Friday, 17 May 2024
สมุทรสาคร

ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร ตกลงนอกรอบ เคลียร์เบอร์เดียวกันทุกเขตทั้งจังหวัด

‘สมุทรสาคร’ เลือกตั้งสมานฉันท์ ผู้สมัครส.ส.ตกลงนอกรอบ ได้เบอร์เดียวกันทั้ง 3 เขต

(3 เม.ย.66) ที่ห้องประชุมสาครบุรีชั้น3 อาคารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจัดให้เป็นสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สมุทรสาคร ทั้ง 3 เขต ปรากฏว่าบรรยากาศในตอนเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก โดยผู้สมัครจากพรรคการเมืองพร้อมกองเชียร์ติดตามกันมาให้กำลังใจกับผู้สมัครเป็นจำนวนมาก ทั้ง 10 พรรคต่างได้เดินทางมาถึงก่อนเวลา 08.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เปิดรับสมัคร

เมื่อถึงเวลารับสมัครทางเจ้าหน้าที่ที่รับสมัครได้ให้ผู้สมัครทุกพรรคการเมืองให้ไปตกลงกันก่อนในการที่จะยื่นใบสมัคร หากตกลงกันไม่ได้ก็จะใช้วิธีการจับเบอร์ ปรากฏว่าทุกพรรคการเมืองต่างออกมาตกลงกันและอยากได้เบอร์เดียวกันทั้ง 3 เขต เพื่อที่จะง่ายต่อการใช้หาเสียง

ผลการหารือใช้เวลา 10 นาที เป็นที่ตกลงกันได้ โดยทุกพรรคเห็นเหมือนกันว่าอยากได้เบอร์เดียวกันทุกเขตทั้งจังหวัด จึงมีการจับเบอร์กันก่อน หากพรรคไหนได้เบอร์อะไร ก็จะไปยื่นใบสมัครเรียงตามลำดับเบอร์

ทั้งนี้ ปรากฏว่า เบอร์ 1 พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 4 พรรคไทยภักดี เบอร์ 5 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 6 พรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 7 พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 8 พรรคเสรีรวมไทย เบอร์ 9 พรรคก้าวไกล และเบอร์ 10 พรรคคลองไทย

เจ้าหน้าที่ที่รับสมัครจึงได้มีการทำบันทึกข้อตกลงเอาไว้ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกพรรคตกลงกันได้ และง่ายต่อการหาเสียงเลือกตั้ง


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/721755

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. สมุทรสาคร ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 3 เขตของจังหวัดสมุทรสาคร ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>> เขต 1 อำเภอเมืองสมุทรสาคร (เฉพาะตำบลมหาชัย, ตำบลท่าฉลอม, ตำบลโกรกกราก, ตำบลบางหญ้าแพรก, ตำบลท่าทราย, ตำบลโคกขาม, ตำบลพันท้ายนรสิงห์, ตำบลคอกกระบือ และตำบลบางน้ำจืด)

>> เขต 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร (เฉพาะตำบลนาดี) อำเภอกระทุ่มแบน (เฉพาะตำบลอ้อมน้อย, ตำบลสวนหลวง, ตำบลท่าไม้, ตำบลตลาดกระทุ่มแบน, ตำบลแคราย, ตำบลคลองมะเดื่อ และตำบลดอนไก่ดี)

‘พระราม 2’ แผ่นปูนใต้สะพานหน้ามหาชัยเมืองใหม่ ‘แตก’ เป็นวงกว้าง 'ส.ส.ก้าวไกล' จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ หวั่นเกิดอันตราย!!

(22 ก.ค.66) นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล จังหวัดสมุทรสาคร ให้สัมภาษณ์กรณีแผ่นคอนกรีตบริเวณใต้สะพานต่างระดับหน้ามหาชัยเมืองใหม่แตกเป็นวงกว้างว่า มีชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนนได้แจ้งมาว่าพบแผ่นปูนใต้สะพานต่างระดับมหาชัยเมืองใหม่ ถนนพระราม 2 จังหวัดสมุทรสาครแตกออกมาเป็นวงกว้างขนาดใหญ่ อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนได้ ตนพร้อมด้วยทีมงานจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว 

