Friday, 18 April 2025
เด็กไทย

‘เพจดัง’ แจง!! ปมต่างชาติโจมตีเรื่องใช้ ‘แรงงานเด็กทอผ้า’ ชี้!! เป็นการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ในเวลาหลังเลิกเรียน

เมื่อไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก ‘ผ้าทอมือหมักโคลนบัวแดงชายคิม’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอหัวข้อ 
‘โดนต่างชาติโจมตีเรื่องการใช้แรงงานเด็ก​ เราจะอธิบายอย่างไรดี?’ โดยระบุว่า…

ตอนนี้เราอยู่กับ ‘น้องแก้ม’ ซึ่งหลายต่อหลายคนต่างคอมเมนต์เข้ามาว่าทําไมถึงให้น้องทํางานหนัก หรือทำไมถึงต้องใช้แรงงานเด็ก…โดยขอเรียนแจ้งแบบนี้ อันนี้คือเป็นเวลาว่างหลังจากเลิกเรียนและเลิกเล่นแล้ว ซึ่งเป็นการจัดการเวลาของน้องเองเพื่อให้เป็นการสืบสานภูมิปัญญาไปด้วย ซึ่งเด็กสมัยนี้ถ้าอายุ 13 ขวบ เขาจะเล่นมือถือเป็นส่วนใหญ่ในประเทศไทยของเรา และการมีกิจกรรมที่เป็นการสืบสานทางภูมิปัญญาแบบนี้มาให้ทุกท่านได้เห็นกัน ซึ่งปกติเขาก็จะไม่ถ่ายทำลงในโซเชียล แต่เราอยากให้มองในเรื่องของการเรียนรู้ อยากให้มองถึงเรื่องการสืบสานการทอผ้าไว้ให้ลูกหลานหรือคนไทยทั่วประเทศได้รับชมกัน

ถ้าหากเราไม่ได้หัดหรือไม่ได้ฝึกกันไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ แบบนี้ เขาก็คงไม่มาทำให้เรา ถ้าหากจะให้เขาเรียนจบมาแล้วค่อยมาทํา เขาก็จะไปทํางานตามโรงงาน ตามโรงแรม ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นเงินเดือน หรือเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ ณ ที่นี่ เราอยากให้เห็นว่าทํางานอยู่ที่บ้านมันก็สามารถที่จะสร้างรายได้ให้กับตัวเขาเอง และก็จะเป็นการปลูกฝังให้เขาได้ทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องห่างไกลจากครอบครัว นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเขาเองได้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราจะสอนและปลูกฝังไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ แบบนี้

อย่างไรก็ตาม ฝากเป็นกําลังใจให้พวกเราด้วย เพราะตอนนี้โดนโจมตีค่อนข้างเยอะเหมือนกัน  เพราะมีชาวต่างชาติเข้ามาโจมตีในเรื่องของการใช้แรงงานเด็ก แต่ถ้าคนไทยด้วยกัน เราก็จะรู้ว่าเราทําเพื่ออะไร

พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า เราไม่ได้บังคับ ให้ทํางานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแบบนั้นก็คงจะไม่ใช่

ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปต่างมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น อาทิ…

- โบราณว่า ‘ไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก’ การจะฝึกฝนอะไรก็ต้องฝึกฝนตั้งแต่ที่สมองสามารถรับรู้ได้เต็มที่ จึงมีเด็กในวัยอ่อนตั้งแต่ 2-3 ขวบขึ้นไปหลายคน มีทักษะที่น่าทึ่งหลาย ๆ อย่าง ที่บางครั้งผู้ใหญ่อย่างเราเองก็ยังทำไม่ได้ในช่วงวัยเดียวกัน ซึ่งมันก็เป็นทักษะพื้นฐานที่ดีที่คนจะต้องเรียนรู้ตั้งแต่ยังเด็ก ๆ จึงจะทำให้พลเมืองเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพค่ะ จากเรื่องราวนี้จะเห็นว่าน้องมีความสามารถในการทำกิจกรรมและสืบทอดภูมิปัญญาของท้องถิ่น รักษาศิลปะวัฒนธรรมของชาติได้อย่างดีทีเดียวค่ะ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากกว่า อะไรที่เป็น ๆ เรื่องดีงามเราก็ต้องส่งเสริม

