Monday, 21 April 2025
มอสโก

‘ปูติน’ ต้อนรับ 'พลเมืองรัสเซีย' ที่ถูกปล่อยตัว หลังบรรลุ ‘ดีล’ แลกนักโทษ กับชาติตะวันตก

เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางไปต้อนรับพลเมืองรัสเซียหลายคนที่ได้รับการปล่อยตัวภายใต้ข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษกับประเทศตะวันตก 

เที่ยวบินพิเศษที่ขนส่งชาวรัสเซียกลุ่มนี้ลงจอดที่ท่าอากาศยานวนูโคโว-2 ในกรุงมอสโก โดยมีการปูพรมแดงและมีกองทหารเกียรติยศจากหน่วยทหารพิเศษของประธานาธิบดีรัสเซียรอต้อนรับ ขณะที่ปูตินได้จับมือและกอดทักทายผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวแต่ละคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘วาดิม คราซิคอฟ’ ที่ได้รับการปล่อยตัวจากเยอรมนี

อังเดร เบลูซอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และอเล็กซานเดอร์ บอร์ตนิคอฟ ผู้อำนวยการหน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย ได้มาร่วมต้อนรับชาวรัสเซียที่เดินทางกลับมาด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ปูตินได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อความภักดีของชาวรัสเซียกลุ่มดังกล่าว และแสดงความยินดีกับพวกเขาที่ได้เดินทางกลับรัสเซีย

สังหาร 'พลโท อิกอร์ คิริลอฟ' หัวหน้าฝ่ายนิวเคลียร์ เผยคนร้ายขี่สกู๊ตเตอร์ซุกระเบิดจอดหน้าบ้าน สงสัยเอี่ยวยูเครน

(17 ธ.ค. 67) คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียเปิดเผยว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรงจากอุปกรณ์แสวงเครื่องซุกซ่อนในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า บริเวณถนน Ryazansky Prospekt ในกรุงมอสโก ส่งผลให้ พลโท อิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีของกองทัพรัสเซีย พร้อมผู้ช่วยเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ

คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียระบุว่า ได้เปิดสอบสวนทางอาญาเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเจ้าหน้าที่สืบสวน นักนิติวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดกำลังปฏิบัติงานในจุดเกิดเหตุอย่างเร่งด่วน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและค้นหาผู้ก่อเหตุ

หน่วยฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยว่า พลังระเบิดของอุปกรณ์มีความแรงเทียบเท่า TNT ประมาณ 200 กรัม ซึ่งส่งผลให้กระจกของอาคารใกล้เคียงแตกเสียหาย ขณะเดียวกัน กองกำลังความมั่นคงกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่เพื่อหาข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติม

หนึ่งวันก่อนหน้าเกิดเหตุ หน่วยความมั่นคงยูเครน (SBU) ได้ตั้งข้อหากับพลโทคิริลลอฟ โดยกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธเคมีต้องห้ามจำนวนมากในแนวหน้า  ขณะที่ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ดำเนินมาตรการตอบโต้ เนื่องจากคิริลลอฟมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลการใช้อาวุธเคมีในยูเครน

ด้านนาง มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่าพลโทคิริลลอฟเป็นผู้ที่กล้าหาญในการเปิดโปงอาชญากรรมและยั่วยุของกลุ่มนาโต้อย่างต่อเนื่อง ด้านคอนสแตนติน โคซาเชฟ รองประธานสภาสูงของรัสเซีย กล่าวไว้อาลัยว่า “นี่คือการสูญเสียที่ไม่อาจทดแทนได้ ฆาตกรต้องถูกลงโทษอย่างไร้ความปรานี”

สมาชิกรัฐสภารัสเซีย อเล็กซี จูราฟเลฟ กล่าวกับสำนักข่าวสปุตนิกว่า หน่วยข่าวกรองยูเครนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ โดยอ้างว่ายูเครนอาจพยายามสร้างผลกระทบเชิงโฆษณาชวนเชื่อจากการเสียชีวิตของคิริลลอฟ พร้อมระบุว่า การดำเนินการในลักษณะนี้สะท้อนถึงการสนับสนุนการก่อการร้ายจากชาติตะวันตก

รัสเซียเชื่อมือบงการสังหารนายพลฝ่ายนิวเคลียร์ เป็นฝรั่งผิวขาวพูดอังกฤษ มั่นใจลากตัวลงโทษให้ได้

(18 ธ.ค.67) กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางนำตัวผู้เกี่ยวข้องในเหตุสังหารพลโท อิกอร์ คิริลอฟ หัวหน้าหน่วยป้องกันทางชีวภาพ, เคมี และรังสีของกองทัพรัสเซีย มาลงโทษให้ได้

คำแถลงจากมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุว่า "เรามั่นใจว่าผู้ที่เป็นผู้จัดการและผู้ลงมือฆ่านายพลอิกอร์ คิริลอฟ จะต้องถูกจับกุมและนำตัวมาลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นใครที่ไหนก็ตาม และเราขอประกาศไปยังผู้สนับสนุนระบอบเคียฟ, ผู้ที่เกลียดชังรัสเซียทุกรูปแบบว่า ในฐานะประเทศและประชาชน เราจะไม่ถูกข่มขู่ เรากำลังปกป้องความจริง"

ซาคาโรวา ยังกล่าวอีกว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุเป็นชนชาติแองโกล-แซกซอน (ฝรั่งผิวขาวพูดภาษาอังกฤษ) เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์หลักจากการโจมตีทางการก่อการร้ายในมอสโกครั้งนี้ โดยกล่าวว่า ระบอบเคียฟเพียงแค่ "เป็นเครื่องมือ" เท่านั้น โดยรัสเซียจะยกประเด็นการสังหารนี้ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ด้วย

สำหรับพลโทคิริลอฟและผู้ช่วยของเขาถูกฆ่าตายจากการระเบิดในมอสโกเมื่อเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่จากบริการความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันกับ The New York Times ว่ายูเครนเป็นผู้รับผิดชอบในการสังหารครั้งนี้

ขณะที่ทางหน่วยงานความมั่นคงแห่งรัฐรัสเซีย (FSB) ระบุเมื่อวันพุธว่าได้จับกุมชายผู้ต้องสงสัยเป็นชาวอุซเบกิสถานวัย 29 ปี ในข้อหาวางระเบิดและจุดระเบิดจากระยะไกล โดยผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวให้การซัดทอดว่า ผู้ว่าจ้างชาวยูเครนที่ให้ลงมือจุดระเบิดสัญญาว่าจะให้เงินรางวัล 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมให้สัญชาติเป็นพลเมืองสหภาพยุโรป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top