Sunday, 8 June 2025
หมอเหรียญทอง

'หมอเหรียญทอง' แชร์!! ทำไมเปลี่ยนจากโหมดสุภาพเรียบร้อยสู่โหมดโหด เพราะทหารต้องมีวินัยเคร่งครัด มีใจเป็น 'นักรบ-นักเลง' ไม่รังแกชาวบ้าน

(6 ก.ย.67) พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'เหรียญทอง แน่นหนา' ระบุว่า… 

เพื่อนรักเก่าแก่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายด้วยกันแสดงความเห็นในโพสต์เมื่อวันก่อนถึงผมความว่า...

"สมัยมัธยมฯ เห็นแต่โหมดสุภาพเรียบร้อย ตลก อารมณ์ดีไป up grade เพิ่มโหมดโหดจาก app ไหนครับ เพื่อน"

ผมขออนุญาตตอบคำถามเพื่อนรักของผมผ่านสาธารณะว่า ผมไป up grade เพิ่มโหมดโหดจาก app ไหน 

ผมขอเรียนว่า โหมดโหดของผมอาจจะมาจาก app การที่ผมเป็นหัวหน้านักเรียนทหาร เป็นผู้บังคับหน่วยทหาร ที่ถูกฝึกอบรมปลูกฝังให้ยึดถือระบบเกียรติศักดิ์ หรือ Honour system 

ทหารต้องมีระเบียบ มีวินัยอย่างเคร่งครัด รู้จักกาลเทศะ เป็นสุภาพบุรุษที่มีใจเป็นนักรบ มีใจเป็นนักเลงนะครับ ไม่ประพฤติตนเป็นกุ๊ย ไม่เป็นอันธพาลเกเรรังแกชาวบ้าน 

เมื่อทำผิดก็ต้องรับผิด ไม่โกหก ไม่เสแสร้ง ไม่สร้างภาพ ตรงไปตรงมา จริงใจซื่อตรงต่อกัน ไม่ทอดทิ้งกัน ที่สำคัญที่สุด คือ "จงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ทอดทิ้งองค์จอมทัพ" ...แต่ก็มีทหารบางตัวที่ไร้ซึ่งเกียรติศักดิ์ อันนี้ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลนะครับ แต่รับรองว่าไม่ใช่ทหารเก่าแก่อย่างผมแน่

โหมดโหดของผมยังอาจจะมาจาก app 'หัวลำโพงในอดีต' ถิ่นกำเนิดของผมที่ผมเติบโตมาจากการแวดล้อมด้วยนักเลงย่านหัวลำโพง ลูกน้องของพ่อซึ่งเป็นเจ้าของโรงหมูที่ตรอกโรงหมู สภาพแวดล้อมดงนักเลงตรอกโรงหมู-ตรอกสลักหิน มันอาจจะซึมซับเข้าไปในกมลสันดานของผมอยู่บ้าง ก็เลยมีโหมดโหด ตามสมญาที่ผมตั้งเองอย่างสนุกสนานว่า "ไอ้ตี่หัวลำโพง" ไงล่ะครับ

จริง ๆ แล้วทุกวันนี้ ผมก็ยังสุภาพเรียบร้อย ตลก อารมณ์ดี เหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวตนไปจากภาพจำของเพื่อน ๆ สมัยเด็ก ๆ เลย ผมยังยิ้มแย้ม แจ่มใส คุยสนุก ตลกขบขันเหมือนที่เพื่อน ๆ ทุกคนเคยเห็น เคยจำได้นั่นแหละครับ 

เพียงแต่ชีวิตของผมเริ่มเปลี่ยนไปจากชีวิตเด็กชาย ตั้งแต่เป็นหัวหน้านักเรียนทหาร เป็นผู้บังคับหน่วยทหาร เป็นผู้บริหาร ทำให้ผมต้องเป็น 'ผู้นำ' ที่ต้องรับผิดชอบหน่วย รับผิดชอบองค์กร รับผิดชอบภารกิจที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ทั้งผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งประชาชนผู้ใช้บริการจำนวนมาก ทั้งคู่ค้าทางธุรกิจในปัจจุบัน ดังนั้นผมจึงต้องเป็น 'ผู้นำที่ดี' 

