Tuesday, 22 April 2025
รักเมืองไทย

'โบวี่' แจงโพสต์ "ไป ตปท. กลับมารักเมืองไทยกว่าเดิม" หลัง 'โซเชียล' ดรามาใส่ "ไม่เคยลำบากหรือเปล่า?"

กลายเป็นประเด็นดรามาบนโลกโซเชียล หลังจากที่นักแสดงสาว โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีข้อความระบุว่า "ไป ตปท. มา เกือบ 1 เดือน กลับมารู้สึก รักเมืองไทยกว่าเดิม #ของดีที่อยู่ใกล้มือ"

งานนี้หลังจากที่เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความไปนั้น ปรากฏว่ามีชาวเน็ตได้เข้ามาคอมเมนต์กันอย่างหลากหลาย พร้อมกับตั้งคำถามว่าไม่เคยลำบากหรือเปล่า และบางคอมเมนต์ได้บอกว่าหรืออยู่ที่เมืองไทยมีอภิสิทธิ์เยอะ

ด้านสาว โบวี่ หลังได้อ่านคอมเมนต์ต่าง ๆ จึงได้เข้ามาชี้แจงใต้โพสต์ดังกล่าวว่า "การรักประเทศไทย ไม่ได้หมายความว่า เราจะหยุดพัฒนาประเทศแต่ยิ่งเรารักประเทศ เราก็ยิ่งอยากจะพัฒนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น (ตามความสามารถที่เราทำได้) ประเทศไทยเรายังมีส่วนที่พัฒนาได้มากกว่านี้อีกเยอะแต่เสน่ห์ดี ๆ ที่เรามีและน่ารักษาไว้ ก็มีมากมายเช่นกัน"

พร้อมกับบอกเพิ่มเติมว่า "ตัวโบเองก็ไม่ได้เกิดมาสบายนะเคยสมัครเป็น พนักงานเซเว่นแต่เขาไม่รับ มาแล้วเหมือนกันพ่อแม่โบเข้ามาจาก ตจว. อยู่บ้านเช่ารวม ๆ กันกับญาติตอนเด็ก ๆ เห็นพ่อแม่ลำบากดิ้นรน ก็คิดว่าจะทำยังไงดีที่จะช่วยให้ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้จึง 'พยายาม' พัฒนาตัวเอง พยายามตั้งใจเรียน เพื่อจะได้มีความรู้ความสามารถไปทำงานที่ดี ได้เงินเดือนที่ดีช่วงจบ ม.6 เคยไปสมัครเป็น พนักงานเซเว่น แต่เขาไม่รับเพราะอายุไม่ถึง เลยไปทำงานเป็นพนังงานยืนเฝ้าร้านขายของในห้าง วันนึงได้ประมาณ 250 บาท นั่งรถเมล์ไปทำงาน หลับน้ำลายยืดบนรถเมลล์เพราะรถติดมาก และเราก็เหนื่อยพอเข้ามหาวิทยาลัยได้"

'วปอ.-พระปกเกล้า' ถกร่วม ใช้ศุภชลาศัย จัดใหญ่ฟุตบอลประเพณี 'รักเมืองไทย'

วันที่ 7 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมย่อย 5 สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ศิษย์เก่า-ปัจจุบันสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง 4 หลักสูตร (ปปร. -สสสส. -ปรม.-ปศส.) นำโดย ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานรุ่น ปปร.26 ดร.ดำรง ประทีป ณ ถลาง ปปร.26 พร้อมด้วยผู้แทน สสสส. คุณมณฑาทิพย์ คงจรูญ ดร.สิปปภาส  สีลเตโชธาม นายสมชาย จรรยา และนายนพดล ลิปิเวชกุลกิจ พร้อมด้วยพลโท นักรบ บุญบัวทอง ผู้แทนจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เข้าพบ นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการ สถาบันพระปกเกล้า เพื่อประชุมหารือเตรียมความพร้อมการจัดงานฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” ที่จัดขึ้นวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2566 ณ สนามศุภชลาศัย 

