Thursday, 24 April 2025
ท่าอากาศยานเชียงใหม่

เชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมสนับสนุนโครงการ ‘ป้องกันไฟป่าและหมอกควัน บ้านดอยปุย’ ประจำปี 2565

นาวาอากาศโท มัธยัณห์ ไกรสรทองศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) นำผู้บริหารและพนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกิจกรรม “โครงการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน บ้านดอยปุย ประจำปี 2565” ณ บ้านดอยปุย หมู่ 11 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งสนับสนุนน้ำดื่มตราสัญลักษณ์ ทอท.จำนวน 3,000 แก้ว/ขวด และงบประมาณจำนวน 5,000 บาท สมทบกองทุนในการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นยานพาหนะหลักที่ใช้ในการเข้าถึงพื้นที่เพื่อดับไฟป่าได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที 

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการบูรณาการร่วมกันทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาชนจิตอาสาในชุมชน เพื่อลดและป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่า ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี ด้วยการจัดทำแนวกันไฟเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งถือเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ โดยในช่วงฤดูร้อนตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี มักจะเกิดไฟป่า ทำให้ต้นไม้และทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย เกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ และบางครั้งยังมีผลต่อทัศนวิสัยการขึ้นลงของอากาศยานอีกด้วย

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มอบน้ำดื่ม 3,000 ขวด สนับสนุนการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2566

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 นายณัฐวุฒิ ทาอินต๊ะ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ มอบน้ำดื่มตราสัญลักษณ์ ทอท.จำนวน 3,000 ขวด ให้แก่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 โดยมีนายสิทธิชัย เสรีส่งแสง รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเป็นผู้รับมอบ ณ ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งน้ำดื่มดังกล่าว จะนำไปใช้สนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยงานภาคสนามในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ท้องที่จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน และข้างเคียง ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และพื้นที่พิเศษ เช่น พื้นที่รอบพระตำหนักเรือนประทับแรม และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้น ไม่ให้กระทบต่อประชาชนในด้านสุขภาพ ตลอดจนเศษรฐกิจและการท่องเที่ยว

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จัดพิธีทําบุญในโอกาสครบรอบ 35 ปี การดําเนินงาน

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จัดพิธีทําบุญในโอกาสครบรอบ 35 ปี การดําเนินงาน ทั้งนี้จํานวนผู้โดยสารและเที่ยวบินมีอัตราเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยการให้บริการในภาพรวมกลับคืนมาแล้วกว่าร้อยละ 63 เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โรคโควิด-19

วันที่ 1 มีนาคม 2566 นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อํานวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) เป็นประธานพิธีทําบุญเนื่องในโอกาสวันครบรอบ 35 ปี การดําเนินงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยมี นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการ บริษัทสายการบิน ผู้บริหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงสื่อมวลชน ให้เกียรติร่วมพิธีและร่วมแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวโอกาสนี้ คณะผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงผลการดําเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่

โดยนายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อํานวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ท่าอากาศยาน เชียงใหม่ มีอัตราการเจริญเติบโตในทิศทางขาขึ้นมาโดยตลอด  มีจํานวนผู้โดยสารสูงสุดเมื่อปี 2562 ถึงกว่า 11 ล้าน 3 แสนคน และมีอัตราเที่ยวบินและผู้โดยสารลดลงเป็นครั้งแรกในปี 2563 ต่อเนื่องจนถึงปี 2564 ซง่ึ เป็นช่วงที่มีการระบาด ของโรคโควิด-19 แต่หลังจากรัฐบาลไทยและทั่วโลกผ่อนคลายมาตรการการเดินทาง ทําให้ในปี 2565 ที่ผ่านมา ท่าอากาศยาน เชียงใหม่ มีอัตราการเพิ่มขึ้นของจํานวนเที่ยวบินและผู้โดยสารอีกครั้ง มีผลการดําเนินงาน มีอากาศยานพาณิชย์ ขึ้น-ลง 39,027 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 90.88  มีจํานวนผู้โดยสาร 5.46 ลา้ นคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 209.72
มีปริมาณการขนถ่ายสินค้า 5,588 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 68.42

ด้านนายณัฐวุฒิ ทาอินต๊ะ รองผู้อํานวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) กล่าวว่า ปัจจุบัน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีสายการบินที่ให้บริการทั้งหมด 24 สายการบิน ใน 30 เส้นทาง เป็นสายการบินภายในประเทศ 12 เส้นทาง ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค และมีเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศ 18 เส้นทาง ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิด สถานการณ์โควิดถือว่าการให้บริการในภาพรวมกลับคืนมาแล้วกว่าร้อยละ 63 โดยเส้นทางล่าสุดที่คาดว่าจะเปิดให้บริการ ในตารางฤดูร้อนคือช่วงปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ได้แก่ เส้นทาง คุนหมิง-เชียงใหม่

