Saturday, 19 April 2025
น้ำท่วมภาคใต้

‘ก้าวไกล’ แนะ ‘นายกฯ’ จัดสรรงบกลาง เร่งช่วย 9 จังหวัด หลังพิษน้ำท่วมทำอ่วม

(21 ธ.ค. 65) นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกล กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคใต้ว่า ขณะนี้ภาคใต้กำลังได้รับผลกระทบจากมรสุมตะวันออก ทำให้เกิดคลื่นลมแรงและฝนตกหนักจนเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน ลมพัดแรง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะใน 9 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส รวมจำนวนเบื้องต้น 66 อำเภอ 271 ตำบล 1,425 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 64,626 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ขณะนี้แม้น้ำจะเริ่มลดลง แต่ก็ยังมีระดับน้ำสูงในหลายพื้นที่ จึงยังต้องการความช่วยเหลืออีกมากทั้งในสถานการณ์เฉพาะหน้าและการเยียวยาฟื้นฟูหลังเหตุการณ์

นิติพล กล่าวว่า นอกจากนี้ มีรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่าพื้นที่น้ำท่วม 5 จังหวัดได้แก่ ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา และปัตตานี มีสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 146,020 ตัว ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ แต่ตัวเลขจริงคงมากกว่านั้นเพราะบางส่วนอาจอพยพไม่ทัน รวมถึงหลังจากน้ำลด ยังมีความเสี่ยงเรื่องโรคระบาดในสัตว์ จึงขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้วางแผนรับมือเหตุการณ์และควรมีการตั้งงบชดเชยลงมาโดยเร็วเพื่อบรรเทาผลกระทบ เพราะโรคระบาดในสัตว์ไม่ใช่แค่เรื่องของสัตว์ แต่จะกระทบต่อรายได้พี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมูและวัวเพื่อจำหน่าย

‘พีระพันธุ์’ สั่ง สส. เร่งลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมฉับพลันภาคใต้ ฟาก ‘พิมพ์ภัทรา’ ส่งถุงยังชีพ ก.อุตฯ ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

(21 พ.ย. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ United Thai Nation Party’ โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในภาคใต้ ระบุว่า…

พรรครวมไทยสร้างชาติห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในภาคใต้ ‘พีระพันธุ์’ สั่ง สส. เร่งลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมส่งถุงยังชีพบรรเทาทุกข์เบื้องต้น พร้อมขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นห่วงประชาชนในภาคใต้หลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมฉับพลัน อันเป็นผลมาจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่มาตั้งแต่วันที่ 16-21 พ.ย. 

ล่าสุดเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี พัทลุง ระนอง สงขลา ชุมพร และนครศรีธรรมราช รวม 34 อำเภอ 165 ตำบล 836 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 34,228 ครัวเรือน ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดในวันนี้ (21 พ.ย.) น้ำยังท่วมในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง และนครราชสีมา รวม 6 อำเภอ 48 ตำบล 274 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,857 ครัวเรือน

นายอัครเดช กล่าวว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ขอให้ สส. ของพรรคในภาคใต้ลงไปช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งประสานหน่วยงานต่าง ๆ เข้าให้การช่วยเหลือ 

ขณะนี้ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ได้ส่งถุงยังชีพของกระทรวงอุตสาหกรรมไปช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ขณะเดียวกัน สส. ในพื้นที่ก็ได้เร่งลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ถ้าพื้นที่ไหนมีปัญหาสามารถแจ้ง สส. พรรครวมไทยสร้างชาติในพื้นที่ให้เข้าการช่วยเหลือได้ อย่างไรก็ตามถือเป็นความห่วงใยจากพรรครวมไทยสร้างชาติขอแสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชน อีกทั้งจะได้เร่งรัดหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงที่พรรครับผิดชอบและ สส. ในพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าภาวะน้ำท่วมในภาคใต้จะเข้าสู่ภาวะปกติ

