Tuesday, 20 May 2025
ยุบสภา

'บิ๊กตู่' ดัน 16 เทศกาลไทย สู่เวทีนานาชาติ ดึงดูดนักท่องเที่ยว

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

‘บิ๊กตู่’ ยกระดับ Soft Power ไทย ดัน ‘16 เทศกาลไทย’ สู่เวทีสากล ดึงดูด นทท. สร้างรายได้ให้ชุมชน

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งส่งเสริมฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน สร้างรายได้แก่ประชาชน ผ่านการคัดเลือกเทศกาลประเพณีทั่วประเทศที่โดดเด่น เพื่อยกระดับเทศกาลประเพณีไทย (Festival) ไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ 

โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินตามนโยบายรัฐบาล ขับเคลื่อน Soft Power ของไทยที่มีศักยภาพ 5F (Food, Fight, Film, Fashion, Festival) โดยแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการคัดเลือกเทศกาลประเพณีของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2566 จำนวน 16 ประเภท ซึ่งทั้ง 16 เทศกาลประเพณีที่ได้รับการคัดเลือก ล้วนมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ แสดงออกถึงวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น สามารถนำมาพัฒนาต่อยอด ส่งเสริมการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และเผยแพร่ประเพณีของไทยให้เป็นที่รู้จัก ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้แก่ชุมชนและประเทศชาติ

32 ปีที่รอคอย!! ไทยได้อะไรคืนมา หลังความสัมพันธ์ ซาอุดีอาระเบีย กลับมาหวานชื่น

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

สัมพันธ์ไทย - ซาอุดีอาระเบีย แตกร้าวยาวนานกว่า 30 ปี 

ตลอด 3 ทศวรรษ ทุกรัฐบาลพยายามลบปมร้าว แต่...ไม่สำเร็จสักรัฐบาล

ส่งผลให้ไทยสูญเสียโอกาสอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในด้านแรงงาน และการค้า - การลงทุน จากการที่ซาอุดีอาระเบียลดระดับความสัมพันธ์ ทั้งการลดระดับตัวแทนทางการทูตเป็นระดับอุปทูต, ห้ามชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาไทย และเปิดรับคนไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบีย

นับถอยหลัง ชี้!! ชะตา ‘ทักษิณ-พท.-นายกอิ๊งค์’ กับ ‘คดีล้มล้างฯ ภาคสอง’ คาด!! ศาลรธน. มีมติพ.ย.นี้ หากฝ่าวิกฤตไม่พ้น ปีหน้า อาจได้เห็น ยุบสภา

(23 ต.ค. 67) ใกล้เข้าไปอีกนิด  ชิดเข้าไปอีกหน่อย  คาดว่าไม่เกินเดือนพ.ย.2567 คงจะได้เห็นทิศทางที่แจ่มชัดสำหรับคดีเรียกกันสั่นๆว่า ‘คดีล้มล้างฯภาคสอง’

วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งบางประการกรณี นายธีรยุทธ  สุวรรณเกษร  ยื่นร้องขอให้ศาลรธน.วินิจฉัยตามรธน.มาตรา 49 สั่งการให้ทักษิณ  ชินวัตร  (ผู้ถูกร้องที่1)และพรรคเพื่อไทย(ผู้ถูกร้องที่2) เลิกกระทำการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ซึ่งผู้ร้องกล่าวหากล่าวอ้างไว้ 6 ประเด็น  

ยกตัวอย่าง2 ประเด็น(ตามสำนวนการสรุปในเอกสารแถลงข่าวของศาลรธน.

ประเด็นที่1 -ผู้ถูกร้องที่1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และรพ.ตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพักชั้น 14 รพ.ตำรวจในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษในเรือนจำ  ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤติ

ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่2 โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลเศรษฐา  ทวีสิน อดีตนายกฯเพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกฯคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1

ดังที่ทราบกันดีว่าคดีนี้นายธีรยุทธใช้โมเดลเดียวกับคดีล้มล้างฯภาคแรก กรณี ‘พิธา-ก้าวไกล จนเกิดการยุบพรรค  คือการใช้สิทธิตามรธน.มาตรา 49ยื่นต่ออัยการสูงสุดมาก่อน  แต่ครบ15วันอัยการสูงสุดไม่มีคำตอบ  จึงใช้สิทธิยื่นต่อต่อศาลรธน...

