Monday, 19 May 2025
สงกรานต์

‘จิรายุ’ ชวนเที่ยว!! เชียงใหม่ งานสงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง ยัน!! ปลอดภัย ไร้ผลกระทบ จากเหตุแผ่นดินไหว

(7 เม.ย. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ลงพื้นที่พร้อมกับ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายณัชฐเดช มุลาลี นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบอาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีเพียง 3 อาคาร ที่ได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันไป โดยอาคารที่ 1 เป็นอาคารเก่า ‘ดวงกมลคอนโดมิเนียม’ ก่อสร้างมานานมากกว่า 30 ปีเป็นอาคารสูง 8 ชั้น มีจำนวน 102 ห้อง อยู่ที่ตำบล ช้างคลานอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศปิดห้ามใช้อาคารทั้งหมดและได้ใช้เหล็กค้ำยันที่ชั้น 1 มากกว่า 10 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้อาคารทรุดเนื่องจากโครงสร้างด้านล่างชั้น 1 บิดงอและมีรอยแตกร้าว โดยฝ่ายโยธาก็จะประสานงานเพื่อดำเนินการให้เจ้าของตึกแก้ไขปรับปรุงต่อไป ส่วนอาคารหลังที่ 2 และ 3 นั้น เป็นอาคารคอนโดมิเนียมสูง 22 ชั้น ซึ่งไม่มีผลกระทบทางโครงสร้าง เป็นเพียงอุปกรณ์ตกแต่งและปูนที่ฉาบแตกร้าว ขณะนี้ จังหวัดได้ให้นิติบุคคลเร่งแก้ไขเนื่องจากผู้อยู่อาศัยทั้งหมดได้ย้ายออกมาอยู่ข้างนอกชั่วคราว

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ผลกระทบด้านอื่นๆของจังหวัดเชียงใหม่มีน้อยมาก และกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากว่า 5 วันแล้ว สำหรับบรรยากาศต่างๆโดยเฉพาะการท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ ทั้งถนนนิมมานฯ ถนนคนเดิน และร้านอาหาร บริเวณรอบคูเมือง ยังคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังคงเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะช่วง เทศกาลสงกรานต์ที่จะเริ่มต้นขึ้นในปลายสัปดาห์นี้

“ยืนยันจังหวัดเชียงใหม่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ หรือ ประเพณีปี๋ใหม่เมือง ด้วยความวัฒนธรรมและประเพณีที่งดงาม” นายจิรายุ กล่าวทิ้งท้าย

ตำรวจภูธรภาค 2 ล้ำต่อเนื่อง ใช้ AI – โดรน ตรึงพัทยา – บางแสน รักษาความปลอดภัยสูงสุด สงกรานต์ 2568

ตำรวจภูธรภาค 2 อัปเลเวลความเข้ม กวดขัน เมาขับ - ขับซิ่ง ระดมกำลังดูแลประชาชน นักท่องเที่ยว หลั่งไหลเที่ยวสงกรานต์ 2568 ภาคตะวันออก สร้างความมั่นใจวันไหลบางแสน – พัทยา ปลอดภัยสูงสุด ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำ  AI – โดรน - เสาแจ้งเหตุ ตรึง CCTV หลายพันตัว ซีลพื้นที่ ย้ำความอุ่นใจ เหตุด่วนให้นึกถึงตำรวจ “ที่แรก” โทร.191

