Monday, 5 May 2025
ปลัดแรงงาน

ปลัดแรงงาน เปิดงานวันนิคม จันทรวิทุร พร้อมปาฐกถาพิเศษ 30 ปี กระทรวงแรงงานกับการพัฒนาที่ยั่งยืน

วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดงานเนื่องในวันนิคม จันทรวิทุร ครั้งที่ 21 ประจำปี 2566 และกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “30 ปี กระทรวงแรงงานกับการพัฒนาที่ยั่งยืน : เป้าหมายของสหประชาชาติกับความพยายาม ผลงานที่ผ่านมา และนโยบายของกระทรวงแรงงานในรัฐบาลชุดใหม่” โดยมี นายฐาปบุตร ชมเสวี ประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธินิคม จันทรวิทุร กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นางสาวกรจิรัฏฐ์ พงจันทร์ศธร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน    

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษถึงนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงแรงงาน ซึ่งนโยบายของรัฐบาลมีกรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน ได้แก่ กรอบระยะสั้น เป็นการกระตุ้นการใช้จ่าย จุดประกายให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจกลับมาเติบโต ประกอบกับการเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว กรอบระยะกลางและระยะยาว ด้านการเสริมขีดความสามารถให้กับประชาชน ผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนทุกคน ในส่วนนโยบายของกระทรวงแรงงาน โดยท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ ได้มีนโยบายเพื่อขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงแรงงาน 3 ด้าน 8 นโยบาย เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานภายใต้แนวคิด “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”  

นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ตลอดห้วงระยะเวลา 30 ปี ของการดำเนินงานของกระทรวงแรงงานได้มีการขับเคลื่อนการพัฒนาแรงงานของประเทศให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้เป้าหมาย “มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน” และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายรัฐบาลปัจจุบัน ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่กระทรวงแรงงานมีบทบาทเป็นหน่วยงานหลักด้านการพัฒนาแรงงานในเป้าหมายที่ 8 การส่งเสริมงานที่มีคุณค่า สำหรับทุกคน และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยในปี 2566 มีผลงานสำคัญในหลายด้าน อาทิ ส่งเสริมการมีงานทำให้ประชาชนทุกกลุ่มมีรายได้ที่เหมาะสมรฝึกอบรมเพื่อยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ป้องกันและแก้ไขการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ประกันตนได้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคม เป็นต้น กระทรวงแรงงานมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแรงงาน เพื่อให้ แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

ด้าน นายฐาปบุตร ชมเสวี ประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธินิคม จันทรวิทุร กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้บริหารทุกระดับ ผู้ปฏิบัติงาน นักวิชาการ นักวิจัย ผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านแรงงาน ร่วมกันกำหนดทิศทางและเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนงานด้านแรงงานให้สอดคล้องกับความจำเป็นแห่งยุคสมัยและในอนาคต ตลอดจนสร้างข้อเสนอแนะร่วมกันทั้งในเชิงนโยบายและปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ปลัดแรงงาน 'ไพโรจน์' เปิดการเสวนาระดับสูง เนื่องในโอกาสวันแห่งความยุติธรรมทางสังคมสากล ประจำปี 2567

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 น. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้รับมอบหมายจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการเสวนาระดับสูง เนื่องในโอกาสวันแห่งความยุติธรรมทางสังคมสากล ประจำปี 2567 ในหัวข้อ “มุ่งสู่ความยุติธรรมทางสังคมสำหรับทุกคนในโลกแห่งการทำงาน”ณ ห้อง Ballroom ชั้น 12 โรงแรมวี กรุงเทพฯ  โดยมีคุณกิลเบิร์ท เอฟ โฮงโบ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ คุณชิโฮโกะ อาซาดะ มิยากาวะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่และผู้อำนวยการ สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ผู้แทนรัฐบาล องค์กรนายจ้าง และองค์กรลูกจ้างในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เอกอัครราชทูต ผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม ร่วมงาน

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การเสวนาในวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น ถึงประเด็นที่จะต้องดำเนินการร่วมกัน เพื่อมุ่งสู่ความยุติธรรมทางสังคมสำหรับทุกคนในโลกแห่งการทำงาน เนื่องจาก ขณะนี้โลกแห่งการทำงานเผชิญกับความท้าทายในรูปแบบใหม่ ซึ่งการที่จะแก้ไขปัญหาความท้าทายดังกล่าวนี้ และนำไปสู่ความยุติธรรมทางสังคมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกได้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือในรูปแบบพหุภาคีจากนานาประเทศ การทำงาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างรายได้ และรับประกัน ความเป็นอยู่ที่ดี โดยผู้คนจะสามารถเข้าถึงงานที่ดีและมีคุณค่าได้จำเป็นที่จะต้องมีความยุติธรรมในสังคม ซึ่งการจะสร้างความยุติธรรมทางสังคมได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย

“ ประเทศไทยขอแสดงความชื่นชม ท่านผู้อำนวยการใหญ่และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ที่ได้ริเริ่มเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศว่าด้วยความยุติธรรมทางสังคม หรือ Global Coalition for Social Justice ซึ่งจะเป็นกลไกในการผสานความพยายามร่วมกันระหว่างหุ้นส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความยุติธรรมในสังคม และขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเสวนาระดับสูงในวันนี้ จะสร้างแรงบันดาลใจให้ภาคีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศว่าด้วยความยุติธรรมทางสังคม สร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกที่เป็นธรรมและเท่าเทียม ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถสร้างโลกที่มีความยุติธรรมทางสังคมให้เป็นความจริงได้อย่างแน่นอน ” นายไพโรจน์ โชติกเสถียร    กล่าว

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในระดับพหุภาคีไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของความร่วมมือระหว่างประเทศ แต่เป็นกลไกที่มีความสำคัญยิ่งยวดในการสร้างอนาคตที่เป็นธรรม และเท่าเทียม ประเทศไทยจะร่วมกับนานาประเทศในการผลักดันความยุติธรรมในสังคม โดยเฉพาะในโลกแห่งการทำงาน ภายใต้วิสัยทัศน์ “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” โดยการกำหนดนโยบายที่ครอบคลุม ส่งเสริมความหลากหลาย และรับประกันว่า ทุกภาคส่วนในสังคมจะได้รับส่วนแบ่งและผลประโยชน์จากการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top