกันดูได้ว่า พี่แอ๊ดพูดหรือวิจารณ์การเมืองบนเวทีคอนเสิร์ตหรือหน้าเพจโซเชียลมีเดียบ่อย ๆ แล้วเหมือนคนแก่ในครอบครัวเรา ๆ ท่าน ๆ อีกหลาย ๆ คน ที่วันนี้พูดอย่าง วันหน้าทำอีกอย่าง แล้วมักทำอะไรย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ ทั้งที่คนรอบข้างทั้งห้าม ทั้งดุ ทั้งบ่น แต่ก็มีพฤติกรรมเหมือนเดิม

คราวก่อนพี่แอ๊ดด่าลุง พูดพาดพิงถึงเบื้องสูง แล้วผ่านไปอีกไม่กี่วันก็คิดได้หรือไม่ก็มีคนไปสะกิด แล้วแกก็ออกมาบริจาคเงิน 50 ล้านแก้เก้อ คืออยู่ดี ๆ ก็เสียเงินเพียงเพราะปากเสียเผลอไปพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เหมือนคราวนี้ก็เจอกระแส แบนทุกอย่างที่มีชื่อ คาราบาว ตั้งแต่วงดนตรีคาราบาวยันเครื่องดื่มคาราบาวแดง คือ แกพูดความเห็นส่วนตัว แต่เพื่อนร่วมวง ร่วมธุรกิจ ซวยตามกันทั้งยวง

“แต่พี่เล็ก คือ คนที่ไม่วิจารณ์การเมือง ออกอากาศเลย”

พี่เล็กจะชอบขั้วการเมืองไหนผมไม่รู้ และผมว่าไม่สำคัญว่าแกจะเชียร์ใคร เราเลือกที่จะอยู่ในสังคมประชาธิปไตย เราต้องเคารพในความต่างนั้น

เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งซึ่งรักกันมากมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเป็นคนดีมากด้วย แต่เขาชอบทักษิณ พอมีธนาธร เขาก็เปลี่ยนมาชอบธนาธร แต่ถามว่าความเป็นคนมีอัธยาศัย มีมิตรไมตรี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นของเขาเปลี่ยนไปหรือไม่ คำตอบคือไม่เปลี่ยนไปเลย และผมกับเขาก็ยังรักกันฉันเพื่อนสนิทเหมือนเดิม แต่เราจะไม่คุยกันเรื่องการเมือง เพราะเราอยู่คนละขั้ว 

ถามว่า เราต้องเลิกคบกันมั้ย ผมว่า ตราบใดที่เราและเขาไม่คิดทำลาย ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันไป 

ทัศนคติทางการเมือง อาจไม่ได้เกิดจากการศึกษาหรือความฉลาดที่ต่างกันหรือใครมีมากกว่ากัน เขาไม่ฉลาดหรือโง่กว่าเรา แต่อาจเกิดจากความสามารถในการรับรู้ แยกแยะที่ต่างกัน

คนก๊วนเดียวกับพี่แอ๊ด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือน้อง ๆ ของพี่แอ๊ด ไม่ได้แปลว่า เขาคิดหรือเห็นคล้อยตามพี่แอ๊ดไปหมด

ต่อให้เพื่อนหรือน้อง ๆ คิดเหมือนพี่แอ๊ด ชอบก้าวไกลเหมือนพี่แอ๊ด แต่ตราบใดที่เขาไม่เคยแสดงพฤติกรรมหรือมีคำพูดใด ๆ หลุดปากออกมาเหมือนพี่แอ๊ด ผมว่า ตราบนั้น เขาเหล่านั้น ย่อมไม่ควรได้รับผลกรรม ที่แปลว่า ผลจากการกระทำ เหมือนอย่างพี่แอ๊ด หรือได้รับผลกรรมตามการกระทำของพี่แอ๊ด กรรมที่ใครทำก็เป็นของคนนั้น

