Monday, 21 April 2025
เวสป้า

‘เวสป้า’ ถูกค่ายดังฟ้อง 12 ล้าน หลังร้องเพลงที่ตัวเองแต่ง ลั่น!! ขอสู้เต็มที่ เหลือแค่เอาชีวิตไปเท่านั้นถึงจะหยุดร้องได้

เมื่อวานนี้ (4 ก.ค. 66) เวสป้า อิทธิพล เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา นักแต่งเพลงชื่อดัง ร้องเข้ามาที่เพจโหนกระแส หลังถูกค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ฟ้องคดีละเมิดลิขสิทธิ์ จากการร้องเพลงที่ตนเองแต่งตามงานต่างๆ โดยเจ้าตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมกับตนและกับนักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง ที่ไม่สามารถร้องเพลงที่ตัวเองแต่งได้

เจ้าตัวบอกว่า ถูกฟ้องเรียกเงิน 12 ล้าน ซึ่งเท่าที่ตามเจอพบว่าถูกฟ้องไว้ 3 คดี แต่คาดว่าน่าจะมีอีกหลายสิบคดี ในหลากหลายพื้นที่ ตามแต่ว่าไปเล่นที่ไหน ซึ่งเวสป้าลั่นวาจาว่า ตนจะไม่หยุดร้องเพลงของตัวเอง มีแค่เอาชีวิตของตนไปเท่านั้นถึงจะหยุดได้ ยืนยันว่าจะสู้เต็มที่ หากตนแพ้คดี ตนยินดีจะจ่ายค่าเสียหายเต็มจำนวน

ที่ผ่านมา นักแต่งเพลงมากมาย ไม่เคยได้รับเงินส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะถูกนำไปแสดงสด หรือส่วนแบ่งจากสตรีมมิงใดๆ ไม่เคยได้ส่วนแบ่งจากสิทธิ์เหล่านี้ นักแต่งเพลงจำนวนมากต้องเดือดร้อน ยากจน ไม่มีเงิน หลายคนตายไปแบบไม่มีเงินซื้อโลงศพด้วยซ้ำ ตนยืนยันว่าการออกมาสู้ครั้งนี้ หวังให้เป็นคดีประวัติศาสตร์ เพื่ออาชีพนักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง

สำหรับ เวสป้า เป็นเจ้าของเพลงสุดฮิต และเขียนเพลงดังเอาไว้มากมาย อาทิ 100เหตุผล, เป็นชู้ไม่รู้ตัว, ไม่อาจเปลี่ยนใจ, โลกทั้งใบให้นายคนเดียว, เจ็บแปลบ ฯลฯ

‘เวสป้า’ แถลงปมถูกอดีตต้นสังกัดฟ้อง 12 ลบ. หลังฟ้องเรียกค่าลิขสิทธิ์แต่งเพลง 18 เพลง 5 ลบ.

ก่อนหน้านี้ ที่นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง ‘เวสป้า วงสเตอ’ หรือ ‘อิทธิพล เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา’ ออกมาไลฟ์เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนถูกอดีตต้นสังกัดฟ้อง 12 ล้าน เหตุละเมิดลิขสิทธิ์เพลงที่ตัวเองแต่ง โดยเป็นเจ้าของผลงานเพลงดังอย่าง ร้อยเหตุผล, ไม่อาจเปลี่ยนใจ, ทุกวินาที, โลกทั้งใบให้นายคนเดียว, เจ็บแปลบ และอีกมากมาย

ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ค. 66) เวสป้า พร้อมด้วยทีมทนาย ได้ตั้งโต๊ะแถลงปมถูกอดีตต้นสังกัดฟ้องร้อง ว่า "ผมเขียนเพลงให้กับทุกค่าย ประมาณ 500 เพลง ตั้งแต่อายุ 12 ไม่เคยเซ็นสัญญาที่เป็นขายขาดกับใคร 

ศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงาน จะมีกฎหมายสร้างสรรค์และคุ้มครองสิทธิ์ให้กับศิลปินตามมาตรา15 ศิลปินเพลงจะมีสิทธิ์อยู่ 50 สิทธิ์ที่ 1. คือมีสิทธิ์ทำซ้ำ ดัดแปลง สิทธิ์ที่ 2. คือ สิทธิ์เผยแพร่ต่อสาธารณะชน สิทธิ์ที่ 3. คือให้เช่าต้นฉบับสำเนา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เราจะเห็นว่าหลัง ๆ บางค่ายซื้อเอ็มวีของบางค่ายไปเปิด พอหมดสัญญาก็จบกัน สิทธิ์ที่ 4. ก็คือลิขสิทธิ์ก็เป็นต่อของผู้อื่น สิทธิ์ที่ 5.ก็เป็นสิทธิ์อนุญาตตามข้อ 123

