Sunday, 20 April 2025
ฮุนได

MG4 รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังคันแรก | TIME TO DRIVE EP.8

MG รถยนต์ EV สายพันธุ์จีน ที่จะมาเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่ให้เร้าใจมากขึ้น กับครั้งแรกของระบบขับเคลื่อนล้อหลังในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% กับ MG4 

TIME TO DRIVE ถึงเวลาขับเคลื่อน EP.8
ได้รับเกียรติจาก 'คุณต้น กันต์ เย็นสบาย'
กรรมการบริหารสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย
มาแชร์ข้อมูลของรถยนต์ไฟฟ้าในคลิปนี้ มาติดตาม จุดเด่นของ MG4 ที่ถูกนิยามว่า born to be รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง ในงบประมาณไม่เกินล้าน!! รายละเอียดเป็นอย่างไรติดตามกันได้ใน EP นี้

ดำเนินรายการโดย 'กันย์ ฉันทภิญญา'
Content Manager THE STATES TIMES

ขับไปเพลิดเพลินกับคลิปอื่นๆ ต่อได้ที่ : https://www.youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyJXNFNia9poSZGuZNjAZrQf

🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
Blockdit: THE STATES TIME

‘ฮุนได’ จับมือ ‘JWON’ เปิดประสบการณ์งานศิลป์บนรถ ‘IONIQ 5’ เน้น!! พลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (HMT) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนแห่งโลกยานยนต์ ร่วมมือกับศิลปินไทยชื่อดัง ‘JWON’ สรายุทธ คุระแก้ว นำเสนอพลังสร้างสรรค์แห่งศิลปะที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านการสรรสร้างงานศิลปะหนึ่งเดียวบนรถยนต์ IONIQ 5 ในรูปแบบของ Art Car พร้อมจัดเวิร์กช็อปรอบเอ็กซ์คลูซีฟ ‘IONIQ Powering Arts x JWON’ ณ IONIQ Lab ให้ผู้เข้าร่วมงานสรรค์สร้างงานศิลปะด้วยตัวเอง ไปพร้อมกับสัมผัสการบรรจบกันของความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย นอกจากนั้น ยังมีนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะของ JWON ที่สรรค์สร้างขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ รวมถึงภาพที่วาดขึ้นใหม่ และรูปปั้น Dylie ขนาด 2 เมตร

ศิลปิน JWON สร้างสรรค์ศิลปะ Art Car บน IONIQ 5 ในธีม ‘Dylie, Embark on your journey to the world’ โดยนำก้อนเมฆมาเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงพลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อจุดประกายการมุ่งหน้าสู่อนาคตที่สดใส และดีต่อชีวิตทุกคน Dylie ยังเป็นมากกว่าองค์ประกอบตกแต่ง แต่เชื่อมโยงผู้ชมเข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างกลมกลืน พร้อมทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งเส้นทางอันเปี่ยมชีวิตชีวา บนความยั่งยืนเสมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆที่สวยงาม การผสานพรสวรรค์ทางศิลปะของ JWON เข้ากับนวัตกรรมอันล้ำหน้าของ IONIQ 5 ในครั้งนี้ จึงแสดงถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของศิลปะ ผ่านการสรรค์สร้างแรงบันดาลใจ และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมและความยั่งยืน จนก่อเกิดเป็นงานศิลป์บนยนตกรรม Art Car ชิ้นเอกคันแรกและมีเพียงหนึ่งเดียว

ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่การนำเสนอผลงานศิลปะผ่าน IONIQ 5 เพียงอย่างเดียว หากยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปสุดพิเศษที่ IONIQ Lab ให้ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสถึงการบรรจบกัน ของความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด โดย JWON ศิลปินผู้โด่งดังด้านการสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัย ได้ร่วมแบ่งปันเทคนิคพร้อมกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมงาน ได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ และนำเสนอเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตนอย่างอิสระ สอดคล้องกับจุดประสงค์ของการก่อตั้ง IONIQ Lab เพื่อส่งเสริมการสร้างแนวคิดใหม่และสร้างพื้นที่ในการแสดงออกให้กับทุกคน กิจกรรมเวิร์กช็อปครั้งนี้จึงมุ่งเน้นการขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนกล้าคิดบนแนวคิดที่แตกต่าง เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของนวัตกรรมไปสู่ขอบเขตแห่งการสร้างสรรค์ใหม่ไม่รู้จบ

