Tuesday, 22 April 2025
วันอาภากร

‘วันอาภากร’ วันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

วันอาภากร ตรงกับวันที่ 19 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงได้รับสมัญญาเป็น องค์บิดาแห่งกองทัพเรือ ซึ่งทหารเรือยกย่องและเทิดทูนพระเกียรติคุณอย่างสูงสุด เนื่องจากพระองค์ทรงริเริ่มวางรากฐานกิจการทหารเรือและนำความเจริญมั่นคงและรุ่งเรืองมีสมรรถภาพสู่กองทัพเรือเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ทำให้ทัพเรือไทยทันสมัยมีมาตรฐาน และเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยะประเทศ กองทัพเรือจึงกำหนดให้ 19 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น วันอาภากร ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ เพื่อเป็นการเทิดทูน เผยแพร่พระเกียรติคุณ และแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่าน

พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อ 19 ธันวาคม 2423 เป็นพระเจ้าลูกยาเธอองค์ที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ผู้บัญชาการทหารเรือวังหลวง

ทรงเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือจากประเทศอังกฤษ ทรงมีจุดประสงค์แรงกล้าจะฝึกให้ทหารเรือไทยเดินเรือทะเลได้อย่างชาวต่างประเทศ และสามารถรบทางเรือได้ เนื่องจากอดีตประเทศไทยต้องว่าจ้างชาวต่างชาติมาเป็นผู้บังคับการเรือโดยตลอด

ด้วยรักและศรัทธา ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี เสด็จเตี่ย

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ มอบหมายให้ พลเรือโท ชัยณรงค์ บุณยรัตกลิน รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีเทิดพระเกียรติ ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาทหารเรือไทย พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาใน กองบัญชาการกองเรือยุทธการ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ กำลังพลกองเรือยุทธการ ชมรมภริยากองเรือยุทธการ สมาคมประมงแสมสาร องค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร และชมรมเรือสปรีดโบ๊ท จัดกิจกรรมครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาทหารเรือไทย ณ บริเวณพระอนุสาวรีย์ฯ หน้ากองบัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  

โดยกิจกรรมประกอบด้วย การจัดกำลังพลแปรอักษร “จะทำสิ่งไร ควรทำจริง” การจัดขบวนเรือประมง จำนวน 19 ลำ และร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ในทะเล บริเวณหน้าอ่าวกองเรือยุทธการ การฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติฯ ผู้เข้าร่วมพิธีร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ของเสด็จเตี่ย ประกอบด้วยเพลง ดาบของชาติ เพลงเดินหน้า และเพลงดอกประดู่

โดยกองเรือยุทธการ ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ เพื่อให้ข้าราชการทหารเรือ ประชาชน ตลอดจนครอบครัวข้าราชการ ได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานและทรงพัฒนากิจการของทหารเรือ ให้มีความก้าวหน้าและมั่นคง ให้ผู้เข้าร่วมพิธีได้รำลึกถึงคำสอนของพระองค์ว่า “กยิรา เจ กยิรา เถนัง ถ้าคิดจะทำสิ่งใดแล้ว ควรทำจริง” ตลอดจนเพลงพระนิพนธ์ของพระองค์ ที่ปลูกฝังจิตสำนึกในการรักชาติให้กับข้าราชการทหารเรือ และลูกหลานมาจวบจนถึงปัจจุบัน

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีแล้ว รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ประธานในพิธี ได้มอบของที่ระลึกให้กับนายกสมาคมประมงแสมสาร นายก องค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร ชมรมเรือสปรีดโบ๊ท และคณะที่สนับสนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

ด้วยรักและศรัทธา ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี เสด็จเตี่ย

วันที่ 19 พ.ค.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ มอบหมายให้ พลเรือโท ชัยณรงค์ บุณยรัตกลิน รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีเทิดพระเกียรติ ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาทหารเรือไทย พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาใน กองบัญชาการกองเรือยุทธการ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ กำลังพลกองเรือยุทธการ ชมรมภริยากองเรือยุทธการ สมาคมประมงแสมสาร องค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร และชมรมเรือสปรีดโบ๊ท จัดกิจกรรมครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาทหารเรือไทย ณ บริเวณพระอนุสาวรีย์ฯ หน้ากองบัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  

โดยกิจกรรมประกอบด้วย การจัดกำลังพลแปรอักษร “จะทำสิ่งไร ควรทำจริง” การจัดขบวนเรือประมง จำนวน 19 ลำ และร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ในทะเล บริเวณหน้าอ่าวกองเรือยุทธการ การฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติฯ ผู้เข้าร่วมพิธีร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ของเสด็จเตี่ย ประกอบด้วยเพลง ดาบของชาติ เพลงเดินหน้า และเพลงดอกประดู่

