Tuesday, 22 April 2025
บิลเกตส์

‘บิล เกตส์’ มหาเศรษฐีใจบุญ ควักเงินบริจาคการกุศลเพิ่มอีก 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ไม่สนใจหลุดจากทำเนียบมหาเศรษฐีโลก

บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง “ไมโครซอฟท์” บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก ประกาศบริจาคเงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 7.3 แสนล้านบาทให้กับมูลนิธิบิล แอนด์ เมลินดา เกตส์ ที่เขาและอดีตภรรยาร่วมก่อตั้งขึ้นในปี 2543 เพื่อนำเงินไปใช้ช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก

บิล เกตส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งอันดับ 4 ของโลก ระบุว่า ตนเองต้องมีความรับผิดชอบคืนกลับให้สังคม โดยให้เกิดประโยชน์มากที่สุดในการลดความทุกข์ทรมานและพัฒนาชีวิตของผู้คน พร้อมกับคาดหวังว่าคนอื่น ๆ ที่มีความมั่งคั่งจะทำเช่นนี้เหมือนกัน

เขาระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า มูลนิธิอาจจะต้องเพิ่มการใช้จ่ายจากปีละ 6 พันล้านดอลลาร์ เป็น 9 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ อาทิ โรคระบาด สงคราม และวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส์ ระบุว่า ปัจจุบัน ‘บิล เกตส์’ มีความมั่งคั่งสุทธิ 1.18 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งการบริจาคเงินดังกล่าวอาจจะทำให้เขาหลุดจากทำเนียบมหาเศรษฐีโลก

เปิด Resume รุ่นลายครามของพ่อมดไอที 'บิลเกตส์' สะท้อน!! รั้วการศึกษาแคบเกินไปสำหรับเขาจริงๆ

'บิล เกตส์' (Bill Gates) อยู่ดีๆ นึกครึ้มใจในวัยเกษียณ ขอแชร์จดหมายสมัครงาน หรือ Resume ของตัวเองที่เขียนขึ้นในปี 1974 ลงในเว็บ LinkedIn มาให้คนทั่วไปลองได้อ่านกัน ซึ่งในขณะนั้น บิล เกตส์ เพิ่งเข้าเรียนปีแรกในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

โดย Resume ฉบับนั้น ได้เปิดเผยส่วนสูง และน้ำหนักของบิล เกตส์ในวัย 19 ปี รวมถึงที่อยู่บ้านเก่าของพ่อ-แม่ของเขา และประสบการณ์เขียนโปรแกรมกับเพื่อนๆ สมัยมัธยม 

บิล เกตส์ ได้พูดแบบถ่อมตนว่า "ตัวผมตอนนั้นยังเขียน Resume ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เด็กรุ่นใหม่ๆ สมัยนี้ ซึ่งต่อให้ยังไม่จบมหาวิทยาลัยก็เถอะ แต่รับรองว่า เขียน Resume ได้ดีกว่าผมทุกคน"

แต่ความมหัศจรรย์ของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ทักษะการเขียน Resume หากแต่อยู่ที่เนื้อหาที่เขียนลงไปต่างหาก ที่ทำให้เราได้เห็นภาพจุดเริ่มต้นของ บิล เกตส์ ก่อนที่จะกลายเป็นพ่อมดแห่งวงการ IT ของโลกในเวลาต่อมา 

เริ่มต้นจากตัวเลขเงินเดือนที่เขาหาได้ แม้เพิ่งเข้าเรียนปีแรกที่ฮาร์วาร์ด ก็สูงถึง 12,000 เหรียญ (4.3 แสนบาท) ที่แม้แต่ยุคสมัยนี้ก็ถือเป็นรายได้ที่สูง ยิ่งย้อนกลับไปเมื่อ 48 ปีก่อน ยิ่งนับว่าเป็นรายได้ที่สุดยอดมากจริงๆ สำหรับเด็กมหาวิทยาลัยที่เพิ่งเข้าเรียนปี 1 

แต่พอให้ระบุรายได้ หรือสถานที่ทำงานที่ต้องการ เขากลับตอบกว้างๆ ว่า "รายได้เท่าไหร่ หรือทำงานที่ไหนก็ได้" และ บิล เกตส์ หมายความเช่นนั้นจริงๆ เพราะหลังจากนั้นเพียง 1 ปี บิล เกตส์ ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ไปตั้งบริษัท Microsoft กับเพื่อนสนิทอีกคน คือ 'พอล อัลเลน' ไกลถึงเมืองแอลบูเคอร์คี ในรัฐนิวเม็กซิโก 

