Monday, 9 June 2025
รักเธอประเทศไทย

เปิดความหมายที่แท้จริงของคำว่า 'กะลา' ใยจึงกล้าเรียกบ้านเมืองตนว่า 'กะลาแลนด์'

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Pichapong Chusri' ได้โพสต์เรื่องราวขณะสอนออนไลน์นักเรียนโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ระบุว่า...

นักเรียนถามว่า ทำไมวัดพระแก้วกับพระบรมมหาราชวัง ดูเป็นพื้นที่ส่วนตัว ต้องได้รับอนุญาตจึงจะเข้าชมได้ มันมีความไม่เท่าเทียมกันอยู่ไหม ทำไมต้องเป็นพื้นที่กึ่งเปิดกึ่งปิด เหมือนเป็นพื้นที่ของอภิสิทธิ์ชนเลย

ผมตอบไปว่า...

ในโลกนี้ มีสิ่งที่เรียกว่า Time and Place ซึ่งภาษาไทยยืมคำแขกมาใช้ คือ คำว่า 'กาลเทศะ' ซึ่งหมายถึง สถานที่กับเวลาเหมือนกัน

ทุกคนมีเวลาส่วนตัว และมีพื้นที่ส่วนตัวเหมือนกันหมด

หนูนอนห้องเดียวกับพ่อแม่ไหม? หนูอยากนอนรวมกับคนอื่นๆ ไปหมดไหม? ทำไมครูใหญ่ต้องมีห้องครูใหญ่? ทำไมนักเรียนกับครูไม่นั่งโต๊ะเดียวกัน?  

บางส่วนเราใช้พื้นที่ร่วมกัน บางส่วนเราใช้พื้นที่แยกกัน ทุกคนควรมีสิทธิมีที่ส่วนตัว และมีเวลาส่วนตัว ว่าไหมครับ มันจึงไม่ใช่การแบ่งแยก กีดกัน หรือเป็นอภิสิทธิ์ชนใดๆ เลย

‘โบวี่ อัฐมา’ เผยความในใจ รักประเทศไทยอย่างยั่งยืน ต้องรักไป พัฒนาไป แต่ยังคงไว้ซึ่งมนต์เสน่ห์อันดีงาม

เมื่อไม่นานมานี้ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ หรือ ‘โบวี่’ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงความรักที่ตนนั้นมีต่อประเทศและผืนแผ่นดินไทย โดยรุบะว่า…

“การรักประเทศไทย ไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดพัฒนาประเทศ แต่ ยิ่งเรารักประเทศเราก็ยิ่งอยากจะพัฒนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น (ตามความสามารถที่เราทำได้) ประเทศไทยเรายังมีส่วนที่พัฒนาได้มากกว่านี้อีกเยอะ แต่เสน่ห์ดีๆ ที่เรามีและน่ารักษาไว้ ก็มีมากมายเช่นกัน

ตัวโบเองก็ไม่ได้เกิดมาสบายนะ เคยสมัครเป็นพนักงานเซเว่นแต่เขาไม่รับ มาแล้วเหมือนกัน พ่อแม่โบเข้ามาจาก ตจว.อยู่บ้านเช่ารวมๆ กันกับญาติตอนเด็กๆ เห็นพ่อแม่ลำบากดิ้นรน ก็คิดว่าจะทำยังไงดีที่จะช่วยให้ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้จึง ‘พยายาม’ พัฒนาตัวเอง พยายามตั้งใจเรียน เพื่อจะได้มีความรู้ความสามารถไปทำงานที่ดี ได้เงินเดือนที่ดีช่วงจบ ม.6 เคยไปสมัครเป็น พนักงานเซเว่น แต่เขาไม่รับเพราะอายุไม่ถึง เลยไปทำงานเป็นพนังงานยืนเฝ้าร้านขายของในห้าง วันนึงได้ประะมาณ 250 บาท นั่งรถเมล์ไปทำงาน หลับน้ำลายยืดบนรถเมลล์เพราะรถติดมาก และเราก็เหนื่อยพอเข้ามหาวิทยาลัยได้”