โดยที่ประชุมของทั้งสองสถาบัน ได้หารือ ถึงวัตถุประสงค์ และรูปแบบการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การจัดทำถ้วยรางวัล การเชิญประธานเปิดงาน การเชิญแขกวีไอพี การจัดทำเสื้อนักกีฬา การจัดทำเสื้อเชียร์ ทั้ง วปอ.-พระปกเกล้า การกำหนดธีมขบวนพาเหรด วางหลักเกณฑ์นักฟุตบอลของทั้งสองสถาบัน มี 2 คู่ ประกอบด้วย ทีมเล็ก อายุ 45 ปีขึ้นไป ทีมใหญ่ อายุ 55 ปีขึ้นไป รวมทั้งการถ่ายทอดสด เพื่อให้ผู้ชมทางบ้านได้รับชมด้วย 

พลโท นักรบ บุญบัวทอง เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่ 2 สถาบันจัดกิจกรรมกีฬาประเพณีระดับชาติ ขณะนี้ได้จัดแบ่งหน้าที่ของแต่ละฝ่ายไปดำเนินการ เพื่อให้งานครั้งนี้ลุล่วงสำเร็จ เกิดความรัก ความสามัคคี และส่งต่อให้กับรุ่นต่อไปได้สืบสานเพื่อเกิดความยั่งยืนในอนาคต จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบันของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) และสถานบันพระปกเกล้า (KPI) มาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ให้มากๆ โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ 

‘หนุ่มไทย’ ยก ‘นิวซีแลนด์’ เกื้อหนุนพัฒนาศักยภาพเด็กได้สุดยอด ต่างจากระบบการศึกษา ‘ประเทศไทย’ ที่ยังทำได้อย่างไม่เต็มที่

เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี @Bookboktor หรือ ‘บุ๊ค บอก ต่อ’ ได้ตอบกลับคอมเมนต์ที่เข้ามาถามว่า ‘รักเมืองไทยไหม?’ ซึ่งคุณบุ๊คได้บอกว่า ตนรักประเทศไทย และคิดว่าประเทศไทยวิเศษมาก แต่ถ้าหากมีลูก ตนไม่อยากให้ลูกต้องเติบโตมาในประเทศไทย เนื่องจากระบบการศึกษาที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาศักยภาพเด็กคนหนึ่งได้อย่างถึงที่สุด ซึ่งคุณบุ๊คได้แชร์ประสบการณ์ที่ตนเองได้เคยไปอยู่ที่นิวซีแลนด์ และได้พัฒนาทักษะติดตัวกลับมา โดยระบุว่า…

“ผมมี 4 ทักษะ ที่ได้พัฒนามาตอนอยู่ที่นิวซีแลนด์ ซึ่ง 4 ทักษะนี้ เป็นทักษะที่ผมให้ความสําคัญ และไม่ค่อยเห็นในเด็กไทยรุ่นผม หรือเด็กไทยสมัยนี้คงเก่งขึ้นแล้ว ซึ่งผมไม่แน่ใจ แต่ว่า 4 ทักษะนั้น เริ่มที่อย่างแรก คือ ‘ทักษะรักการอ่าน’ ตอนผมอยู่นิวซีแลนด์ หลัง 5 โมง จะมีการปิดอินเตอร์เน็ต ปิดทีวี ปิดเทคโนโลยีทุกอย่าง และทุกอาทิตย์โฮสต์จะเช่าหนังสือ 10 ถึง 20 เล่ม มาวางไว้ที่บ้าน ไม่อ่านก็ได้ แต่เมื่อมันไม่มีอะไรให้ทํา สุดท้ายพวกเราก็ต้องอ่านหนังสือ จึงทําให้พวกเรารักการอ่าน อย่างที่สอง ‘ทักษะการทํางาน’ ตอนผมเด็ก ๆ ผมต้องช่วยงานบ้านทุกอย่าง ตั้งแต่รดน้ำต้นไม้ กวาดบ้าน ถูพื้น ล้างจาน ทําอะไรทุกอย่าง และหลัง 2 ทุ่ม ผมต้องไปช่วยงานที่โรงแรม โดยไปช่วยล้างจานและจัดโต๊ะ เพื่อที่แขกจะได้ลงมาทานอาหารเช้าวันต่อมา มันเลยทําให้พวกเรามีความรับผิดชอบมากขึ้น”