ส่วนด้านการเรียน บิล เกตส์ ได้แจกแจงคอร์สที่เขาได้ลงเรียนในปีแรกที่ ฮาร์วาร์ดไว้ใน Resume ด้วย ซึ่งเป็นวิชาเกี่ยวกับระบบจัดการคอมพิวเตอร์ ฐานข้อมูลและกราฟิก แถมยังระบุด้วยว่า ตนเป็นนักเรียนดีเด่น และได้เกรด A ทุกวิชา 

‘บิล เกตส์’ ทุ่ม ‘หลายพันล้านเหรียญ’ หนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์  รับมือ AI ดูดไฟสูง-รถอีวีพุ่ง คาดปฏิกรณ์ใหม่เสร็จปี 2573

(17 มิ.ย.67) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างคำกล่าวของ ‘บิล เกตส์’ ว่า มหาเศรษฐีรายนี้พร้อมที่จะทุ่มเงิน ‘หลายพันล้านดอลลาร์’ ลงในโครงการ ‘โรงไฟฟ้านิวเคลียร์รุ่นใหม่’ ของสตาร์ตอัป TerraPower ซึ่งก่อตั้งโดย บิล เกตส์ เองในรัฐไวโอมิงของสหรัฐฯ เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

เหตุผลที่ตั้งใจลงทุนเงินสูงระดับหลายพันล้านเช่นนี้ เกตส์เล่าว่า ผู้คนต้องการนวัตกรรมที่ทำให้ได้ไฟฟ้าที่ถูกกว่า และสะอาดกว่าในเวลาเดียวกัน ‘พลังงานนิวเคลียร์’ จึงเข้ามาตอบโจทย์ โดยที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย ซึ่งดาตาเซนเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ที่ Microsoft จะสร้างขึ้น คาดว่าจะเพิ่มภาระการใช้ไฟฟ้ามากถึง 10% ในสหรัฐฯ

อีกทั้งยังมีการเพิ่มขึ้นของสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ และรถบัสไฟฟ้า ไปจนถึงปั๊มความร้อนไฟฟ้าเพื่อทำความร้อนในบ้าน ความต้องการไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และตอนนี้ ดาตาเซนเตอร์เหล่านี้ก็ยิ่งทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้น บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ จึงกำลังมองหาแนวทางที่จะช่วยให้ศูนย์ข้อมูลรองรับความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ด้วยเหตุนี้ บิล เกตส์จึงต้องขยายแหล่งพลังงานไฟฟ้า เพื่อรองรับการขยายตัวของ AI ที่ Microsoft เข้าลงทุนและเพื่อตอบโจทย์ปัญหาโลกร้อน

บิล เกตส์ ชี้ให้เห็นว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของเขาที่เป็นประโยชน์นี้ ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคของสหรัฐฯ (เดโมแครตและรีพับลิกัน) ในขณะที่พรรคเดโมแครตเห็นคุณค่าในแหล่งพลังงานสะอาด ส่วนพรรครีพับลิกันให้ความสนใจในเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน

สำหรับ TerraPower ได้สำรวจวิธีการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ที่ง่ายขึ้น และราคาถูกลงตั้งแต่ปี 2551 และคาดว่าจะสร้างเครื่องปฏิกรณ์ใหม่เสร็จในปี 2573

“ผมลงทุนไปแล้วกว่าพันล้านดอลลาร์ และผมก็พร้อมที่จะทุ่มเงินอีกหลายพันล้าน” บิล เกตส์ กล่าว

บิล เกตส์ กล่าวว่า อันที่จริงโรงไฟฟ้าของ TerraPower ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ถูกคาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 2571 แต่เนื่องจากต้องอาศัยเชื้อเพลิงจากรัสเซีย ซึ่งถูกฝั่งตะวันตกคว่ำบาตรในขณะนี้ กำหนดการที่จะเปิดใช้งานได้จึงล่าช้าออกไป

สำหรับโรงไฟฟ้าของ TerraPower ใช้โซเดียมเหลวแทนน้ำเป็นสารระบายความร้อน และมีเกลือหลอมเหลวที่สามารถกักเก็บความร้อนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต บิล เกตส์ กล่าวว่า บริษัทวางแผนที่จะจัดหาเชื้อเพลิงจากสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรสำหรับโรงไฟฟ้านี้

ในปัจจุบัน ‘พลังงานนิวเคลียร์’ ที่ปลอดคาร์บอน กำลังถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และมีบริษัทจำนวนมากขึ้นที่ส่งเสริมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก โดยเมื่อปีที่แล้ว ตามข้อมูลของ BloombergNEF ระบุว่า 25 ประเทศในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 28 หรือ COP28 ที่นครดูไบของสหรัฐฯ อาหรับ เอมิเรตส์ ได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มกำลังการผลิตนิวเคลียร์เป็น 3 เท่า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top