ขณะที่ นายสรายุทธ จําปา รองผู้อํานวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายสนับสนุนธุรกิจ) เปิดเผยถึง ผลประกอบการด้านการเงินว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกับจํานวนผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ เคยมีกําไรสูงสุดในปี 2562 และขาดทุนครั้งแรกในปี 2564 ต่อเนื่องจนถึงปี 2565 ทั้งนรี้ ายได้ที่ลดลงจํานวนมากคือรายได้ จากส่วนแบ่งผลประโยชน์ ซึ่งเป็นรายได้หลักจากธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการบินหรือ Non Aero เนื่องจาก ทอท.ได้มีนโยบาย ช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 และปัจจุบันก็ยังมีผลบังคับใช้อยู่ ซึ่งหากสถานการณ์ต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ร้านค้าต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการเต็มพื้นที่ ผลประกอบการก็คาดว่าจะกลับมาเป็นเชิงบวกได้ภายในปีนี้

สําหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณารายงานวิเคราะห์ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งดําเนินการควบคู่ไปกับการจ้างออกแบบและจัดหาผู้รับจ้าง โดยคาดว่าจะได้ผู้รับจ้าง ภายในปีงบประมาณ 2566 นอกจากนี้ยังมีงานเร่งด่วนบรรเทาความแออัด ซึ่งเป็นงานก่อสร้างกลุ่มอาคารทดแทน ได้แก่ อาคารดับเพลิง อาคารคลังสินค้า และลานจอด GSE โดยอยู่ระหว่างเตรียมเข้ากระบวนการจัดหาภายในปีงบประมาณ 2566 นี้เช่นกัน

เชียงใหม่-ทชม. Kick off เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ประเดิมเที่ยวบินแรก 'เชียงใหม่-โอซาก้า'

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ Kick off เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ประเดิมเที่ยวบินแรก 'เชียงใหม่-โอซาก้า' รองรับนักท่องเที่ยวตามนโยบาย Quick-Win กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล โดยการจัดเที่ยวบินหลังเที่ยงคืน จะคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนเป็นหลักสำคัญ        

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน Kick off ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยมีนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผู้บริหารระดับสูงของ ทอท. รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ผู้แทนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน 

ตลอดจนผู้ประกอบการธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง โดยเที่ยวบินแรกที่ทำการบินหลังเวลาเที่ยงคืน เพื่อเป็นการประกาศให้บริการ 24 ชั่วโมงของท่าอากาศยานเชียงใหม่ คือ สายการบินไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ 822 เส้นทาง เชียงใหม่-โอซาก้า กำหนดออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 00.30 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 (คืนวันที่ 31 ตุลาคม 2566) เดินทางถึงท่าอากาศยานคันไซ (โอซาก้า) เวลา 07.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) 

โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะผู้บริหารของ ทอท.และผู้ร่วมกิจกรรม ได้ร่วมกันแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางไปกับเที่ยวบินดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการแสดงฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นเมือง การประดับตกแต่งบรรยากาศความเป็นล้านนา ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และยังได้รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ประดับตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่มาใช้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ด้วย

เชียงใหม่-ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระดมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสารอย่างเต็มที่ โดยยังคงให้บริการได้ตามปกติ หลังจากเกิดเหตุระบบไอทีล่มหลายแห่งทั่วโลก

นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากกรณีระบบปฏิบัติการของ Microsoft ล่มทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสายการบินและสนามบินในหลายประเทศ ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. เป็นต้นมา ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ได้ดำเนินการตรวจสอบระบบของสนามบินอย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่มีสายการบินที่ประสบปัญหาในการใช้ระบบเช็กอินคือ สายการบินไทยแอร์เอเชีย ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบเช็กอินแบบ Manual แทน ส่งผลให้มีผู้โดยสารรอเช็กอินเป็นจำนวนมาก  ทชม.ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร แจกน้ำดื่ม รวมทั้งได้เปิดเคาน์เตอร์เช็กอินให้กับสายการบินไทยแอร์เอเชียเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการผู้โดยสาร 
          
และล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ระบบเช็กอินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ ส่งผลให้มีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบแล้วจำนวน 16 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินขาเข้าจำนวน 6 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออกจำนวน 10 เที่ยวบิน ซึ่งระยะเวลาที่ล่าช้าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ 
          