เมื่อวันที่ (11 เม.ย.68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (10 เมษายน 2568) ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ และ พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ระยอง ตราด ฉะเชิงเทรา สระแก้ว นครนายก ปราจีนบุรี และ จันทบุรี ขับเคลื่อนมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 โดยมีผู้กำกับการสถานีตำรวจทุกแห่งในพื้นที่ ภ.2 ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับให้ตำรวจทั่วประเทศดำเนินการตามมาตรการเข้ม 5 ด้าน ประกอบด้วย มาตรการด้านการข่าว และการป้องกันเหตุ มาตรการการรักษาความปลอดภัยพื้นที่จัดงาน มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม มาตรการด้านการจราจรและมาตรการประชาสัมพันธ์ ดังนั้นในส่วนของตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเป็นปลายทางสำคัญระดับโลก เป็นที่นิยมของคนไทย และนักท่องเที่ยว อีกทั้งมีประชากรหลัก และประชากรแฝง แรงงาน จำนวนมาก คาดการณ์ว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้คนเดินทางออกจากพื้นที่เพื่อกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเดินทางมาเที่ยวในช่วงสงกรานต์ โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีที่เป็นพื้นที่จัดงานสงกรานต์ขนาดใหญ่ถึง 6 แห่ง  จึงกำชับให้มีมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว เน้นการสร้างความอุ่นใจ และดูแลให้บริการ 

ผบช.ภ.2 กล่าวว่า เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ภ.2 ดูแลพี่น้องประชาชนผ่าน 4 มาตรการ คือ 1.เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา ทั้งในพื้นที่จัดงานสงกรานต์ สถานีขนส่ง และเส้นทางคมนาคมสำคัญ 2.บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการละเลยการปฏิบัติตามกฎหมายอันเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ เช่น ดื่มสุราแล้วขับรถ การขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด และการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน 3.บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 4.ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงมาตรการต่าง ๆ และขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ปีนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวด้วยว่า ให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ ในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญระดับประเทศ ระดับโลก รวมถึงเที่ยวเทศกาลวันไหลที่บางแสน ในวันที่ 16 – 17 เมษายน และวันไหลพัทยาในวันที่ 19 เมษายน ตำรวจภูธรภาค 2 ระดมกำลังตำรวจท้องที่ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.2 ร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยาและเทศบาลเมืองแสนสุข ประสานกำลังกัน พร้อมสนับสนุนใช้เทคโนโลยีในการป้องกันอาชญากรรม และสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยทุกมิติ เช่น อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน กล้อง AI  เสาแจ้งเหตุอัจฉริยะ

รวมถึงระบบบริหารจัดการพื้นที่คัดแยก คัดกรองบุคคล วัตถุสุ่มเสี่ยงอันตรายไม่ให้เข้าพื้นที่ โดยการันตี บางแสน พัทยา ปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ งานวันไหลบูรณาการกำลังทุกส่วนร่วม 800 นาย ปูพรมกล้อง CCTV กว่า 5,000 ตัว

“ขอให้ประชาชนมั่นใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงานจากทุกหน่วย เราจะดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้อย่างเต็มความสามารถ สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ขอให้ท่องเที่ยวอย่างสบายใจ หากใครเดินทางไม่มีคนอยู่บ้านก็ฝากบ้านไว้กับตำรวจ ในช่วงที่เดินทาง หรือท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออก มีเหตุด่วน ต้องการความช่วยเหลือ ขอให้นึกถึงตำรวจเป็นที่แรก โดยสามารถโทรสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมดูแลทุกท่านด้วยความจริงใจ” ผบช.ภ.2 กล่าว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมอาชีวศึกษา เตรียมพร้อม 150 จุดบริการทั่วประเทศ สั่งการตำรวจจราจรจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว พาอาชีวะ-ขนส่งอาสา เข้าช่วยเหลือรถเสียช่วงสงกรานต์

เมื่อวันที่ (10 เม.ย.68) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกพื้นที่ทั่วประเทศบูรณาการช่วยเหลือในกิจกรรม อาชีวะ-ขนส่ง อาสาช่วยประชาชน เทศกาลสงกรานต์ 2568 ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงคมนาคม โดย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรมการขนส่งทางบก และเครือข่ายภาคเอกชน ได้ร่วมจัดกิจกรรม จำนวน 150 จุดทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568