"จากการพบว่าบริเวณใต้สะพานต่างระดับหน้ามหาชัยเมืองใหม่ แผ่นปูนแตกเป็นวงกว้างมากดูแล้วหวั่นเกรงว่ารอยแตกอาจจะลุกลามแตกเพิ่มอีกได้ น่าหวาดเสียวมากสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรผ่านเส้นทางนี้ ตลอดจนยังไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลหรือเตือนประชาชนเลย จึงขอฝากไปยังแขวงทางหลวงสมุทรสาคร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเข้ามาตรวจสอบดูแลและแก้ไขโดยเร็วก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาได้กับผู้ใช้รถใช้ถนน" นายณัฐพงษ์ กล่าว

‘หลวงปู่ทอง’ เกจิดังทายาทสายพุทธาคม วัดดอนไก่ดี มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุรวม 107 ปี 83 พรรษา

คณะศิษยานุศิษย์สุดอาลัย พระราชมงคลวุฒาจารย์ (สุวรรณ สุวิชาโน) หรือ ‘หลวงปู่ทอง’ วัดดอนไก่ดี เกจิดังแถวหน้าของเมืองไทย ทายาทสายพุทธาคม ‘หลวงพ่อรุ่ง’ วัดท่ากระบือ ได้มรณภาพลงแล้ว เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2566 เวลา 16.52 น. ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ สิริอายุ 107 ปี 83 พรรษา

เพจเฟซบุ๊ก ‘วัดดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร’ ได้แจ้งข่าวการมรณภาพของ พระราชมงคลวุฒาจารย์ (สุวรรณ สุวิชาโน) หรือ ‘หลวงปู่ทอง’ โดยลงข้อความ ระบุว่า น้อมกราบถวายความอาลัย พระเดชพระคุณพระราชมงคลวุฒาจารย์ (หลวงปู่ทอง สุวิชาโน) วัดดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2566 เวลา 16.52น. ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ สิริอายุ 107 ปี 83 พรรษา

ทั้งนี้ พระราชมงคลวุฒาจารย์ (สุวรรณ สุวิชาโน) หรือ ‘หลวงปู่ทอง’ เป็นพระเกจิชื่อดังระดับแถวหน้าของเมืองไทย ทายาทสายพุทธาคม ‘หลวงพ่อรุ่ง’ วัดท่ากระบือ อดีตพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำท่าจีน

‘หลวงปู่ทอง’ มีนามเดิมว่า ‘สุวรรณ รุ่งอารีย์’ เกิดเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2460 ที่บ้านดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร อุปสมบทเมื่อพ.ศ.2483 ที่วัดดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน โดยมีพระครูสังวรศีลวัตร (หลวงพ่ออาจ) วัดดอนไก่ดี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุทรคุณาจารย์ (หลวงปู่ฮะ) วัดดอนไก่ดี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ ‘หลวงพ่อเล็ก’ วัดหงอนไก่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับการอบรมในด้านสมาธิภาวนาจาก ‘หลวงปู่ฮะ’ ด้านวิทยาคม ได้รับการอบรมชี้แนะจาก ‘พระครูสังวรศีลวัตร’ หรือ ‘หลวงพ่ออาจ’ วัดดอนไก่ดี

หลังได้ศึกษาจนมีความชำนาญ จึงเดินทางไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์ 'หลวงพ่อรุ่ง' วัดท่ากระบือ ได้รับการแนะนำสั่งสอนอบรมหลายอย่าง โดยเฉพาะการถ่ายทอดวิชาเขียนยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ลงตะกรุดทำน้ำมนต์ ทำให้ ‘หลวงปู่ทอง’ ได้รับการกล่าวถึงในหมู่ลูกศิษย์ถึงความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลที่ ‘หลวงปู่ทอง’ จัดสร้างขึ้น ซึ่งที่ได้รับความนิยม เช่น พระขุนแผนมหาเมตตาใหญ่, สีผึ้ง, แม่นางกวัก, เหรียญหลวงปู่ทอง รุ่นมหาลาภ เป็นต้น

สำหรับลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2564 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ ‘พระราชมงคลวุฒาจารย์’

‘สมุทรสาคร’ เกาะกระแส!! เปิดตัว ‘กางเกงปูก้ามดาบ’ โชว์อัตลักษณ์ศิลปะ วิถีชีวิต ระบบนิเวศของจังหวัด

(9 ก.พ.67) เปิดตัว 'กางเกงลายปูก้ามดาบ' ผลักดันให้เป็นลวดลายประจำ จ.สมุทรสาคร โดยลวดลายต่าง ๆ บนกางเกงจะมีเรื่องเล่าอันแสดงถึงอัตลักษณ์ทางศิลปะ วิถีชีวิตและระบบนิเวศของสมุทรสาคร ซึ่งประกอบด้วย