ด้วยพรสวรรค์และสไตล์ศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของ JWON ซึ่งโด่งดังจากการจัดนิทรรศการในระดับนานาชาติมากมาย จึงถือเป็นโอกาสดีให้ IONIQ เป็นที่รู้จักของกลุ่มคนที่กว้างขวางขึ้น พร้อมดึงดูดความสนใจของกลุ่มผู้สนใจในงานศิลป์จำนวนมากมายังรถยนต์ไฟฟ้า IONIQ ต่อไป นอกจากนี้ การร่วมมือกับ JWON ซึ่งเป็นศิลปินไทย ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของ IONIQ กับกลุ่มผู้บริโภคในประเทศ ผ่านการจัดกิจกรรมที่จะมีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “IONIQ Lab มิใช่เพียงศูนย์นวัตกรรม หากเป็นเวทีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สร้างแรงบันดาลใจ ในการก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งความยั่งยืน เป็นศูนย์กลางแห่งความมุ่งมั่นและความร่วมแรงร่วมใจ ในการสร้างสรรค์อนาคตที่สดใสกว่าสำหรับทุกคน ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ยังสอดคล้องกับปณิธานของแบรนด์ ในด้านนวัตกรรม ความยั่งยืน และการนำเสนออัตลักษณ์ของบุคคลอย่างสมบูรณ์แบบ เป้าหมายของเราคือการผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ที่นำไปสู่การสร้างโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยสไตล์ทางศิลปะที่โดดเด่นและชื่อเสียงในระดับโลกของ JWON ทำให้เราเชื่อมั่นว่า จะทำให้เราเข้าถึงกลุ่มผู้ชมในวงกว้างยิ่งขึ้น และสามารถนำเสนอศักยภาพของรถไฟฟ้า IONIQ ได้อย่างโดดเด่น เราจึงให้ความสำคัญกับศักยภาพของศิลปะ เพื่อใช้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกผ่านการจัดงานนี้ ด้วยการผสานทักษะทางศิลปะของ JWON เข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยของ IONIQ 5 จนเชื่อมโยงกันอย่างกลมกลืน และสร้างแรงบันดาลใจพร้อมส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน อย่างโดดเด่นในโลกยานยนต์”

ร่วมสนับสนุนแนวคิดอากาศสะอาดเพื่อเราทุกคน ด้วยการแวะมาพบกับ Dylie พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการงานศิลป์ของ JWON ได้ที่ IONIQ Lab สถานที่ที่ศิลปะ เทคโนโลยี และแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมมาบรรจบกัน ได้ระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม - 18 มิถุนายน 2567 โดยในนิทรรศการไม่มีได้มีเพียง IONIQ 5 Art Car เท่านั้น แต่ยังมีรูปปั้น Dylie ขนาด 2 เมตร พร้อมผลงานศิลปะจาก JWON อีกหลายชิ้นที่ไม่เคยเปิดตัวที่ไหนมาก่อน มาจัดแสดงที่นี่ ให้คุณชมก่อนใคร

'บีโอไอ' เผย!! 'ฮุนได' ทุ่ม 1,000 ล้าน ปักธงไทย ปั้นฐานผลิต EV-แบตเตอรี่ พร้อมดึง 'กลุ่มธนบุรี' ร่วมพันธมิตร ดีเดย์!! เดินเครื่องต้นปี 2569

(7 ส.ค.67) นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการของบริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งจากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) และผลิตแบตเตอรี่โดยเริ่มจากขั้นตอนการประกอบโมดูล เพื่อป้อนให้กับสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท โดยมีบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด และบริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นพันธมิตรสำคัญในการลงทุนครั้งนี้ ซึ่งบริษัทพร้อมจะเริ่มลงทุนทันที และตั้งเป้าจะเริ่มผลิตในช่วงต้นปี 2569 นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนจัดหาชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในประเทศไทย ซึ่งบีโอไอจะทำงานร่วมกับบริษัทอย่างใกล้ชิด เพื่อเชื่อมโยง Supply Chain ในประเทศให้ได้มากที่สุด

“เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก และค่ายรถยนต์รายใหญ่อย่างฮุนได ก็ถือเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล การลงทุนสร้างฐานการผลิตรถยนต์ EV ของค่ายเกาหลีในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยและนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย นอกจากนี้ ยังแสดงถึงทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ และความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนของฮุนไดในครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับไทยเพื่อมุ่งสู่ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทในระดับโลก และจะช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยในการเข้าสู่ Supply Chain ของอุตสาหกรรมระดับโลกด้วย” นายนฤตม์ กล่าว

ทั้งนี้ แนวโน้มตลาด EV ทั่วโลกยังเติบโตต่อเนื่อง จากข้อมูล Global EV Outlook 2024 โดย IEA พบว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดขายรถยนต์ EV ทั่วโลก มีอัตราเติบโตร้อยละ 25 และคาดว่าสิ้นปี 2567 จะมียอดขายรถยนต์ EV รวมกันกว่า 17 ล้านคัน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของยอดขายรถยนต์ทั่วโลก โดยปัจจุบันบีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนโครงการในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งการผลิตยานยนต์ BEV ประเภทต่าง ๆ แบตเตอรี่และชิ้นส่วนสำคัญ รวมทั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 80,000 ล้านบาท

‘ฮุนได’ ชวน!! ตรวจเช็กสภาพรถ ฟรี!! เพื่อความปลอดภัย ก่อนเดินทางไกล

(21 ธ.ค. 67) เทศกาลแห่งความสุขมาถึงแล้ว เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณและคนที่คุณรักเต็มไปด้วยความมั่นใจ ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย มอบความห่วงใยผ่านแคมเปญพิเศษ ‘ฮุนไดมอบโปรฯ ให้ ใส่ใจทุกการเดินทาง’ ฟรี!! ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ พร้อมรับส่วนลดสุดพิเศษสำหรับอะไหล่ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้รถของคุณพร้อมในทุกเส้นทาง

เตรียมรถให้พร้อมก่อนออกเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันหยุดยาวได้ที่ ศูนย์บริการฮุนไดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 - 28 กุมภาพันธ์ 2568 เพราะความปลอดภัยบนท้องถนนคือเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ทีมงานมืออาชีพของฮุนไดพร้อมดูแลคุณและรถทุกคันด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ทุกการขับขี่ราบรื่น และทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสุข ฮุนไดใส่ใจ เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกเส้นทาง

ฟรี!! ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ 40 รายการ ดูแลรถยนต์ของคุณอย่างละเอียดโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบระบบหลัก ๆ เพื่อให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมออกเดินทางได้อย่างปลอดภัย

รายการตรวจเช็ก 40 รายการ มูลค่า 496 บาท ได้แก่:
1. ไฟเตือนแบตเตอรี่ 
2. ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง 
3. ไฟเตือนเครื่องยนต์ 
4. ไฟเตือน ABS 
5. ไฟเตือน AIR BAG 
6. ไฟเตือนเบรกมือ 
7. สัญญาณบอกตำแหน่งเกียร์ออโต้ 
8. ไฟเลี้ยว 
9. ไฟฉุกเฉิน 
10. ไฟหรี่ 
11. ไฟสูง 
12. แตร 
13. การทำงานของใบปัดน้ำฝน 
14. กระจกประตูไฟฟ้า 
15. ระบบล็อกประตูไฟฟ้า 
16. กระจกมองข้างไฟฟ้า 
17. เข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ 
18. ระบบปรับอากาศ 
19. เบรกมือ 
20. เข็มขัดนิรภัยด้านผู้โดยสาร 