ผมจะให้ดูสัญญาเพลงที่แท้จริง ที่คนสงสัยว่าผมเซ็นอะไร กับทางบริษัท จริง ๆ ไม่ใช่บริษัทเดียว แต่ทุกบริษัทก็เป็นแบบนี้ สัญญายุคนั้นจะมีแค่หน้าเดียวเท่านั้น ดูว่าเอกสารนี้ทำขึ้นโดยบริษัทอาร์เอส กับผม อิทธิพล เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา มาดูที่ว่ามีเพลงอะไรบ้าง คือนี้ผมเซ็นสองเพลงคือ ด้วยไอรัก กับ ไม่อาจเปลี่ยนใจ ผมไม่เคยขายลิขสิทธิ์ขาดนะครับ ผมย้ำอีกครั้งนึง เรามาดูข้อที่สองก่อนนะครับผู้ขาย ตกลงขายลิขสิทธิ์เนื้อร้อง ดังกล่าวตามข้อหนึ่ง อัตราเพลงละ 5,000 บาท

ข้อที่สองคือการซื้อขายนี้ ผู้ซื้อมีสิทธิ์จะนำ เนื้อร้องทำนองดังกล่าวไปผลิตเป็นแผ่นเสียง และนำไปทำโสตทัศนวัสดุ ขึ้นมาจำหน่ายในนามของผู้ซื้อเอง และข้อ 4 คือนำสัญญาว่าจ้าง จะไม่นำสิทธิ์เนื้อลองนี้ไปขายใครอีก ถ้าผิดสัญญาผมก็ต้องเสีย 100,000 บาท 

เห็นไหมว่าลิขสิทธิ์ที่ผมเปิดให้ดู 5 สิทธิ์บริษัทได้จากผมไปแค่ 2 สิทธิ์ดัดแปลง คือสิทธิ์ทำซ้ำดัดแปลง โสตทัศนวัสดุ เพื่อออกจำหน่ายเท่านั้นและมิหนำซ้ำนะครับ ยังมีข้อตกลงตอนท้ายอีกว่าหากผู้ซื้อซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เนื้อร้องตามสัญญานี้นำเพลงหนึ่งเพลงใดไปให้คนอื่นร้อง เพื่อไปบันทึกเสียงโสตทัศนวัสดุ จะยินยอมตอบแทนให้แก่อีกเป็นจำนวนครั้งละ 5,000 บาท แต่ผู้ขายมีหน้าที่มารับค่าตอบแทนด้วยตัวเอง นั่นหมายความว่าถ้าผมไม่ไปรับด้วยตัวเองก็จะไม่ได้ แล้วก็มีลายเซ็นถูกต้อง จะเห็นได้ว่าอีก 3 สิทธิ ยังอยู่กับผม

เราถูกละเมิดการจัดเก็บลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ผับบาร์ คาราโอเกะ ห้องอาหาร สตรีมมิ่ง ผมจะบอกว่าสตรีมมิ่งจะกันค่าลิขสิทธิ์เอาไว้ ที่บอกให้รู้ ผมเป็นกรรมการบริษัทเอ็มซีที ลิขสิทธิ์ดนตรีแห่งประเทศไทยมาหลายสมัยด้วยการเลือกตั้ง

ผมอยากโดนฟ้อง เพราะปกติค่ายเพลงจะฟ้องคนที่ร้อง แต่ผมเขียนเพลงด้วย ผมโดนฟ้อง เพราะผมฟ้องเขาก่อน เรารวมตัวกัน 30 กว่าคน เราพยายามยื่นเรื่องไปที่ต่าง ๆ กรมทรัพย์สินทางปัญญา

โดน 12 ล้าน จากต้นสังกัด 3 คดี คืองานไหลที่ชลบุรี งานนั้นร้อง 10 กว่าเพลง ถ้าจำไม่ผิดโดนปรับเพลงละ 4 แสน ละมีไปร้องที่ปลาทูแช็ก เขาลงคลิปเต็มในยูทูบ อันนี้โดนไป 2 กรณี ร้องที่ร้านด้วย และไปเผยแพร่ และอีกคดีไม่แน่ใจ 