ทั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพสูงสุด พล.ต.อ.ไกรบุญฯ ได้สั่งการว่า หากมีเหตุรถเสียบนเส้นทางจราจรใกล้เคียงกับจุดตั้งของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้ตำรวจจราจรในพื้นที่จัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมนำอาสาสมัครจากอาชีวศึกษาไปยังจุดเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด เพื่อให้การช่วยเหลือร่วมกัน ทั้งในด้านการเคลื่อนย้ายรถออกจากผิวจราจร และการซ่อมแซมเบื้องต้น ณ จุดเกิดเหตุ หากสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้น และไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจร ให้ดำเนินการในทันที เพื่อป้องกันการจราจรติดขัด และลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุจากการจอดรถเสียในจุดที่ไม่ปลอดภัย พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในแต่ละพื้นที่ ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจากสถานศึกษาในจุดบริการอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเทศกาล เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ กิจกรรมอาชีวะ-ขนส่ง อาสาช่วยประชาชน เทศกาลสงกรานต์ 2568 "สงกรานต์ปลอดภัย เดินทางไปไหนก็มีความสุข" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 เวลา 06.00 - 18.00 น. จำนวน 150 จุด ทั่วประเทศ โดยมีบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ 20 รายการ , เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หลอดไฟ รถจักรยานยนต์ , ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินระยะ 5 กิโลเมตรจากจุดบริการ , ตรวจเช็คสภาพและชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า EV , บริการกาแฟ น้ำดื่ม อินเทอร์เน็ต ชาร์จแบต พักผ่อน นวด สอบถามเส้นทาง ฯลฯ อีกด้วย โดยประชาชนผู้ขับขี่ยานพาหนะสามารถค้นหาจุดบริการทั้ง 150 จุด ได้ที่เว็บไซต์ https://vecrsa.vec.go.th

ประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือกรณีรถเสีย หรือสอบถามเส้นทางการจราจร สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนกองบังคับการตำรวจทางหลวง 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานปล่อยแถวป้องกันปราบปราบอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 

เมื่อวานนี้  (11 เม.ย.68) เวลา 15.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีปล่อยแถวป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมาย และ อำนวยความสะดวก  ด้านการจราจร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล , กองบัญชาการ ตำรวจท่องเที่ยว , โรงพยาบาลตำรวจ , เจ้าหน้าที่สังกัดกรุงเทพมหานคร และอาสาจราจร สน.ชนะสงคราม รวมจำนวนกว่า 950 นาย เข้าร่วมในพิธีปล่อยแถว ณ ทัองสนามหลวง

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและสั่งการให้ทุกหน่วยงานยกระดับการปฏิบัติหน้าที่ให้สูงขึ้น ทั้งด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณจุดจัดงานเทศกาลสงกรานต์ทั่วประเทศ สถานีขนส่ง และจุดบริการต่างๆ ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชน เดินทางไปกลับต่างจังหวัดด้วยความปลอดภัย พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลักอย่างเข้มงวด โดยเน้นหนักในขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด และกวดขันจับกุมอาชญากรรม อาวุธปืน ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ไม่ได้อยู่บ้าน เข้าร่วม "โครงการร่วมใจ ยกระดับความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)" เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยในทรัพย์สินในช่วงเทศกาล

ผบ.ตร.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจ เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวอย่างมีความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือสิ่งของผิดกฎหมายในพื้นที่ หรือในโซเชียลมีเดีย โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือ 1599 หรือสถานีตำรวจท้องที่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

‘นายกฯอิ๊งค์’ เตรียมลงพื้นที่ ‘เชียงใหม่’ ตรวจความปลอดภัย ดูแลนักท่องเที่ยว ชู!! สงกรานต์ ‘ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง’ ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย วัฒนธรรมอันดีงาม

(12 เม.ย. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้อาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการที่  จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจการดูแลการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว และการอำนวยความสะดวกในการเดินทางในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของภาคเหนือ อาทิ การอำนวยความสะดวกของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และฝ่ายปกครอง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพ หน่วยแพทย์ต่างๆ ในทุกจังหวัดตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ในเรื่องการดูแลช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อวันอังคารที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา 

