Monday, 12 May 2025
นโยบายนายกรัฐมนตรี

ผบ.ตร.ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ยกระดับการปฏิบัติ

ผบ.ตร.ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ยกระดับการปฏิบัติ  สั่งเข้มทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาวุธปืนเด็ดขาดและต่อเนื่อง จับมือมหาดไทย ศุลกากร บูรณาการแก้ไขปัญหาการถือครองอาวุธปืน การนำเข้า Blank Gun และเสนอปรับแก้กฎหมายให้รัดกุม พร้อมย้ำลุยต่อยอดฝึกอบรม ประชาสัมพันธ์ ป้องกันเหตุ ตามกลยุทธ หนี-ซ่อน-สู้ ฝากขอความร่วมมือผู้ปกครองสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลาน

วันนี้ (4 ต.ค. 66) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กำหนดมาตรการในการป้องกันเหตุกราดยิง หลังเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงที่ห้างพารากอนเมื่อวานนี้ ผบ.ตร.ได้ขานรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี และสั่งการทันที กำชับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในมาตรการป้องกันการก่อเหตุในทุกพื้นที่ โดยให้ดำเนินการฯ ดังนี้

1) ให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน อาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนอย่างจริงจัง เด็ดขาด และต่อเนื่อง โดยให้รายงานผลการปฏิบัติทุกๆ 15 วัน ในกรณีที่มีการจับกุมให้สืบสวนขยายผล ดำเนินการผู้เกี่ยวข้อง

2) ประสานความร่วมมือ บูรณาการกับกระทรวงมหาดไทย กรมศุลกากร และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบและควบคุมการนำเข้า จำหน่าย รวมทั้งการออกใบอนุญาตอาวุธปืน ที่ยังพบว่ามีสถิติการถือครองอาวุธปืนและใบอนุญาตโดยง่าย  โดยเฉพาะประเด็นแบลงค์กัน (Blank Gun) ซึ่งสามารถนำเข้าได้ พบสถิตินำเข้ากว่าหมื่นกระบอก จะได้ร่วมกับกรมศุลกากรชะลอ หรืองดการนำเข้า เพื่อไม่ให้คนร้าย หรือกลุ่มมิจฉาชีพนำมาดัดแปลงเป็นอาวุธปืนผิดกฎหมาย นอกจากนี้ หากพบว่ากฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง เกี่ยวกับอาวุธปืน ที่ยังล้าสมัย ไม่ทันต่อสถานการณ์ ให้ร่วมกันพิจารณาปรับปรุง แก้ไข เพื่อควบคุมการใช้อาวุธปืนในการกระทำผิดทุกรูปแบบ ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

3) ให้ฝ่ายสืบสวนทุกหน่วยทั่วประเทศ จัดทำและตรวจสอบข้อมูลการจำหน่ายอาวุธปืนในพื้นที่ และให้ บช.สอท. เป็นหน่วยรับผิดชอบในการตัดวงจรการจำหน่ายและการสืบสวนขยายผล การนำซื้อขายอาวุธออนไลน์ การนำแบลงค์กัน (Blank Gun) ไปดัดแปลงเป็นอาวุธ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ เพื่อตัดองค์ประกอบในการกระทำความผิด

4) จัดชุดวิทยากรฯ ต่อยอดการฝึกอบรมการสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจ ฝึกปฏิบัติในการรับมือกับสถานการณ์ฯ ในพื้นที่โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลและพื้นที่ต่างๆ (Soft Target)

5) ขอความร่วมมือผู้ปกครองช่วยสอดส่องดูแลพฤติกรรมเด็ก เยาวชน บุตรหลาน เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนหรือความรุนแรงต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบ หรือเหตุความรุนแรงต่างๆในสังคม 

โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ผบ.ตร. ได้ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว มีความห่วงใยต่อสถานการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะอยู่นี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี ทุกประเด็น ทุกมิติ ทั้งนี้ ตร. ขอความร่วมมือในการงดแชร์ งดเผยแพร่ภาพ คลิป หรือข้อมูล ในกรณีดังกล่าว เพื่อป้องกันพฤติกรรมลอกเลียนแบบ อีกทั้งกระทบต่อจิตใจครอบครัวผู้สูญเสีย และสังคมวงกว้าง 

พร้อมขอประชาสัมพันธ์  คลิปการรับมือเหตุกราดยิง หนี-ซ่อน-สู้  3 กลยุทธ์สากล การเอาชีวิตรอดจากกรณีมือปืนกราดยิง ที่ได้จัดทำขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ มีพื้นฐานแนวทางในการเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ สามารถลดจำนวนทั้งผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บตามรายละเอียดที่แนบมาด้วยนี้ 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาใน จ.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 