#พรรครวมไทยสร้างชาติ  
#สู้ให้ทุกปัญหาพึ่งพาได้ทุกเรื่อง

'รมว.ปุ้ย' มอบ 'กนอ.' เร่งช่วยผู้ประสบอุทกภัยในนราธิวาส สนับสนุนงบฯ ฉุกเฉิน ตั้งครัวกลางแจกอาหารให้พี่น้องประชาชน

(28 ธ.ค.66) นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดนราธิวาส หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้น้ำล้นตลิ่งและมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะที่อำเภอระแงะ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอแว้ง และอำเภอสุไหงโก-ลก ที่ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ ประชาชนบางส่วนต้องสร้างที่พักอยู่แนวริมตลิ่งริมแม่น้ำโก-ลก และบางส่วนต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวโรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทองนั้น นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ดังกล่าวอย่างมาก จึงมอบหมายให้ กนอ. ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมสงขลา (สะเดา) อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ เร่งประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

เบื้องต้น กนอ.ได้ประสานไปยังพื้นที่ประสบอุทกภัย พบว่า ขณะนี้มีการอพยพประชาชนมาอยู่รวมกันในพื้นที่ที่ปลอดภัยแล้ว ดังนั้น กนอ.จึงสนับสนุนเงินฉุกเฉินเร่งด่วน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเป็นครัวกลาง เพื่อจัดหาและทำอาหารแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อน

"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งที่จังหวัดยะลา และที่จังหวัดนราธิวาส เนื่องจากพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงกำชับให้ กนอ. เร่งประสานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว เบื้องต้นเราช่วยสนับสนุนในพื้นที่ให้สามารถจัดหาอาหารและน้ำดื่มให้กับประชาชนได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการ และช่วยประสานงานต่างๆ เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กนอ. จะติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมตามความจำเป็นต่อไป" นายวีริศ กล่าว

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุด (26 ธ.ค.66) ยังมีฝนตกลงมาประปรายทั้ง 13 อำเภอ ขณะที่แม่น้ำสายหลัก 3 สายยังคงมีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง แม้ระดับน้ำลดลงจากเดิม แต่ในพื้นที่ราบลุ่มของ อ.สุไหงโก-ลก อ.ระแงะ และ อ.ตากใบบางส่วน ยังมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีฝนตกลงมาระลอกใหม่นั้น คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ราบลุ่มของทั้ง 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส จะเริ่มคลี่คลายและกลับคืน สู่สภาวะปกติได้

‘เยาวชน SEED Thailand ภาคใต้’ ร่วมแรงร่วมใจแพ็กถุงยังชีพ พร้อมลงพื้นที่นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในชายแดนใต้

เนื่องจากสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส ทำให้มีอาคารบ้านเรือนพี่น้องชาวใต้ ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบและเดือดร้อนหลายหลัง ประชาชนในบางพื้นที่ในประกาศก็ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดยะลาและนราธิวาส ที่ฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน จนชาวบ้านในจังหวัดนราธิวาสถึงกับบอกว่า “น้ำท่วมครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่หนักที่สุดในรอบ 50 ปี”

น้ำท่วมหนักในครั้งนี้ ส่งผลให้ถนนสายหลักในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสถูกตัดขาดหลายจุด ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมมิดหลังคาบ้านในหลายพื้นที่ ขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักครั้งนี้ ประชาชนบางส่วนไม่สามารถออกจากบ้านได้ และติดอยู่บนชั้น 2 หรือบนหลังคาบ้าน นอกจากนี้ โรงเรียนหลายแห่งต้องประกาศหยุดการเรียนการสอน

โดยในวันนี้ (29 ธ.ค. 66) ‘เยาวชน SEED Thailand’ ได้ร่วมแพ็กถุงยังชีพ และนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ในโครงการ ‘ไทยรวมใจ’ โดยมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม และเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand ขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมส่งกำลังใจให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้โดยเร็ว

📍ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคเงินสนับสนุน สามารถบริจาคได้ที่บัญชี มูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัญชี 405-523655-3 และส่งหลักฐานการบริจาคได้ที่ Line : @946scqgt