เพราะฉะนั้น อย่าไปเหมาว่า คนก๊วนเดียวกับพี่แอ๊ด จะปากเสียเหมือนพี่แอ๊ด (ขออนุญาตใช้คำตรง ๆ) ยี่ห้อ คาราบาว ไม่ว่าจะเป็นวงดนตรีหรือเครื่องหมายการค้าก็เช่นกัน เขาก็อาจจะไม่ได้อยากจะปากเสียจนจะพากันล่มจมตามกันไป

เพราะฉะนั้นผมว่า เราอยู่ในสังคมเสรีประชาธิปไตย เราควรเคารพต่อความต่างของกันและกัน และทุกคนก็ควรมีเสรีภาพที่ไม่ใช่การแห่ตามกัน คือ ใครอยากจะแบนพี่แอ๊ดก็แบนไป ส่วนใครโกรธจนอยากจะแบนทุกอย่างที่มีคำว่าคาราบาวก็ทำไป แต่ใครตั้งสติได้ก็แยกแยะกันหน่อยก็แล้วกัน 

สำหรับผมนะ สิ่งที่ผมเห็นจากตัวอักษรในโพสต์นี้ของพี่เล็กคือ “ไม่มีใครกล้าเตือนพี่แอ๊ด และพี่แอ๊ดไม่ฟังใคร แต่พี่แอ๊ดฟังพี่เล็ก และอาจจะมีพี่เล็กคนเดียวที่ทำได้”

และสิ่งที่พี่เล็กทำคือ เตือนพี่แอ๊ดว่า “เพื่อนรักมึงหยุดพูดเรื่องการเมืองเสียที เพราะปากของมึงจะพาเพื่อน ๆ และลูกน้องซวยกันทั้งยวง”

“ไม่ว่าเรื่องอะไรในสังคมจะผิดหรือถูก จะถูกใจหรือไม่ถูกใจ มึงแก่แล้ว มึงพูดมานานแล้ว ถึงคราวที่ต้องปล่อยให้เด็กเขาพูดแทนมึงได้แล้ว”

ผมแปลความจากตัวหนังสือและจากในใจของพี่เล็กได้แบบนี้

ผมเนี่ยคือแฟนตัวยงของคาราบาวตั้งแต่ยุคบุกเบิก ที่ไม่รู้ว่าจะพูดถึงพี่แอ๊ดยังไงดีเลย ได้แต่เหมือนเห็นภาพญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งในครอบครัวที่แก่ตัวแล้วหลุดโลกพูดให้ตายไปข้างหนึ่งก็พูดไม่รู้เรื่อง วันนี้พูด พรุ่งนี้คิดได้ รุ่งขึ้นกลับมาเหมือนเดิม ผมว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่แอ๊ด พี่เล็ก และอีกหลายพี่ที่เจอลูกบ้าเที่ยวสุดท้ายของแอ๊ดถึกควายทุยตัวจริง

สรุปสุดท้าย ผมคิดว่า พี่เล็กไม่ได้โพสต์เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องการบ้านในบ้านคาราบาว และสิ่งที่พี่เล็กทำคือ เตือนพี่แอ๊ดให้หยุดพูดเรื่องการเมือง ไม่ใช่โพสต์เชียร์การเมืองขั้วใดทั้งสิ้น ในโพสต์ของพี่เล็กที่มีคนตามไปด่าพี่แอ๊ดแล้วพี่เล็กจะโดดมาปกป้องเพื่อนผมก็ว่าไม่ผิดปกติอะไร เพราะฉะนั้นหยุดดราม่ากับพี่เล็กดีมั้ย

ใครจะนิยมการเมืองขั้วไหน ยังไงก็เป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น

คนชั่วคือ นักการเมืองที่มันแหกตาประชาชน ส่วนประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของนักการเมืองชั่ว อาจไม่ได้ชั่วตามนักการเมืองชั่ว ๆ เหล่านั้น

อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกนี้
คนที่ร้องเพลงต่อต้านนายทุน ร่ำรวยจากบทเพลงงานจนกลายเป็นนายทุน
คนที่ร้องเพลงเพื่อแสดงจุดยืนว่าอยู่เคียงข้างประชาชน สุดท้ายกลับไปยืนเคียงข้างการเมือง
คนที่ร้องเพลงหรือแหกปากถึงประชาธิปไตย นิยมอะไรที่ตรงข้ามกับประชาธิปไตย

คาราบาวแปลว่า ควาย

แต่ใช่ว่าสมาชิกและแฟนเพลงทุกคนจะเป็นควาย 

แยกกันดี ๆ เราถึงจะเห็นว่าคนไหนคาราบาว หรือคนไหนควาย หรือคนไหนถึกควายทุย

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค

‘เสก โลโซ’ ยัน!! รักและเคารพ ‘แอ๊ด คาราบาว’ เสมอมา ไม่เคยตะเพิดหรือมองเป็นศัตรู อย่างที่บางเพจนำเสนอ

สืบเนื่องจากกรณีที่ ‘แอ๊ด คาราบาว’ หรือ ‘ยืนยง โอภากุล’ นักร้องเพื่อชีวิตชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กให้กำลังใจ ‘พรรคก้าวไกล’ หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ด้วยข้อความขอแสดงความเสียใจด้วย กับความไม่เป็นธรรมในบ้านเมืองเรายุคนี้ จนเกิดกระแสต่อต้าน เรียกร้องให้ถอดแอ๊ด คาราบาว ออกจากตำแหน่ง ‘ศิลปินแห่งชาติ’

ล่าสุด เฟซบุ๊ก ‘SEK LOSO’ ของ ‘เสก โลโซ’ หรือ ‘เสกสรรค์ ศุขพิมาย’ ร็อกเกอร์ชื่อดัง ได้แชร์โพสต์เพจหนึ่งซึ่งนำเสนอข้อมูลว่า “แอ๊ด คาราบาว ฟัง เสก โลโซ ‘กูไม่มีเงินเยอะ แต่กูมีหัวใจที่งดงาม’ ตะเพิดพวกล้มล้าง มึงเป็นศัตรูกับกู” พร้อมยืนยันว่าข่าวดังกล่าวมั่วมาก ตนไม่เคยให้สัมภาษณ์แบบนี้ 

“ข่าวนี้เป็นข่าวที่มั่วมาก ผมไม่เคยพูดหรือให้สัมภาษณ์แบบนี้ ผมรักพี่แอ๊ดอย่างบริสุทธิ์หัวใจ เคารพในการตัดสินใจของพี่แอ๊ดเสมอ ผมและพี่แอ๊ดรักและเทิดทูนในชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์สุดหัวใจ จึงแจ้งมาเพื่อความเข้าใจและให้ทราบโดยทั่วกัน…”

'หมอเดชา ศิริภัทร' ทวงสัญญา 'แอ๊ด คาราบาว' ซัด! อย่าทำไม่แยแสงานที่คุยกันไว้ โทรไปไม่รับให้โทรกลับก็เฉย

(19 ธ.ค. 67) นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘Deycha Siripatra’ ว่า ช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ มีข่าว(ฉาว)เกี่ยวกับ คุณแอ๊ด คาราบาว (ภาพบน) ซึ่งยังไม่ตัดสินว่าร้านถูกดีฯ (โชห่วย) ที่คุณแอ๊ดฯ เป็นพรีเซนเตอร์ นั้น กดขี่คู่ค้าด้วยสัญญาทาส หรือไม่

เช่นเดียวกับที่ มีผู้มาแจ้งข่าวให้ผมทราบ (เป็นนัยๆ) ว่า คุณแอ๊ดฯ ไม่สนับสนุนกัญชาแล้วด้วยเหตุนี้ จึงไม่สนับสนุนการสร้างโรงพยาบาลทางเลือก ที่ร่วมทำกับผม มาตั้งแต่ปี 2562

