Tuesday, 29 April 2025
นายกฯเศรษฐา

มาจริง! 'นายกฯเศรษฐา-แพทองธาร' ร่วมกับผู้ก่อตั้ง SUMMER SONIC แถลงข่าวจัดคอนเสิร์ตระดับโลก ที่เมืองไทย หวังดันไทย เป็น Festival HUB แห่งเอเชีย รัฐอำนวยความสะดวกเต็มที่ เปิดไลน์อัพศิลปินตัวท็อป ปลื้มวงไทย 'BODYSLAM-วี วิโอเลต' ร่วมด้วย

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มีการจัดงานแถลงข่าว 'SUMMER SONIC BANGKOK' อย่างเป็นทางการ โดยมี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ , แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และ นาโอกิ ชิมิซุ ผู้ก่อตั้ง SUMMER SONIC และ CEO ของ Creativeman Productions , โอตากะ มาซาโตะ อุปทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าว 

สำหรับเทศกาลดนตรี 'SUMMER SONIC' เป็นงานดนตรีที่ก่อตั้งในปี 2543 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีมาเป็นระยะเวลากว่า 23 ปี โดยมีศิลปินชื่อดังระดับโลกมาร่วมงานมากมายและยังได้เปิดโอกาสให้ศิลปินดาวรุ่งทั่วเอเชียได้ขึ้นแสดงและแจ้งเกิดในตลาดเอเชีย รวมถึงในระดับสากลเช่นกัน และในปี 2024 นี้ เป็นครั้งแรกที่ 'SUMMER SONIC' จะออกจากประเทศญี่ปุ่นและจัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ 'SUMMER SONIC BANGKOK' ในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 ณ อิมแพค เมืองทองธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและญี่ปุ่น ที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนานซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล ด้วยการส่งเสริมศิลปินไทยให้สร้างชื่อเสียงไปยังต่างประเทศ และ ยังสนับสนุนการท่องเที่ยว เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวประเทศไทย รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมทางด้านดนตรีของศิลปินหลากหลายประเทศ ให้ได้รับการยอมรับสู่ระดับสากล โดยทางรัฐบาล และ คณะกรรมซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติสนับสนุนงานในครั้งนี้

แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า เทศกาลดนตรีหนึ่งงานมันหมายถึงโอกาสทาง Festival Economy เทศกาลหนึ่งงาน รวมคนหลายหมื่น ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ไว้ด้วยกัน คือการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในหลากหลายมิติ ทั้งการเดินทาง ที่พัก โรงแรม อาหาร ร้านค้า จนไปถึงธุรกิจอีเว้นท์ นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านเทศกาลดนตรี ระหว่างผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญ คนทำงาน และศิลปิน จะได้ต่อยอดพัฒนาการทำงานของตัวเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมดนตรีของประเทศไทยระยะยาว 

แพทองธาร กล่าวต่อว่า Summer Sonic เป็นเทศกาลที่ให้โอกาสกับศิลปินหน้าใหม่ทั่วโลก ได้มาพบเจอกับแฟนๆในเอเชีย และเป็นโอกาสของศิลปินไทยได้แสดงศักยภาพ และในฐานะของรัฐบาล Summer Sonic Bangkok มีความสำคัญต่อการพัฒนาให้ประเทศไทย เป็น Festival HUB ของภูมิภาค เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้ภาครัฐทำงานร่วมกับเอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทศกาล ให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการจัดงานเทศกาลมากขึ้นผ่านนโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น One Stop Service สำหรับการจัดเทศกาลดนตรี การออกแบบพื้นที่สำหรับการจัดคอนเสิร์ตในอนาคต การแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคของการพัฒนา การก่อตั้ง Festival Academy สถาบันเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการจัดเฟสติวัล และอีกหลายเรื่องที่รัฐจะอำนวยความสะดวกให้สามารถจัดเทศกาลดนตรี ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการ

"ขอขอบคุณ Naoki และ Paradise E& A , ICA และขอชื่นชมและเป็นกำลังใจคณะผู้จัดงาน ที่ผลักดันให้เกิดเทศกาลนี้ในประเทศไทย เอกชนของไทยมีความสามารถค่ะ ที่สามารถสร้างโอกาสดีๆ นี้ให้กับประเทศไทยได้ หวังว่า Summer Sonic Bangkok ในปีแรกนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยและเกิดการพัฒนาต่อยอดไปในอนาคต" แพทองธาร กล่าวจบ 

จากนั้น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า ตนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เทศกาลดนตรีระดับโลก SUMMER SONIC จะมาจัดงานเทศกาลที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยเป็นการจัดงานครั้งแรกอย่างเป็นทางการนอกประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยงาน SUMMER SONIC ในญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 350,000 คนต่อปี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น และยินดีอย่างยิ่งที่จะประเทศไทยจะได้มีโอกาสจัดงานดังกล่าว ตอบรับกับการเป็น Tourism Hub ตามวิสัยทัศน์ Ignite Thailand ที่ได้ ประกาศไป ขอบคุณ รัฐบาลญี่ปุ่นที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยสำหรับการจัดงานนี้

งาน SUMMER SONIC จะเป็นโอกาสสำหรับศิลปินไทยที่มีหัวใจรักดนตรี สอดแทรกความเป็นไทย แสดงออกไปให้ชาวโลกรับรู้รวมทั้งสร้างให้ประเทศไทยเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของโลกดนตรี โดย รัฐบาลพร้อมสนับสนุนงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2024 ให้ประสบความสำเร็จในประเทศไทยและให้กลายเป็นบ้านหลังที่สองอันอบอุ่น เราพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ศิลปินและผู้เข้าร่วมงาน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนก็จะร่วมเป็นส่วนร่วมในการผลักดันงานเทศกาลฯ ให้ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างความทรงจำที่ดีให้แก่ทุกคนที่มาร่วมงาน และขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วโลกที่ชื่นชอบเทศกาลดนตรีเข้าร่วมงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2024 ซึ่งจะมีศิลปินกว่า 20 วงตลอดการแสดง 2 วันเต็ม และขอส่งกำลังใจให้ศิลปินไทยและศิลปินจากต่างประเทศในการแสดงผลงาน ที่ยอดเยี่ยมในงานนี้ด้วย มั่นใจว่าการจัดงานครั้งนี้จะพัฒนาอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวของไทย ให้เป็น World Event Destination ได้อย่างแน่นอน 

สำหรับไลน์อัพชุดที่ 1 ของศิลปิน ที่จะมาร่วมแสดงในคอนเสิร์ต Bangkok Summer Sonic 2024 ที่ประเทศ มีวงดนตรีและศิลปินชื่อดังจากทั้งไทยและต่างประเทศอาทิ LAUV , YOASOBI , LAUFEY AURORA , BODYSLAM (special guests BABYMETAL & F. HERO) , NOTHING BUT THIEVES , BRIGHT , HENRY MOODIE , VIOLETTE WAUTIER เป็นต้น และหลังจากนี้จะมีการเปิดไลน์อัพศิลปินเพิ่มอีก ซึ่งเป็นศิลปินระดับเซอร์ไพรส์ผู้ชมอย่างแน่นอน 

'อลงกรณ์' ชี้ 'นายกฯ.เศรษฐา' พลาดดีลไมโครซอฟท์ แพ้มาเลเซีย-อินโดนีเซียราบคาบทำประเทศเสียโอกาสครั้งใหญ่

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีและสส. 6 สมัย โพสต์บทวิจารณ์ความล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีกรณีพลาดดีลไมโครซอฟท์ในเฟซบุ๊กวันนี้(4พ.ค.) เรื่อง บทพิสูจน์ความล้มเหลว “นายกฯ.เศรษฐา” กรณีไมโครซอฟท์(Microsoft) “แพ้มาเลฯ.-อินโดฯ.ราบคาบ ทำประเทศเสียโอกาสครั้งใหญ่” โดยมีเนื้อหาดังนี้

“..,ผมติดตามข่าว" สัตยา นาเดลลา" ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์ (Microsoft)บริษัทยักษ์ใหญ่ไอทีของโลกมาเยือนอินโดนีเซีย ไทยและมาเลเซียระหว่างวันที่ 30 เมษายน-2 พฤษภาคม 2567อย่างใจจดใจจ่อ

ทั้งนี้เพราะนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ทำใหัเกิดความหวังจากการให้สัมภาษณ์หลังพบเจรจากับประธานและซีอีโอบริษัทไมโครซอฟท์ที่นิวยอร์กและซานฟรานซิสโก้ในเดือนกันยายนและพฤศจิกายนปีที่แล้วถึงขั้นทำบันทึกความร่วมมือ(MOU)ว่า ดีลสำเร็จจะมีการลงทุนเป็นแสนล้านจากไมโครซอฟท์

ผมคาดหวังว่า "สัตยา นาเดลลา" ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์จะประกาศแผนงานโครงการและตัวเลขการลงทุนด้านดิจิตอลเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์(AI-Artificial Intelligence)ในประเทศไทยเป็นแสนล้านตามเป้าหมายดิจิตอลฮับภายใต้วิสัยทัศน์”Ignite Thailand”ของนายกรัฐมนตรีที่ให้ข่าวก่อนหน้านี้ เมื่อถึงวันที่ 1 พ.ค 2567 ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์มาเยือนไทยกลับไม่มีการประกาศตัวเลขการลงทุนในไทยที่ชัดเจนแม้แต่สลึงเดียว มีเพียงคำแถลงว่าจะตั้งดาต้าเซนเตอร์แห่งแรกในไทยและจะสนับสนุนการพัฒนาคนไอที 100,000 คน

