Sunday, 5 May 2024
รองเท้าAeroSoft

"โปรตุเกส" ได้ 3 ประตูในช่วง 6 นาทีสุดท้าย ก่อนเอาชนะ ฮังการี ไป 3-0 ประเดิมด้วยสามคะแนนในศึกยูโร 2020 โดยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหมาคนเดียว 2 ตุง พร้อมทำสถิติยิงมากสุดในศึกยูโร คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่นและยิงประตูในยูโร 5 ครั้งติดต่อกัน

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” วันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564 คู่เวลา 23.00 น. เป็นเกมในกลุ่ม F ฮังการี หนึ่งในเจ้าภาพร่วมรอบแบ่งกลุ่ม ลงเล่นที่ ปุสกัส อารีน่า เมืองบูดาเปสต์ พบกับ โปรตุเกส ทีมแชมป์เก่าเมื่อปี 2016

เกมนี้มีแฟนบอลเข้ามาเชียร์แทบจะเต็มความจุของ ปุสกัส อารีน่า ราว 67,000 คน โดยรัฐบาลของประเทศฮังการี อนุญาตให้กองเชียร์เข้ามาเต็มความจุของสนามได้ แต่ต้องผ่านมาตรการตรวจเชื้อโควิด-19 และทุกคนในสนามต้องผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 โดส

ฮังการี ของกุนซือมาร์โก รอสซี นำทัพมาโดย อดัม ซาลาย กองหน้ากัปตันทีมตัวเก่ง, ปีเตอร์ กูลาคชี, อันดราส เชเฟอร์, โรแลนด์ ซัลลาย ขณะที่ โปรตุเกส ของเฮดโค้ชเฟร์นานโด ซานโตส นำทัพมาโดย 3 ประสานแดนหน้า อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, แบร์นาร์โด ซิลวา และดิเอโก โชต้า โดยมี บรูโน่ แฟร์นันเดส บัญชาเกมแดนกลาง

เริ่มเกม โปรตุเกส เป็นฝ่ายออกสตาร์ทได้คึกคักกว่า เปิดฉากบุกเจ้าใส่เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง ไม่เกรงใจเสียงเชียร์ของแฟนๆ ในสนาม แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์เน้นๆ ไม่ได้ ได้แค่เพียงเฉียดไปเฉียดมา สุดท้ายยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมด 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลังรูปเกมยังเป็นอีหรอบเดิม โปรตุเกส แทบจะขึงเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียว แต่จังหวะจบสกอร์ยังทำได้ไม่ดีพอ ขณะที่ ฮังการี มาเน้นตั้งรับอย่างเหนียวแน่น และรอโอกาสสวนกลับ แต่ยังไม่มีจังหวะทำประตูที่น่ากลัวเท่าไหร่

แต่แล้วในนาทีที่ 84 กลายเป็นโปรตุเกส ที่ได้ประตูออกนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ ราฟา ซิลวา ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนตบเข้ากลางมาให้ ราฟาเอล เกอร์เรโร่ ซัดด้วยซ้ายบอลไปแฉลบแนวรับฮังการีก่อนเด้งเข้าประตูไป

นาทีที่ 86 โปรตุเกส มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ราฟา ซิลวา หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนโดนวิลลี ออร์บาน ดึงล้มลงไป และเป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ สังหารไม่พลาด ถือเป็นประตูที่ 105 ในนามทีมชาติของเขา และเป็นประตูที่ 10 ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ทำลายสถิติของมิเชล พลาตินี ขึ้นนำเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในศึกยูโร ช่วยให้ "ฝอยทอง" ขยันนำเป็น 2-0

เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 90+3 โปรตุเกส หนีห่างเป็น 3-0 จากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำชิ่งกับ ราฟา ซิลวา จนหลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดโล่งๆ เข้าประตูไป เป็นประตูที่ 106 ในนามทีมชาติ และเป็นประตูที่ 11 ของเจ้าตัวในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปอีกด้วย

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลา 90 นาที โปรตุเกส เอาชนะ ฮังการี 3-0 ประเดิมสามแต้มในศึกยูโร 2020 ได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ฮังการี : ปีเตอร์ กูลาคชี (GK), เอ็นเดร บ็อตกา, วิลลี ออร์บาน, อัตติล่า ซาลาย, เจอร์โจ เลิฟเรนซิชส์, ลาสซ์โล เคลนไฮส์เลอร์, อดัม นากี, อันดราส เชเฟอร์, อัตติลา ฟิโอลา, โรแลนด์ ซัลลาย, อดัม ซาลาย

