Saturday, 5 July 2025
รวมไทยสร้างชาติ

5 ผู้สมัครฯ เขต 3 ปทุมฯ ถกเดือด!! ปมก๊วนอิทธิพล ปทุมฯ ครองจังหวัด งัดนโยบายพรรคประชัน!! ผ่านเวทีดีเบต THE STATES TIMES

เมื่อวันที่ 12 พ.ค.66 THE STATES TIMES จัดเวทีดีเบต 'ถลกข่าว ถลกปัญหา' จับตาโค้งสุดท้ายนโยบายแก้ไขปัญหาพื้นที่เขต 3 ปทุมธานี ณ พื้นที่เขต 3 จังหวัดปทุมธานี ตลาดจัมโบ้ องค์การบริหารส่วนตำบล คลอง 3 ซึ่งมีผู้สมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ทั้งหมด 10 พรรคการเมือง  

สำหรับการดีเบตครั้งนี้ ได้ผู้สมัคร ส.ส. มาร่วมดีเบตทั้งหมด 5 พรรค ได้แก่ นายสุทัศน์ พรหมมาศ เบอร์ 3 พรรคไทยภักดี, ดร.ปรีชา ชื่นชนกพิบูล เบอร์ 4 พรรคพลังประชารัฐ, นายชัยพร จันทนา เบอร์ 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ, นายนภัทร โภคาสัมฤทธิ์ เบอร์ 8 พรรคประชาธิปัตย์, นายโชคชนะ ทวีกุล เบอร์ 10 พรรคพลังปวงชนไทย ดำเนินรายการโดยนายสถาพร บุญนาจเสวี

เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกลุ่มอิทธิพลในท้องที่ นายสุทัศน์ พรหมมาศ เบอร์ 3 พรรคไทยภักดี กล่าวว่า "ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ปทุมฯ หรือพื้นที่ไหน ก็ล้วนมีกลุ่มอิทธิพล กลุ่มคนพวกนี้จะมาทำลายประเทศชาติ ซึ่งตนมั่นใจว่าพื้นที่ปทุมธานีมีการทุจริต ชาวบ้านที่ถูกอิทธิพลไม่กล้าพูดความจริง เพราะกลัว ถ้าพ่อแม่พี่น้องปลดล็อกความกลัวและกล้าพูด บ้านเมืองเราจะดีขึ้น ขณะนี้ยังมีผู้มีอิทธิพลจากต่างชาติเริ่มทยอยเข้ามาในประเทศไทย ถ้าพรรคไทยภักดีได้เข้าไปเป็นรัฐบาล ตนจะเข้าไปปราบโกงและจับคนพวกนี้ให้หมดไปจากประเทศไทย”

ด้าน ดร.ปรีชา ชื่นชนกพิบูล เบอร์ 4 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ”จริงๆ แล้วบ้านเรามีความโกงอยู่ในตัวเอง เพราะว่าคนที่เป็นการเมืองท้องถิ่น มีการเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองระดับประเทศ มีการเอื้อผลประโยชน์ให้กับคนกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นอสม., กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน การโกงจึงมีมาตลอด ดังนั้นนักการเมืองทุกคนควรมีหลักธรรมาภิบาล ดังนั้นพรรคยืนยันว่าจะไม่ร่วมงานกับคนโกงแน่นอน"

นายชัยพร จันทนา เบอร์ 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า "ตนอยู่วงการตุลาการมา 30 กว่าปี เป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างมากที่ปทุมธานีไม่เหมือนเดิมแล้ว เมื่อก่อนเป็นเมืองธรรมมะไปเมืองธรรมมะ แต่ตอนนี้การเมืองท้องถิ่นกลับมีแต่กลุ่มอิทธิพล แค่เรื่องการทำงานก็จะเห็นได้ว่ามีการนำลูกท่านหลานเธอ เด็กฝาก มาทำงาน เราจึงควรมีหลักธรรมาภิบาลถึงจะทำให้ปทุมธานีพัฒนาไปข้างหน้าได้"

นายนภัทร โภคาสัมฤทธิ์ เบอร์ 8 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า "จุดยืนของตนต้องการทำงานอย่างสุจริต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เองมีนโยบายเรื่องความสุจริตอยู่แล้ว ระยะเวลาที่ผ่านมา 4 ปี ตนมองว่ามันเป็นการดูถูกประชาชน สำหรับคนที่ซื้อเสียงในพื้นที่เขาต้องใช้เงินหลายสิบล้าน พี่น้องประชาชนอย่าดูถูกตัวเองด้วยการรับเงินจากคนโกง เพื่อปทุมธานี"