- เป็นงานหัตถกรรมที่เกิดความคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก เป็นรากเหง้าของคนในท้องถิ่น ที่คนไม่ได้เกิดที่นี่จะไม่เข้าใจในวัฒนธรรมตะวันออก และไม่ควรวิจารณ์แบบผิด ๆ

- ถูกค่ะ เราต้องปลูกฝังต้นกล้าน้อย ๆ เพื่อสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเอาไว้ค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะมีเด็กสนใจเลย เก่งมากลูกสาว 

‘นักเรียนไทย’ เจ๋ง!! คว้า 4 เหรียญรางวัล เวทีชีววิทยาโอลิมปิก ประเทศคาซัคสถาน

(15 ก.ค.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Prasit Futrakul’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

นักเรียนไทยสร้างชื่ออีกแล้ว....!!!

นักเรียนไทยสร้างชื่อให้ประเทศไทยในวงวิชาการระดับโลกอีกครั้ง เมื่อสามารถคว้า 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง เวทีชีววิทยาโอลิมปิกจากคาซัคสถาน ได้แก่…

- นายฆฤต โชติวรรณพร โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เหรียญทอง
- นายศุภกร เล่งเวหาสถิตย์ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม เหรียญเงิน
- นายศรัณย์ อยู่ร่วมใจ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม เหรียญเงิน
- นายชญาณ์ชนญ์ เจียมเวชวิทยาภร โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง เหรียญทองแดง

‘Team Falcons’ ผงาดคว้าแชมป์โลก Free Fire รับ!! 10.8 ล้านบาท ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

เมื่อวานนี้ (16 ก.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘หัวตารางบอลไทย’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

“การแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต เกม Free Fire รายการชิงแชมป์โลก Esports World Cup 2024 ที่เมืองริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นการแข่งขันในรอบแกรนด์ไฟนอลส์

ผลปรากฏว่า ‘Team Falcons’ ตัวแทนจากประเทศไทย สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยม ผงาดคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ ทำไป 106 คะแนน จากการเล่นทั้งหมด 6 รอบ ในรอบแกรนด์ไฟนอลส์

ส่งผลให้คว้าอันดับ 1 ไปครอง พร้อมกับคว้าเงินรางวัล 300,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 10.8 ล้านบาท

ส่วนอันดับสองเป็น EVOS จากอินโดนีเซีย ทำได้ 96 คะแนน และอันดับสาม Miners.gg จากบราซิล ทำไป 90 คะแนน

ทั้งนี้ ในขณะที่ผลงานอีก 3 ทีมตัวแทนจากประเทศไทย Buriram United Esports คว้าอันดับ 4 ทำไป 86 คะแนน

ตามมาด้วย All Gamers จบอันดับ 5 ทำไป 77 คะแนน และ Twisted Minds จบอันดับ 11 ทำไป 38 คะแนน”

'อรรถชัย สิงห์ทอง' ชนะเลิศ Microsoft PowerPoint version 2019 เวที The Microsoft Office Specialist World Championship 2024

เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘MOS Olympic Thailand Competition’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

“เย้!!!!! #เฮลั่น เด็กไทยคว้าแชมป์โลก 🇹🇭 โชว์ฟอร์มเก่ง เอาชนะคู่แข่งจากทั่วโลกบนเวทีการแข่งขัน The Microsoft Office Specialist World Championship 2024 การแข่งขันทักษะการใช้งาน Program Microsoft PowerPoint

ซึ่งการแข่งขันจัดขึ้นในระหว่างวันที่ July 28 - 31, 2024 ณ เมือง Anaheim รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยนายอรรถชัย สิงห์ทอง ตัวแทนนักศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เข้าแข่งขันในโปรแกรม Microsoft PowerPoint Version 2019 และได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันดังกล่าว

ขอแสดงความยินดีกับเยาวชนคนเก่ง ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้สำเร็จ”

‘เพชรมงคล’ คนรุ่นใหม่ ปชป.แนะ!! ศธ.จัดตั้งศูนย์ ‘Drop Out’ ดึงเด็กไทยที่หลุดระบบให้จบการศึกษา แบบไม่ต้องเริ่มเรียนใหม่

(2 ส.ค.67) นายเพชรมงคล วัสสุวรรณ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษาเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องการแก้ไข เพราะในปัจจุบันประเทศไทยมีแนวโน้มการ Drop out สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง

การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและตรงจุดไม่ใช่การนำเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง แต่ต้องนำระบบการศึกษาที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับผู้เรียนไปรองรับผู้ที่หลุดจากระบบการศึกษา