การเป็น 'ผู้นำที่ดี' มีคุณสมบัติและคุณลักษณะมากมาย แต่ผมรวบรวมแล้วยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ คือ 'ดี เก่ง กล้า' 

ถ้าผมไม่ต้องเป็นผู้นำ ผมก็จะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ตลก อารมณ์ดี เหมือนภาพจำของเพื่อน ๆ สมัยเด็ก ๆ นั่นแหละครับ...เพียงแต่ผมแก่จนเป็นตาแป๊ะไปแล้ว ไม่แก้มแดงน่ารักเหมือนตอนเด็ก ๆ

‘หมอเหรียญทอง’ ยกเคส ‘ผู้ป่วย’ ปลื้มใช้บัตรทองแพลตตินั่ม ชูความคุ้มค่าในราคา รพ.รัฐบาล แต่ได้มาตรฐานเอกชน

(27 ก.พ. 68) พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยได้ระบุถึงผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กชื่อว่า 'หมอปันปัน ค่ะ' ซึ่ง เป็นอายุรแพทย์สาขาโลหิตวิทยา รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับโรคมะเร็งเม็ดเลือด โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และโรคเลือดต่างๆ ได้โพสต์ในช่องแสดงความเห็นเกี่ยวกับโครงการ 'บัตรทองแพลตตินั่ม' เมื่อคืนวันพุธที่ 26 ก.พ.68 เวลา 21.38 น.ว่า

"คนไข้แฮปปี้มากค่ะ รวมค่าบริการและค่ายา 3 เดือน 550 บาท คนไข้ฝากขอบคุณพี่ด้วยค่ะ ที่มีโครงการช่วยเหลือผู้ป่วย"

นี่คืออีกกรณีหนึ่งที่ผู้ป่วยบัตรทองแพลตตินั่ม รพ.มงกุฎวัฒนะ พึ่งตนเอง จ่ายเงินเอง ราคา รพ.รัฐ ไม่ต้องขอใบส่งตัวจากคลินิก ไม่ต้องเดินทางไป รพ.ที่รับการส่งต่อใหม่ตามที่ สปสช. จัดให้ด้วยความยากลำบาก 

ทั้ง รพ.ที่รับการส่งต่อใหม่ ยังอาจจะขาดแคลนแพทย์เฉพาะทาง เช่น อายุรแพทย์สาขาโลหิตวิทยาที่หายาก ดังเช่นคุณ 'หมอปันปัน ค่ะ' อีกด้วย

คิดง่ายๆ นะครับ ผู้ป่วยบัตรทองแพลตตินั่มของคุณ 'หมอปันปัน ค่ะ' น่าจะมีบ้านอยู่ทางกรุงเทพฯเหนือ อาจจะหลักสี่-ดอนเมือง-บางเขน-จตุจักร ก็แล้วแต่ 

เมื่อมารักษาด้วยโครงการบัตรทองแพลตตินั่มด้วยการจ่ายเงินค่าบริการและค่ายา 3 เดือน 550 บาท ก็ยังถูกกว่าค่ารถแท๊กซี่เดินทางไป-กลับ รพ.ที่รับส่งต่อใหม่ที่อยู่ห่างไกล การจราจรติดขัด เสียค่ารถไป-กลับ น่าจะเกือบ 1,000 บาทแล้ว ยังไม่รวมเสียเวลาจากการจราจรติดขัดอีก

มิหนำซ้ำผู้ป่วยบัตรทองยังจะต้องไปที่คลินิกปฐมภูมิล่วงหน้าหลายวันเพื่อทำเรื่องขอใบส่งตัวก่อน หลังจากนั้นอีกหลายวันเมื่อคลินิกอนุมัติใบส่งตัวแล้ว ผู้ป่วยก็ต้องเดินทางไปคลินิกอีกครั้งเพื่อรับใบส่งตัว 