โปรตุเกส : รุย ปาทริซิโอ (GK), เนลสัน เซเมโด, รูเบน ดิอาส, เปเป้, ราฟาเอล เกอร์เรโร่, วิลเลียม คาร์วัลโญ่, ดานิโล เปเรยร่า, บรูโน่ แฟร์นันเดส, แบร์นาร์โด ซิลวา, ดิโอโก โชตา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000057989


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ฝรั่งเศส รองแชมป์เก่า ได้ประตูชัยจากการทำเข้าประตูตัวเองของ มัตส์ ฮุมเมิลส์ ตั้งแต่ช่วงต้นเกม เฉือนเอาชนะ เยอรมนี ไปแบบหวุดหวิด 1-0 ในศึกบิ๊กแมตช์ยูโร 2020 คว้า 3 คะแนนสำคัญไปครอง

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ‘ยูโร 2020’ วันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564 คู่ดึก เป็นเกมในกลุ่ม F ขุนพล ‘อินทรีเหล็ก’ เยอรมนี หนึ่งในเจ้าภาพร่วม ลงเล่นในสนาม ‘ฟุตบอล อารีน่า มิวนิค’ (อริอันซ์ อารีน่า) เมืองมิวนิค พบ ‘ตราไก่’ ฝรั่งเศส เจ้าของแชมป์โลก 2018 และรองแชมป์เก่ารายการนี้เมื่อปี 2016

เกมนี้ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือใหญ่ทัพ ‘ตราไก่’ จัดผู้เล่นชุดใหญ่เต็มสูบ นำทัพโดย 3 ประสานแดนหน้า อย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้, คาริม เบนเซม่า และอองตวน กรีซมันน์ โดยมี พอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และอาเดรียง ราบิโอต์ คุมเกมแดนกลาง

ขณะที่ เยอรมนี ภายใต้การคุมทีมของโยอาคิม เลิฟ เก็บ ติโม แวร์เนอร์ ศูนย์หน้าตัวเก่งไว้เป็นตัวสำรอง และส่งโธมัส มุลเลอร์, แซร์จ นาบรี, ไค ฮาแวร์ตซ์ ผสานงานในแนวรุก ขณะที่ โทนี โครส จับคู่กับ อิลคาย กุนโดกัน คุมเกมในแดนกลาง

นาทีที่ 20 กลายเป็น ฝรั่งเศส ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ลูกัส เอร์นองเดซ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนปาดเข้ากลาง มัตส์ ฮุมเมิลส์ กองหลังเยอรมนีพยายามจะสกัด แต่บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง และหมดเวลาการแข่งขันใน 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง เยอรมนี เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่องเพื่อหวังทำประตูตีเสมอ แต่จังหวะจบสกอร์ยังทำได้ไม่ดีพอ และในนาทีที่ 67 ฝรั่งเศส เกือบจะมาได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษฝรั่งซ้าย ก่อนล็อกแล้วยิงหนีมือ นอยเออร์ เข้าไป แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าเสียก่อน

ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม เยอรมนี พยายามขึ้นมาขึงเกมบุกเพื่อทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่ในจังหวะสุดท้ายยังไม่เป็นใจ โดย ฝรั่งเศส อาศัยวินัยในเกมรับที่ยอดเยี่ยม ปล่อยให้ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ใช้ความเร็วจากลูกสวนกลับเล่นงาน ‘อินทรีเหล็ก’ ได้หลายครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้

นาทีที่ 87 ฝรั่งเศส เกือบมาได้ประตูที่สองจากจังหวะสวนกลับ พอล ป็อกบา จ่ายให้ คีเลียน เอ็มบัปเป้ หลุดมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนปาดเข้ากลางมาให้ คาริน เบนเซม่า ชาร์จจ่อๆ เข้าไป แต่เมื่อดู VAR แล้ว เอ็มบัปเป้ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าเสียก่อน สกอร์ยังเป็น 1-0

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำประตูกันเพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ฝรั่งเศส เฉือนชนะ เยอรมนี 1-0 เก็บสามคะแนนสำคัญ เปิดหัวยูโร 2020 ได้อย่างยอดเยี่ยม

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ฝรั่งเศส: อูโก้ ญอริส (GK), เบนจาแมง ปาวาร์, ราฟาเอล วาราน, เพรสเนล คิมเพมเบ, ลูกัส เอร์นองเดซ, อาเดรียง ราบิโอต์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, พอล ป็อกบา, อองตวน กรีซมันน์, คาริม เบนเซม่า, คีเลียน เอ็มบัปเป้

เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์ (GK), มัทธิอัส กินเทอร์, มัตส์ ฮุมเมิลส์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, โรบิน โกเซนส์, โทนี โครส, อัลคาย กุนโดกัน, โยชัว คิมมิช, ไค ฮาแวร์ตซ์, แซร์จ นาบรี, โธมัส มุลเลอร์

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000058008


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ยูฟ่า เตรียมสืบสวนกรณีที่ มาร์โก อาร์เนาโตวิช หัวหอกออสเตรีย ที่ใช้วาจาไม่เหมาะสมและเหมือนกับเป็นการเหยียดเชื้อชาติในแมตช์ที่ชนะ มาซิโดเนียเหนือ ในศึกยูโร 2020 กลุ่ม ซี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หากนักเตะผิดจริงมีสิทธิ์โดนแบนจากช่วงที่เหลืออยู่ของทัวร์นี้

มาร์โก อาร์เนาโตวิช กองหน้าทีมชาติออสเตรีย มีสิทธิ์โดนแบนตลอดช่วงที่เหลืออยู่ในศึกยูโร 2020 หลังสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้แต่งตั้งผู้ตรวจสอบด้านวินัยและจริยธรรม เพื่อสืบสวนกรณีที่นักเตะพูดจาในเชิงเหยียดเชื้อชาตินักเตะมาซิโดเนียเหนือ

อดีตหัวหอกสโต๊ค ซิตี้ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันเล่นให้กับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ในศึกไชนีส ซูเปอร์ลีก ประเทศจีน ระเบิดอารมณ์หลังยิงประตูตอกฝาโลงในช่วงท้ายเกม พร้อมกับพ่นวาจาที่ไม่เหมาะสมว่า "I'm f***ing your Albanian mother" หรือ "ข้าจะฟาดแม่ชาวแอลเบเนียของพวกแก"

จากนั้น ดาวิด อลาบา ปราการหลังกัปตันทีมต้องรีบวิ่งเข้ามาจับปากเพื่อห้ามปรามเพื่อนร่วมทีมไม่ให้แสดงพฤติกรรมดังกล่าว จบเกม ออสเตรีย เก็บชัยชนะไปได้อย่างสวยงามด้วยสกอร์ 3-1 พร้อมนำเป็นจ่าฝูง กลุ่ม ซี

หลังจบแมตช์ดังกล่าว อาร์เนาโตวิช ได้ออกมาขอโทษแล้วพร้อมยืนยันตนไม่ได้พูดจาเหยียดเชื้อชาติ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่จบงานๆ เพราะ ยูฟ่า แถลงการณ์ว่าได้จัดการเตรียมสืบสวนในกรณีนี้ และหากนักเตะทำผิดจริง มีสิทธิ์โดนลงโทษหนักเลยทีเดียว

"สำหรับเรื่องนี้สอดคล้องกับกฎข้อ 31 (4) ตามกฎด้านระเบียบวินัยของยูฟ่า โดยได้มีการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบด้านวินัยและจริยธรรมเพื่อที่จะสืบสวนในกรณีที่เกี่ยวข้องกับ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ในระหว่างเกมที่ ออสเตรีย พบ มาซิโดเนียเหนือ ในรอบแบ่งกลุ่ม ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2021" แถลงการณ์ ยูฟ่า ระบุ

เหตุผลที่คำผรุสวาจาดังกล่างถูกมองว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติเนื่องจากมันเกี่ยวพันกับกรณีพิพาทดินแดนในโคโซโวระหว่าง เซอร์เบีย กับ แอลเบเนีย จนกลายเป็น "สงครามโคโซโว" โดยคาดว่า อาร์เนาโตวิช ซึ่งมีคุณพ่อเป็นชาวเซิร์บ ตั้งเป้าใช้คำพูดดังกล่าวพาดพิง เอ็กซอน เบจ์ตูลาย กับ เอ็กยาน อลิออสกี้ เนื่องจากทั้งสองคนมีเชื้อสายชาวแอลเบเนีย

 

ที่มา : https://www.siamsport.co.th/football/euro2020/view/240554


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นักเตะหล่อต้องบอกต่อ เปิด 5 แข้งหน้าตาดีประจำทัวร์นาเม้นท์ยูโร 2020

เห็นบรรดาคุณแฟน คุณสามี นั่งตะคุ่มๆ ที่หน้าจอทีวีตอนกลางคืนช่วงนี้ คุณสาวๆ อาจจะมีความหงุดหงิดใจไปบ้าง ‘แฟนโฟกัสแต่ทีวี ไม่โฟกัสที่ฉัน’ โปรดใจเย็นครับ ฟุตบอลแบบนี้ 4 ปีมีหน ปล่อยพวกเขาไปสู่โลกของเขาเถอะครับ อาเมนนนน เอ้ย! ยังไม่ตาย!!

