Saturday, 7 June 2025
สร้างไทยไปด้วยกัน

'บิ๊กตู่' ผลักดันนโยบาย 'อาหารไทย อาหารโลก' เน้น!! การขยายตลาดอาหารไทยไปยังตลาดโลก คู่กับ 'ส่งเสริม' สินค้าฮาลาล อย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 66 รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) พร้อมด้วย...

- ศาสตราจารย์ ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ รองอธิการบดี ด้านการวิจัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
- พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย 
- นายสามารถ มะลูลีม กรรมการอำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
- นายประสาน ศรีเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี 
- นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง 
- คณะผู้บริหารศวฮ.และเจ้าหน้าที่

ให้การต้อนรับท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะในการเยือนศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พิธีเปิดเริ่มด้วยการกล่าวต้อนรับ โดยศาสตราจารย์ ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ รองอธิการบดี ด้านการวิจัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การกล่าวสรุปกิจการฮาลาลประเทศไทย โดยพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย

จากนั้น รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์ฯ บรรยายสรุปพันธกิจและ กิจกรรมของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) ดังนี้...

1. ประวัติและผลงานของ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ
2. โครงสร้างการบริหารกิจการฮาลาลประเทศไทย
3. บทบาทของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมฮาลาล ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย

ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบาย และเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล และห้องปฏิบัติการทางนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาล ณ ชั้น 11 – 13 อาคารวิจัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

‘บิ๊กตู่’ ลั่น!! นี่คือผม สู้ทุกอย่าง ไม่ยอมแพ้ใครทั้งสิ้น เพื่อให้ใบหน้าของประชาชนทุกคนมีแต่รอยยิ้ม

เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวขณะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงการดำเนินงาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ให้ประชาชนทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ มีรอยยิ้ม ว่า…

“สู้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม เพราะนี่คือผม ไม่ยอมแพ้ใครทั้งสิ้น

‘ทางหลวงหมายเลข 12’ ผลงานความสำเร็จจากรัฐบาล ‘บิ๊กตู่’  เชื่อมโยงระเบียง ศก.ตะวันออก-ตะวันตก กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค

ผลงานความสำเร็จ!! ยุทธศาสตร์รัฐบาล ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ถนนสายเศรษฐกิจเส้นประวัติศาสตร์ ‘ทางหลวงหมายเลข 12’ เชื่อมต่อ 4 ประเทศอาเซียน เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค เพิ่มมูลค่าการค้าตามแนวชายแดน

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 66 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความสำเร็จจากยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาล การกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน คู่ไปกับการพัฒนาตามแนวทางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ใช้จุดแข็งและความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ของประเทศเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงทางคมนาคม เพิ่มโอกาส ช่องทางการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งส่งเสริมบทบาทของไทย ทั้งในระดับอนุภูมิภาค ภูมิภาค และทั่วโลกชื่นชมความสำเร็จผลงาน

ถนนสายเศรษฐกิจเส้นประวัติศาสตร์ ทางหลวงหมายเลข 12 สายกาฬสินธุ์-บรรจบทางหลวงหมายเลข 12 (บ้านนาไคร้) - อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่ง รองรับการเดินทางในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร และส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก - ตะวันตก (East - West Corridor)

รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างเชื่อมโยง โดยทางหลวงหมายเลข 12 แนวใหม่นี้ยังเชื่อมต่อ 4 ประเทศอาเซียนเข้าด้วยกัน โดยเริ่มจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ผ่านไปยังจังหวัดมุกดาหารเชื่อมต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไปสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในขณะที่อีกฝั่งสามารถวิ่งไปยังเมียนมาได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมทะเลจีนใต้กับมหาสมุทรอินเดียเข้าด้วยกันอีกด้วย ถือเป็นทางเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งยังเป็นทางลัดเชื่อมจังหวัดกาฬสินธุ์-มุกดาหาร ให้ประชาชนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก และลดระยะการในการเดินทาง

ทางหลวงหมายเลข 12 ยังเป็นเส้นทางสนับสนุน และรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สายเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor–EWEC) ช่วยกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค เพิ่มมูลค่าการค้าตามแนวชายแดน ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนอีกด้วย

จากข้อมูลของกองยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหารมีการดำเนินการลงทุนแล้ว 3 โครงการ วงเงิน 392 ล้านบาท จากโครงการที่ขอรับการส่งเสริมฯจาก BOI 5 โครงการ วงเงิน 2,102 ล้านบาท และมีธุรกิจตั้งใหม่ 868 ราย วงเงิน 1,655 ล้านบาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top