Sunday, 18 May 2025
สหรัฐอเมริกา

‘สี จิ้นผิง’ ประกาศยุทธศาสตร์ ‘เอเชียบริหารเอเชีย’ หวังลดบทบาทสหรัฐฯ ในภูมิภาค พร้อมประกาศแผนสร้างเสถียรภาพใหม่

(6 พ.ค. 68) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้เปิดตัวยุทธศาสตร์ความมั่นคงใหม่ที่มุ่งเน้นการลดบทบาทของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมประกาศ “เอเชียบริหารเอเชีย” โดยระบุว่า “เรื่องของเอเชีย คนเอเชียต้องจัดการเอง” ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ว่าอาจถึงเวลาที่จะลดอิทธิพลในภูมิภาคนี้และเปิดทางให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านเสถียรภาพ

ยุทธศาสตร์นี้ได้รับการขยายผลทันทีในการเยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา โดยสี จิ้นผิงใช้โอกาสนี้เน้นย้ำการเป็น “เพื่อน” ของจีนในภูมิภาคและเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ร่วมมือกันต่อต้านแรงกดดันจากภายนอก ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการตอบโต้การกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจในเอเชีย

การผลักดันแนวคิด “เอเชียบริหารเอเชีย” นั้นมีรากฐานมาจาก “Asian Security Concept” ที่จีนเคยประกาศไว้ในปี 2014 ซึ่งเสนอทางเลือกใหม่ให้กับประเทศในเอเชียในการรักษาความมั่นคงโดยไม่พึ่งพาการแทรกแซงจากสหรัฐฯ หรือประเทศตะวันตก โดยสีจิ้นผิงเชื่อว่าภูมิภาคเอเชียสามารถจัดการปัญหาภายในได้ด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำหรับจีนยังคงมีอยู่ เนื่องจากความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และความไม่ไว้วางใจจากบางประเทศในภูมิภาคที่ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับเจตนาของจีนในระยะยาว แม้จะมีการเสนอแนวทางการร่วมมือ แต่หลายฝ่ายยังคงจับตาดูว่าใครจะเป็นผู้ที่มีอำนาจในการบริหารเอเชียในที่สุด

ไทย-สหรัฐฯ คุยต่อยอดนำเข้า LNG จากอะแลสกา เล็งปูทางลงทุน-สร้างเสถียรภาพพลังงาน

เมื่อวันที่ (6 พ.ค.68) นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมผู้บริหาร ปตท. กฟผ. และบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางเยือนรัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา เพื่อหารือกับผู้ว่าการรัฐอะแลสกา คณะกรรมาธิการด้านทรัพยากรธรรมชาติและรายได้ ตลอดจนภาคเอกชนผู้เกี่ยวข้อง อาทิ Alaska Gasline Development Corporation และบริษัท Glenfarne ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันโครงการผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ สู่ตลาดโลก

การเยือนครั้งนี้เป็นผลต่อเนื่องจากการมาเยือนไทยของผู้ว่าการรัฐอะแลสกาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ สหรัฐฯ ได้เสนอความร่วมมือใหม่กับไทยในการพัฒนาโครงการ Alaska LNG เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานของไทยในอนาคต โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติในฐานะเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำในช่วงเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

ไทยมองว่าแหล่งก๊าซ North Slope ของรัฐอะแลสกา ซึ่งมีปริมาณสำรองกว่า 40 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และศักยภาพการส่งออกกว่า 40 ล้านตันต่อปี เป็นทางเลือกเชิงพาณิชย์ที่สำคัญ ด้วยต้นทุนต่ำ ระยะเวลาขนส่งสั้นกว่าตะวันออกกลางเกือบครึ่ง และได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายจากรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างเข้มแข็ง

คณะผู้แทนไทยยังได้หารือกับผู้บริหารท้องถิ่นของเมืองคีอานู ซึ่งให้การสนับสนุนโครงการเป็นอย่างดี โดยมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างพิจารณาการนำเข้า LNG จากอะแลสกาในปริมาณ 3–5 ล้านตันต่อปี โดยมอบหมายให้ ปตท. กฟผ. และบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) เจรจาในรายละเอียดร่วมกับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อประเมินความเหมาะสมทางธุรกิจและผลักดันความร่วมมือในระยะต่อไป