“ไปโพสต์รับจ้างสอนพิเศษให้เด็กเตรียมสอบเอ็นทรานซ์ ได้เงินดีขึ้นมาก ได้ ชม.ละ 200/สอนวันละ 2 ชม. รวมได้ 400 บาท (มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำแล้ว) ตอนนั้นเลยเลิกขอเงินพ่อแม่ใช้ตัวโบเองตอนนั้นเห็นเพื่อนที่เขาเกิดมาสบายเลย เพราะพ่อแม่มีฐานะ ก็คิดเหมือนกันว่าเขาโชคดี ทำบุญมาดีจัง เราทำบุญมาเท่านี้ เกิดมาได้เท่านี้ ก็ต้อง ‘พยายาม’ มากกว่าเขาเราอาจทำบุญมาไม่เท่าเขา แต่เราก็มาสร้างเอาใหม่ได้ พยายามทำความดี คิดดี พูดดี ทำดี กตัญญู สร้างกุศลให้มาหนุนนำชีวิต ให้มันเจริญขึ้นได้

ซึ่งโบก็ได้พิสูจน์มาแล้ว ทุกวันนี้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ นอกจากความ ‘พยายาม’ แล้ว ก็เพราะกุศลที่ได้ทำมาหนุนนำชีวิตนี่แหละ อธิฐานบุญอะไรก็มักจะสำเร็จเสมอโบคิดว่าการที่เราเกิดมาลำบาก และต้องพยายามฝ่าฝัน มันก็เป็นกระบวนการหนึ่งที่เราต้องผ่านเพราะโบก็เห็นอีกหลายๆคนเขาก็ผ่านมาแบบนี้เหมือนกัน หลายๆคนตอนเด็ก ลำบากกว่าโบอีกมากกกก แต่เขาก็พยายาม ‘พัฒนา’ ตัวเอง ดิ้นรนหาความรู้ เพิ่มทักษะให้ตัวเอง หาช่องทางโอกาสให้กับชีวิต ไม่หยุดนิ่ง และเขาก็ผ่านจุดนั้นมาได้ปัจจัยภายนอกก็ส่วนหนึ่งที่ต้องพัฒนาแก้ไข แต่อีกส่วนก็อยู่ที่ตัวเราเองที่ก็ต้องมีความพยายามพัฒนาตัวเองด้วย” โบวี่ กล่าวทิ้งท้าย

Cr. โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์

‘เปิ้ล ไอริณ’ แชร์ประสบการณ์เที่ยวคนเดียวมาแล้ว 43 ประเทศ แต่ไม่มีที่ไหนมีเสรีภาพเท่าไทย ขอทุกคนจงภูมิใจในแผ่นดินเกิด

เมื่อไม่นานนี้ ‘เปิ้ล ไอริณ’ นักแสดง นักร้อง และพิธีกรชาวไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Irin Sriklao (เปิ้ล ไอริณ)’ ขณะกำลังพักผ่อนอยู่ที่หาดทรายแก้ว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยเธอได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ ‘ว่าด้วยเรื่อง ‘เสรีภาพ’ ที่กำลังเรียกร้อง’ ระบุว่า…

ว่าด้วยเรื่อง ‘เสรีภาพ’ ที่กำลังเรียกร้อง 😁

เราเคยสงสัยว่า ทำไมเราถึงมีจิตวิญญาณรักการท่องเที่ยว รักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ จนแบกเป้ไปคนเดียว เที่ยวมาแล้ว 43 ประเทศ!!

มาวันนี้ตกผลึกได้ว่า จักรวาลคงอยากให้เราไปสัมผัส ไปให้เห็นกับตา แล้วกลับมา บอกเล่าให้ทุกๆ คนฟัง!!