แต่ละครั้งที่ไปคลินิก ผู้ป่วยก็ต้องไปรอคอย มีผู้ป่วยบัตรทองรายหนึ่งบอกผมโดยตรงว่า "เหมือนขอทานเลยค่ะ แค่ไปขอแค่ใบส่งตัวเท่านั้น ยังต้องมีขั้นตอนให้ยุ่งยากลำบากเพื่อจะได้ไม่อยากขอใบส่งตัว"

เมื่อได้ใบส่งตัวแล้ว ผู้ป่วยบัตรทองจึงจะเดินทางไป รพ.ที่รับส่งต่อใหม่ตามที่ สปสช. จัดให้ที่ห่างไกล ต้องเสียค่ารถไป-กลับ น่าจะเกือบ 1,000 บาทอีก 

ยังไม่นับรวมกับปัญหาการเริ่มต้นตรวจรักษากับแพทย์เฉพาะทางขั้นสูงในระดับอายุรศาสตร์สาขาโลหิตวิทยา 

หาก รพ.รับส่งต่อใหม่ ไม่มีแพทย์เฉพาะทางสาขานี้ ก็จะต้องส่งต่อไปยังคณะแพทยศาสตร์ ซึ่ง รพ.รับส่งต่อใหม่ จะส่งต่อผู้ป่วยเองไม่ได้นะครับต้องมีหนังสือแจ้งคลินิกให้ผู้ป่วยนำกลับไปคลินิกเพื่อขอใบส่งตัวไปยังคณะแพทยศาสตร์เสียก่อน ผู้ป่วยบัตรทองจึงจะไปคณะแพทยศาสตร์ได้ 

ทุกขั้นตอนผู้ป่วยต้องเสียเวลาประสบปัญหาความแออัด ทั้งการจะใช้บริการแต่ละครั้งก็ต้องวนเวียน กลับไป-กลับมา ผู้ป่วยเสียโอกาสมากสุดๆ ขาดความต่อเนื่องในการรักษา เสียทั้งโอกาส เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าใช้จ่ายไปๆ มาๆ ที่สำคัญสุ่มเสี่ยงต่อการเสียสุขภาพและชีวิตจากการขาดความต่อเนื่องในการรักษา...เพียงแค่ต้องการรักษาฟรี ไม่ต้องจ่ายเงินให้ รพ.เท่านั้น ขอพูดตรงๆ ว่า คิดอย่างไรก็ไม่คุ้มค่าเลยนะครับ

ตามที่คุณ 'หมอปันปัน ค่ะ' โพสต์ในช่องแสดงความเห็นเมื่อคืนนี้ว่า "คนไข้แฮปปี้มากค่ะ รวมค่าบริการและค่ายา 3 เดือน 550 บาท คนไข้ฝากขอบคุณพี่ด้วยค่ะ ที่มีโครงการช่วยเหลือผู้ป่วย"

คุณพี่ที่คนไข้ฝากขอบคุณนั้นจะเป็นใครก็แล้วแต่ได้ฝากผมให้บอกคุณ 'หมอปันปัน ค่ะ' ว่า "คุณพี่คนนั้นขอฝากบอกผู้ป่วยบัตรทองแพลตตินั่มว่าขอขอบคุณมากครับ"

หมายเหตุ 

มีผู้ป่วยบัตรทองแพลตตินั่มรายหนึ่งแจ้งผมว่า แม้แต่คลินิกปฐมภูมิ และสายด่วน สปสช 1330 ก็ยังเชียร์โครงการ 'บัตรทองแพลตตินั่ม' เลย โดยแอบแนะนำให้มาสมัครเป็นสมาชิกบัตรทองแพลตตินั่มแล้วจะได้ไม่ต้องขอใบส่งตัวจากคลินิก ไม่ต้องเดินทางไกลไป รพ.ใหม่ ตามที่ สปสช จัดให้

ขนาดคลินิกปฐมภูมิที่ รพ.ยกเลิกการเป็นแม่ข่ายแท้ๆ ยังเชียร์โครงการบัตรทองแพลตตินั่ม ที่สำคัญ สายด่วน สปสช 1330 ก็ยังแอบเชียร์อีกด้วย