รัฐบาลเวียดนามเร่งพัฒนาเศรษฐกิจ ดึงต่างชาติลงทุน AI–เซมิคอนดักเตอร์ มั่นใจบรรลุเป้าเติบโต 8% ในปีนี้ แม้ไตรมาสแรก GDP ขยายตัวเพียง 6.93%

(7 พ.ค. 68) นายกรัฐมนตรีฟาม มินห์ จิญ (Pham Minh Chinh) ของเวียดนามกล่าวต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลยังคงยึดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่อย่างน้อย 8% ในปีนี้ แม้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกและภาคธุรกิจเวียดนามโดยตรง

เขาระบุว่า รัฐบาลจะเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อรักษาสมดุลทางการค้า โดยไม่ให้ตลาดอื่นเสียประโยชน์ พร้อมเดินหน้าต่อต้านการฉ้อโกงการค้าอย่างเข้มงวด ซึ่งเวียดนามซึ่งพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ กว่า 30% ของ GDP กำลังเผชิญแรงกดดันจากภาษีนำเข้าสูงถึง 46%

แม้ GDP ไตรมาสแรกจะขยายตัวเพียง 6.93% ต่ำกว่าช่วงปลายปีที่แล้ว แต่เวียดนามยังตั้งเป้าการขยายตัวสองหลักในระยะยาว และเร่งส่งเสริมการลงทุนด้านเทคโนโลยี เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างรถไฟความเร็วสูงและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม ดัชนีภาคการผลิตล่าสุดชี้ว่ากิจการโรงงานหดตัวต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งปี ขณะที่รัฐบาลอยู่ภายใต้แรงกดดันทั้งจากความล่าช้าในการเติบโตและความเสี่ยงสงครามการค้า ซึ่งทำให้ต้องเร่งใช้มาตรการดูแลเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพภายในประเทศควบคู่กันไป

‘อังกฤษ’ บรรลุข้อตกลงการค้ากับ ‘สหรัฐฯ’ ลดภาษีนำเข้ารถยนต์เหลือ 10% พร้อมผ่อนคลายภาษีเหล็ก–เอทานอล แต่ยังคงภาษีสินค้าสำคัญหลายรายการ

(9 พ.ค. 68) สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรบรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีในขอบเขตจำกัด โดยยังคงอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของอังกฤษไว้ที่ 10% แต่เปิดทางให้ทั้งสองประเทศสามารถเข้าถึงตลาดสินค้าเกษตรได้มากขึ้น พร้อมลดภาษีศุลกากรสำหรับรถยนต์และสินค้าอุตสาหกรรมบางรายการ

ข้อตกลงนี้ถือเป็นก้าวแรกของชุดความร่วมมือทางการค้าหลายฉบับที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนจะประกาศในเร็วๆ นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ โดยทรัมป์ชื่นชมความร่วมมือจากอังกฤษ ขณะที่นายกรัฐมนตรีคีร์ สตาร์เมอร์ ย้ำว่านี่คือ 'วันประวัติศาสตร์' ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานของทั้งสองชาติ

สำหรับข้อตกลงนี้จะช่วยลดภาษีนำเข้ารถยนต์อังกฤษในสหรัฐฯ จาก 27.5% เหลือ 10% สำหรับโควตา 100,000 คัน และยกเลิกภาษีนำเข้าเหล็กและเอทานอลบางส่วน พร้อมเปิดตลาดเนื้อวัวแบบแลกเปลี่ยน โดยอังกฤษจะได้โควตาปลอดภาษีครั้งแรกสำหรับเนื้อวัว 13,000 เมตริกตัน แต่ยังคงห้ามนำเข้าเนื้อวัวอเมริกันที่ใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต

ภาคธุรกิจบางส่วนในอังกฤษแสดงความผิดหวังที่ยังคงมีอัตราภาษี 10% สำหรับสินค้าหลายประเภท โดยเฉพาะรถยนต์ ขณะที่บริษัทในสหรัฐฯ เช่น เดลต้าแอร์ไลน์และผู้ผลิตเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ ได้รับประโยชน์ทันทีจากการลดภาษี และรัฐบาลอังกฤษย้ำว่าการเจรจายังไม่จบ โดยมีหลายประเด็นสำคัญ เช่น ภาษีบริการด้านดิจิทัล ที่ยังต้องหารือเพิ่มเติม

แม้จะมีข้อจำกัด แต่ข้อตกลงนี้ถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือทางการค้าที่ลึกซึ้งขึ้นในอนาคต โดยรัฐบาลอังกฤษพยายามรักษาสมดุลระหว่างความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรป หลังเบร็กซิต (Brexit) หรือการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ในช่วงที่เศรษฐกิจภายในประเทศกำลังเผชิญความท้าทายจากต้นทุนการส่งออกที่สูงและการเติบโตที่ชะลอตัว

‘ทรัมป์’ จ่อเก็บภาษีนำเข้าภาพยนตร์ต่างชาติ 100% อ้างปกป้อง ‘ฮอลลีวูด’ จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม

(9 พ.ค. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขาเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 100% สำหรับภาพยนตร์ที่ผลิตจากต่างประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภาพยนตร์อเมริกันที่ “กำลังจะตายอย่างรวดเร็วมาก” และมอบหมายให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ดำเนินการทันที

ทรัมป์วิจารณ์ประเทศอื่น ๆ ว่ามีความพยายามร่วมกันในการเสนอแรงจูงใจดึงดูดผู้สร้างภาพยนตร์ ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” พร้อมระบุว่าภาพยนตร์จากต่างประเทศมักแฝงข้อความโฆษณาชวนเชื่อ พร้อมย้ำผ่านแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล ว่า “เราต้องการให้ภาพยนตร์สร้างขึ้นในอเมริกาอีกครั้ง!”

นับตั้งแต่กลับสู่ทำเนียบขาวเมื่อต้นปี ทรัมป์ได้เดินหน้านโยบายภาษีศุลกากรอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะกับจีน ซึ่งถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 145% และอาจพุ่งถึง 245% สำหรับสินค้าบางรายการ ส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 125% ท่ามกลางความกังวลว่าการเผชิญหน้าทางภาษีอาจซ้ำเติมเศรษฐกิจโลก

ล่าสุด ทรัมป์เผยระหว่างเดินทางบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ว่า เขากำลังเจรจาการค้ากับหลายประเทศ รวมถึงจีน แต่ยังไม่มีแผนพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในสัปดาห์นี้ และกล่าวเพียงว่า “อาจจะมีข้อตกลงเกิดขึ้นก็ได้” โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม

‘บิล เกตส์’ ประณาม ‘อีลอน มัสก์’ มีส่วนฆ่าเด็กยากจน ปมยกเครื่อง USAID ตัดงบช่วยเหลือต่างประเทศในยุคทรัมป์

(9 พ.ค. 68) บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟต์และนักการกุศลชื่อดัง ออกโรงวิจารณ์อีลอน มัสก์อย่างรุนแรง โดยกล่าวหาว่ามัสก์มีส่วนทำให้เด็กในประเทศยากจนเสียชีวิต จากบทบาทของเขาในการผลักดันการตัดงบสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ระหว่างรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

ในการให้สัมภาษณ์กับ The New York Times และ Financial Times เกตส์กล่าวว่า การตัดงบดังกล่าวทำลายความก้าวหน้าในการต่อสู้กับโรคร้ายอย่างหัด เอชไอวี และโปลิโอที่ใช้เวลากว่าสองทศวรรษสร้างมา พร้อมเปรียบเปรยว่ามัสก์ได้ 'โยน USAID เข้าเครื่องย่อยไม้'