นายโชคชนะ ทวีกุล เบอร์ 10 พรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า "สำหรับตนไม่มีอะไรมาก เพราะตนเห็นว่าการเมืองปทุมธานีมีสิ่งไม่ดีเข้ามา ตนต้องแก้ไข ปัญหาทุจริตการโกง ให้สิ้นซากไปจากปทุมธานี  ยังไงเราทุกคนต้องช่วยกันกำจัดกลุ่มอิทธิพลและคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากประเทศไทย"

‘บิ๊กตู่’ ขึ้นรถแห่รอบบ่าย ชวนคนไทยใช้สิทธิชี้ชะตาประเทศ ลั่น!! ‘รทสช.’ พร้อมดูแลทุกคน อ้อน!! 14 พ.ค.นี้ เลือกทั้งคนทั้งพรรค

(13 พ.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรค ได้เดินทางมาสมทบกับคณะของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค  ขึ้นรถแห่หาเสียง หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั่วประเทศ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีสีหน้าที่แจ่มใส แม้ว่าที่ผ่านมาจะเดินทางหาเสียง ท่ามกลางอากาศร้อนและฝนตกไปทั่วประเทศ รวมทั้งปราศรัย ในทุกเวทีที่เดินทางไป ทั้งนี้ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์และคณะ ขึ้นรถแห่หาเสียงที่ร้านศรแดง บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีประชาชนมา ส่งเสียงเชียร์ และขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ สู้เพื่อคนไทยต่อไป พร้อมมอบดอกไม้เป็นกำลังใจ โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม ไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อน ขึ้นรถแห่ว่า พูดมาหลายวันแล้ววันนี้เป็นวันสุดท้าย เป็นวันสำคัญของคนไทย ขอวิงวอนขอร้องให้คนไทยทุกคน ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งทุกที่ทั่วประเทศไทย เพราะนี่คือการเดินหน้าประเทศไทย ขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย ทั้งเขตและทั้งพรรค ขอให้ทุกคนออกไปลงมติโดยพร้อมเพรียงกัน อยากให้รู้ว่าบ้านเมืองของเราก็มีอะไรที่ดีอยู่แล้วแล้วเราก็จะทำต่อ เราไม่จำเป็นต้องรื้อบ้านหลังใหญ่เพื่อสร้างหลังใหม่ ไม่จำเป็นต้องรื้อประเทศไทย เราสามารถทำทุกอย่างให้ดีขึ้นได้ พรรครวมไทยสร้างชาติทำเพื่อทุกคนอยู่แล้ว แบ่งแยกไม่ได้

พรุ่งนี้ถึงอากาศจะไม่เป็นใจแต่เชื่อว่าถ้าทุกคนตั้งใจก็ไม่เป็นอุปสรรค ฝนฟ้าถ้าตกก็มีวันหยุด แต่หากทำบ้านเมืองให้เสียหายต่อไปมันจะไม่หยุด ตอนนี้ปัญหาบ้านเมืองมีเยอะไม่มีใครจะแก้ได้นอกจากคนไทย เพื่อให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น ขอร้องให้ทุกคนไปเลือกตั้ง

หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นรถแห่พร้อมกล่าวปราศรัยด้วยตัวเอง พร้อมระบุว่าวันนี้ขอโอกาสมาพบประชาชนอีกครั้งหนึ่งเพราะเป็นโค้งสุดท้าย ที่จะเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้แล้วขอให้ชาวกรุงเทพฯ ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างพร้อมเพียงกัน เพราะถือเป็นการเดินหน้าประเทศไทยไปด้วยกัน อย่าทำให้เกิดการแตกแยก ก่อนจะแวะลงกราบสักการะพระประธานภายในวัดชนะสงคราม และเดินทางต่อโดยมีประชาชนชาวกรุงเทพฯ ให้กำลังใจโบกมือส่งเสียงเชียร์ตลอดเส้นทาง

‘เนเน่-จิ๊บ’ ผู้สมัคร ส.ส. รทสช. โพสต์ภาพประทับใจในอ้อมกอด ‘บิ๊กตู่’ พร้อมชื่นชมการทำงานของทั้งสอง ขอให้สู้ไปด้วยกัน อย่าถอดใจ

(17 พ.ค.66) หลังจากเกิดปรากฎการณ์ พรรคสีส้มครองที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในกรุงเทพมหานคร ไปได้ถึง 32 ที่นั่ง และล่าสุดเฟซบุ๊กผู้สมัคร ส.ส.กทม เขต 33  ‘เนเน่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี’ และผู้สมัคร ส.ส.กทม เขต 30 ‘จิ๊บ ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์’ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ภาพประทับใจในอ้อมกอดของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความว่า… 

“ความประทับใจของวันนี้  #ลุงตู่ บอก "โคตรเชียร์พวกเธอเลย" แล้วดึงไปกอด..   "ขอบคุณพวกเธอทุกคน สู้กันได้ดีมาก รักทุกคนนะ รู้ใช่ไหม อย่าถอดใจแล้วมาสู้ไปด้วยกันต่อนะ" 🤟❤️”

ทั้งนี้ มีประชาชนเข้ามาให้กำลังใจ กันอย่างล้นหลาม

‘ลุงตู่’ เดินหน้าไปต่อกับ รวมไทยสร้างชาติ ตามเจตนารมณ์และอุดมการณ์ ให้คนไทย รักชาติรักแผ่นดิน

หลังจากการเลือกตั้งซึ่งผลการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พ.ค. 66 ซึ่งผลการเลือกตั้งพรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะมาเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวน ส.ส. 152 ที่นั่ง มีสิทธิ์ในการเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก่อน ขณะที่ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้คะแนนเสียง 36 ที่นั่ง

วันนี้ (19 พ.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "ลุงตู่" ไปต่อ "ลุงตู่" จะยังคงเดินหน้าทำงานกับพรรคต่อไปในฐานะ “ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค” เพื่อเสริมสร้างพรรครวมไทยสร้างชาติให้แข็งแกร่งและเป็นพรรคหลักในการปกป้องและค้ำจุนสถาบันหลักทั้งสามของประเทศตามเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรค เป็นความหวังในคนไทยทุกรุ่น ที่รักชาติรักแผ่นดินในแนวทางเดียวกันต่อไป

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า มีผู้สอบถามเข้ามามากถึงแนวทางและจุดยืนของพรรคในทางการเมืองในขณะนี้ ผมขอเรียนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติยังคงยึดมั่นในแนวทาง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประโยชน์ของประชาชน ตามเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรคเป็นสำคัญ พรรคพร้อมที่จะทำงานการเมืองเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าบนแนวทาง เจตนารมณ์ และอุดมการณ์ดังกล่าวอย่างแน่วแน่ มั่นคง และไม่เปลี่ยนแปลง

‘ลอรี่ พงศ์พล’ ชี้ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นของคนไทย 66 ล้านคน

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ หรือ ลอรี่ นักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ อดีตผู้สมัครส.ส.มุสลิมหนึ่งเดียวในเขตเลือกตั้งที่ 22 เขตสวนหลวง, เขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับประเด็น รัฐปาตานี โดยได้แสดงความคิดเห็นไว้ มีใจความว่า ...

แยก 'รัฐปาตานี' 
ฉันทามติของใคร หรือ
เป็นอธิปไตยคนไทยทุกคน?
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวการเมืองสารพัด หลายเรื่องควรปล่อยไปตามคำวินิจฉัยขององค์กรที่เกี่ยวข้อง.. แต่เรื่องหนึ่งที่ผม มิอาจปล่อยได้คือ ความพยายามจัดประชามติ - เคลื่อนไหวลองเชิง เพื่อแบ่งแยกตัวเองของ 3จังหวัดภาคใต้ ภายใต้ชื่อ 'รัฐปาตานี' ที่ร่วมขบวนโดยกลุ่มนักศึกษา และตัวแทนพรรคการเมืองกลุ่มหนึ่ง

จากประชามติ "แยกดินแดน - แยกตัวเป็นเอกราช” ที่ทำกันที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ไปจนถึงการประชุมถกร่วม 8พรรค ของว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล ..เรื่องเหล่านี้ทำให้ผมเป็นห่วง เพราะฟังแล้วออกจะผิดแปลก จากกรอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้”

กลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่ง อ้างความคิดแบ่งแยกจากจุลสาร "สิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง" ซึ่งเขียนโดย ณัฐกฤษตา เมฆา เพื่อขยายความเรื่องสันติภาพที่แท้จริง ซึ่งประชาชนเป็นเจ้าของ

ผมขอถามว่า "ใครคือเจ้าของ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้"

- คนที่ถือโฉนดที่ดิน มีกรรมสิทธิ์ ?
- ผู้อยู่อาศัย ที่มีทะเบียนบ้านในพื้นที่ ?
..ปล่าวเลย
เจ้าของ คือ "ประชาชนคนไทย 66ล้านคน" ที่มีอธิปไตยในประเทศตนเอง

การทำประชามติจากกลุ่มนักศึกษา เรื่องเอกราชของ 3จังหวัดชายแดน นอกจากสุ่มเสี่ยงผิดรัฐธรรมนูญ.. อีกทั้งยังละเมิดเจ้าของพื้นดิน 3จังหวัดภาคใต้ตัวจริง ซึ่งคือประชาชนทุกคนใน 76จังหวัด + 1กรุงเทพ

อยากทำประชามติแบบแฟร์ ต้องทำมันทุกจังหวัดครับ ไม่ใช่พื้นที่ไม่กี่อำเภอในพื้นที่ ..เพราะคนไทยทุกคนเป็นเจ้าของพื้นที่ เสียภาษีเพื่อทำนุบำรุง 3จังหวัดชายแดนภาคใต้มายาวนาน ไม่ใช่ปิดประตู ถามแค่คนในแบบนี้

ถามเอง-ลงมติเอง-แยกเอง "คนไทยทุกคน"เสียหาย จะเดินทางเข้ายะลา, ปัตตานี, นราธิวาส ต้องขออนุญาติ ทำเรื่องวีซ่าเข้า ทั้งที่พื้นที่นี้คือแผ่นดินของคนไทยเราร่วมกัน ใช่หรือไม่

ประเทศไทยเป็นรัฐเดี่ยว ที่จะแบ่งแยกมิได้ นี่ยังไม่ได้ พูดความสามารถในการเลี้ยงดูตัวเองของ 3จังหวัด ที่ยังจัดเก็บภาษีได้น้อย และพึ่งงบประมาณช่วยเหลือต่อปี จากส่วนกลางจำนวนมาก

ปัตตานี จัดเก็บภาษีได้เอง 182ล้านบาท
ยะลา จัดเก็บภาษีได้เอง 215ล้านบาท
นราธิวาส จัดเก็บภาษีได้เอง 128ล้านบาท
(เทียบกับจังหวัดอื่นในปี65 สงขลา 1,074ล้าน, กรุงเทพ 19,748ล้าน, อุบลราชธานี 640ล้าน, เชียงราย 548ล้าน เป็นต้น)

แต่ทั้ง 3 จังหวัดยังต้องพึ่งพา งบจัดสรรทางภาครัฐ + เงินอุดหนุน (Intergovernmental Transfers) รวมทั้งหมดถึง 17,894 ล้านบาท

จำนวนเงินแตกต่างกันมหาศาล จนมีคำถามว่าเมื่อปราศจากเงินภาครัฐส่วนกลาง ทั้ง 3จังหวัดจะมีการบริหารตัวเองอย่างไร?

ความคิดอยากเปลี่ยนแปลง ต้องตั้งอยู่ในสมมุติฐานความเป็นจริง เคารพต่อรัฐธรรมนูญ หลักการประชาธิปไตย ที่ประชาชนไทยทุกคนต้องมีส่วนร่วม, คำนึงถึงความพร้อมด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง, ความมั่นคงของประเทศ 

หาใช่เพียงการไม่ยอมรับความแตกต่าง ต่อต้าน และไวต่อแรงยั่วยุของกลุ่มบุคคลไม่หวังดี

ผมยังเชื่อว่าพี่น้อง 3 จังหวัดภาคใต้ ยังสามารถหาทางออกร่วมกับประเทศ อยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ต่างชาติพันธุ์ ต่างศาสนา