ถ้าโครงการบัตรทองแพลตตินั่ม ไม่ดีจริง ไม่เจ๋งจริง เชิญไปด่า 'ไอ้เฮี่ยตาแป๊ะหลักสี่ ไอ้ตี๋หัวลำโพง' อดีตเสนาธิการฝ่ายยุทธการ กรมแพทย์ทหารบก จอมเผด็จการล้างระบบส่งต่อผู้ป่วยนอก OP refer เฮงซวย ได้ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะกันเลยนะครับ

‘หมอเหรียญทอง’ แชร์เคสผู้ป่วยเข้าโครงการ 3,000 ผ่าตัดทุกโรค ตอบโจทย์ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่พร้อมจ่ายบางส่วนไม่ต้องรอคิว

(31 มี.ค. 68) พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ จีรนันท์ ประยงค์อุทัย ได้โพสต์ถึงผม เมื่อ 29 มี.ค.68 เวลา 13.59 น. ความว่า

"คุณหมอคะวันนี้หนูตัดสินใจพาแฟนไปรักษาไส้เลื่อนที่มงกุฎวัฒนะโดยใช้โครงการ 3000 ผ่าตัดทุกโรค 
พอไปถึงกรอกข้อมูลที่เวชระเบียนพยาบาลให้ขึ้นไปพบหมอที่ชั้น 5 คุณหมอซักประวัติแล้วนัดมาตรวจปอดตรวจหัวใจวันอังคารเลยค่ะ 

หมอบอกว่าถ้าไม่มีอะไรจะนัดผ่าในวันที่ 4 เลย แฟนหนูดีใจมากเขาบอกว่าไม่ต้องทนเจ็บไม่ต้องเดินขาถ่างอีกแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้หนูกับแฟนไปคลินิก - รพ.รัฐ เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ต้องหยุดทำงาน หยุดขายของ เทียวไปเทียวมาไม่รู้กี่รอบ สุดท้าย รพ.รัฐ เลื่อนผ่าไปอีก 2-3 ปี เพราะคิวเต็ม 

มาถึงวันนี้หนูรู้สึกเหมือนเทวดามาช่วยคนธรรมดาอย่างเรา หนูขอบพระคุณคุณหมอมากๆค่ะ"

โครงการ '3,000 บาท ผ่าตัด(หัตถการรักษา)ทุกโรค ไม่ต้องรอผ่าตัดนานข้ามปี เฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทองเท่านั้น ทุกเขต ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ไม่ต้องขอใบส่งตัว 

โทร. 02-574-5000 กด 0 แล้วแจ้งปัญหาการรอผ่าตัด หรือ หัตถการรักษา ...โอปะเรเตอร์จะโอนสายไปยังแผนกที่เกี่ยวข้อง หรือ สำนักงาน ผอ.รพ.

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. แก้ปัญหาให้แก่ผู้ป่วยบัตรทองที่รอคอยการผ่าตัดหรือการรักษานานข้ามปี
2. แก้ปัญหา รพ.รัฐ ที่มีผู้ป่วยบัตรทองจำนวนมากรอคอยการผ่าตัดหรือการรักษา
3. แก้ปัญหาความยากลำบากในการขอใบส่งตัวให้แก่ผู้ป่วยบัตรทอง

นี่คืออีกหนึ่งแคมเปญย่อยของโครงการบัตรทองแพลตตินั่ม รพ.มงกุฎวัฒนะ 'ผู้ป่วยบัตรทอง กัดฟันพึ่งตนเอง จ่ายค่ารักษาเองในราคา รพ.รัฐ หากต้องแอดมิตใช้สิทธิบัตรทอง สปสช.จ่ายให้ ผู้ป่วยบัตรทองจากทุกคลินิก ทุกเขต ทุกจังหวัด ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว'

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
30 มี.ค.68 เวลา 8.46 น.
หมายเหตุ ผมไม่ใช่เทวดานะครับ ผมเป็นแค่ 'คนทำมาหากินกับคนป่วย' เท่านั้น