บิล เกตส์ ยังตั้งคำถามถึงความจริงจังของมัสก์ต่อคำมั่นสัญญาภายใต้ 'Giving Pledge' ซึ่งเขาเคยลงนามว่าจะบริจาคทรัพย์สินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งให้การกุศล พร้อมเน้นย้ำว่าแม้มัสก์อาจเป็นผู้ใจบุญในอนาคต แต่ปัจจุบันเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับความตายของเด็กยากไร้จำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบขาวออกมาปกป้องมัสก์ โดยระบุว่าเขาเป็นผู้รักชาติที่ช่วยรัฐบาลขจัดความสิ้นเปลืองและทุจริต พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภายกย่องความพยายามของมัสก์ในการผลักดันวอชิงตันให้โปร่งใส

ทั้งนี้ คำกล่าวของเกตส์มีขึ้นในช่วงที่มูลนิธิเกตส์ครบรอบ 25 ปี โดยเขาให้คำมั่นว่าจะบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดภายใน 20 ปีข้างหน้า รวมมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อผลักดันภารกิจด้านสาธารณสุขและการพัฒนาในประเทศกำลังพัฒนา

‘ดร.กอบศักดิ์’ วิเคราะห์!! สหรัฐอเมริกา กำลังด้อยค่า องค์กรระดับโลก ได้มาซึ่งระบบใหม่ ที่มาจากอำนาจเก่า จบด้วยการที่ ‘Changes’ ไม่ยืนยาว

(10 พ.ค. 68) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความว่า...

Changes are Coming แต่จะไม่ยืนยาว ไม่ถาวร!!!

ด้วยมุมมองของผู้นำสหรัฐแบบนี้ ไม่น่าแปลกใจที่ระเบียบโลก องค์กรต่าง ๆ ที่ถูกสร้างและใช้มา 80 ปี กำลังถูกไม่ให้ค่า และกำลังตกเป็นเป้าที่จะต้องถูกจัดการ WTO IMF World Bank UN NATO แต่ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ของสิ่งที่สหรัฐกำลังทำ ก็คือ ระบบที่ไม่ได้มาจากการยอมรับจากทุกคน ไม่ได้ฉันทานุมัติสร้างด้วยกำปั้น ฉันจะเอาอย่างนี้ ทุกคนจำยอมจะอยู่ได้นานเท่ากับ 'ความเข้มแข็งของกำปั้น' นั้น ต่อให้สร้างขึ้นมาได้ แต่เมื่อความถดถอย เสื่อมถอยมาเยือน ระบบที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอำนาจกำปั้นก็จะเสื่อมถอยอย่างรวดเร็วเช่นกัน เฉกเช่นเดียวกับอาคารที่ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียว เมื่อเสาต้นนั้นโคลงเคลง ไม่แข็งแรง สุดท้ายก็จะล้มลงมาเช่นกัน  

ทั้งนี้ สิ่งที่สหรัฐทำ จะสำเร็จอย่างถาวร จะสามารถสร้างระเบียบโลกใหม่ได้อีกรอบ ที่ยืนยาว ตั้งมั่น เลี้ยงตัวเองได้เหมือนกับรอบที่แล้วที่อยู่กันมาได้ 80 ปี หรือไม่จะขึ้นกับนโยบายสำคัญ ๆ ที่สหรัฐยังไม่ได้เดินหน้าโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้
- คน
- ประสิทธิภาพการผลิต
- เทคโนโลยี นวัตกรรม
- ขนาดของเศรษฐกิจและการค้า ของสหรัฐกลับมาเป็นผู้นำของโลกอย่างแท้จริง เพราะถ้าไม่แก้สิ่งเหล่านี้ ไม่มุ่งสร้าง Fundamentals และ Foundations ใหม่ที่จะนำไปสู่การสร้างอำนาจใหม่ ที่แท้จริง

สิ่งที่จะได้ก็คือ ระบบใหม่ ที่มาจากอำนาจเก่า ที่กำลังทรุดโทรมลง จบด้วยการที่ 'Changes' ไม่ยืนยาว 'ระบบใหม่ที่พยายามสร้าง' ไม่ถาวร มาดูกันครับว่า จะเป็นเช่นนี้หรือไม่ 