สาเหตุที่เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษามีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง คุณแม่วัยใส, ยาเสพติด, เกเร รวมถึงปัญหาความยากจนของครอบครัว ที่ทำให้ผู้ปกครองไม่สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเรียนได้ ปัญหาครอบครัวที่ซับซ้อน สภาพแวดล้อมทางสังคมที่ไม่เอื้ออำนวย และรวมไปถึงระบบการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์หรือรองรับกับความแตกต่างหลากหลาย

วันนี้เราต้องยอมรับว่าการศึกษาในปัจจุบันมีต้นทุนสูงมาก และมีหลักเกณฑ์ตัวชี้วัดเยอะเกินความจำเป็น ซึ่งไม่ตอบโจทย์ เกิดประโยชน์กับตัวผู้เรียนจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็ก หันหลังให้กับการศึกษา หรือหลุดระบบการศึกษาออกไป

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ ตนเคยให้สัมภาษณ์และเสนอกระทรวงศึกษาธิการไปหลายปีแล้วเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ ‘Drop out’ แก้ไขปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษาก็เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยใช้กลไกธนาคารหน่วยกิต สำหรับเด็กที่หลุดระบบการมีต้นทุนเดิม เช่น เวลาศึกษาเดิม หน่วยกิตเดิม นำมาเทียบโอนให้สามารถจบการศึกษาได้ โดยไม่ต้องเริ่มเรียนใหม่ ดังนั้นควรมีโรงเรียนนำร่องทั้งการศึกษาภาคบังคับ ขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพเฉพาะทางมาเป็นศูนย์นำร่องในการแก้ไขปัญหานี้

ดังนั้น ควรจัดระบบการศึกษาทางเลือกให้เป็นรูปธรรมและสามารถรองรับนักเรียนที่มีความหลากหลาย ให้ ผู้เรียนได้มีทางเลือกในการเข้าถึงการศึกษาได้ ในความเป็นจริงแล้วระบบการศึกษาต้องตอบโจทย์ผู้เรียน เข้าถึงตัวผู้เรียนมากกว่าการให้ผู้เรียนเข้าถึงเอง ที่สำคัญต้องสอดคล้องกับยุคสมัยและสภาพเศรษฐกิจด้วย 

สุดท้ายนี้ ตนเชื่ออย่างยิ่งว่ารัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ คนปัจจุบันให้ความสำคัญกับปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษา และควรยกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งแก้ไข แม้ว่าปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษาจะยังคงเป็นความท้าทายใหญ่ แต่ความพยายามของทุกฝ่ายจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามปัญหานี้ไปได้ และสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับเยาวชนต่อไป

‘เพจดัง’ เผยเรื่องราว ‘ครูบอย’ ไม่ละทิ้ง ‘ลูกศิษย์’ ช่วยหาทุนจนมีโอกาสเรียน หลังเด็กเขียนจดหมายลา ขอไปช่วยแม่รับจ้างเก็บลำไย รายได้วันละร้อยบาท

(23 ส.ค.67) เมื่อการศึกษาต้องเข้าถึงทุกคน จึงกลายเป็นที่พูดถึงในโซเชียลมีเดียไม่น้อย หลัง ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน เจ้าของเพจเฟซบุ๊กดัง ‘หมอแล็บแพนด้า’ ได้โพสต์ข้อความและรูปจดหมายที่เขียนเรื่องเล่าของเด็กชายรายหนึ่ง ที่ไม่มีโอกาสได้เรียนอย่างที่ใจหวัง ต้องเขียนจดหมายลาครู เพื่อไปช่วยแม่รับจ้างเก็บลำไย รายได้วันละร้อยกว่าบาท

โดยข้อความระบุว่า “โอย อยากให้ลองอ่านจดหมายฉบับนี้ครับ เป็นเรื่องราวของ ‘แดง’ เด็กชายบ้านนาเกียนที่ต้องเขียนจดหมายลาครู เพื่อไปช่วยแม่รับจ้างเก็บลำไย รายได้วันละร้อยกว่าบาท และไม่รู้เลยว่าจะได้กลับมาเรียนอีกรึเปล่า

แต่ครูบอย พอได้อ่านจดหมายของลูกศิษย์แล้ว ครูไม่เคยทิ้งเด็กชายแดงเลย พยายามตามกลับไปเรียน และช่วยแนะนำทุนการศึกษา จนแดงได้รับทุนเสมอภาค จนถึงชั้น ม.3 และทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาทำให้แดงได้เรียนต่อ ปวส. สาขาช่างไฟฟ้าที่วิทยาลัยเทคโนโลยีเทคนิคโปลิลานนา เชียงใหม่