“ถัดมาอย่างที่สาม ผมรู้สึกว่าโรงเรียนที่นิวซีแลนด์ เขาส่งเสริมให้เด็ก ‘กล้าคิดกล้าทํา’ มากกว่าท่องจํา ซึ่งส่วนใหญ่โปรเจกต์ที่เราต้องทํา มันจะเป็นโปรเจกต์ที่เราต้องเริ่มตั้งแต่การวางแผน มาทํารีเสิร์ชเอง ไม่มีถูก ไม่มีผิด ให้ลองทํา เหมือนเขาเรียกว่าลองถูกลองผิดไป จนสุดท้ายมันออกมาดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้ออกมาเป๊ะ แต่ว่าออกมาดีที่สุดเท่านั้นเอง และอย่างที่สี่ คือการที่เขาสอนให้เรารู้จัก ‘การรักการออกกําลังกาย’ สามารถดูแลสุขภาพตัวเองได้ เพราะว่าที่นู่นแทบจะทุกส่วนของเมือง จะมีสวนสาธารณะใกล้ ๆ และก็มีพื้นที่ออกกําลังกาย มีทั้งสนามรักบี้ สนามบาส สนามเทนนิส และสนามบอล ที่สามารถใช้ได้ฟรีเลย”

“อันนี้เลยเป็นเหตุผลหลักที่ผมอยากจะให้ลูกเติบโตมาที่นิวซีแลนด์ เพื่อสร้างทักษะ 4 อย่างนี้ให้มันมั่นคงก่อนที่จะย้ายกลับมาใช้ชีวิตในประเทศไทย ผมคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่วิเศษมาก และไม่มีประเทศไหนที่ผมอยากอยู่มากกว่าประเทศไทย แต่ผมอยากจะให้ลูกผมไปพัฒนา 4 ทักษะนี้ที่ต่างประเทศก่อน แล้วค่อยกลับมายังประเทศไทย”

'วปอ. - สถาบันพระปกเกล้า' มอบเงินฟุตบอลประเพณี 'รักเมืองไทย' เพื่อสนับสนุนในการขับเคลื่อนภารกิจสภากาชาดไทย

วันที่ 15 กันยายน ที่อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร สภากาชาดไทย นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย รับมอบเงินจำนวน 150,000 บาท จาก พลโท อภิชาติ ไชยะดา ประธานนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 65 , พล.อ.ราชรักษ์ เรียนพืชน์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 , ดร.ดํารง ประทีป ณ ถลาง ผู้แทนหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสําหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) รุ่น 26 เเละนายสมชาย จรรยา ผู้แทนหลักสูตรการเสริมสร้างสังคมสันติสุข (4 ส.) สถาบันพระปกเกล้า จากการจัดกิจกรรมแข่งขันฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” ระหว่างศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรฯ และสถาบันพระปกเกล้า เพื่อใช้ในการดำเนินภารกิจของสภากาชาดไทย ด้านการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย การบริการโลหิต และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่มุ่งหวังให้ประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีนายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย เเละ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย ร่วมพิธีรับมอบในครั้งนี้ 

นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันงบประมาณด้านการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัยยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีพัฒการทางด้านเทคโนโลยีซึ่งมีราคาสูง หากจัดซื้อมาได้จะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข

จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสนับสนุนในโครงการต่างๆ ตามภารกิจของสภากาชาดไทย

ด้าน ดร.ดำรง ประทีป ณ ถลาง กล่าวว่า เงินที่นำมามอบผ่านสภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือคนในชาติด้านสาธารณสุข นั้น เป็นการระดมทุนรับบริจาคจากศิษย์เก่าและปัจจุบัน ของสถาบันพระปกเกล้า เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี นำมาซึ่งประเพณีที่ดีงาม สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ความรัก ความสามัคคีในทุกภาคส่วน

‘ซีอีโอหนุ่ม’ แชร์มุมคิด ไม่มีที่ใดสุขใจเท่าประเทศไทย อาหารไม่แพง จอดรถไม่โดนทุบ ไม่มีใครเดินมาปล้น

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี @ckfastwork หรือ ‘CK Cheong’ CEO แห่งบริษัท Fastwork.co ได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับความภาคภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย อย่ามองว่าประเทศอื่นดีกว่าเรา โดยระบุว่า…

“ทุกประเทศมีปัญหาของเขาพี่ จริงๆ นะเราชอบมองว่าประเทศอื่นดีกว่าเรา เราลืมมองว่าจริงๆ เราน่ะโชคดีขนาดไหน ผมไม่ค่อยชอบความคิดว่าบ้านอื่นมันดี คุณเคยอยู่หรือ คุณถึงรู้ว่าบ้านอื่นมันดี?”

“รู้ไหมแคลิฟอร์เนียตอนจอดรถ คนเอากระจกรถลงนะ เขาบอกว่าอย่าทุบรถ อยากขโมยก็ขโมยเลย
นี่คือแคลิฟอร์เนีย รู้ไหมว่าตอนอยู่ลอนดอนบ้านเรามีอย่างนี้ไหม ค้นหาใช้มีดแทงที่ลอนดอนสิ
มีคนโดนแทงทุกวัน”

“ก่อนเราจะบอกว่าบ้านอื่นดีขนาดไหนคุณเคยรู้สึกโชคดีไหม ที่เราอยู่แผ่นดินไทย ได้โปรดเถอะ หยุดความอิจฉาที่มันมีไปเพื่ออะไรก็ไม่รู้”

“ผมเข้าใจประเทศไทยไม่ได้เพอร์เฟกต์แต่ก็ไม่มีบ้านไหนที่เพอร์เฟกต์ ทุกบ้านมีปัญหาหมด แต่วันนี้ผมถามหน่อย
จอดรถมีคนทุบรถคุณไหม วันนี้มีสงครามไหม เดินไปเดินมามีคนปล้นคุณไหม? วันนี้คุณเอื้อมถึงราคาอาหารไหม?”

“คุณรู้ไหมอยู่ที่สหรัฐน่ะ 35 บาท ซื้อได้แค่พิซซ่าที่ไม่มีหน้าเลย แต่วันนี้  35-40 บาท มีตัวเลือก คุณเคยมองถึงจุดนี้บ้างไหม? คุณรู้ไหมคนยากจนที่ยุโรปเขาไม่มีทางเลือกหน้าหนาว เพราะเค้าต้องจ่ายค่าฮีตเตอร์ เขาจ่ายไม่ไหวเขาก็ต้องปล้น แต่บ้านเราไม่มีหน้าหนาว คุณเคยมองจุดนี้บ้างไหม?”