แต่เอางี้ดีกว่าครับ ถ้าคุณอยากจะเดินเข้าไปสู่โลกของเขาบ้าง หมายถึงว่า คุณจะไปนั่งหน้าจอชมฟุตบอลยูโร 2020 บ้าง เรามี ‘จุดโฟกัส’ ให้คุณสาวๆ ได้รื่นเริงบันเทิงอารมณ์กัน เราไปรวมนักเตะ ‘งานดี’ หน้าตาหล่อเหลา ที่จะลงไปวิ่งเล่นในสนามในศึกยูโรหนนี้ มาให้คุณสาวๆ ได้โฟกัสกัน

เริ่มต้นที่ อารอน แรมซี่ย์ เพลย์เมกเกอร์ ทีมชาติเวลส์ นักเตะรายนี้มีรูปร่างหน้าตาหล่อเข้ม อายุอานาม 30 ปีแล้ว เล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่มาถึง 64 นัด พิกัดที่คุณสาวๆ จะเจอเขาได้คือ คืนวันพุธที่ 16 มิ.ย. ลงเตะเวลา 5 ทุ่ม และคืนวันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย. ลงเตะเวลา 5 ทุ่มเช่นกัน

คนต่อมา เป็นนักเตะจากทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส่งเข้าประกวด นามว่า แฟรงกี้ เดอ ยอง อายุ 24 ปี ปกติเล่นในลีกกับสโมสรบาร์เซโลน่า ในลาลีกา สเปน แต่ถ้ามีทัวร์นาเม้นท์ทีมชาติ กองกลางรายนี้จะลงเล่นในนามทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เล่นให้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดใหญ่ไปแล้ว 28 นัด ใครชอบแนวหน้าตาสดใส ผมสีทองคะนองศึก พิกัดการชมอยู่ที่ คืนวันพฤหัสบดีที่ 17 มิ.ย. เวลาตีสอง และวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย. เวลา 5 ทุ่ม

มาถึงอีกคน เฟร์ราน ตอร์เรส นักเตะทีมกระทิงดุสเปน อายุ 21 ปี ปกติเล่นในลีกให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลล่าสุด ตอร์เรสเล่นตำแหน่งกองหน้าด้านข้าง มีความรวดเร็ว และมีความคมเข้มตามสไตล์หนุ่มสแปนิช ใครชื่นชอบเข้มๆ ใสๆ สไตล์นี้ แนะนำพิกัด คืนวันเสาร์ที่ 19 มิ.ย. เวลาตีสอง และคืนวันพุธที่ 23 มิ.ย. เวลา 5 ทุ่ม

อีกหนึ่งรายที่ขอแนะนำว่างานดี เมสัน เมาท์ นักเตะทีมสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ อายุ 22 ปี ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่มา 17 นัด ถือเป็นนักเตะสายเลือดใหม่ของอังกฤษ แถมรูปร่างหน้าตาและทรงผม ยังเท่บาดใจสาวๆ ถ้าไม่เตะบอลก็ไปเป็นบอยแบนด์อังกฤษได้สบายๆ คนนี้ใส่เบอร์ 19 แนะนำพิกัดการรับชม คืนศุกร์ที่ 18 มิ.ย. เวลาตีสอง และคืนวันอังคารที่ 22 มิ.ย. เวลาตีสอง

ปิดท้ายด้วยพ่อเทพบุตรแห่งทีมชาติเบลเยี่ยม ยานนิค การ์ราสโก้ รายนี้หล่อระดับนายแบบ แถมลุคยังเซอร์ๆ มีเคราให้สาวๆ กรี้ดเล่น การ์ราสโก้ อายุ 27 ปี เล่นให้ทีมชาติเบลเยี่ยมชุดใหญ่มาแล้ว 47 นัด และยังเป็นหนึ่งในนักเตะสโมสรแอตเลติโก มาดริด แชมป์ลาลีกา สเปน ฤดูกาลล่าสุดอีกด้วย หากอยากชื่นชมความหล่อเหลาของพี่โก้ ต้องไปที่ คืนวันพฤหัสบดีที่ 17 มิ.ย. เวลา 5 ทุ่ม และคืนวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย. เวลาตีสอง

จัดมาให้คุณสาวๆ ได้รู้จัก & ตามไปรับชมกันนะครับ ทีนี้คุณก็จะได้นั่งตะคุ่มๆ อยู่หน้าจอทีวีตอนกลางคืนบ้างแล้วล่ะ แต่ถ้ามีปัญหากับคนข้างตัว อันนี้เคลียร์กันเองนะจ๊ะ (อิอิ)


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เปิดเบื้องหลัง! ‘เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟ’ ก่อนจะเป็นเพลงฮิตติดหู!