เรามาหาแนวทางพิทักษ์สันติราษฎร์ที่โปร่งใสขึ้น ทุกคนยอมรับได้

อย่างสันติวิธีดีกว่าครับ
 

‘ธนกร’ มั่นใจ ว่าที่ส.ส. รวมไทยสร้างชาติ ชี้แจง กกต.ได้  เผย ‘ลุงตู่’ ย้ำ รมต.ทุกคน ให้ทำงานเต็มที่ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่

วันนี้ (15 มิ.ย. 2566) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีรายงานข่าวว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่รับรอง ว่าที่ส.ส.ของพรรค จำนวน 3 เขตว่า ยังเป็นเพียงรายงานข่าว ซึ่งต้องรอให้ กกต.เปิดเผยการรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก่อน คาดว่าจะทราบผลตามกรอบ 60 วัน และเชื่อว่าจะทราบผลเร็วกว่ากำหนดตามที่ประธาน กกต.ได้กล่าวไว้

“มั่นใจว่า ว่าที่ ส.ส.ของพรรคที่ถูกร้องเรียนนั้น มีหลักฐานพร้อมชี้เแจงต่อ กกต.ได้อย่างแน่นอน โดยฝ่ายกฎหมายของพรรคก็ให้คำปรึกษา ดูในข้อกฎหมายอย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อทราบข่าว พรรคให้ฝ่ายกฎหมายสอบถามไปยังว่าที่ส.ส.ที่มีรายชื่อถูกร้องเรียนทั้ง 3 เขตแล้ว และให้เตรียมพยานหลักฐานต่าง ๆ ไว้ให้พร้อมชี้แจงต่อ กกต.มั่นใจว่า สามารถชี้แจงได้ทุกข้อ” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว

นายธนกร กล่าวว่า ในช่วงที่ยังรอจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับรัฐมนตรีทุกกระทรวง เร่งมือทำงานที่ยังค้างอยู่ โดยเฉพาะการช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ถึงที่สุด จนกว่าจะมีรัฐบาลและครม.ชุดใหม่อย่างเป็นทางการ เข้ามาบริหารบ้านเมืองต่อไป

‘จิ๊บ ศศิกานต์’ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการทำร้ายร่างกายผู้หญิง พร้อมชวนทุกคนร่วมกันต่อสู้ เพื่อให้ความรุนแรง-ทำร้ายร่างกายหมดไป

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ (จิ๊บ) อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขตบางแค ภาษีเจริญ หมายเลข 7 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ กรณีการทำร้ายร่างกายผู้หญิง โดยได้ระบุว่า ...

ในฐานะลูกผู้หญิง.. 
การถูกทำร้ายร่างกายจากคนที่เรารัก คือความเจ็บปวด
การถูกทำร้ายร่างกายจากคนที่สังคมเชิดชู คือ จุดเริ่มต้นแห่งหายนะของสังคม
ขอเชิญชวนทุกคน ร่วมกันต่อสู้เพื่อให้การใช้ความรุนแรงและการทำร้ายร่างกายต่อสตรีให้หมดไปจากสังคม เพราะฝันร้าย ต้องอยู่กับผู้กระทำ ไม่ใช่ผู้ถูกกระทำ.

'พีระพันธุ์' ลั่น!! เป็นไปไม่ได้ ตนมีชื่อนั่งนายกฯ ย้ำ!! รทสช. ไม่มีนโยบายแข่งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

(3 ก.ค.66) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้ลาออกจากการเป็น ส.ส.เรียบร้อยแล้ว ยังคงยืนยันว่าจะอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และทำหน้าที่ในตำแหน่งเลขานายกฯ ในส่วนของ นายอนุชา บูรพชัยศรี ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 14 จะได้เลื่อนอันดับมาเป็น ส.ส แทนนั้น ก็ต้องรอให้มีประธานสภาฯ ก่อน

เมื่อถามว่าแม้จะลาออกจาก ส.ส. แล้วยังต้องไปรายงานตัวที่รัฐสภาหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตามกฎหมายไม่มีบังคับว่าจะต้องไปรายงานตัว ซึ่งความจริงแล้วจะรายงานตัวเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สำหรับตนไม่ได้ไปรายงานตัวเนื่องจากประสงค์จะทำหน้าที่เลขานายกฯ ย้ำว่าแม้ตนจะไม่ได้เป็น ส.ส ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่หัวหน้าพรรค เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็น ส.ส. ตนก็สามารถบริหารพรรคได้ อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นโชคดีของพรรครวมไทยสร้างชาติที่มี ส.ส.ที่มีประสบการณ์หลายคนจึงไม่ห่วงงานในสภา และตนก็จะไปร่วมประชุมด้วยแต่อยู่ด้านนอก ดูแลการทำงาน ส.ส.ในสภา 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีชื่อของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภานั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลที่จะต้องไปเจรจาและตกลงกัน ส่วนทิศทางการโหวตของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น เรายังไม่ได้พูดคุย รอให้มีความชัดเจนก่อน แต่การโหวตจะต้องเป็นไปตามอุดมการณ์และนโยบายของพรรค