ส่วนการสนับสนุนและการสร้างความมั่นใจให้กับการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ และจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากนั้น นายกรัฐมนตรีจะไปเป็นประธาน เปิดงานเทศกาลสงกรานต์ระดับนานาชาติ และร่วมสืบสานประเพณี 'ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง' จังหวัดเชียงใหม่ โดยวันอาทิตย์ ที่ 13 เมษายน ช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ที่ 'ช่วงประตูท่าแพ' (ฝั่งถนนชัยภูมิ) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดงาน  “Amazing Songkran Chiangmai x Boryeong Mud Festival 2025” ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับประเทศเกาหลีใต้ 

ภายในงานนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดงาน 'อุโมงค์น้ำ Maha Songkran Chiang Mai Amazing Water Splash' และปล่อยขบวน 'ตุ๊ก ตุ๊ก ไทยแลนด์ มหาม่วน มหามันส์' และร่วมกิจกรรมต่างๆ กับนักท่องเที่ยว จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเดินทางต่อไปยัง ลานเมญ่าสแควร์ ศูนย์การค้าเมญ่า อำเภอเมืองเชียงใหม่  เพื่อร่วมกิจกรรม 'SF My Water World Songkran Festival 2025'

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ในวันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2568 นายกรัฐมนตรีจะร่วมงาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองสันกำแพง” ณ ชุมชนโหล่งฮิมคาว อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่  ภายในงาน จะรับชมการแสดงต้อนรับจากชาวชุมชนโหล่งฮิมคาว และร่วมสรงน้ำพระพุทธรูปและรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุอำเภอสันกำแพง ตลอดจนเดินชม 'เทศกาลตามรอยหัตถกรรม ความทรงจำสันกำแพง' ในกิจกรรม '10 โหม้งโหล่งผะญ๋า' และสินค้าของดี OTOP ของอำเภอสันกำแพง

“การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาล ทั้งเรื่องการส่งเสริม วัฒนธรรมประเพณีของประเทศไทย รวมทั้งการสนับสนุนการท่องเที่ยว และนโยบาย 'ซอฟต์พาวเวอร์' ของไทยที่ได้แปรเปลี่ยนมาเป็น สินค้าอันสำคัญของไทย และเป็นการแสดงเจตนารมณ์สำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากผ่านกิจกรรมวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน” นายจิรายุ กล่าว

‘เคทีซี’ ร่วมกับ ‘พีทีที สเตชั่น’ แบ่งเบาภาระ ‘ค่าน้ำมัน’ ช่วงวันหยุดยาว มอบเครดิตเงินคืนสูงสุด 4% ใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนได้เพิ่มอีก 13%

(12 เม.ย. 68) เคทีซีตอกย้ำความเป็นบัตรเครดิตหลักในการใช้จ่ายทุกวัน จับมือพีทีที สเตชั่น จัดแคมเปญแบ่งเบาค่าใช้จ่ายคนไทยที่ใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และการเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงวันหยุดยาว พร้อมกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์และวันหยุดยาว สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 4% โดยไม่ต้องใช้คะแนน และรับเครดิตเงินคืนเพิ่มอีก 13% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER ในการแลกรับ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2568 – 31 กรกฎาคม 2568 ณ สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ทั่วประเทศที่ร่วมรายการ