>> ลายป่าชายเลน

เป็นลวดลายของต้นโกงกาง สัญลักษณ์แห่งพืชพันธ์ุป่าชายเลน บนเส้นโค้งลงล่างเป็นตัวแทนของพื้นที่น้ำท่วมถึงอย่างชายเลน และหยดน้ำที่แสดงถึงความชุ่มชื่น ประกอบกันเป็นป่าชายเลน แหล่งอาหารสำคัญของท้องสมุทร

>> ลายคลื่นน้ำ 3 ระลอก

เป็นลวดลายของคลื่นน้ำผสานเข้ากับลายเส้นตัดแหลมคล้ายลายกนก จำนวน 3 ระลอก ตลอดแนวชายฝั่ง แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเล ความท้าทายของคลื่นลมที่มีต่อวิถีชีวิตการประมงอันนำมาซึ่งอาหารทะเล และความเป็นพื้นที่ติดทะเล ซึ่งติดกับทะเลตลอดแนวชายฝั่งจากตะวันตกสุดของจังหวัด จนถึงตะวันออกสุดของจังหวัด

เป็นลวดลายแสดงถึงความสำคัญของปูก้ามดาบในระบบนิเวศป่าชายเลน โดยปูก้ามดาบนอกจากจะเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนเช่นเดียวกับปลาตีนแล้ว ยังมีหน้าที่เสริมในการเป็น ‘เทศบาล’, ‘ผู้เฝ้ายาม’ และ ‘ผู้ผลิตอาหาร’ แห่งป่าชายเลนด้วย โดยปูก้ามดาบจะกินซากพืช ซากสัตว์เป็นอาหาร และผ่านกระบวนการย่อยสลาย ขับถ่ายออกมาเป็นมูล ซึ่งเปี่ยมด้วยคุณค่าทางสารอาหารสำหรับสัตว์ทะเลขนาดเล็กๆ และเมื่อถูกน้ำทะเลชะล้างก็จะสลายตัวเป็นอาหารให้แก่เหล่าแพลงตอน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของห่วงโซ่อาหารอีกด้วย อีกทั้งปูก้ามดาบยังเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณพิเศษ แสดงพฤติกรรมปิดปากหลุม กลายเป็นการเตือนภัยก่อนน้ำขึ้นด้วย

>> ลายคลื่นน้ำ 3 เส้น

เป็นลวดลายของคลื่นน้ำ จำนวน 3 เส้น แสดงถึงพื้นที่และสมญานาม ‘เมือง 3 น้ำ’ ประกอบด้วย น้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำเกษตรและประมงอันหลากหลายในพื้นที่
ลายปูก้ามดาบใหญ่

>> ลายปูก้ามดาบใหญ่

เห็นเด่นชัด ซึ่งเป็นทำท่าทางคล้ายการแสดงความรักแบบเกาหลี เป็นตัวแทนของการรณรงค์ให้พวกเราช่วยกันบำรุงรักษาและดูแลระบบนิเวศป่าชายเลนให้คงอยู่กับพวกเราตลอดไป

‘อัครเดช’ จี้ให้หาความจริง ‘สารแคดเมียม’ มีเท่าไร-อยู่ที่ไหน หวั่นฟุ้งกระจาย ย้ำ!! ต้องรอบคอบ-รัดกุม เพื่อความปลอดภัยของปชช.

(6 เม.ย. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจพบสารแคดเมียมในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาสอบสวนให้เกิดความกระจ่างใน 2 ประเด็นคือ 1.จะจัดการกับสารแคดเมียมที่เหลืออยู่อย่างไร เพราะมีการแจ้งว่าขออนุญาตขนมา 15,000 ตัน แต่วันที่เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครเข้ามาชี้แจงต่อกมธ.แจ้งว่าพบมีกากแร่แคดเมียมประมาณหมื่นกว่าตัน ส่วนเมื่อวันที่ 6 เม.ย. กระทรวงอุตสาหกรรม บอกพบกากแร่ดังกล่าวแค่2,000กว่าตัน ทั้งในตัวอาคารและนอกอาคาร ดังนั้น เบื้องต้นต้องสรุปให้ได้ก่อนว่าระยะเวลานี้ผ่านมา 5-6 เดือนขนมากี่ตันแน่ และยังเหลืออยู่กี่ตัน ต้องบอกตัวเลขที่แท้จริงกับประชาชนให้ได้ก่อนเพื่อให้หายสงสัย