21. แบตเตอรี่ 
22. ระดับน้ำในถังพักหม้อน้ำ 
23. ระดับน้ำในถังพักน้ำล้างกระจก 
24. ไส้กรองอากาศ 
25. น้ำมันเครื่อง 
26. น้ำมันเบรก 
27. น้ำมันคลัทช์หรือน้ำมันเกียร์ออโต้ 
28. น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ 
29. สายพานด้านหน้าเครื่องยนต์ 
30. ยางปัดน้ำฝน 
31. ไฟหน้า 
32. ไฟเลี้ยว 
33. ไฟเบรก ไฟถอยหลัง 
34. ลูกหมากเหล็กกันโคลง 
35. ลูกหมากคันชักคันส่ง 
36. ปีกนกและบู๊ช 
37. โช้คอัพหน้าและหลัง 
38. ยางหุ้มเพลาขับในและนอก (ถ้ามี) 
39. ยางหุ้มแร็คพวงมาลัย 
40. การรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์-เฟืองท้าย และน้ำมันเพาเวอร์

‘ฮุนได’ เดินหน้าจัดโครงการ ‘Future Mobility School’ ปีที่ 2 เพื่อสร้างทักษะ หนุนเยาวชน!! ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุดประกายการเดินทางที่ยั่งยืน

(4 ม.ค. 68) ‘ฮุนได’ ประกาศความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน เปิดตัวโครงการ Future Mobility School ปีที่ 2 เพื่อเตรียมความพร้อมของเยาวชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับการเป็นผู้นำด้านการเดินทางซึ่งกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วผ่านหลักสูตรการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์จริง โครงการนี้จัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะและองค์ความรู้ให้กับนักเรียนจำนวน 1,150 คน ใน 12 โรงเรียนจาก 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขับเคลื่อนการเดินทางที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ‘ความก้าวหน้าเพื่อมวลมนุษยชาติ’ (Progress for Humanity) ของฮุนได

โครงการ Future Mobility School สะท้อนถึงภารกิจของฮุนไดในการส่งเสริมโซลูชันการเดินทางให้เป็นพลังเพื่อการสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ผ่านการปลูกฝังให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาโซลูชันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและสอดรับกับปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม หลักสูตรในปีนี้นำทีมโดยครูผู้ทุ่มเทจำนวน 19 คน พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมาผ่านการยกระดับการมีส่วนร่วมและส่งเสริมการคิดเชิงนวัตกรรมของเด็กนักเรียน ผ่านประสบการณ์การเรียนรู้และการมีส่วนร่วมที่เข้มข้นด้วยตนเอง

“ฮุนไดมุ่งมั่นพัฒนาการเดินทางให้เป็นพลังเพื่อการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืน” มร.ซันนี่ คิม ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิก สำนักงานใหญ่ กล่าว “โครงการ Future Mobility School มุ่งส่งเสริมทักษะแก่เยาวชนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการมอบทักษะและองค์ความรู้เพื่อให้พวกเขาเป็นผู้นำด้านการเดินทางที่ยั่งยืน และด้วยแนวทางการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการคิดค้นนวัตกรรมนี้ เรากำลังเตรียมคนรุ่นใหม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโซลูชันการเดินทางแห่งอนาคตที่เปี่ยมความหมายร่วมกัน กิจกรรมนี้ยังแสดงให้เห็นถึงโครงการระดับโลกของเราในการพัฒนาผู้ที่มีความสามารถของแต่ละท้องถิ่น และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชุมชนต่าง ๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

โครงการ Future Mobility School สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของฮุนไดที่เน้นย้ำว่า ความก้าวหน้าจะมีความหมายก็ต่อเมื่อเต็มเปี่ยมไปด้วยมนุษยธรรม ซึ่งเอื้อให้คนรุ่นหลังสามารถใช้ชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยสันติภาพและความสะดวกสบาย โดยฮุนไดยังคงมุ่งมั่นต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและการสนับสนุนเยาวชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการมอบองค์ความรู้ด้านการเดินทางที่ยั่งยืนและการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ศูนย์การศึกษาเพื่อความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศแห่งเอเชียแปซิฟิก (APCEIU) ภายใต้องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ  (UNESCO) ตระหนักถึงการสนับสนุนของฮุนได โดย มร.ลิม วอนจิน หัวหน้าสำนักงานครูแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ กล่าวว่า “เด็ก ๆ ในวันนี้ก็คือผู้นำในอนาคต ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องสนับสนุนให้พวกเขาร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โครงการ Future Mobility School ของฮุนไดเป็นการต่อยอดความพยายามเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นตัวอย่างของการสร้างแรงบันดาลใจด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความร่วมมือในระดับโลก”