เผยภาพเบื้องหลังเนื้อเพลง แก้ไขรอบสุดท้าย เพลง ‘เชียร์ยูโร แอโรซอฟ’ ที่ ‘ปอ-ณัฐภูมิ รัฐชยากร’ ผู้เนรมิตเพลงนี้ คาดว่า เจ้าของลายมือที่แก้ไขเนื้อเพลง คือ คุณโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด เจ้าของแบรนด์รองเท้า ‘แอโร่ซอฟ’ ที่ทุ่มซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร2020 มาให้คนไทยได้ดูถึงบ้าน เป็นผู้ลงมือแก้ไขด้วยตัวเองเลยทีเดียว


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โปรแกรม ยูโร 2020 คืนนี้ (16-17 มิถุนายน 2564)

โปรแกรม ยูโร 2020 คืนนี้

ถ่ายทอดสดครบทุกคู่ทาง NBT2HD

20.00 น. ฟินแลนด์ vs รัสเซีย

23.00 น. ตุรกี vs เวลส์

02.00 น. อิตาลี vs สวิตเซอร์แลนด์


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

มานูเอล โลคาเตลลี เหมาคนเดียว 2 ประตู และชิโร่ อิมโมบิเล่ ซัดปิดกล่อง พา อิตาลี เชือดนิ่ม สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 เก็บชัย 2 นัดรวด คว้า 6 แต้มเต็ม การันตีเข้ารอบน็อคเอาท์เป็นทีมแรกแน่นอนแล้ว

มานูเอล โลคาเตลลี เหมาคนเดียว 2 ประตู และชิโร่ อิมโมบิเล่ ซัดปิดกล่อง พา อิตาลี เชือดนิ่ม สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 เก็บชัย 2 นัดรวด คว้า 6 แต้มเต็ม การันตีเข้ารอบน็อคเอาท์เป็นทีมแรกแน่นอนแล้ว

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ‘ยูโร 2020’ วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 คู่ที่สาม เป็นเกมการแข่งขันในกลุ่ม A อิตาลี หนึ่งในเจ้าภาพร่วม เปิดสตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม พบกับ สวิตเซอร์แลนด์

เกมที่แล้ว อิตาลี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม มีแนวรุกที่เฉียบคม ไล่ต้อนตุรกี มา 3-0 ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ โดนตีเจ๊า ทำได้แค่เสมอกับ เวลส์ 1-1

โรแบร์โต มันชินี กุนซืออิตาลี ยึดผู้เล่น 11 คนแรกแทบจะเหมือนในเกมก่อน เปลี่ยนแปลงแค่ตำแหน่งแบ็คขวา ส่ง จิโอวานนี ดิ ลอเรนโซ่ เล่นแทนอเลสซานโดร ฟลอเรนซี ส่วนคนอื่นๆ นำทัพมาโดย ชิโร่ อิมโมบิเล่, โดเมนิโก แบราร์ดี, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่

ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ ของกุนซือวลาดิเมียร์ เปตโควิช เกมนี้ใช้ผู้เล่น 11 คนแรกเป็นชุดเดียวกับเกมที่แล้ว นำโดย 2 กองหน้า อย่าง แฮริส เซเฟโรวิช กับบรีล เอ็มโบโล่ โดยมี กรานิต ชาก้า, เรโม่ ฟรูเลอร์ คุมเกมแดนกลาง และใช้ เซอร์ดาน ชากิรี เป็นจอมทัพ

ครึ่งแรกเป็นอิตาลี ที่ทำได้ดีกว่า เป็นฝ่ายที่ครองบอลเหนือกว่า มีโอกาสลุ้นประตูมากกว่า และในนาทีที่ 26 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โดเมนิโก แบราร์ดี ลากเลื้อยเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนตบเข้ากลางให้ มานูเอล โลคาเตลลี วิ่งมาแปบริเวณกรอบ 6 หลาเข้าไป และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังในนาทีที่ 52 อิตาลี มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ นิโคโล่ บาร์เรลล่า จ่ายให้ มานูเอล โลคาเตลลี ซัดไกลบริเวณหัวกะโหลก บอลพุ่งแรงเสียบมุมเสาสองอย่างสวยงาม