‘รมว.ปุ้ย’ รับมอบอุปกรณ์ซ่อมบ้านจาก SCG มูลค่า 1 ลบ. เร่งนำส่ง ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 3 จังหวัดภาคใต้

(2 ก.พ. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท เอสซีจี (SCG) นำโดยนายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจ เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิ่ง และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจ เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น และนายสุรชัย นิ่มละออ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรันโซลูชั่น และคณะ ได้มอบวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน ผ่าน ‘โครงการอุตสาหกรรมรวมใจช่วยพี่น้องชาวไทย’ ของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อนำไปช่วยเหลือ เยียวยา ลดภาระ และแสดงความห่วงใย พร้อมส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยใน 3 จังหวัดภาคใต้คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ให้ก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้อย่างเร็วที่สุด 

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชน ผ่านโครงการ ‘อุตสาหกรรมรวมใจช่วยพี่น้องชาวไทย’ มาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดทุกภูมิภาคจัดหามาตรการความช่วยเหลือให้อย่างรวดเร็ว พร้อมส่งมอบ ‘ถุงยิ้มพิมพ์ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน’ ซึ่งเป็นถุงยังชีพที่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ร่วมมือร่วมใจกันจัดทำขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยในการก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบาก 

“ในครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออันดีจากเอสซีจี ในการร่วมส่งมอบอุปกรณ์ก่อสร้างสำหรับซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย อาทิ ปูน กระเบื้อง ซึ่งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประสบภัย การสนับสนุนครั้งนี้เป็นการเยียวยาความเดือดร้อนอย่างตรงจุด และเป็นประโยชน์แก่ผู้รับมอบอย่างยิ่ง ต้องขอขอบคุณทางเอสซีจีและภาคเอกชนต่าง ๆ ที่ให้ความร่วมมือและร่วมส่งกำลังใจประชาชนเป็นอย่างดีเสมอ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม จะนำส่งสิ่งของให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบต่อไป” รมว.อุตสาหกรรม กล่าว 

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวด้วยว่า สำหรับวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านที่เอสซีจีร่วมบริจาค มีดังนี้ ปูนซีเมนต์ ตราเสือ 4,000 ถุง ปูนซีเมนต์ ปอร์ตแลนด์ 1,000 ถุง กระเบื้องปูพื้น 5,500 แผ่น โดยมูลค่ารวมของวัสดุอุปกรณ์ที่ทางเอสซีจี นำมามอบให้ในครั้งนี้ มูลค่ารวมทั้งสิ้นจำนวน 1 ล้านบาท โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะเร่งดำเนินการนำวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านดังกล่าว ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยอุทกภัยในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยเร็วที่สุด

'ตชด.ภาค 4' ระดมกำลังลงพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ ช่วยเหลือชาวบ้าน ขนของหนีน้ำท่วมโรงพยาบาล 

(27 พ.ย.67) พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ( รอง ผบช.ตชด. ) ในฐานะ โฆษก บช.ตชด. เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้น้ำท่วมภาคใต้ฝั่งตะวันออกหลายจังหวัด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) ได้สั่งการตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ทุกกองร้อยระดมกำลังออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงยาก มีน้ำท่วมสูง 

โฆษก บช.ตชด.กล่าวด้วยว่า บช.ตชด.ได้กำชับ ให้ ตชด. พร้อมนำยานพาหนะ เรือยาง เรือท้องแบน ช่วยอพยพประชาชาชนโดยเฉพาะผู้ป่วย คนชรา และเด็ก ออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมเข้าสนับสนุนช่วยเหลือในพื้นที่หน่วยราชการสำคัญ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นต้น รวมถึงให้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และเข้าช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กองร้อย ตชด.446 นำโดยพ.ต.ท.อเนชา ตาวัน ผบ.ร้อย ตชด.446 ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสำรวจระดับน้ำในพื้นที่ อำเภอ.แว้ง จว.นราธิวาส ช่วยขนสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง

ช่วงเช้าวันนี้ ( 27 พฤศจิกายน 2567 ) พ.ต.อ.มานิต นาโควงศ์ ผกก.ตชด.44 มอบหมายให้ พ.ต.ต.เศรษฐา แสงโพธิ์ดา สว.กก.ตชด.44 จัดกำลังพลช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.เมือง จว.ยะลา โดยเข้าอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และยกสิ่งของไว้ที่สูงให้กับประชาชนที่น้ำท่วมบ้านเรือน

ส่วนในพื้นที่ จว.สงขลา เช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.ภัคพล คุ้มวงศ์ ผบ.ร้อย ตชด.437 ร.ต.อ.ชวิศา บุญมี หน.ชป.ขล.ร้อย ตชด.437 ได้สั่งการให้ชุดจิตอาสาของ กองร้อย ตชด.437 เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านน้ำลัด ต.สำนักแต้ว อ.สะดา จว.สงขลา 

ด้าน พ.ต.ท.วีระเทพ หลางหวอด รอง ผบ.ฉก.ตชด.43 (1),ร.ต.อ.หญิง สุรัตน์ ฤทธิรัตน์  หน.ฝกร.ฉก.ตชด.43 นำกำลังพร้อมด้วยนางอุบล อุบลมณี ประธานโฆษกชาวบ้านจังหวัดสงขลาและชาวบ้านในพื้นที่เข้าช่วยเหลือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลฉาง อ.นาทวี จว.สงขลา ช่วยขนของขึ้นชั้น 2 เนื่องจากน้ำท่วมในบริเวณชั้น 1

และในพื้นที่ จว.สตูล พ.ต.ท.คำนึง อุ่นปลอด ผบ.ร้อย ตชด.436 มอบหมายให้ ร.ต.อ.อดิเทพ พัดลม ผบ.มว.ฯ/ หน.ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกำลังพล ออกแจ้งเตือนประชาชน และช่วยยกของขึ้นที่สูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งตำรวจ ภ.8 และ ภ.9 ดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อุทกภัยอย่างเต็มที่ นำแนวทางที่สั่งถอดบทเรียนในพื้นที่ประสบภัยที่ผ่านมา มาปรับใช้

(28 พ.ย.67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที พร้อมดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งดูแลในส่วนของข้าราชการตำรวจ และสถานที่ราชการของตำรวจที่ได้รับผลกระทบด้วย

สถานการณ์อุทกภัยล่าสุดยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ 
1. จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 อำเภอ คือ กาญจนดิษฐ์ , ดอนสัก ระดับน้ำลดลง 
2. จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 อำเภอ คือ ชะอวด , เฉลิมพระเกียรติ , พระพรหม , เมืองฯ , ร่อนพิบูลย์ ระดับน้ำลดลง 
3. จังหวัดสงขลา 1 อำเภอ คือ ระโนด ระดับน้ำทรงตัว 
4. จังหวัดปัตตานี 2 อำเภอ คือ มายอ , ทุ่งยางแดง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5. จังหวัดยะลา 1 อำเภอ คือ บันนังสตา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6. จังหวัดนราธิวาส 5 อำเภอ คือ บาเจาะ , แว้ง , รือเสาะ , เจาะไอร้อง , สุคิริน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แจ้ง 13 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึง 4 ธันวาคม 2567

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ ภ.8 และ ภ.9 ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่ในทุกด้าน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ โดยให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่รับผิดชอบ ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ประสบปัญหา พร้อมทั้งออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุซ้ำเติม หากพบให้ดำเนินคดีทุกราย และให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ตำรวจทางหลวง ตำรวจน้ำ) , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , สำนักงานส่งกำลังบำรุง สนับสนุนทั้งกำลังพล เครื่องมือ ยานพาหนะ และกองบินตำรวจ ให้เตรียมความพร้อมการอพยพช่วยเหลือประชาชน ตำรวจ รวมทั้งสนับสนุนช่วยเหลือทางการแพทย์