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขออภัยในความไม่สะดวก ขอความร่วมมือผู้โดยสารเดินทางมาถึงท่าอากาศยานให้เร็วกว่าปกติ โดยขอให้เผื่อเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องบินออก ทั้งนี้ หากผู้โดยสารต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการในด้านต่างๆ 

และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 5392 2000 ต่อ 2100 

เชียงใหม่- เชียงใหม่- ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและส่งต่อประสบการณ์ที่น่าประทับใจต่อผู้มาเยือน ภายใต้โครงการ 'Your Journey Our Priority' 
        
นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อแสดงออกถึงความพร้อมต้อนรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ท่าอากาศยานเชียงใหม่ในฐานะประตูบานแรกที่จะเปิดรับผู้มาเยือน จึงได้จัดโครงการ 'Your Journey Our Priority' 

โดยการจัดจุดเช็กอิน จุดถ่ายภาพ ภายในอาคารผู้โดยสารหลายแห่ง โดยเฉพาะภายในห้องผู้โดยสารขาเข้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งการประดับตกแต่งได้ใช้วัสดุจากธรรมชาติและงานหัตถกรรมพื้นบ้านล้านนา อาทิ ร่มกระดาษสา โคมล้านนา เครื่องจักสาน ตลอดจนสีสันพรรณไม้ต่างๆ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถสัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายล้านนาได้ตั้งแต่เดินทางมาถึง นอกจากนี้ยังได้จัดพื้นที่ Flower room บริเวณหน้าห้องผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ สำหรับผู้ที่ชอบถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดีย และยังจัดพื้นที่ันันทนาการสำหรับเด็กในห้องโถงผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศเพื่อให้ผู้โดยสารผ่อนคลายระหว่างรอเวลาขึ้นเครื่องด้วย

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือยี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ตกแต่งอาคารผู้โดยสาร ให้มีบรรยากาศแบบล้านนา พร้อมกับเปิดเพลงลอยกระทง เพื่อสร้างบรรยากาศสนุกสนาน และในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ยังได้จัดกิจกรรมการสอนทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ ณ บริเวณหน้าห้องขาเข้า อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และแจกกระทงให้ผู้โดยสารนำไปลอยตามสถานที่ต่าง ๆ อีกด้วย

เชียงใหม่-ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สรุปเที่ยวบินเปลี่ยนแปลง-ยกเลิกในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ประจำปี 2567 รวมทั้งสิ้น 170 เที่ยวบิน 

(12 พ.ย.67) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ปรับเวลาให้บริการในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยสายการบินยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินหลังเวลา 19.00 น.เพื่อลดความเสี่ยงจากโคมลอยที่อาจเกิดอันตรายต่ออากาศยาน

นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2567 (ข้อมูล ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567) มีเที่ยวบินที่ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน รวมทั้งสิ้น 170 เที่ยวบิน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.เที่ยวบินที่ยกเลิก จำนวน 74 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศ 36 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 38 เที่ยวบิน
2.เที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวนทั้งสิ้น 96 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ เที่ยวบิน 68 และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 28 เที่ยวบิน
3.เที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติม จำนวน 16 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 8 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 8 เที่ยวบิน       

ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เนื่องจากสายการบินได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมแล้ว พร้อมกันนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการรักษาความปลอดภัย อาทิ เพิ่มวงรอบการตรวจการณ์ ทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และบริเวณพื้นที่รอบท่าอากาศยาน ตั้งจุดสุ่มตรวจยานพาหนะ ที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยานเป็นระยะ สุ่มตรวจสัมภาระและผู้โดยสารตามมาตรฐานที่กำหนด สุ่มตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของพนักงานที่ปฏิบัติงานในเขตการบิน 

รวมทั้งห้ามจอดยานพาหนะบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด เพื่อดูแลความปลอดภัยและป้องปรามกลุ่มผิดกฎหมายที่อาจฉวยโอกาสกระทำการในช่วงผู้โดยสารคับคั่ง อย่างไรก็ตามขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมายังท่าอากาศยานมากกว่าปกติ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีผู้โดยสารคับคั่งแออัดตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจ  ทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 6 รอบ เป็น 10 รอบ เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตกในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน

สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัด สถานศึกษาและชุมชนที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ที่กำหนดว่า ห้ามจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศในเขตปลอดภัยการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) คือบริเวณแนวขึ้น-ลง สนามบิน ที่อยู่ห่างจากทางขึ้น-ลงของเครื่องบิน ห่างข้างละ 4.6 กิโลเมตร เป็นระยะทางยาว 18.5 กิโลเมตร จากหัวทางวิ่งทั้งสองด้าน นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน และช่องทาง Social Media ต่างๆ ด้วย
    
