Monday, 21 April 2025
เมา

อดีตผู้สมัคร สส.ก้าวไกล โพสต์ทวิตฯ ขอโทษล่วงละเมิดสาว ล่าสุดลบโพสต์ แต่ชาวเน็ตแคปทัน ด้านเหยื่อเล่าเหตุเกิดตอนเมา

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์ เมื่อนายเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล จ.ชัยภูมิ โพสต์ทวิตเตอร์ข้อความขอโทษ ผู้หญิง ที่ตัวเองล่วงละเมิดทางเพศไป โดยระบุว่า ในวันที่ 27 / 06 / 2566 ตนได้ละเลยความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง และได้ละเมิดหลักการเรื่อง consent จนทำลายความเชื่อใจ และหวังดีของเธอ ซึ่งการกระทำนี้ ไม่ควรค่าแก่การให้อภัยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นการกระทำร้ายแรงต่อจิตใจของเธอ

ผมขอสัญญาไว้กับเกียรติอันน้อยนิดที่ยังหลงเหลืออยู่ว่า จะไม่มีการละเมิดหลักการอันเป็นที่ยึดมั่นนี้อีก และจะไม่ทำลายความเชื่อมั่นและความหวังดีของใครอีกต่อไป แม้การกระทำครั้งนี้จะไม่มีการให้อภัยใด ๆ แต่ผมจะตอบแทนผู้คนด้วยการรับใช้ซึ่งอุดมการณ์นี้อย่างสุดหัวจิตหัวใจตลอดไป

โดยเพียงหวังว่าจะเธอจะให้อภัยในการกระทำที่ไม่น่าให้อภัยนี้ และเผชิญหน้าอย่างถูกต้องผมได้แต่เฝ้าหวังและรอการให้อภัยจากเธอและเหตุครั้งนี้จะตอกย้ำทุกการกระทำของผมต่อจากนี้อย่างรอบคอบทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้ ได้เกิดขึ้นอีก

และการกระทำแบบนี้ยังทำลายซึ่งหลักการที่เรายึดมั่นเสมอมา ผมผู้ที่ไม่ควรให้อภัยอย่างยิ่งนั้นยังไม่รู้สำนึกถึงโอกาสที่มอบให้ยังทำลายโอกาสนั้นต่อเรื่อยมา จนทำให้เรื่องนี้เดือดร้อนถึงบุคคลอื่นที่หวังดีและเชื่อมั่นในตัวผม ผมได้เดินทางไปขอโทษเธอจากใจจริง

หลังจากเจ้าตัวโพสต์เรื่องราวดังกล่าว เจ้าตัวทำการลบและปิดทวิตเตอร์หนี ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างพร้อมใจขอความชัดเจน รวมให้ทางพรรคต้นสังกัดชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นมาจาก ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ “พิมxx” ที่วันนี้ได้แชร์โพสต์ของนายเกรียงไกร ที่ได้โพสต์ขอโทษเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพิม ระบุว่า ได้เห็นคำขอโทษที่พิมรอกันบางส่วน และเห็นว่ามีเพื่อน ๆ ที่เคียงข้างพิมอยู่ ทำให้พิมรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณมากค่ะ ถึงแม้ว่าตอนนี้คำขอโทษเหล่านั้นจะเข้าถึงไม่ได้แล้ว อาจเกิดจากเขาต้องการปิดบัญชีไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม พิมอยากเก็บถ้อยคำเหล่านี้ไว้เพื่อเป็นประจักษ์ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง

พิม ยังทวิตข้อความอีกว่า มีความคิดเห็นว่า คำขอโทษนี้ไม่ได้ระบุความผิดที่ทำ และอาจยังไม่เข้าใจว่าผิดอะไร พิมเห็นด้วยค่ะ และพิมคงคาดหวังสิ่งนี้กับคนที่พิมรอคำขอโทษถึง 2 เดือนไม่ได้ รวมถึงมีคำถามว่าจะมีการลงขอโทษอีกครั้งไหม พิมยังไม่สามารถให้คำตอบได้เช่นกัน พิมยังอยู่ในความฉงนใจจากการหายไปของสิ่งที่พิมรอ

ขณะเดียวกันหากย้อนไปเมื่อ 2 วันก่อน พิมได้ทวิตข้อความว่า พิมได้รับการขอโทษ โดยมีพยานจากผู้กระทำเบื้องต้นแล้วเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมนะคะ ขอบคุณความห่วงใยจากทุกท่าน เคยได้ยินสำนวนว่า หมอตายเพราะงู ก็ไม่นึกเลยค่ะ ว่าคนทำเหล้าจะโดนล่วงละเมิดตอนเมาเพราะเหล้า

นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม หลังเกิดเหตุการณ์ถูกล่วงละเมิดทางเพศเกือบ 2 เดือน พิมได้ทวิตข้อความว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กับพิมในเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมานะคะ ขออภัยที่ทำหน้าที่บกพร่องในการเป็นโฆษกxxx เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถสื่อสารเรื่องอื่นได้เต็มที่หากยังไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม พิมได้ให้เวลาและโอกาสกับคู่กรณี และยังเฝ้ารอความรับผิดชอบอยู่ค่ะ

