Wednesday, 23 April 2025
แมว

รวม 7 สายพันธุ์น้องเหมียว ที่เหล่าทาสต้องเลี้ยวมาหา!!!

ชั่วโมงนี้!!! ไม่มีอะไรฮอตไปกว่าน้องแมวขนปุยสุดน่ารัก ที่ตั้งตัวเป็นเจ้านาย ให้กับเหล่าทาส ๆ อย่างนุดต้องโดนตกอีกแล้ว 

วันนี้ THE STATES TIMES จะพาไปรู้จักกับน้องเหมียว 7 สายพันธุ์สุดฮิต ที่เหล่าทาส ๆ ต้องรู้ มาดูกันเลยจ้า!! 

1.) Persian Cat - เปอร์เซีย
อุปนิสัย : อ่อนโยน เข้ากับคนง่าย ขี้อ้อน

2.) Maine Coon - เมนคูน
อุปนิสัย : เล่นเก่ง ร่าเริง ขี้อ้อน แบตเยอะ

3.) American Shorthair - อเมริกัน ช็อตแฮร์
อุปนิสัย : เล่นเก่ง ขี้สงสัย น้องค่อนข้างฝึกยาก!!

‘คริส พีรวัส’ เผย สัตว์เลี้ยงช่วยฮีลใจ จากโรคแพนิก พร้อมบอก “เป็นแฟนผม ก็ต้องรักแมวผมด้วย”

(18 ก.ค. 66) หนุ่มหล่อผู้ที่ตกเป็นทาสแมว ‘คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์’ มีน้องแมวถึง 4 ตัวด้วยกัน  ตัวแรกคือแมวเพศผู้พันธ์สฟิงซ์ผสมวิเชียร์มาศชื่อ ‘น้องพูลโต’ แสบและซนที่สุดในบ้านและเป็นนายคนแรกของคริส จะมีความตื่นคนมากเพราะไม่ค่อยได้เจอใครเท่าไหร่ ซึ่งอยู่กับคริสมา 4 ปีแล้ว เลยจะติดคริสมาก เวลาจะอาบน้ำก็จะมาเฝ้าหน้าประตู น้องจะเป็นแมวที่นิสัยเหมือนสุนัข และแสนรู้ เป็นสัตว์เลี้ยงที่ช่วยฮีลใจจากอาการป่วยโรคแพนิกได้ดีมาก ๆ

หนุ่มคริสเป็นคนที่รักแมวมากขนาดนี้ เปิดใจพูดดัง ๆ ไปเลยว่า เป็นแฟนฉันก็ต้องรักแมวฉันด้วย น้องแมวตัวถัดมาชื่อ ‘น้องไข่ดาว’ จะไม่ค่อยชอบให้ใครอุ้มเพราะว่าน้องเป็นผู้หญิงจะหวงเนื้อหวงตัวนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกของ ‘มัฟฟิน’ น้องไข่ดาวจะเป็นพันธ์บริติชกับสก็อตติช เพราะมัฟฟินเป็นพันธ์สก็อตติช คริสได้เอาไปผสมกับพ่อพันธ์บริติช เพื่อให้เขาแข็งแรงขึ้น ตัวสุดท้ายชื่อ 
‘น้องไข่หวาน’ เป็นลูกของมัฟฟินเหมือนกัน จะมีนิสัยขี้อ้อนและติดคน

‘คนขับแท็กซี่’ ช็อก!! หลังพบแมวติดอยู่ในตะแกรงรถ เหลือเชื่อที่รอดมาได้ แม้ตนจะขับรถมานานหลายวัน

(23 ส.ค.66) เว็บไซต์ BBC รายงานว่า คนขับรถแท็กซี่ในประเทศเวลส์ต้องตกใจหลังจากที่เขาเจอแมวติดอยู่ในตะแกรงรถยนต์ของเขา และที่เหลือเชื่อกว่าคือแมวตัวดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่แม้เขาขับรถมานานหลายวันและเดินทางไกลเป็นระยะไกลถึง 804 เมตร