เมื่อได้ฟังข้อมูลนี้ครั้งแรกๆ ผมก็ไม่สนใจ แต่ยิ่งนานวัน ข้อมูลคล้ายๆกัน ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผมจึงพยายามติดต่อสอบถาม จากคุณแอ๊ดฯโดยตรง ปรากฏว่าคุณแอ๊ดฯไม่รับการติดต่อ เช่น โทรศัพท์ไปหาหลายครั้ง ก็ไม่รับสาย ขอให้โทรฯกลับเมื่อสะดวก ก็ไม่เคยโทรฯกลับ จนถึงการเขียนจดหมาย ให้คนใกล้ชิดของคุณแอ๊ดฯ นำไปส่งให้โดยตรง ก็ยังเงียบเฉย

ครั้งนี้ ผมจึงแจ้งไปในจดหมายฉบับล่าสุดว่า ขอให้มาร่วมทอดผ้าป่า ในวันที่ 19 ธ.ค. 67 นี้ ถ้าคุณแอ๊ดฯไม่มาร่วม หรือไม่ส่งตัวแทนมาร่วม โดยไม่ชี้แจงเหตุผล ผมจะถือเป็นคำตอบว่า คุณแอ๊ดฯไม่ยินดีร่วมสร้างโรงพยาบาลทางเลือกกับผมอีกแล้ว และจะไม่ร่วมงานกันอีก

ถ้าหาคนมาร่วมงานไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้ติดต่อส่งข้อมูลเหตุผลมาบ้าง อย่าทำแบบไม่แยแส เพราะคุณแอ๊ดฯยังมีเรื่อง ที่ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยและโปร่งใส อยู่อีกหลายเรื่อง เช่น เรื่องบัญชีธนาคารที่เปิดร่วมกันกับผม เพื่อรับเงินบริจาคมาสร้างโรงพยาบาลทางเลือก เงินยังอยู่ในบัญชีนั้น คุณแอ๊ดฯต้องปิดบัญชีฯและนำเงินทั้งหมด มอบให้คณะกรรมการฯ

ผมจะให้โอกาสคุณแอ๊ดฯครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปผมจะมอบหน้าที่ให้คณะกรรมการฯ ซึ่งมีทั้งนักบัญชีมืออาชีพ และทนายความเป็นกรรมการอยู่ด้วย คงเป็นเรื่องที่จะไม่จบง่ายๆ

ผมจะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังต่อ หลังจากงานทอดผ้าป่าเสร็จสิ้นลงแล้ว ว่าจะทำอะไรต่อไป คงสนุกแน่... หากคุณแอ๊ดฯ "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไป กลายเป็นบ้องกัญชา"

‘หมอเดชา’ สูญที่ดิน 6 ไร่ ดับฝัน!! รพ.ทางเลือก ถาม ‘แอ๊ด คาราบาว’ เงินบริจาค 5 ล้าน อยู่ไหน

(23 มี.ค. 68)  เฟซบุ๊ก Deycha Siripatra ของ อาจารย์เดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) เพื่อใช้ทางการแพทย์ โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผมและตัวแทนผู้บริจาคฯ ได้ไปทำพิธีอำลา ที่ดิน 6 ไร่ ที่ดินผืนนี้ (มีรั้ว ระบบน้ำ อาคารสำนักงาน) ใช้เงินบริจาค 5 ล้านบาท แต่ถูกยืดครองไปโดยใช้กระบวนการกฏหมาย และผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น จนกลายเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ผมทำได้เพียงแจ้งความจริงให้ผู้บริจาค ผู้ป่วย และผู้รอคอยโรงพยาบาลฯ ได้รับทราบ และขอโทษที่มีส่วนทำให้ผู้บริจาคคาดหวัง และเชื่อมั่นว่าเงินบริจาคจะใช้เป็นประโยชน์ แต่กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งยักย้ายเอาสิ่งที่เกิดจากเงินบริจาคไปเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล จึงต้องยอมรับถึงความไม่รู้เท่าทัน ความไว้วางใจนำคนกลุ่มนี้มาร่วมงานด้วยตั้งแต่แรก