นาทีที่ 88 อิตาลี มาได้ประตูตอกฝาโลง 3-0 จากจังหวะที่ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ศูนย์หน้าตัวเก่ง ซัดไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งกระดอนพื้น 1 จังหวะ ผ่านมือแยน ซอมเมอร์ เข้าไป เป็นประตูที่ 25 ในนามทีมชาติของเจ้าตัว และเป็นประตูที่ 2 ในทัวร์นาเมนต์นี้

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที อิตาลี เอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ไปด้วยสกอร์ 3-0

จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ อิตาลี มีเพิ่มเป็น 6 คะแนน ยิงได้ 6 ประตู และยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว รั้งจ่าฝูงของกลุ่ม A การันตีการเข้ารอบน็อคเอาท์เป็นที่แน่นอนแล้ว 100 เปอร์เซนต์ โดยเกมหน้าพวกเขาจะต้องแย่งแชมป์กลุ่มกับ เวลส์ ทีมอันดับ 2 ที่มี 4 คะแนน ส่วน สวิตเซอร์แลนด์ มี 1 แต้มรั้งอันดับ 3 และตุรกี รั้งบ๊วย ยังไม่มีแต้ม

สำหรับโปรแกรมนัดถัดไปของกลุ่ม A อิตาลี พบ เวลส์ และสวิตเซอร์แลนด์ พบ ตุรกี ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ เวลา 23.00น. ตามเวลาประเทศไทย

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

อิตาลี : จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า (GK), จิโอวานนี ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด โบนุชชี, จอร์จิโอ คิเอลลินี, เลโอนาร์โด สปินาซโซล่า, จอร์จินโญ่, นิโคโล่ บาร์เรลล่า, มานูเอล โลคาเตลลี, โดเมนิโก แบราร์ดี, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่, ชิโร่ อิมโมบิเล่

สวิตเซอร์แลนด์ : แยน ซอมเมอร์ (GK), นิโค่ เอลเวดี, ฟาเบียน ชาร์, มานูเอล อาคานยี, ริคาร์โด โรดริเกวซ, เรโม่ ฟรูเลอร์, กรานิต ชาก้า, เควิน เอ็มบาบู, เซอร์ดาน ชากิรี, บรีล เอ็มโบโล่, แฮริส เซเฟโรวิช

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000058398


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อารอน แรมซีย์ ซัดเบิกร่อง ก่อนที่ คอนเนอร์ โรเบิร์ต มาซัดปิดกล่องช่วยให้ ‘เวลส์’ เอาชนะ ‘ตุรกี’ ไปด้วยสกอร์ 2-0 เก็บสามคะแนนแรกในยูโร 2020

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ‘ยูโร 2020’ วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 คู่ที่สอง เป็นเกมการแข่งขันในกลุ่ม A ทีมชาติตุรกี พบกับ ทีมชาติเวลส์ ฟาดแข้งกันที่ บากู โอลิมปิย่า สตาดินู เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน

เกมที่แล้ว ตุรกี ต้านทานความแข็งแกร่งของ อิตาลี ไม่ไหว พ่ายแพ้ไปแบบขาดลอย 0-3 ยังไม่มีแต้ม ขณะที่ เวลส์ เกมที่แล้วรอดตายอย่างหวุดหวิด ไล่ตามตีเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 คว้า 1 คะแนนไปครอง

ช่วงท้ายครึ่งแรก ในนาทีที่ 42 เวลส์ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แกเร็ธ เบล ตักบอลผ่านไลน์แนวรับของตุรกี มาให้ อารอน แรมซีย์ หลุดมาในเขตโทษ ก่อนยิงผ่านมือนายทวารคู่แข่งเข้าไป และหมดเวลา 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง ตุรกี เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเพื่อหวังทำประตูตีเสมอ แต่แล้วในนาทีที่ 60 มาได้จุดโทษ แต่แกเร็ธ เบล ซูเปอร์สตาร์ตัวเก่ง ซัดข้ามค้านแบบไม่ได้ลุ้น สกอร์ยังเป็น 1-0

10 นาทีสุดท้าย ตุรกี เดินหน้าบุกใส่เวลส์อย่างหนักเพื่อทำประตูตีเสมอ แต่ไม่สามารถหาจังหวะเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ แต่แล้วในนาทีที่ 90+5 เวลส์ มาได้ประตูตอกฝาโลง 2-0 จากจังหวะที่แกเร็ธ เบล ลากเลื้อยเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ คอนเนอร์ โรเบิร์ต ซัดเข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลา 90 นาที เวลส์ เอาชนะ ตุรกี 2-0 จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ เวลส์ มีเพิ่มเป็น 4 คะแนน จากการเก็บชัย 1 นัด เสมอ 1 นัด ส่วน ตุรกี ลงเล่นมา 2 นัดแพ้รวด ยังไม่มีแต้ม