จากประสบการณ์ที่ได้พบ เราพูดได้เต็มปาก แบบไม่ลำเอียงเลย ว่า ประเทศไทยเรา ช่าง ‘มีเสรีภาพมากที่สุด’ ทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต การท่องเที่ยว และการทำมาหาเลี้ยงชีพ ประเทศเรา จะตั้งโต๊ะหน้าบ้าน ขายหมูปิ้ง ขายก๋วยเตี๋ยว ขายโจ๊ก ปลาท๋องโก๋ (ปาท่องโก๋) จะตกปลา หาผักริมทาง จะปั่นรถขายกาแฟ รถขายไก่ย่างส้มตำ ตลาดนัด ถนนคนเดินไม่ต้องพูดถึง ไปทะเล ของอร่อยๆ ขายกันตามฟุตบาธ ตามริมหาดมีของแบกขาย จะนั่งริมหาดไหนนั่ง จอดรถริมหาดตรงไหนก็ได้ แต่ที่ต่างประเทศ คุณทำไม่ได้ค่ะ!! แล้วทะเลไทยสวยจริง น้ำทะเลบ้านเรา ก็ไม่หนาวเย็นเหมือนแถบยุโรป!

นี่เรายังไม่เคยไปประเทศไหน ใจดีอนุญาตให้พาหมา ไปพายเรือ ว่ายน้ำเล่น ในกองฐานทัพเรือได้เลย!! แถมน้ำใสกริ๊ง คาเฟ่ในไทยก็มีเยอะ น่านั่งจนต่างชาติทึ่ง!!

จงรักประเทศไทยเรากันเถอะค่ะ ขวานทองของไทยนี้ มีดี มีเสน่ห์ มีเสรีภาพมากมาย ชนชาติที่ว่าเจริญแล้ว ครั้งหนึ่งในชีวิต ยังขอบินข้ามซีกโลกมาชื่นชมบ้านเราเลย เพราะ นอกจากมีธรรมชาติงดงาม มาละคุ้มค่าเงิน ที่พักถูก ค่าอาหารเบาๆ ที่มีรสชาติขึ้นชื่อ ไทยเรายังมีความปลอดภัยแบบสุดๆ และมีเสน่ห์จากรอยยิ้ม และมิตรภาพของผู้คนอีกด้วย

เราเอง เคยคิดอยากย้ายประเทศ แต่กะจะขอเที่ยวทุกจังหวัดก่อน สุดท้ายโดนตก ไม่ไปไหนละ 😁

อ่านแล้ว ขอให้รัก และภาคภูมิใจในแผ่นดินเกิดของพวกเรา และมองให้เห็นเสรีภาพ ที่เราอาจคุ้นชิน จนลืมให้ค่า และลองหันมาเห็นค่าให้มากๆ ขึ้นนะคะ

บอกเลย!! คุณโชคดีที่สุดแล้ว ที่ได้เกิดเป็นคนไทย 🥰💕🇹🇭

ทั้งนี้ หลังเปิ้ล ไอริณโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นชื่นชมและให้กำลังใจเปิ้ล ไอริณเป็นจำนวนมาก โดยหลายคนระบุว่า “รักเมืองไทยที่สุด”

‘พล.ต.วันชนะ’ เผย!! แผนที่เขมร คลาดเคลื่อนสูงกว่าไทย เปรียบ!! ใช้เมจิกหัวใหญ่ กินแดนของไทย ไปโดยอัตโนมัติ

(8 มิ.ย. 68) พลตรี วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

แค่ใช้ 1/2แสนก็ไม่แม่นแล้ว

เขมรยึดถือแผนที่ 1ต่อ 200,000 ไทยใช้แผนที่ 1ต่อ 50,000(L 7018) อธิบายง่ายๆว่า ถ้าขีดเส้น 1เส้นลงไปในแผนที่ 1ต่อ 200,000 จะมีความกว้าง 200 เมตร 

ส่วนใน 1ต่อ 50,000 จะมีความกว้าง 50 เมตร ซึ่งต่างกันถึง 4 เท่า เหมือนเขมรเอาเมจิกหัวใหญ่ ทู่ ส่วนไทยใช้เมจิกหัวเล็กแหลม ขีดเส้นบนแผนที่ หัวใหญ่ทู่จะกินดินแดนของอีกฝ่ายไปโดยอัตโนมัติ เกิดความคลาดเคลื่อนสูงกว่าไทยแน่นอน คาดเดาต่อไปว่า