'หมอเหรียญทอง' โพสต์เดือดฝากถึง 'สิระ' หลังอ้างความดันขึ้นเบี้ยวฟังคำพิพากษาศาลฎีกา

(22 พ.ค 68) ภายหลังศาลแขวงดอนเมือง นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสิระ เจนจาคะ อดีต สส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เป็นจำเลยในความผิดฐานบุกรุกโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2564

อย่างไรก็ตามนายสิระไม่ได้เดินทางมาศาล ขอเลื่อนการฟังคำพิพากษา โดยอ้างว่ามีอาการป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงเฉียบพลัน ศาลจึงอนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ 18 มิ.ย.2568

ทั้งนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายสิระ เจนจาคะ ฐานหมิ่นประมาท 5 กระทง กระทงละ 2 เดือน รวม 10 เดือน และฐานบุกรุก 6 เดือน รวมโทษทั้งหมด 16 เดือน ไม่รอลงอาญา ต่อมา ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้โทษ โดยลดโทษจำคุกเหลือ 10 เดือน และไม่รอลงอาญา

ล่าสุด พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ยังไม่แน่จริง ไม่เข้มแข็งพอ ถึงแม้จะเคยติดคุกมาแล้ว

เมื่อต้องฟังคำพิพากษาศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลสุดท้ายแล้ว ในขณะที่ 2 ศาลยืนตามกัน คือ ศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นพิพากษายืนตามกันให้จำคุกโดยไม่รอลงอาญาทั้ง 2 ศาล

มันคงเครียดมาก นอนไม่หลับ ปวดหัว ความดันขึ้น คนติดคุกก็ต้องเครียดอย่างนี้แหละครับ ...บางรายกลัวคุก จนขี้แตก ท้องร่วง ก็มีนะครับ...บางรายก็ขอให้แพทย์ผ่าตัดอะไรก็ได้...ฉีดสีหลอดเลือดเพื่อหาเหตุให้อ้างว่าป่วยหนัก...อื่นๆ อีกสารพัด...นี่แหละครับ 'กรรม'

รพ.สนามพลังแผ่นดิน ถูกนาย สิระ บุกรุกขัดขวางจนต้องเลื่อนออกไปนานกว่า 1 สัปดาห์ ชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักขณะนั้นไม่สามารถย้ายเข้า รพ.สนามพลังแผ่นดินที่มีขีดความสามารถ ไอ ซี ยู เพียงแห่งเดียวในสถานการณ์ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียที่รุนแรง

1 สัปดาห์ที่ รพ.สนามต้องเลื่อนออกไปจากการบุกรุกของ นาย สิระ เจนจาคะ นั้น มีผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนัก เสียโอกาสเข้า ไอ ซี ยู รพ.สนาม จนเสียชีวิตจำนวนมาก ผู้เสียชีวิตทั้งหลายไม่มีโอกาสรอดชีวิต เพราะการบุกรุก รพ.สนามโดย นาย สิระ

นายสิระยังมีอีกหลายคดีที่ศาลตัดสินจำคุกโดยไม่รอลงอาญา หากติดคุกวันนี้แล้ว ยังมีคดีอื่นๆที่จะทยอยตามมาสมทบ นับวันจำคุกเพิ่มเข้าไปอีก 

นายสิระคงคิดหนัก ทั้งยังเป็นคนไม่เข้มแข็ง ก็เลยเครียด ความดันขึ้น ติดคุกให้จบๆ แล้วประพฤติตนเสียใหม่ชีวิตบั้นปลายจะได้มีสุข

'หมอเหรียญทอง' เปิดพื้นที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ เตรียมพร้อมรองรับการรักษาชีวิตกำลังรบ

(5 มิ.ย.68) พลตรี นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ผมเป็นทหารเก่าและแก่แล้ว ถึงแม้ผมจะเรียนแพทย์ แต่ผมมีกำเนิดทางทหารมาจากการเป็นนักเรียนทหาร ผมถูกหล่อหลอมและเติบโตจากชีวิตนักเรียนทหารจนเริ่มรับราชการก็เป็นผู้บังคับหมวดเสนารักษ์ กองพันทหารราบ และไต่เต้าเติบโตเรื่อยมา