ศาลรธน.วันที่ 22 ต.ค.ประชุมมีมติให้ส่งหนังสือไปยังอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วบ้างอย่างไร  และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด  โดยให้จัดส่งต่อศาลรธน.ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

นับนิ้วถอยหลัง  15 วันบวกระยะเวลาที่ศาลต้องมีเวลาพิจารณาข้อมูลต่างๆ...คาดว่าพุธที่ 27 พ.ย.บวกลบ7วัน  น่าจะเป็นหมุดหมายที่ศาลจะได้..ประชุมตัดสินว่าจะรับคดีล้มล้างฯภาค2  หรือไม่...ซึ่ง”เล็ก  เลียบด่วน” ได้เคยวิเคราะห์ไปบ้างแล้วว่า..โอกาสที่ศาลรธน.จะรับไว้พิจารณาหรือไม่นั้นก้ำกึ่ง  แต่เอียงๆไปในทาง ‘น่าจะรับ’...

บรรดากูรู  นักวิชาการ นักสังเกตการณ์ให้ความเห็นตรงกันว่าในบรรดา กระสุน6เม็ด..กรณีปมลับชั้น 14  ที่โยงใยไปถึงพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยลดโทษให้1ปี  แต่อดีตนายกฯทักษิณสร้างปริศนาให้ตัวเองว่า..ติดคุกจริงหรือไม่!? คือประเด็นที่แหลมคมที่สุด.. 

ศาลรธน.รับไว้พิจารณาวันไหน..อดีตเทวดาชั้น 14 ก็คงร้อนๆหนาวๆ 

ไม่เพียงกรณีคำร้องของนายธีรยุทธ...อีกด้านหนึ่งนายกฯแพทองธาร  ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย  ก็ถูกคำร้องร้องเรียนต่อกกต.,ปปช.อีกยุบยับ...นับนิ้วทุกกรณีแล้วมีมากถึง 21 คำร้อง  ทั้งเรื่องคุณสมบัตินายกฯ,การครอบงำพรรคและฯลฯ  ซึ่งไม่กี่วันก่อนเลขาธิการกกต.ออกมายอมรับแล้วว่า..คำร้องยุบพรรคเพื่อไทยบางคำร้องมีมูล...

ในส่วนของกกต.ก็ต้องใช้เวลาสอบสวนรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง 1-2 เดือน...
ใครที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงตามคำร้อง..หากกรณีคำร้องคดีล้มล้างฯศาลไม่รับไว้พิจารณา..ก็มีลุ้นคดียุบพรรคจากกกต.ที่อาจจะได้เห็นการยื่นคำร้องต่อศาลรธน.ต้นปีหน้า..

ในขณะเดียวกันหากศาลรธน.รับไว้พิจารณาทั้งกรณีคดีล้มล้างฯและคำร้องของกกต. กว่าจะมีคำตัดสินวินิจฉัยก็ต้องใช้เวลาอีกปีเศษเป็นอย่างน้อย.. 

ดังนั้นถ้ารัฐบาลอุ๊งอิ๊งไม่ไปเดินเหยียบเปลือกกล้วยล้มหัวคะมำเป็นอัมพฤกษ์อำมพาตไปเสียก่อน  ก็มีช่วงเวลาให้บริหารประเทศไปอีกนานพอประมาณ

แม้จะมีกระแสข่าวลือลอยมาปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวว่า...ถ้าต้นปีกลางปีหน้า 2568 ถ้าจนมุมจริงๆ นายกฯอิ๊งค์อาจจะทิ้งไพ่ใบใหญ่..ยุบสภา ล้างไพ่ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย.. 