พอแดงมีโอกาสได้เรียนในสิ่งที่ชอบก็เลยทำให้แดงมีแรงบันดาลใจที่จะสู้เพื่ออนาคตของตัวเอง ชีวิตของแดง คือดอกผลที่มีชีวิต เป็นการลงทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาที่แสนคุ้มค่า

การศึกษาต้องไม่เป็นเส้นทางที่ยากลำบาก เพราะเด็กทุกคนมีศักยภาพ โอกาสการศึกษาต้องไปให้ถึงทุกคน!!! โดยไม่มีข้อจำกัดหรืออุปสรรคอะไรทั้งนั้น

แต่เชื่อมั้ยครับ แดงยังโชคดีมีครูบอยคอยช่วย เพราะข้อมูล กสศ. ชี้ว่าเด็กไทยกว่า 1.02 ล้านคน หลุดออกนอกระบบการศึกษา ไม่ได้เรียนหนังสือ

ซึ่ง BigData ข้อมูลของเด็กกลุ่มนี้ ทางเลือกการศึกษาที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิตเด็กทุกคน และความร่วมมือกับทุกภาคส่วน จะเป็น Game Changer ตัวเปลี่ยนเกม ที่ช่วยให้โอกาสการศึกษาไปให้ถึงเด็กทุกคน

นี่เป็นหัวข้อสำคัญที่เค้าจะมีการแลกเปลี่ยนในงานมหกรรม All For Education : Education For All รวมพลังนักสร้างการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคน จัดขึ้นวันที่ 23-25 สิงหาคมนี้ ที่ IMPACT Forum เมืองทองธานี

เด็กทุกคนควรได้เรียนนะครับ”

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับคอมเมนต์จากประชาชนหลั่งไหลเข้ามาชื่นชมครูบอย ที่ได้คอยช่วยเหลือและเพจที่เป็นกระบอกเสียงให้เด็กทุกคนได้เข้าถึงการศึกษาได้มากขึ้น อาทิ ขอบคุณครูบอยมากนะคะ ขอให้โลกนี้ มีคนแบบครูบอยเยอะ ๆ เลย, คุณครูสุดยอดมากค่ะ, ครูแบบนี้ควรยกย่องมาก ๆ ค่ะ..ต้นแบบที่ดี, อยากให้มีครูแบบนี้หลาย ๆ คน ฯลฯ

‘วราวุธ’ ย้ำ!! อนุสัญญาสิทธิเด็กข้อ 22 ไทยไม่ได้ให้สัญชาติเด็กต่างชาติ แค่ช่วยดูแลเด็กที่เข้ามา ด้าน 'การเติบโต-การศึกษา-พยาบาล' เท่านั้น

(9 ก.ย. 67) ที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อโซเชียลมีเดียมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์ท่านหนึ่งและพี่น้องประชาชนอีกจำนวนมากตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก โดยเฉพาะข้อที่ 22 ที่กำหนดให้เด็กคนหนึ่งมีสิทธิที่จะได้รับการดูแลไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาการรักษาพยาบาลเรื่องอาหาร เรื่องการเจริญเติบโตที่ประเทศไทยจะต้องให้ความคุ้มครองกับเด็กที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ประเทศไทยนั้นมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าภายใต้ข้อ 22 นั้นประเทศไทยจะต้องให้สัญชาติไทยกับเด็กเหล่านั้นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนผิดโดยสิ้นเชิง

โดยนายวราวุธ กล่าวว่า ขออนุญาตทำความเข้าใจว่าในข้อที่ 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ไม่ได้พูดถึงการให้สัญชาติประเด็นนี้เลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่เน้นในข้อที่ 22 คือ การคุ้มครองดูแลเด็กคนหนึ่งให้เขาสามารถเจริญเติบโตทั้งกายและใจตามสิ่งที่เด็กคนหนึ่งพึงจะมี และที่สำคัญข้อที่ 22 นี้ ทั่วโลกได้มีการนำไปประยุกต์ใช้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งประเทศไทยของเราในทางกลับกันเป็นประเทศสุดท้าย จากกว่า 100 ประเทศที่ให้การรับรองข้อที่ 22 ซึ่งใช้เวลาเกือบ 40 ปี กว่าจะรับรองข้อบทนี้ แต่ต้องขอย้ำบางท่านอาจจะตั้งข้อสังเกตว่าทำไมจะต้องไปดูแลเด็กต่างชาติ เด็กไทยเราไม่ดูแล ซึ่งในกรณีนี้เราดูแลเด็กทุกคน และในทางกลับกันถ้าหากว่ามีคนไทยไปตกระกำลำบากที่ต่างประเทศหรือว่ามีเด็กไทยไปตกระกำลำบาก ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับประเทศอื่น ประเทศเหล่านั้นก็จะต้องดูแลเด็กไทยเช่นเดียวกับเด็กของเขาเช่นกัน แต่ไม่ได้ให้สัญชาติกับผู้ใดโดยเด็ดขาด 