นายอัครเดช กล่าวว่า ต้องสอบสวนให้เกิดความชัดเจนเวลานี้สารแคดเมียมกระจายไปที่ไหนบ้าง และมีบางส่วนตามกลับมาแล้วหลังมีการเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการย้ายไปโรงงานอื่น แล้วตามกลับมา ตรงนี้เป็นปัญหาแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ทราบว่ากระจายไปที่ไหนบ้างจะได้จัดการกับกากแร่เหล่านั้นได้ถูกต้อง ที่สำคัญต้องมีการสืบสวนสอบสวนว่ามีการนำไปหลอมหรือไม่ตรงนี้ถือเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะ กระบวนการหลอมโลหะจะทำให้เกิดไอของสารแคดเมียม ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อพี่น้องประชาชนได้

ประเด็นที่ 2 เรื่องการขนย้ายต้องไม่โลกสวยการออกคำสั่งทางปกครอง ให้ขนย้ายแล้วเสร็จภายใน7วันในทางปฏิบัติทำได้หรือไม่ สารแคดเมียมเป็นสารอันตราย การขนย้ายต้องมีการวางแผนเตรียมการอย่างดี ทราบล่าสุดพบถุงบรรจุกากแคดเมี่ยมบางถุงที่กองเก็บนอกอาคารมีการชำรุดและเกิดการรั่วออกมาของกากแคดเมี่ยมบางส่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าโลกสวยต้องไปดูว่าในทางปฏิบัติจะควบคุมในการขนย้ายอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชน ต้นทาง ระหว่างทาง และปลายทางได้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่หรือยัง เพราะสารแคดเมียมอันตรายมากเป็นสารก่อมะเร็งระหว่างขนย้ายมีการฟุ้งกระจายหรือมีน้ำฝนมาชะล้างก็ล้วนอันตราย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาแก้ปัญหาอย่างรอบคอบรัดกุมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด

ประเด็นที่ 3 ต้องเร่งหาคนทำผิดมาลงโทษให้ได้ถือว่าสำคัญมาก เพราะในEIA ระบุชัดกากเเคดเมียมเหล่านี้ไม่สามารถขนย้ายได้ แต่กลับมีการขนย้ายทั้งที่กฎหมายไม่อนุญาต เรื่องนี้กมธ.จะติดตามอย่างใกล้ชิด ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ปลอดภัยสร้างความเข้าใจกับประชาชน

“กรรมาธิการจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ได้ต้องการให้เกิดความตื่นตระหนก แต่ต้องการสร้างความตระหนัก ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปจัดการปัญหาอย่างจริงจัง ถ้าส่วนราชการบางหน่วยงานให้ความร่วมมือกับกมธ.อย่างจริงจังตั้งแต่แรกปัญหาคงจัดการได้ตั้งนานแล้ว แต่ที่ผ่านมาส่วนราชการก็เป็นอุปสรรคเสียเอง ในการสอบหาข้อเท็จจริงของกรรมาธิการอุตสาหกรรม เพิ่งมาให้ข้อมูลที่ชัดเจนเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งล่าช้าไปมาก ดังนั้นส่วนราชการต้องตื่นตัวในการเข้ามาแก้ไขปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อพี่น้องประชาชนให้มากกว่านี้ การที่ส่วนราชการทำงานล่าช้าทำให้ประชาชนตกใจเพราะข่าวที่ออกมาไม่ชัดเจน จึงมีคำถามจากประชาชนมากมาย”นายอัครเดชกล่าว

นายอัครเดช กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องออกมาชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ทำไมไม่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ แต่ประกาศเป็นเขตควบคุม มีความแตกต่างกันอย่างไร กมธ.ไม่ได้สนใจจะประกาศแบบไหน แต่ขอให้การแก้ปัญหาที่มีผลกระทบต่อประชาชนต้องมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และคุ้มครองสิทธิของประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งในปัจจุบันและอนาคต การไม่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติจะกระทบต่อสิทธิของประชาชนในอนาคตหรือไม่ถ้าประชาชนเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาในภายภาคหน้า แล้วจะเรียกร้องจากใคร นี่ก็เป็นคำถามที่ประชาชนฝากถามมา

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 เมษายน กมธ.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงอีกครั้ง ช่วงนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการอย่างเร่งด่วน หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่จะมาชี้แจงต่อกมธ.เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับสาธารณชนร่วมกัน และขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และทุกภาคส่วนที่ได้ลงไปแก้ปัญหาให้ประชาชน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top