ชีวิตของผมจึงไม่ใช่แค่ชีวิตแพทย์เพียงอย่างเดียว แต่ชีวิตของผมมีชีวิตของการเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่เพื่อนและน้องทหาร พวกเราชาวทหารมีจิตวิญญาณของการเป็นทหารแห่งองค์จอมทัพไทย รักชาติ ปกป้องเอกราชและอธิปไตยด้วยชีวิตและจิตวิญญาณ

ยามใดที่พี่เพื่อนน้องของเราต้องรบ เราจะพร้อมรบ แม้เป็นทหารเก่า และแก่แล้ว หลายท่านแก่มากย่างอายุ 100 หรือเกิน 100 ก็จะรู้สึกเช่นเดียวกัน

เมื่อเอกราชอธิปไตยของชาติถูกคุกคาม บั่นทอน พวกเราจะมีความรู้สึกเดียวกันโดยไม่ต้องนัดหมาย

เพราะนี่คือ จิตวิญญาณทหาร ของพวกเรา

ใครทำอะไรได้ก็จะสนับสนุนเกื้อกูลกัน ผมเป็นทหารบำนาญ เป็น ผอ.รพ.เอกชน ผมก็ยังพร้อมตามศักยภาพเท่าที่ผมทำได้ ผมอาจจะใช้อาวุธไม่เก่ง แต่ผมรักษาชีวิตกำลังรบได้ อนุรักษ์กำลังรบได้ ยังมีสมอง มีทักษะบางประการที่สนับสนุนกองทัพได้

ทหารเก่าๆ แก่ๆ อย่างผมและพี่ๆ จำนวนมาก คิดกันอย่างนี้ ไม่ได้มีแค่ไม่กี่คน...พวกเราไม่มีใครบ้าสงคราม แต่พวกเราพร้อมสละชีพเพื่อเอกราชและอธิปไตยโดยไม่เคยเสียดาย พวกเราหล่อหลอมกันมาอย่างนี้

ก่อนหน้านี้ พล.ต. นพ.เหรียญทอง ได้โพสต์ข้อความเรียนผู้บัญชาการทหารสูงสุด รพ.มงกุฎวัฒนะพร้อมเป็นอาสาสมัครพลเรือน สนับสนุนกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ หากมีความจำเป็นต้องปฏิบัติการบินขนส่งลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศ

ทั้งนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะจะไม่เพียงแค่รับการส่งต่อผู้ป่วยทางอากาศเท่านั้น แต่จะสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยอาการหนักขั้นสมบูรณ์อย่างเบ็ดเสร็จให้ด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาศักยภาพพลเรือน รพ.มงกุฎวัฒนะ เพื่อบรรจุไว้ในแผนส่งกำลังบำรุงสายแพทย์ และแผนปฏิบัติการพลเรือน

หมายเหตุ

1. รพ.มงกุฎวัฒนะจะรื้อราวกันตกตามภาพแล้ว ติดตั้งตาข่ายนิรภัย[Safety net] พร้อมระบบไฟแสงสว่างนำร่อง-กรวยลม-อุปกรณ์ลานเฮลิคอปเตอร์และสัญลักษณ์[Marking]ตามมาตรฐาน ICAO ในทันทีที่กองทัพไทยต้องการให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็น 'ที่ขึ้นลง' ในการส่งต่อผู้ป่วยทางอากาศ

2. รพ.มงกุฎวัฒนะเตรียมการลานเฮลิคอปเตอร์ ตั้งแต่ออกแบบ และก่อสร้างมานานแล้ว สามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์ Maximum Take-Off Weight [MTOW] น้ำหนัก 4,500 กิโลกรัม (ผมเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยเวชศาสตร์การบิน กองทัพบก ผ่านการฝึกจากองค์การบริหารการบินสหรัฐฯ [FAA] และเป็นกรรมการนิรภัย กรมการบินพาณิชย์ตามข้อกำหนด ICAO)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top