‘นันทิวัฒน์’ ย้อนบทเรียนคดีถือหุ้นสื่อ ‘ธนาธร’ สู่ ‘พิธา’ ชี้ สะดุดตีนล้มเอง อย่าชวนคนลงถนนเพื่อปกป้องตนเอง
13 ก.ค. 66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ‘วิบากกรรม’ มีเนื้อหาระบุว่า...
วิบากกรรม
กรณีถือครองหุ้นสื่อ ทำไมนักการเมืองที่อยากเป็นนายกฯ มันถึงได้ทำผิดแล้วผิดอีก และมาจากพรรคเดียวกันเสียด้วย น่าสงสัยที่ปรึกษากฎหมายของพรรคนี้มืออ่อน ผู้นำพรรคทำผิดซ้ำซาก คุณธนาธรก็ทีนึงแล้ว ยังมาเจอคุณพิธาอีก วิบากกรรมจริงๆ
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าไว้ก่อน ก็เป็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส. ไม่ได้ตัดสิทธิในการถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ นอกจากถูกสมาชิกทักท้วงว่าทำไม่ได้ เพราะมาตรา 160(6) บัญญัติถึงคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี นายกฯ ถือว่าเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่ง ต้องไม่มีคุณสมบัติที่ขัดต่อมาตรา 98(3) ที่ห้ามถือหุ้นสื่อ มันย้อนกลับไปสู่คุณสมบัติต้องห้ามในการถือหุ้นสื่อ
นั่นแสดงว่ารัฐธรรมนูญตั้งใจเขียนรัดเอาไว้ไม่ให้นักการเมืองถือหุ้นสื่อจริงๆ เพราะเขียนล้อ ผูกตรึง (โยง) กันไปหมด
คนที่อาสาจะมาเป็นผู้บริหารประเทศ เป็นถึงนายกรัฐมนตรีไม่น่าทำผิดแบบปลาตายน้ำตื้นขนาดนี้เลย มีอย่างที่ไหนมีหุ้นสื่ออยู่ในมือ (คงจะรวยมากจนจำไม่ได้ว่า มีสมบัติซุกไว้ที่ไหนบ้าง) กรณีคุณธนาธรไม่ทำให้ฉุกใจคิดบ้างเลยหรือ
อาสามาเป็นผู้นำประเทศนะครับ ไม่ใช่เล่นขายขนมครกนะ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ผู้นำต้องบริหารประเทศตามกฎหมาย เป็นนิติรัฐ
พลาดท่าเสียทีด้วยความสะเพร่าของตนเอง ไม่มีใครกลั่นแกล้งยัดหุ้นสื่อใส่มือคุณพิธาแน่นอน ไม่มีใครเตะตัดขา ไม่มีการสร้างหลักฐานเท็จ สะดุดตีนล้มเอง ไม่มีนิติสงคราม
คุณพิธาไม่ใช่คนแรกที่โดนคดีถือหุ้นสื่อ คุณธนาธรก็โดน และยังมีนักการเมืองอีกหลายคนที่ถูกถอดถอนและถูกตัดสิทธิทางการเมือง
คนที่จะมาเป็นนายกต้องรอบคอบ
อย่าชวนคนลงถนนเพื่อมาปกป้องตนเองเลย มันทำไม่ได้ ประการสำคัญคนที่อยากเป็นผู้นำต้องไม่พาคนไปตาย อย่าเหยียบศพเพื่อนเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำ