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ตุรกี : อูกูร์คาน ชาคีร์ (GK), เมห์เมต เซคี เชลิค, คาอัน อายฮาน, ชากลาร์ โซยุนชู, อูมุต เมราส, โอคาย โยคุสลู, เซนกิส อุนแดร์, โอซาน ทูฟาน, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, เคนาน คารามาน, บูรัค ยิลมาซ

เวลส์ : แดนนี วอร์ด (GK), คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, คริส เมแพม, โจ โรดอน, เบน เดวีส์, โจ อัลเลน, โจ มอร์เรลล์, ดาเนียล เจมส์, อารอน แรมซีย์, แกเร็ธ เบล, คีฟเฟอร์ มัวร์

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000058382


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อเล็กเซย์ มิรานชุก ซัดประตูสุดสวยตั้งแต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เป็นประตูชัยพา ‘รัสเซีย’ เฉือนชนะ ‘ฟินแลนด์’ ไปแบบหืดจับ 1-0 คว้าสามคะแนน ลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อในเกมหน้า

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ‘ยูโร 2020’ วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 คู่แรก เป็นเกมในกลุ่ม B ‘หมีขาว’ ทีมชาติรัสเซีย หนึ่งในทีมเจ้าภาพร่วม ลงเล่นที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม พบกับ ทีมชาติฟินแลนด์

เกมแรก รัสเซีย ของกุนซือสตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ พ่ายแพ้ให้กับ เบลเยี่ยม แบบขาดลอย 0-3 เกมนี้ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อโอกาสในการเข้ารอบน็อคเอาท์ นำทัพมาโดยหัวหอกร่างโย่ง อย่าง อาร์เตม ซูบ้า, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, โรมัน ซอบนิน, มาริโอ เฟร์นันเดซ

ขณะที่ ฟินแลนด์ ของกุนซือมาร์คคู คาเนร์ว่า เกมที่แล้วพลิกล็อกเอาชนะ เดนมาร์ก 1-0 อย่างเหนือความคาดหมาย เกมนี้ยังคงนำทัพมาโดย ติโม ปุ๊กกี กองหน้าตัวเก่ง, โจเอล โปห์ยานโปโล, ยัคค่า ไรตาย่า, เยเร่ อูโรเน่น

นาทีที่ 4 ฟินแลนด์ ฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของแนวรับรัสเซีย ยัคค่า ไรตาย่า ตัดบอลไปได้ หลุดมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนเปิดบอลให้ โจเอล โปห์ยานโปโล โหม่งในกรอบเขตโทษหนีมือนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปตุงตาข่าย แต่เมื่อเช็คจาก VAR แล้ว เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

หลังเกือบเสียประตู รัสเซีย ดาหน้าบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์นั้นยังทำได้ไม่ดีพอ ขณะที่ ฟินแลนด์ อาศัยเกมรับที่เหนียวแน่น รอโต้กลับได้น่ากลัวหลายครั้ง แต่ยังทำประตูไม่ได้

แต่แล้วช่วงทดเจ็บของครึ่งเวลาแรก รัสเซีย มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ อเล็กเซย์ มิรานชุก ทำชิ่ง 1-2 กับ อาร์เตม ซูบ้า ก่อนจะเป็น มิรานชุก ที่ปั่นด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ หนีมือนายทวารฟินแลนด์เข้าไปอย่างสุดสวย และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง ฟินแลนด์ เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกมากขึ้นเพื่อทวงประตูคืน แต่เกมรับของรัสเซีย ยังทำได้ดี หยุดเกมบุกของ 2 กองหน้าฟินแลนด์ได้อยู่หมัด โดยทีม ‘หมีขาว’ พยายามเปิดเกมแลกเหมือนกัน แต่จังหวะจบสกอร์ทำได้ไม่ดีพอ

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที รัสเซีย เอาชนะ ฟินแลนด์ 1-0 เก็บสามคะแนนสำคัญ ทำให้พวกเขามี 3 แต้ม จาก 2 นัด เท่ากับฟินแลนด์ ไปลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อในนัดสุดท้าย

โปรแกรมต่อไป ฟินแลนด์ จะพบกับ เบลเยียม ในคืนวันที่ 21 มิถุนายน เวลา 02.00น. (ตามเวลาประเทศไทย) ส่วน รัสเซีย จะพบกับ เดนมาร์ก ในวันและเวลาเดียวกัน