ทั้งที่ก่อนมาไทย1วันคือวันที่ 30 เมษายน 2567 ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์เดินทางเยือนอินโดนีเซียและประกาศตัวเลขการลงทุน 1.7 พันล้านดอลลาร์(กว่า 6 หมื่นล้านบาท)ในอินโดนีเซียพร้อมแผนงานโครงการอย่างละเอียดชัดเจน

ยิ่งกว่านั้นในวันที่ 2 พ.ค. 2567 ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์ไปเยือนมาเลเซียได้ประกาศตัวเลขการลงทุนในมาเลเซีย 2.2 พันล้านดอลลาร์(กว่า8หมื่นล้านบาท)เพื่อสนับสนุนความเป็นฮับดิจิตอลของมาเลเซีย แสนล้านของไทยหายไปไหนครับ ?

ส่วนกรณีไมโครซอฟท์จะตั้งดาต้าเซนเตอร์แห่งแรกในไทยเป็นความชัดเจนเท่าที่จับต้องได้
แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าไมโครซอฟท์มีดาต้า เซนเตอร์กว่า 300 แห่งทั้งระดับประเทศและระดับภูมิภาคใน34 ประเทศทั่วโลก

เช่นเดียวกับโครงการพัฒนาคนไอทีที่ไมโครซอฟท์จะช่วยไทย 1 แสนคน นั้นน้อยกว่าที่จะช่วยมาเลเซีย 2 แสนคนและอินโดนีเซีย 8 แสนกว่าคน 

การเปิดดีลและปิดดีลที่มีเวลาทำงานยาวนานกว่า7เดือนตั้งแต่ปลายกันยายน 2566 ถึง 1 พฤษภาคม 2567 ของนายกรัฐมนตรีในการดึงไมโครซอฟท์มาลงทุนในไทยล้มเหลวไม่เป็นท่าและพ่ายแพ้ต่อมาเลเซีย-อินโดนีเซียแบบราบคาบ

ผมหวังว่า ความล้มเหลวในการทำงานกรณีไมโครซอฟท์จะเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปรับปรุงการทำงานแบบผู้บริหารประเทศไม่ใช่แบบเซลล์แมนโฉบไปโฉบมาจนจับต้องอะไรไม่ได้

ท่านต้องตระหนักว่า ท่านทำให้ประเทศเสียโอกาสครั้งใหญ่ในห้วงเวลาที่ประเทศต้องการรายได้และเงินลงทุนเพราะทุกบาททุกดอลลาร์คืองานและปากท้องของประชาชนคนไทย ผมยังกังวลว่า ขณะที่ท่านไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆในการดึงเงินลงทุนเข้าประเทศและไม่สามารถหาเงินเข้าประเทศจนส่งออกติดลบ10%ขาดดุลการค้าหลายแสนล้านทำให้เศรษฐกิจตกต่ำฝืดเคืองไปทุกหย่อมหญ้า แทนที่นายกรัฐมนตรีจะรีบปรับปรุงการทำงานเร่งทำมาหากินสร้างเงินให้ประเทศ ท่านกลับคิดแต่จะกู้เงินก่อหนี้ให้ประเทศอีกกว่า1 ล้านล้านบาทในปีนี้และปีหน้า แล้วประชาชนจะอยู่กันอย่างไร และประเทศจะเป็นอย่างไร จะให้ประชาชนและประเทศชาติติดหล่มจมปลักอยู่กับหนี้สินโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้ตลอดไปอย่างนั้นหรือ”

นายกฯเศรษฐา เยือนร้อยเอ็ดแก้ปัญหาแหล่งน้ำและแผนพัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้ ให้แก่ชาวร้อยเอ็ด

เมื่อวานนี้ 5 พฤษภาคม 2567 เวลา 14.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ติดตามการบริหารจัดการน้ำและแผนพัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้ พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนเรื่องแหล่งน้ำ และการพัฒนาโรงพยาบาลสุวรรณภูมิ โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด บรรยายสรุปแผนงานพัฒนาแหล่งน้ำและทุ่งกุลาร้องไห้ พร้อมด้วย ส่วนราชการ และพี่น้องประชาชน ราวมต้อนรับเป็นจำนวนมาก ที่ ที่ วัดกู่พระโกนา ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