ปล. หากทุกอย่างจะเป็นเช่นนี้ โลกจะเดินไปอย่างนี้ในช่วงการเปลี่ยนแปลงสำคัญ รอบนี้อาจจะดี ที่ทุกประเทศที่เหลือระหว่างที่ 'ยอมเดินไปกับเขา' มาเตรียมการวางรากฐานของ 'บ้านใหม่' ที่มาจากความยอมรับของทุกคนอย่างแท้จริง เพราะ ฉันทามติ ความยอมรับของทุกฝ่าย คือ หัวใจที่แท้จริงของความยั่งยืน 

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เตรียมประกาศรับรอง!! ‘ปาเลสไตน์’ ในการประชุมสุดยอดระหว่าง ‘สหรัฐฯ - อ่าวเปอร์เซีย’

(10 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ซาอุดีอาระเบียมีกำหนดจะจัดการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐและอ่าวเปอร์เซียในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งแรกของโดนัลด์ ทรัมป์ในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง โดยการประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2017 ในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์

การประชุมสุดยอดซึ่งจัดขึ้นที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย มีการคาดการณ์ล่วงหน้ามากมายเกี่ยวกับการประกาศที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อ้างถึง โดยระบุว่าเป็น 'การประกาศที่สำคัญมาก' ในระหว่างการประชุมกับจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารที่ 6 พฤษภาคม

นอกเหนือจากสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตั้งใจจะประกาศแล้ว วาระการประชุมสุดยอด ข้อตกลง และข้อตกลงต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาของเมือง ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงด้านความปลอดภัยและการทหาร ข้อตกลงด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์

ผู้นำอ่าวอาหรับทุกคนมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอ่าวเปอร์เซีย-สหรัฐฯ ยกเว้นกษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมงานสาธารณะหรือการประชุมเป็นเวลานานเนื่องจากพระองค์มีพระอาการป่วย

*** ทรัมป์จะยอมรับรัฐปาเลสไตน์หรือไม่??

แหล่งข่าวทางการทูตจากอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งไม่ประสงค์จะเปิดเผยชื่อหรือเปิดเผยจุดยืนของตน กล่าวกับ The Media Line ว่า "ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะออกคำประกาศเกี่ยวกับสถานะปาเลสไตน์และการรับรองของอเมริกา และจะมีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์โดยไม่มีกลุ่มฮามาสเข้าร่วม"

แหล่งข่าวยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “หากอเมริกาประกาศรับรองปาเลสไตน์ นั่นจะเป็นการประกาศครั้งสำคัญที่สุดที่จะเปลี่ยนสมดุลอำนาจในตะวันออกกลาง และจะมีประเทศอื่นๆ เข้าร่วมข้อตกลงอับราฮัมมากขึ้น”

แหล่งข่าวยืนยันว่าจะมีข้อตกลงทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่หลายข้อตกลงก็ประกาศไปแล้ว และเราอาจได้เห็นรัฐอ่าวเปอร์เซียได้รับการยกเว้นภาษี

อาเหม็ด อัล-อิบราฮิม อดีตนักการทูตอ่าวเปอร์เซีย กล่าวกับ The Media Line ว่า “ผมไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับปาเลสไตน์ ประธานาธิบดีอียิปต์ อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี และกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนไม่ได้รับเชิญ พวกเขาเป็น 2 ประเทศที่ใกล้ชิดกับปาเลสไตน์มากที่สุด และจะเป็นเรื่องสำคัญมากที่พวกเขาจะต้องเข้าร่วมงานใดๆ เช่นนี้”

อัล-อิบราฮิมยังกล่าวอีกว่า “จะมีข้อตกลงสำคัญๆ เกิดขึ้น อาจจะคล้ายกับที่เกิดขึ้นในการประชุมสุดยอดอ่าวเปอร์เซีย-สหรัฐในปี 2017 โดยข้อตกลงระหว่างซาอุดิอาระเบียมีมูลค่ามากกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ อย่าลืมว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศการลงทุนในสหรัฐมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ และซาอุดิอาระเบียประกาศการลงทุนมูลค่ามากกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์”