ทั้งนี้ นายวราวุธยังทิ้งท้ายว่า ดังนั้น ขออนุญาตทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่าการที่ประเทศไทยให้การรับรองข้อที่ 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กนั้น ไม่ได้เป็นการรับรองให้สัญชาติกับผู้ใด ขอให้ความสบายใจกับพี่น้องประชาชนและทำความเข้าใจ และที่สำคัญขอฝากบอกต่อๆ กันเพราะว่าความเข้าใจผิดนั้นกระจายเหลือเกิน แต่พอจะให้เข้าใจถูกไม่ค่อยกระจาย จึงขอฝากช่วยกันกระจายข้อมูลที่ถูกต้องด้วย

'อดีตทูตฯ' เห็นใจ!! ชะตากรรมเด็กไทย 'ย้ายประเทศ' ไปออสเตรเลีย แนะ!! ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็กลับมาเมืองไทย "เพราะบ้านเรายังอบอุ่นกว่า"

เมื่อวานนี้ (11 ก.ย.67) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เท่าที่ทราบ ตอนนี้พวกที่เคยทำเพจแนะนำให้ย้ายประเทศไปออสเตรเลีย เริ่มทยอยกันกลับกันมาบ้างแล้ว เพราะทนค่าครองชีพที่สูงบรรลัยที่นั่นไม่ไหว เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ยังไม่พอใช้จ่ายแต่ละเดือน เงินเหลือเก็บแทบไม่มี

มีเพื่อนเล่าให้ฟังว่ามีเด็กไทยไปประสบเคราะห์กรรมเจ็บป่วย เป็นโรคซึมเศร้า มีอาการทางจิตหลายราย

บางรายก็เอาชีวิตไปทิ้งที่ออสเตรเลีย เจ็บป่วยตายแบบว้าเหว่โดดเดี่ยว น่าเวทนา ชุมชนไทยก็ระดมเงินช่วยกันเท่าที่จะช่วยได้

ยิ่งช่วงหลังเจอมาตรการของรัฐบาลออสเตรเลียที่พยายามลดจำนวนคนเอเชีย ไม่ต่อวีซ่าให้ หรือขั้นตอนการต่อวีซ่า Strict สุด ๆ

ยังไง ๆ ถ้ามันไม่ไหวจริง ๆ อย่างน้อยกลับมาตายรังที่บ้านเรายังอบอุ่นกว่านะ

‘สมเด็จพระสังฆราช’ ประทานพระคติธรรม ‘วันเยาวชนแห่งชาติ’ ขอให้เยาวชนไทย หมั่นเจริญสมาธิ จดจ่อต่อคุณค่าของความดีงาม

(20 ก.ย. 67) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๗ ความว่า…

“สังคมโลกทุกวันนี้ผันแปรไปอย่างรวดเร็ว ตัวชี้วัดความสำเร็จเชิงวัตถุเริ่มหลากหลายไกลห่างเกินจะบรรลุได้ เป็นภาวะที่สวนทางกับความสงบ เรียบง่าย และสามัญธรรมดา ทำให้มนุษย์ในยุคใหม่ มีใจหวั่นไหวคลอนแคลนง่ายไปตามโลกธรรมทั้ง ๔ คู่ กล่าวคือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ เผลอหลงยึดมั่นถือมั่นในโลกธรรมเหล่านั้นว่าเป็นของตน พอจับยึดโลกธรรมฝ่ายไม่น่าพอใจ ก็เร่าร้อนนอนทุกข์ อาจดิ้นรนไขว่คว้าแม้โดยทุจริตเพื่อให้โลกธรรมนั้น ๆ พ้นไป พอจับยึดโลกธรรมฝ่ายน่าพอใจ ก็ยึดติดหลงใหล อาจดิ้นรนไขว่คว้าแม้โดยทุจริตเพื่อให้โลกธรรมนั้น ๆ ยังอยู่หรือเข้ามาบังเกิดแก่ตน ภาวะเช่นนี้ทำให้สุขภาวะของผู้คนในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนค่อย ๆ เสื่อมถอยลงทุกขณะ…

“สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอบรมสั่งสอนให้มนุษย์แสวงหาความสุขที่เรียบง่ายอันเกิดจากความสงบ ด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ มุ่งสร้างสรรค์สุขให้บังเกิดได้ง่าย ๆ ด้วยการนำจิตตนเองไปจดจ่อต่อสิ่งดีงาม จึงขอฝากข้อคิดให้เด็กและเยาวชน หันมาสนใจอบรมเจริญสมาธิ ทำใจให้สงบ ฝึกระงับจิต ข่มความคิด ให้ทุเลาความฟุ้งซ่าน ปล่อยวางความหวือหวา วางเฉยต่อความรวดเร็วปุบปับฉับไวของกระแสข่าวสาร สมัยนิยม ความหลงใหล ความรักใคร่ และความชิงชัง ผ่อนพักจากความเครียดต่าง ๆ ที่รุมเร้า แล้วหันไปจดจ่อต่อคุณค่าของความดีงาม เช่น การศึกษาเล่าเรียน การทำงานอดิเรกที่เป็นประโยชน์ การอุทิศตนช่วยเหลือผู้อื่น การทำบุญกุศล การช่วยงานอาสาสมัคร ฯลฯ เพื่อให้เกิดสุขภาวะทางใจ อันจะเกื้อกูลให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งในอนาคต…

“ขออนุโมทนาความดีที่เด็ก เยาวชน และผู้ทำประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนได้บำเพ็ญด้วยดีตลอดมา ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและกุศลธรรมจริยาที่ท่านทั้งหลายได้สั่งสมไว้ ดลบันดาลให้ท่านมีสรรพกำลังพรั่งพร้อม ในอันที่จะบำเพ็ญกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของสังคมประเทศชาติสืบไป เทอญ”

คว้ารางวัลอันดับ 3 โอลิมปิกหุ่นยนต์โลกที่ตุรเคีย WORLD ROBOT OLYMPIAD International Final 2024

(4 ธ.ค. 67) การแข่งขัน WORLD ROBOT OLYMPIAD International Final 2024 (WRO) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่  28-30 พฤศจิกายน ที่เมืองอิซเมียร์ สาธารณรัฐตุรเคีย โดยการแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจาก  87 ประเทศ รวม 562 ทีม โดยทีมเยาวชนจากประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 16 ทีม คว้ารางวัลสำคัญมาครอง 3 รางวัลได้แก่ รางวัลชนะเลิศอันดับ 3 ประเภท Robomission รุ่น Elementary ทีม Skyfall จาก Smart Robot Club สมาชิกในทีมประกอบด้วย เด็กชายเคลตัน วินเตอร์ ซัสแมน จูเนียร์, เด็กชายณัฐธีร์ ปัญจะ และเด็กหญิงกีรติกรณ์ ตั้งสกุลประเสริฐ  

รางวัล Team Spirit ประเภท Future Innovators รุ่น Elementary ทีม 3 Chicken จาก Robocod Center สมาชิกในทีมประกอบด้วย เด็กชายภวัต เที่ยงธรรม, เด็กชายวรินทร ไผ่เฉลิม และเด็กชายภัทระ โศภิษฐ์ประภา  

รางวัลชนะเลิศอันดับ 6 ประเภท Future Engineers ทีม KMIDS Thermodynamically Favorable จากโรงเรียน KMIDS สมาชิกประกอบด้วย นายชญานนท์ นินยวี  และนายณัฐพนธ์ อิทธิสถิตกุลชัย  

สำหรับการแข่งขัน WRO เป็นการแข่งขันสำหรับเยาวชนอายุระหว่าง 8-19 ปี การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์โลกใช้หุ่นยนต์ที่ผลิตโดย LEGO Education จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2004 ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นการแข่งขันด้านการเขียนโค้ดและการสร้างหุ่นยนต์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างการทำงานแบบทีมเวิร์กแล้ว ทักษะเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในอนาคตด้วย ความสำเร็จจากการแข่งขันครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเยาวชนไทยมีศักยภาพและความพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top