โดยคู่หมั้นสาวของนาย ทอม ฮัทชิง คนขับรถแท็กซี่ วัย 32 ปี คนดังกล่าวสังเกตถึงความผิดปกติเมื่อว่าที่สามีจอดรถหน้าบ้าน คู่หมั้นสาวบอกว่าเธอเห็นอะไรบางอย่างในตะแกรงแต่ไม่รู้ว่าคืออะไร นายฮัทชิงเลยลงไปดูก่อนจะเห็นแมวตัวดังกล่าว

“ผมไม่คิดเลยว่าผมจะเห็นตาสีเขียวและจมูกสีชมพู โผล่อยู่หน้าผมห่างไม่กี่เซนติเมตร” นายฮัทชิง ให้สัมภาษณ์

โดยเขาได้นำกันชนด้านหน้ารถยนต์ออกและยกมันขึ้นเพื่อให้แมวออกมาได้ ก่อนจะนำแมวตัวดังกล่าวส่งสัตวแพทย์ และตลอดทางที่พาแมวไปหาสัตวแพทย์แมวตัวนี้นอนหลับ อาจจะเพราะความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียที่ติดอยู่ในตะแกรงรถยนต์นานหลายวัน หลังจากที่หาแพทย์เรียบร้อยแล้ว นายฮัทชิงก็ได้ประกาศหาเจ้าของก่อนจะพบว่าแมวตัวนี้ชื่อกิสโม่และหายไปจากบ้านได้สัปดาห์นึงแล้ว

ซึ่งเจ้าของดีใจมากที่ได้เจอกับแมวของพวกเขาอีก โดยพวกเขาสารภาพว่าไม่คิดว่าจะได้เจอแมวของเขาอีกแล้ว

ด้านนายฮัทชิงให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแมวเข้าไปติดในนี้ได้อย่างไร พร้อมระบุว่าเกือบทุกเรื่องในเหตุการณ์นี้เป็นเหมือนปริศนาสำหรับเขา

‘จนท.สหรัฐฯ’ ยัน!! มีผู้เสียชีวิตจาก ‘ฝีดาษอะแลสกา’ คาด!! ได้รับเชื้อจาก ‘แมวข่วน’ และอาจเป็นพาหะนำโรค

(14 ก.พ.67) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอะแลสกา ของสหรัฐฯ รายงานว่าพบผู้ป่วยฝีดาษอะแลสกาเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตรายนี้ (ไม่มีการเปิดเผยอายุที่แน่ชัด) ซึ่งมาจากคาบสมุทรคีนาย ทางตอนใต้ของรัฐอะแลสกา ได้รับการรักษาอาการป่วยในโรงพยาบาล หลังจากติดเชื้อฝีดาษอะแลสกา และเขาได้เสียชีวิตช่วงปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่มีรายงานว่าชายสูงอายุผู้นี้มีประวัติระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องอีกด้วย

เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระบุว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ตามลำพังในพื้นที่ป่าและรายงานว่าไม่มีการเดินทางและไม่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับใคร แต่มีรายงานว่า เขาเคยดูแลแมวจรจัดที่บ้านของเขา โดยแมวทดสอบไวรัสเป็นลบ แต่ก่อนหน้านี้แมวข่วนผู้เสียชีวิตบ่อยครั้ง แถลงการณ์ระบุ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่แมวอาจจะมีไวรัสติดอยู่ที่เล็บเมื่อมันข่วนผู้เสียชีวิต โดยพบว่า พบรอยขีดข่วนที่เห็นได้ชัดเจนใกล้บริเวณรักแร้ซึ่งเป็นจุดแรกที่ผู้เสียชีวิตแสดงอาการป่วยด้วย

เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานกรณีการแพร่เชื้อฝีดาษอะแลสกาจากคนสู่คน แต่แนะนำให้ผู้ที่มีอาการทางผิวหนังซึ่งอาจเกิดจากฝีดาษอะแลสกาใช้ผ้าพันแผลปิดบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ทางแพทย์ก็ยังได้แนะนำอีกว่า ประชาชนทุกคนควรล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการใช้เสื้อผ้าที่อาจสัมผัสกับผื่นแผล

‘หนูนิล’ ทำโอปป้า ซุปตาร์เกาหลี ‘คิมซอนโฮ’ ชะงัก มองเหลียวหลัง ขณะเดินเที่ยวในไทย จนกลายเป็น กระแสไวรัล