วันนี้ (27 ก.พ.67) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าพบนายเศรษฐา ทวีศิลป์ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามการทำงานของตำรวจภูธรภาค 7 โดยเฉพาะพื้นที่ จ.กาญจนบุรี กรณีการปราบปรามยาเสพติด ไฟป่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และการลักลอบขนของเถื่อนบริเวณชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี โดยกำชับให้เข้มงวดมากขึ้น พร้อมให้บูรณาการการทำงานเพื่อให้ปัญหาซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนหมดไปโดยเร็ว

เวลา 13.00 น. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางลงพื้นที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรับฟังการรายงานสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยมี พล.ต.ท.​นัยวัฒน์​ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 , พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย รอง ผบช.ภ.7 , พล.ต.ต.นครินทร์  สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี , พล.ต.ต.พศวีร์  เรืองภู่
ผบก.อก.ภ.7 และ พล.ต.ต.ประสพชัย  มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 , พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. ร่วมประชุม

จากนั้น ผบ.ตร.และคณะ ได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมการบูรณาการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยมี ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี , และผู้แทนหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ผบ.ตร. กล่าวว่า ในการประชุมหารือวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้รายงานแผนการปฏิบัติในการป้องกันแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ตามสั่งการนายกรัฐมนตรี ได้แก่ การปราบปรามยาเสพติด ไฟป่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และการลักลอบขนของเถื่อน โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันของตำรวจ ภ.7 , ภ.จว.กาญจนบุรี , ตำรวจพื้นที่ , ตำรวจตระเวนชายแดน , ตำรวจตรวจตนเข้าเมือง , ทหาร และฝ่ายปกครอง ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

โดยการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่พบว่าปัจจุบันยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านทะลักเข้ามาทางชายแดน จ.กาญจนบุรี มากขึ้น ได้กำชับทุกจุดตรวจให้เข้มงวดในการตรวจสอบจับกุมมากขึ้น 

ส่วนปัญหาไฟป่า ได้กำชับให้เตรียมการป้องกันแก้ไข ตั้งแต่การประเมินก่อนเกิดสถานการณ์เพื่อป้องกัน การเข้าระงับเหตุมีไฟป่า และการแก้ไขปัญหาฟื้นฟูหลังเกิดไฟป่า พร้อมเน้นย้ำให้กวดขันการเผาหาของป่าของชาวบ้านในเขตพื้นที่อุทยาน ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ป่า ส่งผลให้เกิดควันและมลพิษ pm 2.5 โดยใช้มาตรการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประขาชนทราบถึงโทษทางกฎหมายและผลที่จะเกิดขึ้นกับสังคมโดยรวม

ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้มีการเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่เดือดร้อนไปลงทะเบียนขอรับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ได้ตามช่องทางที่กำหนด ภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ โดยตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือ และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยเร็ว

สำหรับปัญหาการลักลอบขนของเถื่อนโดยเฉพาะยางเถื่อนนั้น ได้กำชับไปยังจุดตรวจต่างๆ ซึ่งจะเคร่งครัดในการตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป

หลังการประชุมหารือ ผบ.ตร. และคณะ ได้ไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งถือเป็นจุดหลักในการตรวจตรา ป้องกันการกระทำผิดกฎหมายและสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆไม่ให้เข้ามาในประเทศ

"พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ"ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี กำชับ "พล.ต.อ.ธนาฯ" ,"พล.ต.ท.ธัชชัยฯ" และ ผบช.สอท.เร่งปราบอาญาชญากรรมไซเบอร์ อย่างจริงจังให้เป็นรูปธรรมตามกำหนดเวลา 30 วัน 

วันนี้ (2 เมษายน 2567) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปมอบนโยบายในการปฎิบัติหน้าที่ให้กับกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมื่อวานนี้ (1 เมษายน 2567) ที่ บช.สอท. นั้น สาระสำคัญที่นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและสั่งการคือ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องขับเคลื่อนเร่งรัดการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ที่ใช้กลโกงหลอกลวงพี่น้องประชาชน หรือ คอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งการจับกุมจะต้องขยายผลถึงขบวนการ ผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิด ทำลายโครงสร้าง บัญชีม้าต่างๆ อย่างเด็ดขาด โดยผลการปฏิบัติงานต้องเป็นที่ประจักษ์และเป็นรูปธรรมภายใน 1 เดือน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ฯ กล่าวว่า ตนได้สั่งการกำชับ พล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์ รอง ผบ ตร รับผิดชอบการสืบสวนสอบสวน และ บช.สอท. , พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส. ตร.) และ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ให้ขับเคลื่อนตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีอย่างจริงจังและบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตามกำหนดเวลาที่นายกรัฐมนตรีได้กำหนดไว้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจของพี่น้องประชาชนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการตรวจสอบและปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top