เมื่อถามว่า ต้องฟัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ต้อง เพราะพรรคมีแนวทางการทำงานอยู่แล้ว เรายึดมั่นใน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพราะฉะนั้นไม่ขึ้นอยู่กับบุคคล

เมื่อถามย้ำว่า วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีมติในการโหวตเลือกประธานสภาที่ชัดเจนหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ต้องมีมติก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร

เมื่อถามว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา มีความชัดเจนที่จะไม่แก้ม.112 หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ออกความเห็น แล้วแต่สถานการณ์ว่ากันไปในอนาคต

นายพีระพันธุ์ ยังระบุถึงกรณีที่มีชื่อนั่งนายกรัฐมนตรีว่า “ไม่มีครับ คิดมากกันไปเอง คิดลึกกันเกินเหตุ เป็นไปไม่ได้” 

เมื่อถามว่าการโหวตเลือกนายกฯ จะมีการเสนอชื่อแข่งหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่มี เราไม่มีนโยบาย ไปแข่งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

วิทยา แก้วภราดัย เผย ไม่ใช่แค่เรื่อง ม.112 แต่ยังมีเรื่องแยกดินแดน เปลี่ยนวันชาติ หลายเรื่องเรารับไม่ได้ ประชาชนก็รับไม่ได้ เราจึงทำหน้าที่สะท้อนแทนประชาชน

"ไม่ใช่แค่เรื่อง ม.112 แต่ยังมีเรื่องแยกดินแดน เปลี่ยนวันชาติ หลายเรื่องเรารับไม่ได้ ประชาชนก็รับไม่ได้ เราจึงทำหน้าที่สะท้อนแทนประชาชน"

วิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภาฯ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.66

‘2 รองโฆษก’ รทสช. โต้ ‘ธนพร’ ชอบพูดไปเรื่อย ปม 'พีระพันธ์ุ' ชิงเก้าอี้นายกฯ ยัน!! ไม่เป็นความจริง

เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.66) ‘เก็ต ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา’ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประเด็นที่ รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ได้ให้สัมภาษณ์ออกสื่อต่างๆ ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมส่ง ‘คุณพีระพันธ์ุ’ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง 

“ท่านจะรู้ดีกว่าทีมโฆษกพรรคได้อย่างไร ในเมื่อพวกเราคุยกับท่านหัวหน้าทุกวัน  ท่านหัวหน้าพีระพันธุ์และท่านเลขาเอกนัฏ ยืนยันชัดเจนว่าไม่เคยมีความคิดและไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาอย่างเด็ดขาด

ผมขออย่าให้ท่านพูดไปเรื่อย ชี้นำสังคมแทนพรรคฯ และไม่รับผิดชอบคำพูดอะไร”

ทางด้าน ‘พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ’ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของตัวเองเช่นกัน โดยระบุว่า…

“วันนี้ขอเสนอคำว่า ‘นักอวิชาการ’ ในขณะที่หลายพรรคสงวนท่าที รทสช. กล้าออกมาประกาศจุดยืนชัดเรื่องโหวตนายกฯ เคารพ ปชต. - เสียงปชช. ดันมาตรฐานใหม่การเมือง ย่อมเป็นเรื่องดี

ยังมี 'นักอวิชาการ' ที่ไม่ใช้วิชาการความรู้ แต่ใช้วิจารณญาณการเมืองเก่าๆ + อคติลบๆ มาปั่นกระแส ยัดเยียดให้คนเข้าใจผิดว่าเราจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรค จัดตั้งรบ. เสียงข้างน้อยแข่ง รวมไทยสร้างชาติของจริง ขอพิสูจน์ด้วยการกระทำ.. วอนหยุดเอาวาทกรรมมาโจมตีเถอะครับ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top