คิมซอนโฮ เป็นหนึ่งในนักแสดงจากประเทศเกาหลีใต้ที่เป็นขวัญใจมหาชนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จะมาไทยสักกี่ครั้งก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น อยู่เสมอ

ล่าสุด กระแสไวรัลล่าสุดของหนุ่มคิมซอนโฮกำลังถูกพูดถึงอย่างล้นหลาม เมื่อมีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งออกมาแชร์คลิปวิดีโอขณะหนุ่มซอนโฮเดินผ่านร้านค้าของตนเอง แต่แล้วจู่ ๆ หนุ่มซอนโฮก็หันไปมองสาวคนหนึ่งจนเดินกลับมาหาเลยทีเดียว

โดยผู้ใช้ติ๊กต็อก luga1550 ออกมาแชร์คลิปดังกล่าว พร้อมระบุแคปชันว่า “หนูนิลผู้ชนะแคมเปญ #คิมซอนโฮ” ซึ่งภายในคลิปแสดงภาพหนูนิลคนสวยที่เป็นแมวตัวหนึ่งกำลังนั่งเลียขนอยู่ในขณะที่ซอนโฮเดินผ่าน

งานนี้ ความสวยของหนูนิลทำเอาหนุ่มซอนโฮทนไม่ไหว จ้องมองไม่หยุดจนเดินกลับมาหาและลูบตัวไป 1 ครั้งก่อนจะเดินจากไป ถือว่าหนูนิลตกหนุ่มซอนโฮได้อย่างจังเป็นตัวแทนสาวไทยพิชิตใจหนุ่มซอนโฮ

นับตั้งแต่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ก็มีการรับชมมากกว่า 12 ล้านครั้ง แถมหนูนิลคนงามโดนแซวยับ ที่มาของรักแรก รวมถึง “หนูนิล เธอพลาดแล้วววว นั่นคิมซอนโฮนะ” , “หนูนิล เธอจะเชิ่ดใส่คิมซอนโฮ มิได้” , “คนจะรัก อยู่เฉย ๆ เค้าก็รักอะเนาะ” , “สวยขนาดใส่เชิดใส่คิมซอนโฮ อะค่ะ”

อย่างไรก็ตาม เจ้าของโพสต์ได้เข้ามาขอบคุณทุกคนที่เอ็นดูหนูนิล พร้อมเผยว่า น้องเป็นแมวจรที่อยู่ในตลาด ผ่านไปผ่านมาแวะทักทายน้องได้ อาจหยิ่งนิดหน่อยตามหลักของคนสวย ก็อย่าถือกันเลย

เฉลย!! 'สุนัข' ในตุรเคีย 'จ้องมอง-แบ่งอาหาร' ในท่อระบายน้ำ เพราะลูกแมวตัวเล็กอาศัยอยู่ โดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

(25 มี.ค.67) คุณประภาส ชลศรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้โพสต์เรื่องราวน่าประทับใจผ่านเฟซบุ๊ก 'Prapas Cholsaranon' ระบุว่า...

ผู้คนที่มาท่องเที่ยวที่ถนนเฟทิเย่ต์ เมืองอิซมิท ประเทศตุรเคีย เริ่มสงสัยเจ้าแอนนี่สุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่เอาแต่จ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวัน

มันทำอย่างนั้นไปทำไม

ยิ่งมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเจ้าแอนนี่นั่งเฝ้านั่งมองท่อระบายน้ำมาลงโซเชียลมีเดีย ผู้คนก็ยิ่งช่วยกันตั้งข้อสงสัย

คนกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่าหรืออาจเป็นเพราะกลิ่นจากท่อระบายน้ำที่ดึงดูดสุนัข

อีกกลุ่มหนึ่งคิดว่าหรือมันมีสิ่งมีชีวิตอะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวได้ 

อีกกลุ่มก็ค้านว่ามันอาจเป็นแค่แสงวับ ๆ แวมๆที่สะท้อนลงไปผิวน้ำ

พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นหลายคนพยายามก้มมองลงไปในท่อระบายน้ำ แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด

บางคนก็พยายามเงี่ยหูฟังว่ามันจะมีเสียงอะไรให้ได้ยินบ้าง แต่ก็ไม่มีใครได้ยินอะไร

ในที่สุดก็มีคนไปตามตำรวจดับเพลิงมาช่วยเปิดตะแกรงเหล็กฝาท่อระบายน้ำที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากออกดู 

เปิดแล้วเอาไฟฉายส่องลงไปก็ไม่เห็นอะไร

พอเอาฝาท่อมาปิด เจ้าแอนนี่ก็ยังคงนั่งมองท่อระบายน้ำต่อไป

อีกมุมหนึ่งของถนน โซฟีสาวน้อยใจบุญคนหนึ่งที่ชอบเอาอาหารมาเลี้ยงสุนัขจรจัด เธอเห็นรูปของเจ้าแอนนี่ในโซเชียลมีเดีย เธอจำมันได้ว่ามันเป็นสุนัขตัวหนึ่งที่ชอบมากินอาหารที่เธอนำมาให้

คราวนี้เธอจึงเพิ่งสังเกตว่า เจ้าแอนนี่ไม่ได้กินอาหารที่เธอให้จนหมดเหมือนสุนัขตัวอื่น เมื่อเธอให้ชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่งแก่เจ้าแอนนี่ไป เธอจึงได้เห็นว่าเจ้าแอนนี่คาบเอาอาหารเดินหนีออกไปอีกทางหนึ่ง เธอรีบเดินตามเจ้าแอนนี่ไป แน่นอนมันไปที่ท่อระบายน้ำปริศนานั้น

เธอเห็นกับตาว่าเจ้าแอนนี่มันกัดเนื้อที่เธอให้ออกเป็นชิ้น ๆ แล้วทิ้งลงไปในท่อระบายน้ำนั้น

โซฟีรีบโทรหาตำรวจดับเพลิง เธอคิดว่าในท่อระบายน้ำน่าจะมีสัตว์อะไรบางอย่างอยู่แน่ ๆ 

ตำรวจดับเพลิงกลับมาที่บริเวณท่อระบายน้ำอีกครั้ง แล้วก็เปิดฝาท่อระบายน้ำ คราวนี้พวกเขาใช้อุปกรณ์ก้านยาว ๆ ราวสามสี่เมตรผูกกับสมาร์ตโฟนแล้วก็แหย่ลงไปแล้วบิดเข้าในทางขวางของท่อระบายน้ำที่ตามองเข้าไปไม่ถึง แล้วก็ถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ตโฟนไปตลอดเวลาของการแหย่ไม้ลงไป

ในที่สุดทุกคนก็ได้รู้แล้วว่าเจ้าแอนนี่มันจ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวันด้วยเหตุผลอะไร เมื่อตำรวจดับเพลิงนำวิดีโอนั้นมาเปิดดู

ลูกแมวตัวเล็ก ๆ ห้าตัวอาศัยอยู่ในนั้นโดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

ตำรวจรื้อท่อระบายน้ำแล้วนำลูกแมวผอมโซที่หวาดกลัวผู้คนทั้งหมดออกได้

และตอนจบของพฤติกรรมอันน่าสงสัยของเจ้าแอนนี่ครั้งนี้ก็คือ ชาวบ้านและตำรวจต่างช่วยกันแบ่งลูกแมวไปเลี้ยงดู 

‘เพจดัง’ แฉ!! เคสคนพา ‘แมว’ ขอทานตามงานวัด นอนนิ่ง 4 ตัวไม่ขยับ เร่งหน่วยงานช่วยตรวจสอบ

(25 มี.ค. 67) กลายเป็นภาพสุดสะเทือนใจ ขอเหล่าทาสสัตว์ หลังเพจ ‘อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6’ ออกมาแฉเคสขอทานแมว นอนนิ่งเร่ขายกลางงานวัด โดยระบุว่า

“ทาสจะไม่ทน…นอกจากน้องหมาที่ราชบุรีแล้ว ที่กาญจนบุรีก็มีน้องแมวเอาน้องมาหากินใช่ไหมนอนนิ่งเลย ทรมานสัตว์มาก พิกัดวัดพระแท่นดงรัง (กาญจนบุรี)

