‘บัตรทอง’ ยุคลุงตู่ ยกระดับสู่ ‘บัตรพรีเมี่ยม’ เพิ่มสิทธิประโยชน์ครอบคลุม สะดวกทุกที่
รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มุ่งเน้นด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจด้านคุณภาพชีวิตประชาชนอีกด้วย นับเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล ที่จะดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างดีที่สุด รวมทั้งยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก รวมถึงองค์การอนามัยโลก นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และดูแลรักษาสุขภาพโลก และยังพัฒนาต่อไปตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีหลักยึดที่สำคัญ คือ เราจะเดินหน้าไปพร้อมกัน และ ‘ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ ภายใต้คำขวัญ ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง เศรษฐกิจประเทศแข็งแรง’ เพื่อให้เห็นภาพรวมในการพัฒนาด้านสาธารณสุข ขอสรุปให้เห็นเป็นรูปธรรมดังนี้
- ยกระดับและต่อยอดบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ไปเป็น ‘บัตรทองพรีเมี่ยม’ เพิ่มสิทธิประโยชน์ เพิ่มคุณภาพบริการ
- บัตรทองพรีเมี่ยม รักษาโควิดฟรี
- ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565 ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารักษาในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศโดยที่หน่วยบริการจะไม่มีการเรียกให้กลับไปรับใบส่งตัวมาเหมือนในอดีตที่เคยเป็นปัญหา
- บัตรทองทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้
- บัตรทองให้สิทธิ์การย้ายหน่วยบริการ ได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน
- ผู้ถือบัตรทองได้สิทธิฟอกไตฟรี
- มาตรการลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 มีการรณรงค์เพื่อการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (และส่งเสริมการทำงานที่บ้าน รวมถึงกลไกในการทำงานที่ขันแข็งของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่าหนึ่งล้านคนทั่วประเทศ
- ระบบประกันสุขภาพครอบคลุมประชาชนเท่าเทียม
- พัฒนาระบบบริการสาธารณสุข แพทย์สมัยใหม่ และแพทย์แผนไทย
- พัฒนาและยกระดับความรู้อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน (อสม.)
- ลดภาระการเดินทางไปสถานพยาบาลของประชาชน
- ลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่
- รับยาที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันใกล้บ้านสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หืด จิตเวช และโรคเรื้อรังอื่นๆ
- ส่งยา/เวชภัณฑ์ถึงบ้านทางไปรษณีย์ การบริการสาธารณสุขระบบทางไกล (Telehealth/Telemedicine) และการตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกโรงพยาบาล