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ฟินแลนด์ : ลูคัส ฮาราเด็คกี (GK), ยูน่า ตอยวิโอ, เปาลัส อารายูรี, ดาเนียล โอเชาเนสซี, ยัคค่า ไรตาล่า, โรบิน ลอด, ราสมุส ชูลเลอร์, เกล็น กามาร่า, เยเร่ อูโรเน่น, ติโม ปุ๊กกี, โจเอล โปห์ยานโปโล

รัสเซีย : มัตเวย์ ซาโฟนอฟ (GK), ดิมิทรี บารินอฟ, อีกอร์ ดีวีฟ, จอร์จีย์ ซิคีย่า, ดาเลอร์ คูซยาเยฟ, โรมัน ซอบนิน, มาโกเม็ด ออซโดเยฟ, มาริโอ เฟร์นันเดซ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, อเล็กเซย์ มิรานชุก, อาร์เตม ซูบ้า

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000058362


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โรนัลโด้ เอฟเฟ็กต์! หุ้น ‘โค้ก’ ร่วง 3 วันติด มูลค่าวูบกว่า 2 แสนลบ.

ยังคงส่งผลอย่างต่อเนื่อง กรณีที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงตัวเก่งกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ที่สร้างปรากฎการณ์ ขยับขวด โคคา-โคล่า ออกระหว่างการแถลงข่าว จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก

ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวทำให้ส่งผลเสียเชิงลบต่อแบรนด์ โคคา-โคล่า ทันที จากการรายงานของ มาร์ก้า สื่อยักษ์ใหญ่แดนสเปน โดยสื่อเจ้าดังอ้างว่าหลังคลิปดังกล่าว ได้มีการนำเสนอไปทั่วโลกเพียงแค่ 30 นาที ราคาหุ้นของ โคคา-โคล่า ก็ตกฮวบอย่างน่าใจหาย

โดยมาร์ก้า ระบุว่า ทันทีที่ตลาดหุ้นในยุโรปเปิดตัวในเวลา 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) หุ้นของบริษัท โคคา-โคล่า ในตลาด ลดลงมากถึง 1.6% จากราคาปิดตลาดวันก่อน ทำให้ส่งผลให้มูลค่าบริษัท (มาร์เก็ตแคป) จาก 242,000 ล้านเหรียญ ลดลงเหลือ 238,000 ล้านเหรียญ มูลค่าหายไปถึง 4 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 1.25 แสนล้านบาท)

แม้ว่าในระหว่างวันซื้อขายราคาหุ้นจะขยับขึ้นมาปิดตลาดได้ติดลบน้อยลง แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 14-16 มิถุนายน ที่ผ่านมาหุ้นของบริษัท โคคา-โคล่า ยังร่วงต่อเนื่องรวมแล้วกว่า 2.65% เหลือมูลค่า 235.7 พันล้านเหรียญ ( 7.37 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นมูลค่าที่หายไปถึง 6.4 พันล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยกว่า 2 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ตลาดเงินตลาดทุน ตั้งแต่ต้นปีนี้ หุ้นของบริษัท โคคา-โคลา ขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จาก 48 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ขึ้นมาเป็น 56.48 เหรียญต่อหุ้น ทำจุดสูงสุดในรอบปี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่ราคาหุ้นจะค่อยๆ ย่อลงมา เนื่องจากความกังวลของตลาดหุ้น เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจจะมาเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงติดต่อกันหลายวัน ประจวบเหมาะกับซุปเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส กระทำดังกล่าวยิ่งทำให้ราคาหุ้นร่วงเร็วขึ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา โรนัลโด้ เคยออกมาพูดถึงการไม่ชอบเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล โดยเผยว่ามักมีปัญหากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของเขา "บางครั้งผมก็มีปัญหากับเขา เพราะเขาชอบดื่มน้ำอัดลม ผมทะเลาะกับเขาตอนที่กินมันฝรั่งทอด ซึ่งเขารู้ว่าผมไม่ชอบมัน"ด้าน โคคา-โคล่า แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลก ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับท่าทางของ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตัวสินค้า แต่เชื่อว่าพวกเขาไม่น่าจะมีความสุขกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพวกเขาถือเป็นสปอนเซอร์หลักในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมาตั้งแต่ปี 1988 เลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ตั้งแง่กับ โรนัลโด้ เป็นพวกปากว่าตาขยิบ เพราะเขา เคยเป็นพรีเซนเตอร์ ให้กับเครื่องดื่มและอาหารที่เขามองว่า ‘ไม่ดีต่อสุขภาพ’ ทั้ง โคคา-โคลา และไก่ทอดเคเอฟซี แต่พอได้ดีก็ลืมเพื่อนเก่าซะอย่างงั้น

 


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top