เสียงตอบรับจากโครงการ Future Mobility School
แนวทางการเรียนรู้ที่เน้นการลงมือปฏิบัติและมีประสบการณ์จริงของหลักสูตรช่วยบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และวิธีการแก้ปัญหาของนักเรียนเมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับประเด็นต่าง ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น การเดินทางที่ยั่งยืน การศึกษาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรม โดยเหล่านักศึกษาและนักเรียนได้มาร่วมแบ่งปันถึงผลลัพธ์ของโครงการนี้

ชาริฟาห์ นูร์ ฟาซิลาห์ ครูจากโรงเรียน SK Seri Budiman ในมาเลเซีย แสดงความคิดเกี่ยวกับหลักสูตรการสอนว่า “โครงการ Future Mobility School ช่วยกระตุ้นกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ และการตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของเด็ก ๆ โดยนักเรียนได้รับการสอนให้รู้จักรีไซเคิลสิ่งของต่าง ๆ ในระหว่างการเรียนหลักสูตรนี้”

ชาห์ซาดา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนประถม Muhammadiyah Sapen ในยอกยาการ์ตา อินโดนีเซีย กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “รู้สึกตื่นเต้นมากในตอนแรก แต่เมื่อผมเริ่มทำ มันก็สนุกมาก ผมได้ทำกระเป๋าเงินรีไซเคิลจากเบาะนั่งรถยนต์เก่าที่มีข้อความ รักษ์โลก อยู่ด้านหลังด้วย” ประสบการณ์ของเขาเน้นย้ำถึงความสำเร็จของหลักสูตรในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมในหมู่เด็กนักเรียน 

ในขณะที่ พจน์ วิเศษหอมดี อายุ 15 ปี นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมในประเทศไทย กล่าวแสดงความเห็นด้วยว่า “โปรแกรมนี้มอบประสบการณ์องค์ความรู้ใหม่ให้กับเรา ผมอยากให้โรงเรียนอื่น ๆ ได้มาร่วมโครงการนี้ด้วย”

โครงการ Future Mobility School ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นำเสนอหลักสูตรที่เน้นย้ำสาระสำคัญเดียวให้กับเด็กนักเรียนทุกคน นั่นคือการรักษ์โลกโดยให้ความสำคัญกับการเดินทางที่ยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้ทำให้ฮุนไดวางแผนสานต่อและขยายโครงการนี้ไปสู่ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อส่งเสริมพันธกิจระยะยาวในการพัฒนาผู้นำแห่งอนาคตและสนับสนุนการคิดค้นนวัตกรรมในแต่ละท้องถิ่น โครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ด้านการเดินทางที่อย่างยั่งยืน และความมุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคนของฮุนได

‘ฮุนได’ ประกาศ!! แคมเปญสำหรับ IONIQ 5 ราคาเริ่มต้น 1.399 ลบ. ตอกย้ำ!! ความสำเร็จด้วยการคว้ารางวัล ‘World Car of the Year’

(22 ก.พ. 68) ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอนาคตแห่งยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ IONIQ 5 รุ่นปี 2024 ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.399 ล้านบาท ตอบรับกระแส EV ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย IONIQ 5 ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของยนตรกรรมพลังงานสะอาดที่ผสานนวัตกรรมล้ำสมัย สมรรถนะทรงพลัง และการขับขี่ที่สะดวกสบายในการขับขี่ไว้อย่างลงตัว ตอกย้ำความสำเร็จด้วยการคว้ารางวัล World Car of the Year ในปี 2022

IONIQ 5 ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม E-GMP (Electric Global Modular Platform) ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ช่วยให้พื้นที่ภายในกว้างขึ้น พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการขับขี่ โดยมีตัวเลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Premium Standard Range ใช้แบตเตอรี่ขนาด 58 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และระยะทางขับขี่สูงสุด 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ส่วน รุ่น Exclusive Long Range ใช้แบตเตอรี่ขนาด 72.6 kWh กำลังสูงสุด 217 แรงม้า สามารถวิ่งได้ไกลถึง 481 กม. พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที

IONIQ 5 มาพร้อมเทคโนโลยี Ultra-Fast Charging รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 350 kW ทำให้สามารถชาร์จจาก 10-80% ได้ภายในเวลาเพียง 18 นาที และยังมีระบบ V2L (Vehicle-to-Load) ที่ช่วยให้รถสามารถจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่

ในด้านดีไซน์ IONIQ 5 โดดเด่นด้วย Parametric Pixel Design ที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของ Hyundai Pony ผสานความทันสมัยอย่างลงตัว ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์พิกเซลสุดล้ำ กันชนหน้า V-Shape ล้อขนาด 19 นิ้ว พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และระบบเสียง BOSE Premium Sound

เพื่อให้ทุกการเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น IONIQ 5 มาพร้อม Hyundai SmartSense ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ อาทิ Smart Cruise Control with Stop & Go ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Blind-Spot Collision Warning ระบบเตือนมุมอับสายตา Forward Collision-Avoidance Assist ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และ Lane Keeping Assist ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน

IONIQ 5 คือเจ้าของรางวัลระดับโลก ได้แก่ World Car of The Year, World EV of The Year และ World Car Design of The Year จากงาน World Car Awards 2022 ตอกย้ำความสำเร็จและมาตรฐานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากฮุนได

ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสประสบการณ์ขับขี่สุดล้ำของ IONIQ 5 ได้แล้ววันนี้ที่ IONIQ Agency ทั่วประเทศ

‘ฮุนได’ ปักหมุดอุบล!! ผุดโชว์รูม ‘ฮุนได ดี ออโต้’ รองรับการเติบโต!! ตลาดรถยนต์ในภาคอีสาน

(15 มี.ค. 68) บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าขยายบริการสู่ระดับภูมิภาคตามกลยุทธ์ธุรกิจปี 2568 เปิดตัวโชว์รูม ฮุนได ดี ออโต้ อุบลราชธานี รองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ในภาคอีสาน พร้อมมอบประสบการณ์ลูกค้าระดับสากลบนมาตรฐาน Global Dealership Space Identity (GDSI 2.0) ด้วยดีไซน์โชว์รูมที่ครบครันด้วย 3 S Sale, Service, Spare parts โดยเตรียมพร้อมการบริการหลังการขายโดยทีมช่างผู้ผ่านการอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มรถยนต์สันดาปและรถไฟฟ้า

นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การขยายเครือข่ายโชว์รูมคือกลยุทธ์หลักของฮุนไดในการเสริมสร้างการเติบโตที่มั่นคงในประเทศไทย ซึ่งอุบลราชธานีถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เราจึงต้องการให้ลูกค้าในพื้นที่นี้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงยกระดับศักยภาพด้านการขาย หากยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการมอบบริการระดับพรีเมียมและการดูแลหลังการขายที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าในเมืองไทย” 

โชว์รูม ฮุนได ดี ออโต้ อุบลราชธานี มีพื้นที่กว้างขวางพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกลูกค้าในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงอย่างครบวงจร ศูนย์บริการมาตรฐานขนาดพร้อมรองรับปริมาณงานซ่อมได้มากกว่า 3,000 คันต่อปี ดำเนินงานโดยทีมงานฝ่ายขายและช่างเทคนิคที่ได้รับการฝึกอบรมระดับมืออาชีพ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับบริการหลังการขายในภูมิภาค

นายปัณณพัฒน์ เลาหเธียรประธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี ออโต้ อุบลราชธานี กล่าวว่า “พร้อมให้บริการลูกค้าในภาคอีสานด้วยมาตรฐานโชว์รูมและศูนย์บริการ เรามีทีมงานที่พร้อมนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจกว่า 30 ปี ให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่การเลือกซื้อรถ ไปจนถึงบริการหลังการขายที่ครบวงจร

นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “เรามุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าทุกคน และพร้อมขับเคลื่อนฮุนไดให้เป็นแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำที่ลูกค้าในประเทศไทยให้ความเชื่อมั่นสูงสุด”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top