โดยกองเรือยุทธการ ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ เพื่อให้ข้าราชการทหารเรือ ประชาชน ตลอดจนครอบครัวข้าราชการ ได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานและทรงพัฒนากิจการของทหารเรือ ให้มีความก้าวหน้าและมั่นคง ให้ผู้เข้าร่วมพิธีได้รำลึกถึงคำสอนของพระองค์ว่า “กยิรา เจ กยิรา เถนัง ถ้าคิดจะทำสิ่งใดแล้ว ควรทำจริง” ตลอดจนเพลงพระนิพนธ์ของพระองค์ ที่ปลูกฝังจิตสำนึกในการรักชาติให้กับข้าราชการทหารเรือ และลูกหลานมาจวบจนถึงปัจจุบัน

19 ธันวาคม 2423 วันประสูติ "เสด็จเตี่ย" กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย

19 ธันวาคม 2423 เป็นวันประสูติของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระเจ้าลูกยาเธอลำดับที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระมารดาคือ เจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ ทรงประสูติในพระบรมมหาราชวัง

พระกรณียกิจของพระองค์ในการพัฒนากองทัพเรือสยามให้เจริญก้าวหน้าแบบประเทศตะวันตก ทำให้กองทัพเรือถวายพระสมัญญาพระองค์เป็น “พระบิดาของกองทัพเรือไทย” ซึ่งต่อมาได้รับการยกย่องเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย”

“...คนนับถือกรมหลวงชุมพรฯ เยอะ แต่คนไม่สนใจท่านในฐานะปุถุชน คนไม่สนใจว่าท่านเคยทำอะไรมา หรือทรงมีพระปรีชาอย่างไร คนสนใจท่านแต่ในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์...” คำบอกเล่าของ ม.ร.ว. อภิเดช อาภากร ผู้มีศักดิ์หลานปู่ของพระองค์

เมื่ออายุ13 พระชันษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ และเมื่อสำเร็จการศึกษาได้เข้ารับราชการในด้านทหารเรือ พระองค์ได้ปรับปรุงการศึกษาในโรงเรียนนายเรือ เช่น การแบ่งชั้นบังคับบัญชาภายในโรงเรียน การเพิ่มวิชาการเช่น ดาราศาสตร์และตรีโกณมิติ เพื่อให้นักเรียนนายเรือมีความรู้เทียบเท่านายทหารต่างชาติ

ในปี 2443 พระองค์ทรงเข้ารับราชการในกรมทหารเรือและได้เริ่มฝึกสัญญาณธงสองมือและโคมไฟ เมื่อดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ พระองค์ได้ปรับปรุงระเบียบการศึกษาทหารเรือและขอพระราชทานที่ดินสร้างโรงเรียนนายเรือที่พระราชวังเดิมเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2449 ซึ่งทำให้กองทัพเรือมีฐานที่มั่นคง

ด้านดนตรี พระองค์ทรงพระนิพนธ์เพลงปลุกใจที่มีอายุยืนยาว เช่น เพลงดอกประดู่ เพลงเดินหน้า และเพลงดาบของชาติ ซึ่งทหารเรือร้องขับตลอดมาและกลายเป็นเพลงอมตะในประวัติศาสตร์ชาติไทย

ด้านการแพทย์ พระองค์ทรงศึกษาและเขียนตำรายาแผนโบราณชื่อว่า “พระคัมภีร์อติสาระวรรคโบราณะกรรมและปัจจุบันนะกรรม” ซึ่งเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ทหารเรือสมุทรปราการ

ในช่วงต้นรัชกาลที่ 6 พระองค์ทรงออกจากราชการและไปประกอบอาชีพหมอยาใช้พระนามว่า “หมอพร” และต่อมาได้กลับมารับราชการอีกครั้ง เมื่อสงครามกับเยอรมนีเริ่มขึ้น พระองค์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเลื่อนตำแหน่งเป็นนายพลเรือโท และนายพลเรือเอก จนได้ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือและเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ

ในบั้นปลายพระชนม์ พระองค์ได้กราบถวายบังคมลาออกไปรักษาพระองค์ที่มณฑลสุราษฎร์ และทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2466 ที่หาดทรายรี ปากน้ำเมืองชุมพร

ถึงแม้ว่าจะสิ้นพระชนม์มา 100 ปี แต่พระกรณียกิจที่ทรงทำให้กองทัพเรือและประเทศชาติยังคงเจริญก้าวหน้าและพระองค์ยังคงเป็นที่เคารพรักของทหารเรือ จึงถวายสมัญญาพระนามว่า “องค์บิดาของทหารเรือไทย” และถือเอาวันที่ 19 พฤษภาคมของทุกปีเป็น “วันอาภากร”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top