โดยมีการเสนอแผนงานพัฒนาแหล่งน้ำเขตทุ่งกุลาร้องไห้จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งกรมชลประทานเสนอ แผนงานระยะเร่งด่วน และแผนงานระยะกลางในการพัฒนาลุ่มน้ำ เสนอแผนขุดลอกลำเขียวใหญ่ ความยาว 222 กิโลเมตร, เพื่อขยายพื้นที่รับประโยชน์ 100,000 ไร่ และขุดลอกลำห้วยแล้งความยาว 30 กิโลเมตร พื้นที่รับประโยชน์ 30,000 ไร่ เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ ทั้งปัญหาน้ำท่วมและการระบายน้ำ แก้ปัญหาด้านการขาดแคลนน้ำ รวมถึงปัญหาน้ำและดินซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมโยงระหว่างร้อยเอ็ดกับอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม อำเภอโพนทรายร้อยเอ็ด อำเภอเกษตรวิสัยร้อยเอ็ด, และพื้นที่ข้างเคียง ให้สามารถใช้สอยได้ประโยชน์ครบถ้วนรอบด้าน ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ พื้นที่ประมาณ 2.1 ล้านไร่ ในเขต 5 จังหวัด คือร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ ศรีสะเกษ และยโสธร ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมชลประทาน พิจารณาโครงการพัฒนาระบบชลประทานทั้งระบบในของร้อยเอ็ด และดูผลกระทบกับประชาชน รวมถึงการบริหารจัดการน้ำระยะยาว ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในการอุปโภคบริโภค ดูแลเกษตรกรและพัฒนาการส่งเสริมปลูกข้าวหอมมะลิในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร 

จากนั้นได้เข้าสักการะพระบรมธาตุวัดกลางอุดมเวทย์อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด และเข้ากราบนมัสการพระครู อดุลจันทคุณ (หลวงพ่อประดิษฐ์ จนฺทโร) เจ้าอาวาสวัดกลางอุดมเวทย์เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสตรวจราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หลังจากนั้น นายกฯ กล่าวทักทายประชาชนและพบปะเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง 

และจุดสุดท้ายที่ โรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวพบปะประชาชน เรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะได้ในสิ้นปีนี้ รวมถึงได้มอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้ดีเพื่อให้มีราคาสูง นอกจากนั้นรัฐบาลยังขอให้ประชาชนที่มีปัญหาแจ้งยังนายอำเภอให้บริหารจัดการจ่ายดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม ขณะที่ปัญหายาเสพติดรัฐบาลมีนโยบายหลักคือ แยกผู้เสพจากชุมชนไปบำบัด เพื่อคืนสู่ครอบครัว ผู้ค้ายาต้องถูกจัดการโดยกฎหมาย ยึดทรัพย์ทันที เพื่อขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทย

โกสิทธิ์/ร้อยเอ็ด(ห)
081-377-2689

‘นายกฯ’ เปิดโครงการ ‘Phenix’ ศูนย์กลาง ‘อาหาร’ แบบครบวงจร เชื่อ!! ช่วยผลักดันไทยสู่ Hub ด้านอาหารของโลกอย่างแท้จริง

(26 มิ.ย. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ Phenix จุดหมายปลายทางด้านอาหารระดับโลก โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมงาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่ได้รับเกียรติให้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ฟีนิกซ์” ศูนย์กลางด้านอาหารครบวงจรระดับโลกที่รวบรวมผู้ประกอบการและผู้บริโภคในอุตสาหกรรมอาหารจากทั่วทุกมุมโลกเข้าไว้ด้วยกัน  ซึ่งจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านอาหาร ตลอดจนเพิ่มโอกาสทางการค้าของไทยทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ  

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นับเป็นโอกาสที่ดีที่ AWC ได้ร่วมกับพันธมิตรส่งเสริมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมอาหาร ที่ประกอบด้วย ศูนย์กลางการขายส่งอาหารของโลก และ International Pavilion (World’s Food Wholesale Hub และ International Pavilion) ตลอดจนฟูดเลานจ์ที่รวบรวมร้านอร่อยไว้ให้ผู้บริโภค พร้อมทั้งรองรับกิจกรรมส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านอาหารต่าง ๆ ที่จะจัดขึ้นในอนาคต ฟีนิกซ์ จะเป็นสถานที่ที่มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวนานาชาติ และเป็นอีกหนึ่งพลังของ Soft Powerด้านอาหารไทยที่รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ Must Eatใน 5 Must Do in Thailand 

“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งครับว่าโครงการฟีนิกซ์จะขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย 
ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน สอดคล้องกับโครงการ “ครัวไทยสู่ครัวโลก” (Thai Kitchen to the World) ของรัฐบาล เพื่อทำให้ประเทศไทยเราเป็น Hub ด้านอาหารของโลกอย่างแท้จริง ขอแสดงความยินดีกับ AWC กับก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนโครงการฟีนิกซ์ และมีส่วนร่วมในการผลักดันอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นหมุดหมายด้านอาหารและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลกต่อไป ผมขอเปิดโครงการฟีนิกซ์ จุดหมายปลายทางด้านอาหารระดับโลก” นายกรัฐมนตรีกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top