‘ลุงป้อม’ ร่วมประชุม 2 คณะ ลุยเดินหน้าแก้ภาวะโลกร้อนทุกมิติ พร้อมผลักดัน ‘เมืองศรีเทพ’ สู่มรดกโลก เพื่อฟื้นฟูท่องเที่ยว-ศก.
(10 ส.ค. 66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม 2 คณะ ต่อเนื่องกัน ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (กนภ.) และคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดยมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเข้าร่วมประชุม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
การประชุม กนภ. ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้า การจัดทำแผนปฎิบัติการลดก๊าซเรือนกระจก ของประเทศ ตามเป้าหมายการมีส่วนร่วม (NDC) ซึ่งจะมีการใช้เทคโนโลยีการดักจับ และการกักเก็บคาร์บอน โดยเร่งผลักดันโครงการนำร่องที่แหล่งก๊าซธรรมชาติอาทิตย์ (Arthit CCS) ที่มีศักยภาพกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 0.7-1ล้านตัน คาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และได้มีการพิจารณาเห็นชอบร่างความตกลงการจัดตั้งศูนย์อาเซียน ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาเซียน (ACCC) ซึ่งจะมีการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียน ครั้งที่ 17 ห้วง 22-24 ส.ค.66 ณ สปป.ลาว และเห็นชอบให้ไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิก Climate Club เพื่อเป็นเวทีระหว่างรัฐบาลสำหรับแลกเปลี่ยนนโยบายแนวปฏิบัติการดำเนินงานและองค์ความรู้ เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยเริ่มจากภาคอุตสาหกรรม และจะมีการเปิดตัวในการประชุม COP 28 ที่เมืองดูไบต่อไป ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้คณะกรรมการฯ มีการติดตาม และรายงานการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ประชุมต่อเนื่อง คณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดยรับทราบความคืบหน้าการนำเสนอ ‘อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท’ จ.อุดรธานี เป็นแหล่งมรดกโลก ซึ่งจะได้มีการพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ในปี 2567 ต่อไป จากนั้นได้มีการพิจารณาเห็นชอบ กำหนดท่าทีของไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ที่จะมีขึ้น ห้วง 10-25 ก.ย.66 ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งจะมีการพิจารณา ‘เมืองโบราณศรีเทพ’ จ.เพชรบูรณ์ ให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของไทย (แหล่งที่4) และไทยจะมีแหล่งมรดกโลกเพิ่มขึ้นเป็นแหล่งที่ 7 ด้วย
พล.อ.ประวิตร ได้ขอบคุณ คณะกรรมการฯ, คณะทำงานฯ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันผลักดัน ‘เมืองโบราณศรีเทพ’ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และมีความคืบหน้าอย่างน่าพอใจ ถือเป็นผลงานที่สำคัญและมีคุณค่ายิ่งต่อประเทศชาติและคนไทย เพราะจะสร้างความภาคภูมิใจ ความรักและความหวงแหนต่อแหล่งดังกล่าว ให้กับท้องถิ่น รวมทั้งเป็นที่รู้จักและสนใจในฐานะแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวของประเทศ ที่จะได้รับการยกย่องและ สร้างแรงจูงใจในการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชนและประเทศชาติได้ต่อไป