“หยุดมองว่าบ้านอื่นน่าอยู่กว่าบ้านเรา จริงๆ เราเป็นคนโชคดีเว้ย เราเป็นคนโชคดีที่เป็นคนไทย”

จัดยิ่งใหญ่! สถาบันพระปกเกล้า-วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เปิดสนามศุภชลาศัย เตรียมระเบิดศึก ฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” ครั้งที่ 2

เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.67) ที่ โรงแรม Siam At Siam Hotel รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ รองเลขาธิการ ในฐานะ (ผู้แทนเลขาธิการ) สถาบันพระปกเกล้า พล.ท.ทักษิณ สิริสิงห ผู้อำนวยการ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร คุณอรรถพล เสื้อคำรณ ประธานจัดงาน ปปร.27 พล.ท.ฐิตวัชร์ เสถียรทิพย์ อดีตประธานรุ่น และประธานที่ปรึกษา วปอ.66 คุณวิกร ภูวพัชร์ ประธานจัดงาน วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ หัวหน้าทีมฟุตบอล สถาบันพระปกเกล้า และ พลเรือตรี วิชาญ วันทนี่ยกุล หัวหน้าทีมฟุตบอล วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลประเพณี "รักเมืองไทย" ครั้งที่ 2 โดย สถาบันพระปกเกล้า และ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร

รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ รองเลขาฯ สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อ และสร้างจิตสำนึกให้สังคมเห็นถึงความปรองดองสมานฉันท์ นำพาประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ เนื่องจากทั้ง 2 สถาบัน เป็นสถาบันหลักของประเทศที่ให้ความรู้ และผลิตบุคลากรของชาติ ระดับคุณภาพอย่างมากมาย ซึ่งการแข่งขัน ยึดรูปแบบฟุตบอลประเพณี "จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์" ที่โด่งดังมาช้านาน เป็นโมเดล

ด้าน พล.ท.ทักษิณ สิริสิงห ผู้อำนวยการ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
เปิดเผยว่า การแข่งขันฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นจากความสำเร็จจากกิจกรรมครั้งที่ 1 เป็นการสร้างโอกาสให้นักศึกษาในอดีตและปัจจุบันของทั้งสองสถาบัน ได้พบปะและสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น พร้อมเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านประชาธิปไตยและความปรองดองในสังคม ผ่านกีฬาฟุตบอลเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ 

งานนี้เป็นความร่วมมือจากนักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน โดยเฉพาะ นักศึกษาหลักสูตร ปปร. รุ่น 27 และ วปอ. รุ่น 66 ที่เป็นเหมือนเจ้าภาพและแกนหลักการจัดงาน รวมถึงพลังความร่วมมือจากนักศึกษาหลักสูตรต่างๆจากสองสถาบัน อาทิ สสสส. ปรม. ปศส. ปนป. SML วปอ.บอ.

ทางด้าน คุณวิกร ภูวพัชร์ ประธานจัดงาน วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เปิดเผยว่า การแข่งขันฟตบอลประเพณี "รักเมืองไทย" ครั้งที่ 1 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2566 ณ สนามศุภชลาศัย กรีทาสถานแห่งชาติ แข่งขันกัน 2 ประเภท คือ Junior กับ Senior ในครั้งนี้มีการแข่งขันประเภท Young เพิ่มเข้ามา เพื่อผลักดันคนรุ่นใหม่ ที่มีความสามารถในทางกีฬา และเพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของรุ่นก่อน สืบไปในอนาคต

คุณอรรถพล เสื้อคำรณ ประธานจัดงาน ปปร.27 เปิดเผยว่า ฟุตบอลประเพณี "รักเมืองไทย" ครั้งที่ 2 เริ่มแข่งขันวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ.2567 ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่เวลา 15:30 น. จะมีการแข่งขันฟุตบอลคู่แรก ประเภท Young และการแข่งขันฟุตบอลคู่ที่ 2 ประเภท Junior ในเวลา 16.45 น. และจะทำพิธีเปิดการแข่งขันพร้อมการแสดงขบวนพาเหรดของศิษย์ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร - สถาบันพระปกเกล้า และการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน ก่อนจะมีการแข่งขันฟุตบอลคู่ที่สาม ประเภท Senior ในเวลา 19.00 น และพิธีมอบรางวัล ในเวลา 20.35 น.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top