วันนี้ ผมขอแสดงความเสียใจ และขอโทษเป็นอย่างยิ่ง ต่อคุณ สมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เอเชี่ยน ซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้บริจาคเงินร่วมสร้างโรงพยาบาลทางเลือก ที่อำเภอด่านช้าง จำนวนเงิน 5 ล้านบาท คุณรสนา โตสิตระกูล ได้แนะนำให้คุณสมศักดิ์ฯ บริจาคในครั้งนี้ และร่วมกันถ่ายภาพไว้ ในภาพจะเห็นคุณ รสนาฯ ผม คุณสมศักดิ์ฯ และคุณแอ๊ดฯ (นายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว) ยืนอยู่ด้วยกัน โดยคุณสมศักดิ์ฯ ได้ให้สัมภาษณ์ลงในหนังสือพิมพ์กรุงเทพฯธุรกิจ

ที่ผมต้องแสดงความเสียใจ และขอโทษคุณสมศักดิ์ฯ (และคุณรสนาฯ) เป็นอย่างยิ่ง เพราะเงินบริจาคของคุณสมศักดิ์ฯ 5 ล้านบาทนั้น ผมนำมาใช้ตามความประสงค์ฯ ไม่ได้ เนื่องจากเงินบริจาคนี้ คุณสมศักดิ์ฯ ได้มอบให้คุณแอ๊ดฯ โดยตรง ผมไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด อาจจะไม่ได้นำเข้าบัญชีธนาคารฯ ที่ผมเปิดร่วมกับคุณแอ๊ดฯ ก็ได้ (ยังตรวจสอบไม่ได้) หรือนำเข้าบัญชีธนาคารฯ นั้นจริง ก็ถูกนำมาใช้ในที่ดิน 6 ไร่ (ที่ถูกยึดครอง) ไปหมดแล้ว เงินบริจาคที่คุณสมศักดิ์ฯ ตั้งใจมอบให้ใช้สร้างโรงพยาบาลทางเลือกจึงไม่เกิดขึ้นจริง

ผมคงไม่ทราบได้เลยว่า เงินบริจาค 5 ล้านบาทของคุณสมศักดิ์ฯ นั้น ไปอยู่ที่ใหนกันแน่ ผู้ที่จะให้คำตอบได้ คือ คุณแอ๊ด คาราบาว ผู้รับมอบเงินก้อนนี้ เพียงผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งผมพยายามติดต่ออย่างไรก็ไม่สำเร็จ (เช่น ขอให้มาปิดบัญชีธนาคารฯ ที่เปิดร่วมกัน) ดังนั้น คุณสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ในฐานะผู้บริจาคเงิน 5 ล้านบาทนี้ จึงควรเป็นผู้ถาม หรือ คุณรสนา โตสิตระกูล ผู้แนะนำให้คุณสมศักดิ์ฯ บริจาคเงินครั้งนี้ ก็มีสิทธิ์เป็นผู้ถาม เชื่อว่าผู้บริจาครายอื่นๆ อีกนับหมื่นราย คงอยากทราบคำตอบนี้ ... จากคุณ แอ็ดฯ ด้วย"

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2567 อาจารย์เดชาโพสต์ข้อความพาดพิงถึงนายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ว่า ขาดการติดต่อจากแอ๊ด คาราบาว หลังจากมีข่าวว่านายยืนยงไม่สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ และไม่สนับสนุนการสร้างโรงพยาบาลทางเลือก ที่ทำร่วมกันตั้งแต่ปี 2562 โดยยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยและโปร่งใสอยู่อีกหลายเรื่อง เช่น เรื่องบัญชีธนาคารที่เปิดร่วมกันกับอาจารย์เดชาเพื่อรับเงินบริจาค (ในลักษณะบัญชี "และ") โดยได้เรียกร้องให้นายยืนยงไปปิดบัญชี และนำเงินทั้งหมดมอบให้คณะกรรมการฯ แต่ถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top