สัญญาเพลงเหมือนกันแต่ละปี ไม่เคยเหมือนกันเลย ในยุคที่อยู่อาร์เอส ไม่มีสิทธิ์เผยแพร่ แต่ยุคที่อยู่อาร์สยาม มีระบุว่ามีสิทธิ์เผยแพร่ สัญญาในแต่ละปีค่ายเพลงก็จะปรับตัว จากหน้าเดียวก็จะเป็นสองหน้า สามหน้าเพื่อให้มีการรัดกุมมากขึ้น เพราะว่ามันก็จะมีการฟ้องกันของครูเพลงต่าง ๆ พอบางคดีแพ้เขาก็จะมีการปรับขึ้นมา เราไม่ได้คู่สัญญานะ หลาย ๆ ค่ายที่เราไปเซ็น ไม่ได้คู่สัญญาเลย เขาจะเก็บเป็นฝ่ายเดียว แต่บังเอิญว่าผมไปแอบถ่ายเอาไว้ ผมเลยมีสัญญา 

ความคืบหน้าคดีที่เป็นของตัวเอง จะเป็นเดือนกันยายน ฟ้องเขา เรืองละเมิดสิทธิ์เผยแพร่ต่อสาธารณะชน 18 เพลง คือทนายเราก็เก่ง ไม่ต้องฟ้องทั้งหมด เพราะงานผมมีกว่า 200 กว่างาน จะได้ขึ้นความกันง่ายหน่อย พยานต่าง ๆ ก็จะขึ้นกัน ก็จบเร็วหน่อย คือถ้าผมหลุดก็หมายความว่าพี่น้องเราหลุด เรียกค่าเสียหาย 18 เพลง 5 ล้านบาท นี่เป็นเหตุผลให้เขาฟ้องกลับ

ถามว่ามีไกล่เกลี่ยกันบ้างหรือยัง ตอนนี้ก็มีพี่ชายคนนึง เป็นคนกลางได้ติดต่อมาแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกันจริงจัง คำว่าเรียกร้องอยากได้ส่วนแบ่ง ไม่ใช่สักทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่เราควรได้ ค่ายเพลงละเมิดนักแต่งเพลง แต่เราไม่เคยรู้ จนมีคนที่เก่ง ๆ มาชี้ทาง เพราะเราไม่ได้เซ็นขายขาด เรารู้ว่าเราได้ด้วยกัน เราได้มาตลอดตั้งแต่เทปซีดี พอเป็นดิจิทัลทำไมเราไม่ได้ 

ถามว่าที่ฟ้องมีโอกาสชนะยังไง มันเป็นของผมแน่นอน รอให้ศาลตัดสิน ผมยินดีเจรจาพูดคุย แต่ให้พี่น้องผมทุกคนยอมรับได้ ผมไม่ขอเอาตัวรอดคนเดียว ผมอยากให้มีผู้ใหญ่รับรอง"

ด้านทนาย เผยว่า "ทีมกฎหมายมองว่าเขามีสิทธิ์มากกว่านั้น เวลาศาลท่านพิจารณาหรือพิพากษาคดี ไม่ได้มองที่หัวสัญญา ว่าสัญญานี้ขายสิทธิ์ขาด หรือเป็นแบบไหน ถ้าจะต้องพิจารณาถึงเจตนารมณ์ คู่สัญญาว่ามีประสงค์อย่างไร ที่เราดูจากข้อเท็จจริง มันไม่ได้เป็นการขายสิทธิ์ขาด ไม่ได้เป็นการโอนสิทธิ์ไปทั้งหมด

จริง ๆ สิทธิ์เขามีมากกว่านั้น ส่วนประเด็นที่สองในฐานะนักกฎหมาย ลิขสิทธิ์เจตนาของเขาคุ้มครอง ศิลปิน สร้างสรรค์ แต่วันนี้ทุกท่านจะเห็นเลยว่า ศิลปิน กลับถูกเอากฎหมายที่คุ้มครองเขา มาทำร้ายตัวเขาเอง นักกฎหมายไม่ได้ต่างกับศิลปิน ศิลปินผมคุยกับพี่ครั้งแรก พี่เวสป้าบอกว่า เพลงมันเหมือนเป็นเหมือนลูกพี่ แต่วันนี้พี่ถูกลูกพี่มาทำร้ายเอง นักกฎหมายก็เช่นกันกฎหมายมีเจตนาคุ้มครอง ความยุติธรรมแต่วันนี้สิงหาโดนเราใช้กฎหมายไม่ได้มันเกิดอะไรขึ้นในประเทศนี้"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top