Tuesday, 22 April 2025
บริษัทยามาฮ่ามอเตอร์

ช็อก!! ตำรวจญี่ปุ่นจับลูกสาวประธานใหญ่ 'ยามาฮ่า' หลังใช้มีดแทงพ่อของเธอ คาด!! เกิดจากปัญหาร้าวฉานภายในที่รุนแรง เดชะบุญประธานใหญ่ไม่ตาย

สื่อญี่ปุ่นรายงานข่าวว่า นาย ฮิดากะ โยชิฮิฮิโระ วัย 61 ปี ประธานบริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ถูกทำร้ายร่างกายโดยบุตรสาวของตัวเองภายในบ้านที่เมือง อิวาตะ ในจังหวัดชิสุโอกะ เมื่อช่วงบ่ายของวันจันทร์ (16 กันยายน 2567) ที่ผ่านมา

โดยตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุม ฮิดากะ ฮานา บุตรสาว วัย 33 ปีของนาย โยชิฮิฮิโระ ผู้ก่อเหตุ ที่ใช้มีดทำครัวแทงพ่อของตัวเอง จนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย แต่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหา 'พยายามฆ่า' แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าบุตรสาวของประธาน ยามาฮ่า ยอมรับข้อกล่าวหาหรือไม่

ตำรวจท้องที่ให้ข้อมูลว่า พวกเขาเคยได้รับสายด่วนฉุกเฉินจาก ฮิดากะ ฮานะ ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน โทรมาแจ้งว่า พ่อทุบตีเธอ ทำให้ตำรวจต้องรีบมาตรวจสอบถึงบ้าน แต่ไม่มีอะไร แต่วันต่อมา ฮานะ โทรแจ้งตำรวจอีกครั้งในเรื่องเดิม ก่อนจะก่อเหตุแทงพ่อตัวเองในบ้านตามข่าว

ด้าน ฮิดากะ โยชิฮิฮิโระ ที่ถูกลูกสาวทำร้ายด้วยมีด ให้การว่า ลูกสาวใช้มีดเข้ามาแทงเขาในขณะที่เขากำลังนอนหลับพักผ่อนในช่วงบ่าย จนได้รับบาดเจ็บที่แขน แต่ทั้งนี้ ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงปัญหาครอบครัวหรือ กล่าวว่าลูกสาวของเขามีอาการผิดปกติทางจิตหรือไม่ ทราบเพียงว่า ฮิดากะ ฮานา อยู่ในสถานะ 'ว่างงาน' และอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับบิดา

ส่วนบริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ ไม่ขอแสดงความเห็นใด ๆ เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว และขอให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจสอบสวนคดี

อาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ที่ครอบครัวระดับประธานบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ จะมีปัญหาร้าวฉานภายในที่รุนแรง จนเกือบกลายเป็นโศกนาฏกรรมไปแล้ว 

แต่ทว่า มีหลายครอบครัวที่ภายนอกดูเป็นครอบครัวในอุดมคติ แต่กลับซ่อนเร้นความรุนแรงไว้ภายใน และเมื่อระเบิดออกมาก็สร้างความตื่นตกใจให้กับชาวญี่ปุ่นไม่น้อย 

อาทิ คดีฆ่าหั่นศพในโรงแรมที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด คดีใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อราวเดือนกรกฎาคม 2566 ที่คนร้ายเป็นเพียงหญิงสาว และมีพ่อเป็นถึงแพทย์ประจำโรงพยาบาล ซึ่งเมื่อทราบว่าบุตรสาวของตนก่อคดีหั่นศพ และนำศีรษะเหยื่อกลับมาที่บ้าน พวกเขาทำได้เพียงปกปิดความผิดให้ลูก และช่วยกันซ่อนเร้นอำพรางศพ แต่ก็ถูกตำรวจจับตัวได้ในที่สุด

การสร้างครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งสถานะทางสังคมไม่ได้การันตีคุณภาพความสัมพันธ์ในครอบครัวได้เสมอไป และคงไม่มีครอบครัวไหนอยากให้เกิดเหตุการณ์ที่กลายเป็นอุทาหรณ์สังคม ดังเช่นที่เห็นในข่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top