นายสุวัฒน์ เทพปรีชาสกุล ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต 'เคทีซี' หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การจัดแคมเปญ ‘โปรใหม่ ใหญ่กว่าเดิม’ เป็นความร่วมมือระหว่างเคทีซีกับพีทีที สเตชั่น สะท้อนกลยุทธ์ในการมอบประสบการณ์ความคุ้มค่าให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ทุกประเภท เพื่อให้บัตรเครดิตเคทีซีเป็นบัตรฯ ที่สมาชิกนึกถึงและเลือกใช้เป็นบัตรหลัก (default card) โดยเฉพาะในหมวดหมู่สถานีบริการน้ำมันและการเดินทาง นับเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ซึ่งเคทีซีเล็งเห็นถึงความสำคัญในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับสมาชิก จึงได้จัดสิทธิพิเศษในรูปแบบต่างๆ และพบว่าการมอบเครดิตเงินคืนโดยไม่ต้องใช้คะแนน รวมถึงการแลกคะแนนในอัตราที่คุ้มค่าถือเป็นการคืนกำไรให้สมาชิกอย่างแท้จริง และยังสร้างการมีส่วนร่วม (engagement) กับฐานสมาชิกในระยะยาว” 

นายถนัดพล ดุละลัมพะ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และการตลาดค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า “สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ภายใต้การกำกับดูแลของ OR มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์แก่ผู้บริโภค การร่วมมือกับเคทีซี ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเติมเต็มความคุ้มค่าพร้อมทั้งส่งมอบน้ำมันคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค เพื่อเติมเต็มความมั่นใจ และความสะดวกสบายด้วยสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศตลอดการเดินทาง อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการออกแบบแคมเปญที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง และเชื่อว่าแคมเปญ ‘โปรใหม่ ใหญ่กว่าเดิม’ จะช่วยสร้างความพึงพอใจ และสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกบัตรเคทีซี ในยุคที่ความประหยัดและความสะดวกเป็นหัวใจหลัก โดยพร้อมเดินหน้าพัฒนาแคมเปญที่สร้างประโยชน์ร่วมกัน”

สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี เมื่อใช้บริการเติมน้ำมัน ณ สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ทุกสาขาทั่วประเทศ คือ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 4% ไม่ต้องใช้คะแนนแลก (สูงสุด 40 บาทต่อเซลส์สลิป) เพียงเติมน้ำมันครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป หรือรับเครดิตเงินคืน 3% (สูงสุด 21 บาทต่อเซลส์สลิป) เมื่อเติมน้ำมันครบ 700 – 999 บาทต่อเซลส์สลิป ตามเงื่อนไขที่กำหนด รวมทั้งแลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนเพิ่มอีก 13% ได้ไม่จำกัด เมื่อแลกด้วยคะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป 

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก 'เคทีซี ทัช' ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

ผบ.ตร.ส่งกำลังใจให้ตำรวจดูแลประชาชนช่วงสงกรานต์ พอใจภาพรวมเป็นไปด้วยดี อุบัติเหตุลดลง วันนี้คาดเดินทางกลับสูงสุด กำชับเตรียมช่องทางพิเศษรองรับ โครงการฝากบ้านกว่า 7,500 ราย ยังไร้เหตุ 

เมื่อวานนี้ (16 เม.ย.68) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการดูแลความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกการเดินทางของพี่น้องประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า วันนี้ถือเป็นวันเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครของพี่น้องประชาชน รวมถึงยังมีบางพื้นที่จัดงานสงกรานต์ ซึ่งภาพรวมของมาตรการดูแลความปลอดภัยเทศกาลสงกรานต์ การอำนวยความสะดวกจราจร การป้องกันลดอุบัติเหตุ โครงการ "ร่วมใจยกระดับความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)” ในช่วงวันที่ 11-15 เมษายน 2568 ถือว่าเป็นไปด้วยดี 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พอใจการทำงานของตำรวจในการดูแลพี่น้องประชาชนในทุกมิติ เช่น การป้องกันและลดอุบัติเหตุ มีการตั้งจุดตรวจ 2,514 แห่งทั่วประเทศ จับกุมกว่า 361,342 ราย โดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ และขับรถเร็ว ทำให้ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุลดลง สะสม 5 วัน เกิด 1,216 ครั้ง ลดลง 22.89% เสียชีวิต 171 ราย ลดลงกว่า 24.67%