เขากล่าวต่อว่า “นี่เป็นเรื่องชัดเจนเพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตั้งใจที่จะเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกาตาร์หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นสองเศรษฐกิจสำคัญที่มีแหล่งเงินทุนที่สำคัญและมีการลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐ”

Ahmed Boushouki นักวิเคราะห์การเมืองชาวซาอุดีอาระเบีย กล่าวกับ The Media Line ว่านี่เป็นเรื่องข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย บางทีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ อาจกล่าวเป็นนัยถึงเรื่องนี้เมื่อเขาบอกกับชาวอเมริกันว่า ซื้อหุ้นตอนนี้ ก่อนที่จะมีการประกาศครั้งใหญ่ในอีกสองวันข้างหน้า

เกี่ยวกับข่าวความร่วมมือทางนิวเคลียร์อย่างสันติระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียในการผลิตไฟฟ้าในซาอุดีอาระเบีย Boushouki กล่าวว่า "ซาอุดีอาระเบียได้ประกาศโครงการมาตั้งแต่ปี 2010 และมีการหารือเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว ปัจจุบัน บริษัทต่างชาติกำลังดำเนินการเพื่อดำเนินโครงการเหล่านี้ในซาอุดีอาระเบีย"

ขณะนี้ ซาอุดีอาระเบียกำลังมีแผนที่จะสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แห่งแรกของซาอุดีอาระเบีย โดยมีบริษัทต่างชาติหลายแห่งแข่งขันกันออกแบบและสร้างเตาปฏิกรณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านในอ่าวเปอร์เซียอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเจ้าของเตาปฏิกรณ์ Barakah อยู่แล้ว และเป็นประเทศอาหรับเพียงประเทศเดียวที่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์สี่เตาปฏิกรณ์ โดยร่วมมือกับบริษัทของเกาหลี

เบื้องหลังความสำเร็จ ของ ‘น้องปุญ’ ความฝัน ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น สู่การเป็น นักเรียนโรงเรียนนายเรือ ‘Annapolis’ ประเทศสหรัฐอเมริกา

(10 พ.ค. 68) คนเรา ถ้าตั้งใจจริง แล้ว พยายาม อย่างที่สุด ก็จะสำเร็จ ....สัญญากับตัวเอง เตือนตัวเอง ว่าต้องทำให้ได้!!

เหมือน 'น้องปุญ' นักเรียนนายเรือ ปุญระพี ประกิจ ชั้นปีที่ 1 ที่ ผ่านทุกด่าน จนได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาต่อที่ โรงเรียนนายเรือสหรัฐอเมริกา United States Naval Academy( USNA,ที่เมือง Annapolis มลรัฐแมรี่แลนด์

น้องปุญ จบมัธยมจากสาธิตปทุมวัน ด้วยความที่พ่อ แม่ น้า ๆ เป็นวิศวกร น้องปุญ จึงตั้งเป้าหมายว่า จะเรียนวิศวฯ มาโดยตลอด และช่วงใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่บ้านอยากหาสนาม ให้ไปซ้อมสอบ และมีเพียงสนามสอบเตรียมทหาร ที่เปิดสอบ น้องปุญ ก็ไปสอบ และสอบติดทั้ง 4 เหล่า และด้วยความเป็นนักว่ายน้ำ ก็เลยตั้งใจเลือก ทหารเรือ และขอลองไปลองเรียนที่เตรียมทหาร และเมื่อผลสอบออกมา มหาวิทยาลัยออกมา น้องปุญ สอบได้ คณะวิศวฯ จุฬาฯ แต่ น้องปุญ ตัดสินใจ แล้วบอกว่า ”สละสิทธิ์นะแม่” ขอเรียนต่อที่ รร.เตรียมทหาร คุณพ่อและคุณแม่ ไม่ขัด ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของลูก อยากเรียนเตรียมทหาร อยากเป็นทหารเรือ ก็เอา!! ไว้เปลี่ยนใจ แล้วค่อยออกมา สอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ 