- โห นิ่งผิดปกติมาก แย่มาก
- พรุ่งนี้มีงานวัดวันสุดท้าย อยากให้มีหน่วยงานรีบเข้าไปดูค่ะ ไม่รู้จบงานแล้วจะพาน้อง ๆ ไปทรมานที่ไหนต่อ เท่าที่เห็นน้ำก็ไม่มีกิน ละอากาศก็ร้อนมากด้วย
- เห็นไปทุกงานวัดค่ะ น่าจะไปมาหลายที่แล้ว เราสงสารน้องแมวมากเลย
- มันเดินสายไปทุกจังหวัดเลยครับที่มีงานใหญ่ ๆ ไอ้เด็กชุดลิเกนี่ แมว 4 ตัวนี้ 3 เดือนที่แล้วพึ่งจะมางานบ้านผม น่าจะทำกันเป็นขบวนการ”

ไม่เพียงแค่นั้น เพจดังกล่าวยังระบุอีกว่า “ใครรู้จักผู้ใหญ่ใจดีก็ช่วยแชร์ส่งต่อไปนะ ทางทีมงานส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นแล้ว”

งานนี้เมื่อแชร์ออกไป ชาวเน็ตต่างแห่กันคอมเมนต์ถกสนั่นถึงการทารุณกรรมสัตว์ พร้อมวอนให้หน่วยงานเร่งตรวจสอบ และลงโทษขบวนการขอทานที่ใช้สัตว์เป็นตัวเรียกความสงสารคนใจบุญ หรือเหล่าทาสสัตว์เลี้ยงอย่างหนัก

‘รปภ.’ สะบัดดินสอหนึ่งแท่งวาดรูป ‘แมวหลง’ เพื่อตามหาเจ้าของ สุดท้ายหาบ้านจนเจอ ทำชาวเน็ตอึ้ง!! ‘สีหน้า-แววตา’ เป๊ะทุกจุด

(30 พ.ค. 67) สื่อต่างประเทศ SOHU รายงานเรื่องราวสุดน่ารักเรียกรอยยิ้มจากโลกโซเชียล เมื่อ ‘รปภ.’ ประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บังเอิญพบ ‘เจ้าเหมียว’ หลุดออกมาเดินเล่น ขณะที่เขากำลังปฏิบัติหน้าที่

ด้วยความเป็นห่วง และคิดว่าเจ้าเหมียวอาจเป็นสัตว์เลี้ยงของลูกบ้านในหมู่บ้าน เจ้าตัวเลยโชว์สกิลเทพ วาดภาพแมวด้วยตัวเอง พร้อมเขียนข้อความประกาศตามหาเจ้าของ และภารกิจพาเจ้าเหมียวกลับบ้านก็เริ่มต้นขึ้น

อย่างที่หลายคนทราบกันว่า การวาดภาพเหมือนเป็นเรื่องที่ยากมากหากทำโดยผู้ที่ไม่มีทักษะ และการใช้มือถือถ่ายภาพคงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า แต่ไม่ใช่กับ รปภ. รายนี้ ที่มี ‘ดินสอเพียงหนึ่งแท่ง’ ก็สามารถช่วยชีวิตเจ้าเหมียวได้

โดย เขาวาด เจ้าเหมียว ที่มีใบหน้ากลม ตาโต สีหน้าเบื่อหน่ายโลก เนื่องจากมีดินสอเพียงแท่งเดียว การลงสีขนจึงทำได้เพียงแรเงาให้คล้ายที่สุดเท่านั้น และมีข้อความเขียนว่า “แมวใครหาย หน้าตาประมาณนี้ สามารถติดต่อรับได้ที่ป้อม รปภ.”