1 เขมรน่าจะทำแผนที่ 1ต่อ 50,000 ไม่ได้ เพราะการทำจะต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่า แต่อาจมีใช้จากการสนับสนุนจากต่างประเทศ

2 และถ้าใช้แผนที่ 1/200,000 การยิงอาวุธระยะไกล ไม่แม่นแน่นอนครับ 

อธิบายด้วยภาพชัดเจน ว่าช่องบกที่ปะทะ อยู่ในไทยครับ 

‘สส.จิรัฏฐ์’ ทวิต!! อย่าสร้างสถานการณ์ ให้ประชาชนแตกตื่น ชี้!! กองทัพฉวยโอกาสสร้างกระแส โหม PR. ถึงขั้นจะเสียเอกราช

(8 มิ.ย. 68) นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.พรรคประชาชน ทวิต 

“จากดราม่า ผมยอมรับว่าสวนกระแสสังคมครับ

แต่ยังขอยืนยันข้อความที่โพสต์

ตำรวจ หมอ พยาบาล ทำงานเสี่ยงตายทุกวัน ไม่เคยเห็นต้องมาทำ Pr ขอแรงสนับสนุน นี่เกิดการปะทะตามตะเข็บชายแดนแค่ 10 นาที บนที่พื้นที่ป่า 200 เมตร ซึ่งยังพิพาทกันอยู่

กองทัพเล่นฉวยโอกาสมาสร้างกระแส โหม Pr
ถึงขนาดจะเสียชาติไทย* จะเสียเอกราช *

แบบนี้ไม่ได้เป็นผลดีกับประเทศเลย

กองทัพไม่ควรเล่นการเมือง มันเป็นหน้าที่รัฐบาลตัดสินใจ จะเจรจาอย่างไร จะใช้มาตรการอะไร

ทุกประเทศทั่วโลกมีปัญหาพิพาทเส้นเขตแดนทั้งนั้น เค้าก็แก้ด้วยการทูต ใครละเมิดข้อตกลงก็ว่ากันไป ไม่ได้แก้ด้วยการบอกว่าพร้อมจะทำสงคราม
กองทัพแค่ทำหน้าที่ตัวเอง เตรียมกำลังเตรียมความพร้อมไป ให้รัฐบาลเจรจาหาข้อยุติโดยไม่เกิดการปะทะคือเป้าหมาย 

อย่าสร้างสถานการณ์ให้ประชาชนแตกตื่น จนถึงขนาดเรียกร้องหาสงคราม!!”

รัฐกลายเป็น ‘เจ้าบ้าน’ ของอาชญากรรมข้ามชาติ ไทยไม่ควรนิ่งเฉย!! ปัญหาด้านความมั่นคง

(8 มิ.ย. 68) ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชื่อของกัมพูชาเริ่มปรากฏขึ้นบ่อยครั้งในฐานะ “แหล่งหลอกลวง” ของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับการฟอกเงิน การพนันออนไลน์ และเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ล่าสุด รายงานจาก Humanity Research Consultancy ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า อุตสาหกรรมสีเทาเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่ “พื้นที่อาชญากรรม” หากแต่มีลักษณะของ การได้รับการอุปถัมภ์จากภาครัฐ อย่างเป็นระบบ

โครงสร้างทุนเหล่านี้ฝังรากอยู่ในเมืองชายแดนอย่างปอยเปต สีหนุวิลล์ และอุดรมีชัย โดยมีบุคคลระดับสูงในรัฐบาลกัมพูชาเกี่ยวข้องโดยตรง เช่น ลูกพี่ลูกน้องของฮุน มาเนต ที่นั่งเป็นบอร์ดบริหารแพลตฟอร์มฟอกเงิน, รัฐมนตรีมหาดไทยที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมทุนกับกาสิโน รวมถึงมหาเศรษฐีสายการเมืองที่มีบทบาทในพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) หลายคน