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในฐานะประตูบานแรกที่เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทง โดยได้ประดับตกแต่งโคมไฟและโคมแขวนภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเป็นรูปแบบกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตามวิธีพุทธและประเพณีเดือนยี่เป็ง รวมทั้งเปิดเพลงบรรเลงท้องถิ่น เพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นล้านนาตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึง และยังกำหนดจัดกิจกรรมแจกกระทงให้แก่ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วย

เชียงใหม่-ท่าอากาศยานเชียงใหม่จัดพิธีทำบุญครบรอบ 37 ปี แห่งการดำเนินงาน

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม. )ฉลองครบรอบ 37 ปี แห่งการดำเนินงานในฐานะศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศที่สำคัญของภาคเหนือ พร้อมมุ่งสู่อนาคต ด้วยแผนพัฒนาที่จะรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

(7 มี.ค.68) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) ครบรอบ 37 ปีการดำเนินงานในวันที่ 1 มีนาคม 2568  ได้จัดพิธีทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ลแก่พนักงาน ลูกจ้างและผู้ที่ปฏิบัติงาน โดยมีนาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีทำบุญ พร้อมด้วนหัวหน้าส่วนราชการ สายการบิน ผู้ประกอบการ ตลอดจนผู้บริหาร และพนักงานลูกจ้างท่าอากาศยานเชียงใหม่ เข้าร่วมพิธี อย่างพร้อมเพรียง สะท้อนถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญของภูมิภาค ณ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานเชียงโหม่

นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่เป็นท่าอากาศยาน 1 ใน 6 แห่ง ภายใต้การกำกับดูแลของ ทอท.ได้รับโอนกิจการจากกรมการบินพาณิชย์มาอยู่ในความดูแลของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2531 และได้กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ โดยปัจจุบันรองรับผู้โดยสารมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี และมีเส้นทางบินเชื่อมต่อทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสายการบินชั้นนำที่ให้บริการอย่างต่อเนื่อง 

ปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่ให้บริการเส้นทางการบินระหว่างประเทศ 21 เส้นทาง ให้บริการโดย 24 สายการบิน และให้บริการเส้นทางการบินภายในประเทศ 11 เส้นทาง ให้บริการโดย 6 สายการบิน ซึ่งสายการบินน้องใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเริ่มให้บริการในวันที่ 27 มีนาคม 2568 คือสายการบินเฉิงตูแอร์ไลน์ ทำการบินเส้นทาง เฉิงตู-เชียงใหม่-เฉิงตู และมีสายการบินจากตะวันออกกลางอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาต เพื่อทำการบินในช่วงปลายปีนี้ 

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 ท่าอากาศยานเชียงใหม่มีผลการดำเนินงานที่สะท้อนถึงการฟื้นตัวและเติบโตของภาคการบินและการท่องเที่ยว จำนวนเที่ยวบินพาณิชย์ 59,493 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 6.88  จำนวนผู้โดยสาร 9,082,071 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 10.43 ปริมาณสินค้า 5,478,134 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 4.23 

และเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ท่าอากาศยานเชียงใหม่มีแผนพัฒนาขยายศักยภาพการรองรับผู้โดยสารให้เพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคนต่อปี โดยมีการดำเนินโครงการพัฒนาใน 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1: เพิ่มขีดความสามารถจาก 8.5 ล้านคนต่อปี เป็น 16.5 ล้านคนต่อปี ระยะที่ 2: ขยายเพิ่มเป็น 20 ล้านคนต่อปี

ในส่วนของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาระยะที่ 1 ควบคู่กับการดำเนินการโครงการศึกษาและจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ : แผนพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่  

โดยโครงการพัฒนาไม่เพียงมุ่งเน้นด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังให้ความสำคัญกับอัตลักษณ์ล้านนา การพัฒนาการให้บริการ และความสะดวกสบายของผู้โดยสาร รวมถึงการรองรับระบบขนส่งมวลชน เช่น โครงการรถไฟฟ้า และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านจราจรบริเวณโดยรอบ 

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า “ตลอด 37 ปีที่ผ่านมา ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นกลไกหนึ่งในการส่งเสริม สนับสนุน ผลักดันให้มีการเจริญเติบโตในทุกมิติของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาสนามบินให้ทันสมัย สะดวกสบาย และปลอดภัย รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบิน และส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน"

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ยังมีแผนพัฒนาต่อเนื่องในอนาคต โดยมุ่งเน้นการขยายอาคารผู้โดยสาร การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และมาตรการเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้พลังงานสะอาดและการลดการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ เพื่อให้สนามบินเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่เคียงข้างกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคที่พร้อมรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวในระดับสากล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top