ใหญ่แค่ไหน ก็เด้งได้!! ประธานบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นโดนไล่ออก โทษฐาน 'ไล่กอดสาว' หลังเมาแอ๋ในงานเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัท

‘ญี่ปุ่น’ เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับธรรมเนียม มารยาท และ การวางตัวที่เหมาะสมในสังคมมาก เพราะบุคลากรทุกระดับ ถือเป็นภาพลักษณ์ขององค์กร 

ยิ่งอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ยิ่งต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก ต้องทำตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่พนักงานระดับล่างขององค์กร มิฉะนั้นแล้ว จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ที่ไม่จบแค่โดนติฉินนินทา แต่มีสิทธิ์ถูกปลดจากตำแหน่งฟ้าผ่า แบบไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอีกเลย 

เช่นเดียวกับกรณีของ นายไซโต้ ทาเคชิ ประธานใหญ่บริษัท ENEOS บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของญี่ปุ่น วันนี้ถูกปลดจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อย ด้วยสาเหตุแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อหน้าธารกำนัลในบริษัท 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในงานเลี้ยงสังสรรค์ภายในบริษัท ที่นอกเหนือจากไซโต้ ทาเคชิ ในตำแหน่งประธานใหญ่ ก็ยังมีรองประธานอีก 2 คน คือ นายยาตาเบะ ยาสุชิ และ นายซุนากะ โคทาโร่ ร่วมในงานเลี้ยงด้วย 

หลังจากจบงานเลี้ยงไปไม่นาน ก็มีจดหมายร้องเรียนจากคนในบริษัทถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของประธานใหญ่ ไซโต้ ทาเคชิ ที่ดื่มเหล้าจนเมาหนักในงาน จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และไล่กอดหญิงสาวอย่างรุ่มร่ามในงานเลี้ยง 

เมื่อมีข้อครหา ทาง ENEOS ก็ไม่นิ่งนอนใจ ได้ส่งทีมทนายจากภายนอกเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่า ไซโต้ ทาเคชิ ทำผิดจริงตามข้อกล่าวหา ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงที่ไม่อาจรับได้ จนนำไปสู่การสั่งปลดประธานใหญ่ของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในวันนี้ และยังตัดเงินบำเหน็จบางส่วนของเขาด้วย 

ส่วนรองประธานอีก 2 คนที่อยู่ในงานเลี้ยงเดียวกันอย่าง ซุนากะ โคทาโร่ ถูกตัดเงินเดือน และ ยาตาเบะ ยาสุชิ ขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกเช่นกัน

ไซโต้ ทาเคชิ ประธานบริษัทที่อื้อฉาวคนล่าสุดของ ENEOS เข้าทำงานในบริษัทมานานตั้งแต่ปี 1986 จนสามารถเลื่อนขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทได้ในปี 2022 ซึ่งเขาได้เข้ามาแทนอดีตประธานบริษัทคนก่อนหน้าที่ต้องลาออกไปเพราะช่าวอื้อฉาวเช่นกัน 

สำหรับ ENEOS เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมญี่ปุ่นอย่างหนักจากข่าวการคุกคามทางเพศ และทำร้ายร่างกายสาวบาร์แห่งหนึ่งในจังหวัดโอกินาวา ของนาย สุกิโมริ ทสึโตมุ อดีต CEO ของบริษัทเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จนถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบมาก่อน 

นั่นจึงทำให้ ENEOS กลายเป็นบริษัทที่มีข่าวอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับการคุกคามทางเพศของผู้บริหารระดับสูงสุดถึง 2 ปีติดต่อกัน และทำให้บริษัทต้องส่งตัวแทนผู้บริหารออกมากล่าวขอโทษสังคมผ่านสื่อมวลชน และให้คำมั่นสัญญาในการปรับปรุงกฎ ระเบียบ ธรรมาภิบาลภายในองค์กรเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก 

ส่วนตำแหน่งประธานบริษัทที่ว่างอยู่ในขณะนี้ มีการแต่งตั้งให้ นายมิยาตะ โทโมฮิเดะ รองประธานฝ่ายบริหารรักษาการณ์ชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะมีการประชุมภายในเพื่อคัดเลือกทีมผู้บริหารคนใหม่ในวันที่ 1 เมษายนปีหน้า 

จากกรณีของ ENEOS ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าสังคมญี่ปุ่นจริงจังกับมาตรฐานจริยธรรมของผู้บริหารมาก และลงดาบให้เห็นจริง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน ซึ่งมีส่วนช่วยในการจัดระเบียบสังคมของชาวญี่ปุ่น ให้เป็นที่ชื่นชม และน่าเอาเป็นแบบอย่างในบ้านเราบ้าง

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top