ซึ่ง ‘เล็ก  เลียบด่วน’ พินิจแล้วเห็นว่าถ้าจะเกิดก็ไม่น่าจะเร็วขนาดนั้น...

นายกฯ แคนาดาประกาศเลือกตั้ง 28 เม.ย. หวังเสียงสนับสนุนต้านแรงกดดันจากสหรัฐฯ

(24 มี.ค. 68) นายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ (Mark Carney) ของแคนาดา ประกาศยุบสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) และเตรียมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 28 เมษายน โดยระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อขออาณัติที่หนักแน่นจากประชาชน ในการรับมือกับภัยคุกคามจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ

คาร์นีย์กล่าวว่า ทรัมป์พยายาม “ทำลายเรา เพื่อที่อเมริกาจะได้เป็นเจ้าของเรา” ซึ่งหมายถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สหรัฐฯ กำลังกระทำต่อชาวแคนาดา เขาย้ำว่ารัฐบาลแคนาดาต้องการเสียงสนับสนุนที่ชัดเจนจากประชาชน เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศและรักษาผลประโยชน์ของชาวแคนาดาทุกคน

“เรากำลังเผชิญกับวิกฤตที่ใหญ่หลวงที่สุดในช่วงชีวิตของพวกเรา สืบเนื่องจากแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรมของประธานาธิบดีทรัมป์ และภัยคุกคามของเขาต่ออธิปไตยของเรา” คาร์นีย์กล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังยื่นคำร้องขอยุบสภา

อย่างที่ทราบกันดีว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ของแคนาดาเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ซึ่งมีนโยบายที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของแคนาดา อาทิ

ประกาศเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาจาก 25% เป็น 50% เพื่อตอบโต้การที่มณฑลออนแทรีโอของแคนาดาประกาศขึ้นค่าไฟฟ้าสำหรับลูกค้าชาวอเมริกัน 25%

พร้อมทั้งขู่ว่าจะปรับขึ้นอัตราภาษีสำหรับนำเข้ารถยนต์จากแคนาดา หากแคนาดาไม่ยกเลิกอัตราภาษีนำเข้าสินค้านมเนยจากสหรัฐฯ ที่สูงถึง 250%-390%

“การตอบโต้ของเราต้องเป็นการสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและแคนาดาที่มั่นคงกว่าเดิม ประธานาธิบดีทรัมป์อ้างว่าแคนาดาไม่ใช่ประเทศที่แท้จริง เขาต้องการทำลายเรา เพื่ออเมริกาจะได้เป็นเจ้าของเรา เราจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น” นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวอย่างหนักแน่น

นอกจากนี้ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันความตั้งใจในการผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โดยอ้างว่าสหรัฐฯ ต้องสูญเสียเงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในการสนับสนุนแคนาดา ซึ่งมาร์ค คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา ปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ โดยกล่าวว่า “เราจะไม่มีวันเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะในแนวทางไหนหรือรูปแบบใดก็ตาม”

อย่างไรก็ดี รัฐบาลแคนาดาประกาศปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นต่ำสุดลง 1% โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ประกาศงดเก็บภาษีสินค้าและบริการ (GST/HST) เป็นระยะเวลา 2 เดือน ในช่วงระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันหยุด

โดยมาตรการเหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลแคนาดาในการปกป้องเศรษฐกิจและประชาชนของตนเองจากผลกระทบของความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ 

ด้านนักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจของคาร์นีย์เป็นการเดิมพันทางการเมืองครั้งสำคัญ โดยเขาหวังใช้กระแสชาตินิยมและความกังวลของประชาชนต่อการแทรกแซงจากสหรัฐฯ เพื่อคว้าชัยชนะและสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาลชุดต่อไป

ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดระบุว่า ‘พรรคลิเบอรัล’ ของคาร์นีย์ ซึ่งครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2015 สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นผู้นำในคะแนนนิยมเหนือ ‘พรรคคอนเซอร์เวทีฟ’ ซึ่งเคยมีคะแนนนำในช่วงต้นปีที่ผ่านมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top