Monday, 21 April 2025
นายมาริษ

รมว.กต.ต้อนรับ กมธ.มั่นคงฯ ย้ำผลักดันความร่วมมือเพื่อนบ้าน-พหุภาคีแก้ปัญหายาเสพติด-หลอกลวงออนไลน์ - พร้อมเร่งใช้ระบบ ETA คัดกรอง-ติดตามต่างชาติเข้าไทย

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับนายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรและคณะ ซึ่งเดินทางมาเข้าพบหารือกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง และข้อคิดเห็นในการทำงานและร่วมงานกัน เพื่อปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของชาติในประเด็นความมั่นคงต่าง ๆ โดยเฉพาะแนวทางการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งกระทรวงฯ ได้ผลักดันความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการป้องกัน และปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด และการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศไทย และสร้างผลกระทบอย่างมากต่อประชาชนไทย ควบคู่กับการมีบทบาทแข็งขัน ในการผลักดันความร่วมมือพหุภาคีระหว่างประเทศ ทั้งในระดับอาเซียน และอนุภูมิภาค ซึ่งเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation: MLC) ครั้งที่ 9 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ประชุมฯ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน และในวันเดียวกัน ปลัดกระทรวงฯ ได้พบหารืออย่างไม่เป็นทางการ กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา จีน และ สปป.ลาว โดยที่ประชุมเห็นพ้อง ที่จะยกระดับความร่วมมือเรื่องความมั่นคงชายแดน และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด และการหลอกลวงออนไลน์

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังเร่งผลักดันการใช้ระบบ Electronic Travel Authorization (ETA) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการคัดกรอง และติดตามการเคลื่อนไหวของบุคคลชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย

ส่วนกรณีการเผยแพร่เอกสารการประชุมของผู้เสนอรายงานพิเศษฯ เรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา กระทรวงฯ ได้ดำเนินการภายหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบกระทู้ถามของ สส.ฝ่ายค้านต่อสภาผู้แทนราษฎร และตามที่ได้รับคำแนะนำของคณะกรรมาธิการฯ โดยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นายไพศาล หรูพาณิชย์กิจ รองปลัดการกระทรวงฯ ได้เป็นประธานจัดการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นพ้องร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการทำให้มั่นใจว่า ระบบสถาบันการเงินไทยมีกระบวนการดำเนินการตามกรอบกฎหมาย และสอดรับกับมาตรฐานสากล และยังได้ประสานงานกับผู้เสนอรายงานพิเศษฯ เพื่อขอหลักฐานที่ชัดเจนเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามข้อมูลจากการตั้งกระทู้ถามของ สส.ฝ่ายค้าน และการพิจารณาแนวทางการดำเนินการของประเทศอื่น อันสืบเนื่องจากการเผยแพร่เอกสารฯ ดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยคำนึงถึงการปกป้องผลประโยชน์ของไทยเป็นสำคัญ

สำหรับสถานการณ์ในเมียนมานั้น กระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับการผลักดันให้เกิดสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในเมียนมา โดยเฉพาะความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา โดยได้ดำเนินการ 3 ด้านพร้อมกัน ได้แก่ การดำเนินการทางการทูตเชิงรุกในทุกระดับ การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในเมียนมา และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา ซึ่งไทยได้มีบทบาทที่สร้างสรรค์โดยตลอด ทั้งผ่านช่องทางทวิภาคี และผ่านองค์การระหว่างประเทศ

รมว.กต.เผยนายกฯ เตรียมกล่าวถ้อยแถลงเวทีผู้นำ ACD ครั้งที่ 3 พร้อมหารือทวิภาคีร่วมอิหร่าน-คูเวต-กาตาร์และทาจิกิสถาน - ย้ำยังห่วงคนไทยในตะวันออกกลาง กำชับคอยติดตามข่าวสารทางการ-สอท.

(3 ต.ค. 67) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งร่วมคณะเดินทางกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมประชุม Asia Cooperation Dialogue หรือ ACD ครั้งที่ 3 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เปิดเผยกำหนดการสำคัญของนายกรัฐมนตรี ในการร่วมประชุมในวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรี มีกำหนดหารือทวิภาคี หรือ Bilateral ร่วมกับผู้นำอิหร่าน ในฐานะที่เป็นประธาน ACD ปีนี้ รวมถึง ผู้นำคูเวต, กาตาร์ และประเทศทาจิกิสถาน

นอกจากนั้น ในเวลาประมาณ 14.20 น. ตามเวลาประเทศไทย นายกรัฐมนตรี จะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2559 มาก่อน และในฐานะประธาน ACD ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคมนี้ โดยนายกรัฐมนตรี ต้องการผลักดันให้ ACD เป็นเวทีการหารือระดับนโยบาย เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปเอเชีย ส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้วยความเข้าใจและไว้เนื้อเชื่อใจ เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาความท้าทายของโลก รวมทั้งความท้าทายจากการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศมหาอำนาจร่วมกัน 

นายมาริษ ชี้แจงด้วยว่า ACD ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 โดยการริเริ่มของไทย ปัจจุบันมีสมาชิก 35 ประเทศ ซึ่งวัตถุประสงค์ และความสำคัญของ ACD นั้น เป็นเวทีหารือระดับนโยบายและความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปเอเชียที่ประเทศสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความท้าทายต่าง ๆ ของโลก ส่งเสริมความเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นเวทีเดียวในเอเชียที่เชื่อมโยงประเทศในทุกพื้นที่ของทวีปเอเชีย
(Pan-Asian Forum) และกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ BRICS, ASEAN และ CICA เป็นต้น

นายมาริษ ยังย้ำอีกว่า นายกรัฐมนตรี ยังคงติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง เนื่องจาก มีความห่วงกังวลต่อพลเมือง และสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม โดยได้ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ใช้ความอดกลั้นอย่างสูงสุด และยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และยังแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของคนไทยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงในตะวันออกกลาง จึงกำชับให้คนไทยในพื้นที่ทุกคนติดตาม และปฎิบัติตามคำแนะนำของทางการท้องถิ่น และสถานเอกอัครราชทูตไทยอย่างเคร่งครัด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top