อย่างไรก็ตาม เมื่อภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไปทั่วโลกโซเชียล ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก หลายคอมเมนต์คิดว่า นี่เป็นเพียงมุกตลกที่ทำขึ้นมาเล่น ๆ เท่านั้น

แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อมีเจ้าของมาติดต่อเพื่อขอรับน้องแมวตัวดังกล่าวกลับบ้านจริง ๆ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ติดตามมาจากภาพวาดดังกล่าว

งานนี้ก็ทำเอาชาวเน็ตฮือฮายิ่งไปอีก เมื่อมีการเปิดเผยภาพเจ้าเหมียวตัวจริง เปรียบเทียบ กับภาพวาด เรียกได้ว่า เป๊ะทุกจุด ทั้งสีหน้า แววตา รวมไปถึงสีขน จนแห่ชื่นชมความสามารถในการวาดภาพของ รปภ. รายนี้เลยจริง ๆ

ทั้งนี้ สำหรับความคิดเห็นส่วนหนึ่งจากชาวเน็ต มีดังนี้…
- นึกว่าเป็นรูปที่วาดขึ้นมาขำ ๆ เท่านั้นนะเนี่ย
- พูดจริง ๆ นะ น้องแมวเหมือนการ์ตูนเลย อ้วนกลม หน้าเบื่อโลก

อีกทั้งยังมีชาวเน็ตบางส่วน แชร์ประสบการณ์เคยพบการวาดภาพประกาศตามหาแมวด้วยเช่นกัน และกลายเป็นโมเมนต์น่ารักขำขัน อบอุ่นใจเลยทีเดียว

ไฟไหม้อาคาร 4 ชั้น ย่านดอนเมือง เจ้าเหมียวหนีไม่ทัน ตายเกลื่อน 21 ชีวิต

เมื่อวานนี้ (7 ก.ค. 67) เกิดเหตุไฟไหม้อาคาร 4 ชั้น ย่านดอนเมือง โดยกล้องวงจรปิดได้บันทึกเหตุการณ์ขณะที่ประชาชนกำลังใช้สายยางฉีดน้ำ เพื่อหวังจะดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อาคารสูง 4 ชั้น ในการเคหะดอนเมือง ซอยช่างอากาศอุทิศ 15 เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 22:13 น. 

ต่อมาชาวบ้านเห็นท่าไม่ดี ไฟโหมลุกไหม้หนักขึ้น จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สน.ดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เข้าระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารในการเคหะดอนเมือง สูง 4 ชั้น พบกลุ่มควัน และแสงเพลิงบริเวณด้านหลังชั้น 1 เจ้าหน้าที่เร่งใช้น้ำฉีดประมาณ 10 นาที เพลิงจึงสงบลง จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบผู้ติดค้าง และผู้บาดเจ็บ แต่พบแมวนอนตายเกลื่อนที่ด้านหลังห้องชั้น 1 จำนวน 21 ตัว และยังมีแมวอีก 5 ตัว ที่ลำลักควันไฟ เจ้าหน้าที่จึงให้ออกซิเจนช่วยเหลือ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลสัตว์

สำหรับห้องที่เกิดเหตุนั้น พบมีผู้พักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว เป็นผู้หญิงวัย 56 ปี ระหว่างเกิดเหตุเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในห้องพัก ซึ่งทันทีที่มาถึง หญิงเจ้าของห้องพักมีท่าทีตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร่ำไห้ร้องตะโกน พร้อมเร่งเข้าไปโผกอดแมวที่รอดชีวิต สำหรับศพของแมวทั้ง 21 ตัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำไปไว้ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง

เบื้องต้น ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเชิญตัวเจ้าของห้องพักไปสอบสวน ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หลังจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

กทม. ออกข้อบัญญัติ ฝังไมโครชิป หมา-แมว หวังแก้ปัญหาสัตว์จรจัด

เมื่อวานนี้ (30 ต.ค. 67) นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 4) ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง

นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ... ได้รายงานผลการพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ ของคณะกรรมการวิสามัญฯ เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาในวาระที่สองและวาระที่สาม โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ประกาศใช้เป็นข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้ประชุมครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม 2566 และได้มีการประชุมร่วมกันใช้เวลารวมทั้งสิ้น 20 ครั้ง

หลักการพิจารณานั้น คณะกรรมการวิสามัญฯ พิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ..... เริ่มจากชื่อร่าง หลักการ เหตุผล คําปรารภ และตัวร่างข้อบัญญัติเรียงตามลำดับจนจบ โดยอาศัยคำชี้แจงของข้าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นกรรมการวิสามัญ ผู้เทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ ประกอบกับได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนผ่านระบบกลางทางกฎหมาย (http://www.law.go.th) และแอปพลิเคชัน Google Forms รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นเป็นหนังสือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ได้ความเห็นว่าสมควรกำหนดเขตควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ เพื่อประโยชน์ในการรักษาสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของประชาชน ป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคที่เกิดจากสัตว์และเหตุเดือดร้อนรำคาญในกรุงเทพมหานคร ตลอดจนกำหนดมาตรการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องตราเป็นข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการสาธารณสุข (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 ประกอบกับมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2538 

นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า ร้านอาหารบางร้านเลี้ยงสุนัขจำนวนมากและมีการถ่ายมูลภายในร้าน จนมีกลิ่นเหม็นและส่งผลกระทบด้านมลภาวะไปถึงเพื่อนบ้าน จนมีการร้องเรียนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จนต้องร้องเรียนไปถึงสื่อมวลชน ซึ่งการร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมสัตว์เลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ฯ ครั้งนี้ มีข้อกำหนดเพิ่มเติมเรื่องของพื้นที่บ้าน (ตร.วา/ตร.ม.) ต่อการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง 1 ตัว ในแต่ละประเภทสัตว์ และในปัจจุบันมีบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน หรือมีวิธีแก้ไขปัญหาสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเกินจำนวนและไม่สามารถดูแลสัตว์ได้ทั่วถึงหรือไม่อย่างไร

ด้านนายณรงค์ รัสมี ส.ก.เขตหนองจอก ตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดพื้นที่(ตร.วา/ตร.ม.) ต่อจำนวนสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภทบางครั้งอาจเป็นข้อจำกัดและเป็นการริดรอนสิทธิสัตว์หรือไม่อย่างไร เพราะบางครั้งสัตว์ต้องอยู่เป็นคู่หรือต้องมีการผสมพันธุ์สัตว์

นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานกรรมการวิสามัญฯ ชี้แจงว่า คณะกรรมการวิสามัญชุดนี้ได้พิจารณา มาอย่างถี่ถ้วนผ่านประชาพิจารณ์จากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากพระราชบัญญัติฉบับนี้ประกาศใช้ ผู้เลี้ยงสัตว์ต้องมีการจดแจ้งจำนวนสัตว์เลี้ยง แต่จะไม่มีบทลงโทษย้อนหลังหากสัตว์ที่เลี้ยงอยู่เดิมเกินจำนวน หลังจากที่ข้อบัญญัติประกาศออกไป แต่จะมีผลหลังจาก ประกาศแล้ว 360 วัน หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 หมวดที่ 8 ข้อ 34 และจะมีการใช้ข้อบังคับให้สุนัขและแมวต้องมีการฝังไมโครชิป เพื่อให้ทราบเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแลรับผิดชอบอีกด้วย ซึ่งจะลดและแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น รวมถึงสำนักอนามัยมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์จรจัดในแต่ละพื้นที่เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด และในส่วนของสุนัขที่มีความดุร้ายสร้างความเดือดร้อน หน่วยงานของกรุงเทพมหานครจะนำไปไว้ที่ศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัขกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประเวศ ส่วนกรณีที่ต้องการเลี้ยงเป็นคู่เพื่อผสมพันธุ์สัตว์หรือประกอบธุรกิจนั้น สามารถขออนุญาตเพิ่มเติมได้ตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข

“ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ...  ขอขอบคุณสมาชิกสภากรุงเทพมหานครทุกท่าน เมื่อข้อบัญญัติฯ นี้ได้ประกาศใช้ จะสามารถแก้ไขปัญหาสัตว์เลี้ยง สัตว์จรจัด สัตว์ดุร้ายที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญในกรุงเทพมหานครได้ เพื่อทำให้กรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยกับประชาชน” นายนภาพล กล่าวทิ้งท้าย 

ทั้งนี้ ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ...  คณะกรรมการวิสามัญฯ พิจารณาแล้วมีการแก้ไขในข้อต่างๆ จากข้อบัญญัติเดิมเพื่อให้สอดคล้องเหมาะสมกับปัจจุบัน และสภากรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบให้ประกาศใช้ร่างข้อบัญญัติฯ ดังกล่าว และจะส่งให้ฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานครพิจารณาดำเนินการต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top