นอกจากนี้ ให้นำแนวทางการปฏิบัติกรณีเกิดอุทกภัย ภัยพิบัติ ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผ่านมา มาปรับใช้ ซึ่งได้สั่งการให้ถอดบทเรียนเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในพื้นที่ต่างๆ ต่อไปไว้แล้ว และเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยด้วย โดยเน้นเรื่องความเป็นอยู่และสวัสดิการอย่างเต็มที่ 

ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

น้ำท่วมภาคใต้ 6 จังหวัด ยังอ่วม 'ตชด.' เร่งช่วยเหลือ ขนย้ายของ ส่งเสบียงช่วยชาวสะเดา เคลื่อนย้ายหญิงป่วยติดเตียงหนีน้ำ  

(28 พ.ย.67) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ( บช.ตชด. ) โดย กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 ได้ดำเนินการตามสั่งการของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่ในทุกด้าน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ จึงสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย น้ำท่วมภาคใต้ ทั้ง 6 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง สตูล ยะลา และนราธิวาส โดยให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 28 พฤศจิกายน 2567 ) กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 ร่วมกับเทศบาลเมืองสะเดา ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ชุมชนสะพานม้า ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งติดอยู่ในบ้าน 4 ราย ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอาหาร โดยได้เข้าไปแจกจ่ายข้าวกล่อง น้ำดื่ม เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ให้กับผู้ที่ติดอยู่ในพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ขณะเดียวกัน ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4303 ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ บ.นา ม.5 ต.ปาดังเบซาร์, บ้านร็อก ม.2, บ้านบางควาย ม.7 ต.ทุ่งหมอ มีน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประมาณ 10 ครัวเรือน ได้ให้การช่วยเหลือประชาชน เคลื่อนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือชั่วคราว ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ม.7 และได้มอบเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อซื้อของอุปโภค บริโภค ในแก่ประชาชน  ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันตชด.สังกัด กองกำกับการ 9 กองบังคับการฝึกพิเศษ รับแจ้งมีหญิงป่วยติดเตียงติดอยู่ในบ้าน ในพื้นที่บ้านวังปริง ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา จว.สงขลา ซึ่งระดับน้ำรอบบ้านสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงเข้าช่วยเหลือพาขึ้นรถ 6 ล้อ ออกจากพื้นที่น้ำท่วมได้อย่างปลอดภัย

ขณะที่ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ร้อย ตชด.445 ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุดินสไลด์ไหลเข้าบ้านเรือน ได้สำรวจความเสียหายเบื้องต้นและทำความสะอาดบ้านเรือนจนสามารถเข้าพักอาศัยได้ และร่วมกับเทศบาลเมืองเบตง ซ่อมแซมถนนในหมู่บ้านแกรนด์วิลล่า ซ.8 ที่ทรุดตัวจากเหตุฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ให้สามารถใช้สัญจรได้ชั่วคราว

และในพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ที่โรงเรียนบ้านต้นจันทน์ ร้อยตชด.424 ได้ช่วยขนย้าย หนังสือ อุปกรณ์การเรียน หลังจากได้รับความเสียหายจากฝนตกหนักลมกรรโชกแรงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทำให้ กระเบื้องหลังคา ฝ้าเพดานได้รับความเสียหายทั้งอาคาร โดยจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือต่อไป

และในพื้นที่ ต.ท่าหมอไทร และ ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา ร้อย ตชด.432  ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือ จากผู้ประสบภัย เพื่อช่วยอพยพผู้ป่วยติดเตียง และช่วยเหลือประชาชนที่มีน้ำท่วมและระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากฝนตกอย่างต่อเนื่อง

'พล.อ.ณัฐพล' ประสานตั้งศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมเร่งดูแลผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน

เมื่อวันที่ (28 พ.ย.67) พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และร่วมประชุมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี 