ความน่ากังวลไม่ใช่แค่ในระดับภายในกัมพูชา แต่ยังขยายผลมาสู่ประเทศไทยโดยตรง เพราะโครงสร้างสีเทาเหล่านี้ พึ่งพาไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทย ใช้แรงงานผ่านชายแดนไทย และในบางกรณี ยังใช้ไทยเป็น “ทางผ่าน” ของกระบวนการฟอกเงินอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่อาจมองปัญหานี้เป็นแค่ “เรื่องอาชญากรรม” แต่ควรถือเป็นปัญหาด้าน ความมั่นคงเชิงโครงสร้าง ที่กำลังบั่นทอนศีลธรรมทางการเมืองของภูมิภาคไปพร้อมกัน

ไทยจึงควรทบทวนบทบาทของตนในฐานะ “ผู้ส่งทรัพยากรให้ทุนเทา” อย่างจริงจัง การตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตไปยังพื้นที่เสี่ยงอาจเป็นเพียงมาตรการเบื้องต้น แต่ในภาพรวม ไทยควรใช้สถานะของตนในเวทีระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN) หรืออาเซียน ในการยกประเด็นนี้ให้เป็น ภัยต่อความมั่นคงสากล ไม่ต่างจากปัญหาค้ามนุษย์หรือยาเสพติด

หากไม่เริ่มตั้งแต่วันนี้ การเพิกเฉยของรัฐไทยอาจกลายเป็นการร่วมสร้างระบบที่เอื้อให้ทุนสีเทาแปรสภาพเป็นทุนการเมือง และท้ายที่สุด ไม่ว่าด่านจะเปิดหรือปิด ประเทศไทยก็อาจเป็นเพียง “ผู้เฝ้าชายแดนให้ทุนมืด” โดยไม่รู้ตัว

‘นิติศักดิ์’ สส.รวมไทยสร้างชาติ อาสาเป็นสื่อกลาง รวมน้ำใจชาวพัทลุง รวบรวม!! ยางรถยนต์ ส่งให้ทหารหาญบริเวณชายแดน ‘ไทย-กัมพูชา’

(8 มิ.ย. 68) นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพัทลุง เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปัจจุบันทหารหาญของไทยมีความต้องการสิ่งของต่าง ๆ โดยเฉพาะยางรถยนต์ ประกอบกับพ่อแม่พี่น้องชาวพัทลุงก็มีความเป็นห่วงและต้องการช่วยเหลือเหล่าทหารหาญ โดยเฉพาะในส่วนของความปลอดภัย ตนจึงขออาสาเป็นสื่อกลางนำส่งน้ำใจของพ่อแม่พี่น้องชาวพัทลุงด้วยการรวมรวบยางรถยนต์ ทั้งยางรถยนต์ 4 ล้อ, ยางรถบรรทุก 10 ล้อ และยางรถจักรยานยนต์ โดยพ่อแม่พี่น้องชาวพัทลุงสามารถนำยางรถยนต์มาบริจาคส่งให้คณะทำงาน ได้ที่บริเวณลานกว้าง ใกล้สำนักงานเทศบาลตำบลเขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง ตั้งแต่วันที่ 14-16 มิถุนายน เพื่อประสานนำส่งไปยังพื้นที่ชายแดนดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับส่งของที่จะนำมาให้นั้น ขอเน้นให้เป็นยางรถยนต์หรือยางรถจักรยานยนต์ ส่วนสิ่งของอื่น ๆ ขอให้เน้นเป็นข้าวสารที่สามารถรวบรวมส่งไปได้เช่นกัน

นายนิติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด อีกทั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถในการปกป้องอธิปไตยและดินแดนของประเทศไทย จึงรับรู้สถานการณ์และความจำเป็นต่าง ๆ ในพื้นที่เป็นอย่างดี จึงขอให้พ่อแม่พี่น้องวางใจได้ และยืนยันว่าทหารหาญไทยทุกนายจะได้รับความปลอดภัยและการดูแลเป็นอย่างดี

‘ศอ.ปชด.’ ยกระดับ!! มาตรการป้องกัน และปราบปรามฯตามแนวชายแดน ‘ไทย-กัมพูชา’ ควบคุมจุดผ่านแดนเข้มงวด