น้องปุญ เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น61 และ นักเรียนนายเรือ รุ่น118 และมุ่งมั่นตั้งแต่ เป็นนักเรียนเตรียมทหาร ว่า จะสอบไปเรียน โรงเรียนนายเรือสหรัฐอเมริกา หรือ ที่รู้จักกันดีว่า รร.นายเรือ Annapolis ให้ได้ ความฝัน ของ น้องปุญ ที่อยากจะไปเรียน รร. นายเรือ Annapolis มาจากที่ อาจารย์ ที่เตรียมทหาร เปิดหนังเรื่อง Annapolis ในห้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษ 

หลังจากนั้น น้องปุญ ก็ ค้นหาข้อมูล เกี่ยวกับรร. นายเรือ Annapolis และยิ่งสร้างเป้าหมายในชีวิตว่า จะสอบเข้า รร. นายเรือ Annapolis นี้ให้ได้ หนึ่งในคลิป ที่ ต้องปุญ ดู คือ คลิป ที่ รายการลับลวงพราง พาไปเยี่ยมชม รร. นายเรือ Annapolis ที่มี น้องโมโน นนร. ธิปก เอกวิริยะเสถียร เป็นคนพาเดินชม รร. และเล่าเรื่องการเรียนให้ฟัง

น้องปุณ เขียนความตั้งใจอันแน่วแน่นี้ ไว้ในสมุดโน้ตประจำตัว ตอน เรียนเตรียมทหาร ตั้งแต่ 30 กย.2019 ว่า จะต้องสอบติด Annapolis ให้ได้ พร้อมวาดรูป แมลงเต่าทอง แมลงแห่งโชค พร้อมชื่อ รัฐMaryland และ ข้อคิดเตือนใจตัวเอง 12 ข้อ
- มุ่งมั่น ตั้งใจ สู้ๆ!
- มองไปถึงอนาคตไกลๆ
- ทำให้ดีที่สุด อย่ามาเสียใจตอนสาย
- เชื่อว่ามึงทำได้ !!!
- เตรียมตัวให้พร้อม
- ความสำเร็จ แม่งโคตรหอมหวาน
- ไม่ต้องรู้งี้ ทำให้ได้ไปเลย
- ห้ามพลาดโอกาสนี้ เด็ดขาด
- อย่าผลัดวัน ประกันพรุ่ง
- เพื่อตัวเองทุกวัน !!
- วัดกันสักตั้งดี"
- กัดฟันสู้ สิวะ

คุณแม่ของน้องปุญ เพิ่งค้นเจอ สมุดที่ นักเรียนเตรียมทหาร ต้องพกประจำตัว ที่น้องปุญ เขียนข้อความเหล่านี้ โดยบังเอิญ เมื่อไม่นานมานี้. ตอนที่เก็บของในห้องน้องปุญ ที่ทำให้ได้รู้ถึงความตั้งใจอันมุ่งมั่นของลูกชาย จนที่สุด น้องปุณ ก็ทำตามความฝันความตั้งใจ นั้นได้ เมื่อ ทัพเรือสหรัฐฯ ได้ตอบรับให้น้องปุณ ไปเรียนที่ รร.นายเรือAnnapolis และยัง สร้างความปลื้มใจให้ ทั้งคุณพ่อ และคุณแม่ ผู้เป็นกำลังใจ และกองหนุนสำคัญ ของลูก

โดยจะไปเรียนในเดือน มิย.นี้ ตอนนี้ น้องปุณได้เรียนภาษา ที่ ศูนย์ภาษา กรมยุทธศึกษา ทร. โดย จะใช้เวลาเรียนที่รร.นายเรือ สหรัฐฯ 5 ปี และจะสำเร็จการศึกษาในเดือน มิถุนายน 2569

ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้เคยส่งนักเรียนนายเรือไปเรียนที่โรงเรียนนายเรือประเทศสหรัฐฯ ครั้งแรกปี 2498 โดยส่งไปเข้าโรงเรียนนายเรือเป็นหลัก ถ้าเข้าไม่ได้ก็จะเปลี่ยนไปเข้าที่โรงเรียนยามฝั่ง หากเข้าทั้ง 2 โรงเรียนไม่ได้ จะให้เข้ามหาวิทยาลัย การเข้าเรียนต้องผ่านการคัดเลือกเข้มข้น ผู้ที่กองทัพเรือส่งไปเรียนที่สหรัฐฯ ในช่วงแรกส่วนใหญ่ไปเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย มีช่วงที่ส่งไปต่อเนื่องคือระหว่างปี2522-2537 นักเรียนนายเรือ เสรี ฉ่ำชื่น (ปัจจุบัน ยศ นาวาเอก) นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 28 เป็นผู้ที่เข้าได้เข้ารับศึกษาในโรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ ได้เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2532 

แต่เนื่องจากการคัดเลือกเข้มข้น นักเรียนนายเรือไทย จึงได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียนได้บ้างไม่ได้บ้าง กองทัพเรือจึงงดส่งนักเรียนนายเรือไปสหรัฐฯ ระยะหนึ่ง และมาเริ่มส่งอีกครั้งเมื่อปี 2553 จนถึงปัจจุบัน กองทัพเรือไทยมีผู้สำเร็จการศึกษาจากประเทศสหรัฐฯ ระดับต่าง ๆ ประมาณ 20 นาย ทั้ง ที่ Annapolis ,Coastguard และ มหาวิทยาลัย ไม่รวมระดับปริญญาโท

ซึ่งขณะนี้กองทัพเรือมีนักเรียนนายเรือที่กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนายเรือ เมืองแอนนาโปลิส ประเทศสหรัฐอเมริกานี้ 3 คนคือ นักเรียนนายเรือ ณัทดรัณ คุรุวิชญา ปี 4 (จะสำเร็จการศึกษาในเดือน มิถุนายน 2564 นี้) นักเรียนนายเรือ ธงบุญ เพ็งแก้ว กำลังศึกษาอยู่ปีที่ 3 และ นักเรียนนายเรือ สุรศักดิ์ บรรดาศักดิ์ กำลังศึกษาอยู่ปีที่ 2 พี่เล็ก วาสนา และ รายการ ลับลวงพราง Exclusive ยินดี ที่ได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจ ให้ น้องปุญ สู่การเป็น USNA Cadet แต่ที่สำคัญที่สุด คือ กำลังใจ แรงสนับสนุนจาก คุณพ่อคุณแม่ และท้ายที่สุด ตัว น้องปุญ เอง ที่ ตั้งใจและมุ่งมั่น ทำความฝัน ความตั้งใจของตนเอง ให้สำเร็จ...แม้จะเป็น ก้าวแรก ก็ตาม.... อีก 5 ปี ที่ยิ่งต้องพยายาม และมุ่งมั่น สู้ต่อไป จ้า !!! ”

ตอนนี้เกือบจะครบ 5 ปีแล้วครับ น้องปุญ มิได้แค่เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ แต่ยังได้บทบาท เป็นผู้นำของนักเรียน ได้เป็นนักเรียนบังคับบัญชา ซึ่งน้อยมากที่จะให้นักเรียนต่างชาติได้เป็น และยังได้รับการยอมรับจากเพื่อน ๆ ทั้งรุ่นและเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในโรงเรียนอีกด้วย

‘ชมพู่ พรพรรณ’ ได้ MVP รับเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์ และเป็นสาวไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์ลีก สหรัฐอเมริกา

(12 พ.ค. 68) เพจ ‘วอลเลย์บอลหญิงรวมดาว🇹🇭’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ยินดีกับ "ชมพู่" ได้ MVP รับเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์และเป็นสาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสหรัฐอเมริกา

ทีม Orlando Valkyries รับถ้วยรางวัล   และเงินรางวัล 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (32,965,000 บาท)
ลีกอเมริกา Pro Volleyball Federation (PVF) รอบชิงชนะเลิศ
Orlando Valkyries (ทีมชมพู่) ชนะ Indy Ignite 3:1 (25-21, 25-19, 19-25, 25-15)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top