ในที่ประชุมฯ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นำความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรีมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย โดยสั่งการให้มาติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจากการประเมิน และติดตามการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง 4 จังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ที่ผ่านมานั้น ควรมีศูนย์ประสานงานในพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาดำเนินการภายใต้ศูนย์การบริหารปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. ส่วนกลาง และเพื่อให้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิผลมากขึ้น ได้รับมอบหมายให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นศูนย์ประสานงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยงานแกนกลางที่บูรณาการทั้งหมดในการช่วยเหลือ และมอบหมายให้กองทัพภาคที่ 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นศูนย์กลางการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆเพื่อสนับสนุนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้

"ได้รับคำสั่งให้ ศอ.บต.เป็นศูนย์บูรณาการการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่  จชต. เพื่ออำนวยการในภาพรวมหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพและให้ ทภ.4/กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นศูนย์บูรณาการทรัพยากรของ กห. และ กอ.รมน. รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ในการให้การสนับสนุนกำลังพล ยานพาหนะและเครื่องมือ ตามที่ ศอ.บต. ร้องขอ…" พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ กล่าว

‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ ประกาศตามหาสร้อยคอ 5 บาท บอกคนหาพบพร้อมยกสร้อยทองให้ ขอคืนแค่พระ 3 องค์

(29 พ.ย.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘ต้นปราการ’ ได้โพสต์ข้อความประกาศตามหาสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 4 องค์ ได้แก่หลวงปู่ทวด ,หลวงปู่ทิม, หลวงพ่อโอภาสี , และพระราหู ซึ่งเป็นสร้อยคอทองคำประจำกายของ ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ ดารานักแสดงชื่อดัง ซึ่งกำลังนำทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญูลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้ โดยคาดว่าจะหล่นหายขณะเปลี่ยนเสื้อ หลังจากเสร็จสิ้นช่วยเหลือชาวบ้านที่ยะลา

โดย บิณฑ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า สวัสดีครับเพื่อนๆ ครับ ผมมีเรื่องรบกวนพี่ๆเพื่อน ๆ ครับ คือเมื่อวานนี้ ช่วงเวลาประมาณเวลาห้าทุ่ม ผมได้ทำภารกิจ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนออกจากพื้นที่จนภารกิจเสร็จเรียบร้อย ก็เปิดรถ เพื่อจะเปลี่ยนเสื้อที่เปียกเพราะฝนตกตลอดทั้งวัน แต่ด้วยเป็นเสื้อคอกลมคอเต่า อาจจะทำให้สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง หลุดออกไปจากคอ

“แต่ตอนนั้นไม่รู้สึกว่าสร้อยคอได้หายไปแล้ว มารู้สึกอีกทีก็เกือบถึงปัตตานี เพราะเมื่อคืนนี้ที่จังหวัดยะลาไม่มีที่พักเลย ต้องนั่งรถมาพักที่ปัตตานี เลยแจ้งให้กู้ภัยที่ยะลาตามหา ในเวลานั้น แต่ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็น จึงอยากจะรบกวนทุกๆท่านนะครับที่อยู่บริเวณบนสะพานตรงที่น้ำท่วม และทำภารกิจกันเมื่อคืนนี้ ถ้าใครพบเจอสร้อยคอทองคำ พร้อมกับพระเลี่ยมทองของผม 3 องค์”

“ขอความกรุณาเอาพระมาคืนผมครับ ส่วนสร้อยคอผมยินดีที่จะให้ไป ผมขอพระคืนครับ เพราะมีคุณค่าทางจิตใจของผมครับ ผมพยายามหารูปถ่ายของพระกับสร้อยหาไม่มีครับ ยังไงถ้าท่านใดเจอนะครับกราบขอบพระคุณมากครับ ผมขอแค่พระครับ”

ถ้าท่านใดเจอสามารถติดต่อมาเบอร์นี้ได้เลยนะครับ 063-773-0936 ชื่อยอดนะครับ
กราบขอบพระคุณมากครับผม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top