(8 มิ.ย. 68) จากสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา โดยปัจจุบันมีกำลังติดอาวุธ ของฝ่ายกัมพูชาได้วางกำลังรุกล้ำอธิปไตยของไทยทั้งนี้ รัฐบาล กระทรวงกลาโหมและกองทัพบก ได้ใช้ความพยายาม อย่างถึงที่สุดในการคลี่คลายความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดยใช้กลไกทวิภาคีที่มีการตกลงกันไว้ กับกัมพูชา แตไม่ได้รับการตอบสนองในเชิงบวกจากฝายกัมพูชา ทั้งยังปรากฏว่ากัมพูชาได้มีการเพิ่มเติมกำลังพล อาวุธและยุทโธปกรณเขามาประชิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และมีการดัดแปลงที่มั่นทางทหารซึ่งอาจมีความเสี่ยง ที่เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบแก่พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน กองทัพบกและกองทัพเรือ ภายใต้มติสภาความมั่นคงแห่งชาติและตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม 

จึงได้กำหนดมาตรการควบคุมการเปิด-ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภทเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดน ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 และคำสั่งกองทัพเรือ (เฉพาะ) ที่ 447/2568 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ดังนั่น เพื่อเป็นการสนับสนุนมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนดังกล่าว จึงให้หน่วยงานภายใต้กลไก ศอ.ปชด. ดำเนินการดังนี้ 1. ให้จังหวัดชายแดนในฐานะศูนยสั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านดานกัมพูชา และหนวยงาน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้การสนับสนุนกองกำลังสุรนารี กองกำลังบูรพา และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและดำเนินการตามมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนดังกล่าว 2. ใหสำนักงานตรวจคนเขาเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดการผ่านเข้า-ออก ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ของบุคคลและกลุมบุคคล โดยเฉพาะพื้นที่ ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีและบอนการพนัน อาทิ พื้นที่ชายแดนอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร อำเภอบานกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อำเภอโปงน้ำรอน จังหวัดจันทบุรี และอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด นอกจากนั้นยังปรากฏข้าวสารว่ามีบุคคลและกลุ่มบุคคลยังคงมีการกระทำผิดด้านอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการบอนทำลายสภาพเศรษฐกิจและสังคม ทั้งภายในประเทศไทย และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังนั่นเพื่อให้การปองกันและปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ศอ.ปชด. จึงมีมาตรการ ดังนี้ 

1. แจ้งใหฝ่ายกัมพูชาเร่งรัดปราบปรามผูกออาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ในทุกพื้นที่ทันที จับกุมและบังคับใชกฎหมายต่อผู้กระทำความผิดรวมถึงผู้สนับสนุนทั้งหมด 

2.จะได้ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามฯ อาทิเช่น การตัดกระแสไฟ้ฟ้า การระงับสัญญาณ อินเตอร์เน็ตที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ ที่เป็นบอนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสิ้นค้าและยุทโธปกรณที่อาจจะนำไปใช้ในการก่ออาชญกรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ โดยจะได้นำเสนอมาตรการดังกล่าวต่อ สภาความมั่นคงแห่งชาติต่อไป ทั้งนี้ ศอ.ปชด. จะอำนวยการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดข้างตน ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และเพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติโดยไม่ให้กระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ของพี่น้องประชาชนบริเวณชายแดน พรอมทั้งจะได้ติดตามสถานการณ์อยางใกล้ชิดและพิจารณาเพิ่มเติมมาตรการ ที่จำเป็นจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายต่อไป

‘อ.เจษฎา’ โพสต์ข้อความ!! เป็นห่วงการท่องเที่ยว ชี้!! ถ้าปั่นกันหนัก นักท่องเที่ยวจะหายหมด

(8 มิ.ย. 68) รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า …

ถ้าปั่นกันหนัก จนเหมือนเตรียมเข้าสู่สงคราม … 

นักท่องเที่ยวที่ไหน จะอยากมาไทย  ยิ่งน้อยๆ อยู่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top