สำหรับการอำนวยความสะดวกการจราจรพี่น้องประชาชน ผบ.ตร.กำชับตำรวจทางหลวงร่วมกับแขวงการทาง และตำรวจท้องที่ จัดการจราจร เปิดช่องทางพิเศษ เร่งระบายตามแยกสัญญาไฟ ซึ่งเมื่อวานนี้ (15 เมษายน 2568) สามารถส่งพี่น้องกลับเข้ากรุงเทพมหานคร 521,913 คัน การจราจรมีความคล่องตัวดี คาดว่าวันนี้จะมีการเดินทางมากที่สุด โดยตำรวจได้มีการเตรียมการวางแผนไว้แล้ว

โครงการฝากบ้าน 4.0 มีพี่น้องประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการ 7,514 หลัง ส่งคืนไปแล้ว 100 หลัง ยังไม่พบการรายงานเหตุ ทุกหลังมีความปลอดภัยดี

การดูแลความปลอดภัยการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ที่ผ่านมาพบว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะจุดที่มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 5 หมื่นราย เช่น ถนนข้าวสาร สนามหลวง และสีลม สร้างความประทับใจให้ประชาชน นักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้ โฆษก ตร. กล่าวว่า ผบ.ตร.ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักในการดูแลประชาชน และขอชื่นชมในห้วงที่ผ่านมา ทุกท่านได้ทำหน้าที่ได้อย่างดี แต่ภารกิจยังไม่จบสิ้น วันนี้ยังมีการเดินทางกลับ มีการจัดงานสงกรานต์ ที่ตำรวจยังคงต้องทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะงานจราจรที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับมากที่สุด  
 
ผบ.ตร.ได้ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน ในการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานคร ขอให้เอื้ออาทรในการใช้รถใช้ถนนต่อกัน ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ขับรถเร็ว ไม่เมาแล้วขับ ง่วงจอดแวะพัก ขอให้เดินทางถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย 

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลจราจรสามารถติดต่อตำรวจทางหลวงที่หมายเลข 1193 หรือติดตามที่เพจ “ตำรวจทางหลวง” ที่จะมีการไลฟ์สดจุดที่มีการจราจรติดขัด หรือหากต้องการแจ้งเหตุด่วน ขอความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

'สงกรานต์มาเลย์' ปะทะเดือดกลางห้างฯ ดัง เก้าอี้ลอยว่อน นักท่องเที่ยวเมียนมาทะเลาะวิวาทกับเจ้าถิ่น

(22 เม.ย. 68) หลังเหตุทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นในลานจอดรถกลางแจ้งของศูนย์การค้า 1 อุตามา (1 Utama) ระหว่างการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์มาเลเซีย ในวันสุดท้าย เมื่อคืนวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังมีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่และแชร์ต่อกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์มาเลเซีย

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองสงกรานต์ ประจำปี 2568 จนกลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดียของมาเลเซีย หลังมีผู้บันทึกภาพวิดีโอการทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ร่วมงานจำนวนหนึ่งในพื้นที่ลานจอดรถของศูนย์การค้าอุตามา 

อย่างไรก็ตาม เมื่อติดต่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ นายชาห์รุลนิซาม จาฟาร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจเมืองเปอตาลิงจายา เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า “จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยื่นรายงานจากตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” โดยยืนยันว่าตำรวจยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์และพิจารณาข้อเท็จจริงจากคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่

ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นมาเลเซียรายงานว่า ต้นเหตุมาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและเมียนมา ทะเลาะวิวาทกันเนื่องจากมีปัญหาเรื่องเติมน้ำและการใช้ปืนฉีดน้ำ จนนำมาสู่เหตุการณ์บานปลายในท้ายที่สุด

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวไทยและได้รับความนิยมในหมู่ประชาคมไทยในมาเลเซีย ที่มักจัดกิจกรรมอย่างสนุกสนานและมีน้ำใจ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความกังวลต่อความปลอดภัย และภาพลักษณ์ของงานที่ควรจะเป็นการเฉลิมฉลองอย่างสันติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top