Saturday, 19 April 2025
ต่างด้าว

ปล่อยทำกันเป็นขบวนการแบบเกลื่อนโซเชียล 'นายหน้าขนแรงงาน-สายรายงาน-เจ้าหน้าที่'

เอย่า เคยรายงานเรื่อง VIP Pass ที่คนพม่าอยากมาไทยจ่ายแค่หลักพัน แล้วสามารถผ่าน ตม. มาได้แบบไม่ต้องมีหลักฐานการจองโรงแรม ไม่ต้องสำแดงเงิน แถมนายหน้าบางคนนี่ ยังช่วยนำรูปถ่ายของผู้ใช้บริการในเครือข่ายตน มาโพสต์บนสื่อโซเชียลตัวเอง ว่ามีรถกอล์ฟรับจากด้านในออกมาด้านนอกเลย VIP ... ระดับนี้ขนาด Elite card ยังทำไม่ได้!!

การกระทำเช่นนี้ ไม่สามารถทำคนเดียวได้ หากไม่มีคนของการท่าอากาศยานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งจนถึงวันนี้ ก็ไม่มีคำตอบจากการท่าอากาศยานออกมาสักที

นอกจากนี้ เชื่อไหมว่าในสื่อโซเชียลของนายหน้าชาวเมียนมา ถึงขั้นมีการประกาศอย่างโจ๋งครึ่มด้วย ว่าสามารถรับขนคนจากย่างกุ้ง, เมียวดี, ท่าขี้เหล็ก มากรุงเทพฯ ได้อย่างปลอดภัย 

อยากถามหน่อยว่าเข้ามาได้อย่างไร? ตม. สามารถปล่อยให้เข้ามาได้ง่ายขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรือ? รึว่ามีผู้มีอิทธิพลหรือข้าราชการชายแดนใดได้ผลประโยชน์ร่วมกับนายหน้าเหล่านี้ จึงง่ายดายเสียขนาดนั้น

ที่เด็ดกว่า คือ มีโพสต์หนึ่งที่ถูกแขวนประกาศบนเพจมองพม่า (LOOK Myanmar) ว่ามีคนไทยรายหนึ่งสามารถพิมพ์ภาษาพม่าได้ เป็นสายคอยแจ้งข่าวคราวความเคลื่อนไหวในการออกพื้นที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยระบุวันไว้อย่างละเอียด พร้อมแจ้งให้คนพม่าที่เข้าเมืองอย่างไม่ถูกต้อง อย่าออกมาค้าขายให้เก็บตัวอยู่ในบ้านในช่วงเวลาดังกล่าวเสียด้วย

ดังที่ทราบกันว่า ตอนนี้มีคนต่างด้าวที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายในไทยมากขึ้น ทั้งทางช่องทางธรรมชาติและผ่านการใช้วีซ่าแล้ว Overstay เมื่อวีซ่าขาด หลายคนมาแบบใช้วีซ่าท่องเที่ยวที่จะอยู่ไทยได้ 60 วัน และ Extend visa ต่อได้อีก 30 วัน เพื่อหางานและให้ได้ Work permit ในช่วงเวลาดังกล่าว 

ที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยแล้ว และก็คงได้แต่คอยตั้งคำถามว่า ทางการไทยไม่ทำงานประสานกันเลยอย่างนั้นหรือ?

ไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน คงไม่มีใครทำร้าย ทำลายชาติตนเองได้เท่ากับคนในชาติดังปรากฏให้เห็นในประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว 

เอย่า ไม่ได้จะกล่าวโทษว่าการมีคนต่างด้าวหรือต่างชาติเข้ามาทำงานพัฒนาประเทศเป็นสิ่งไม่ดี แต่การเข้ามาที่ไม่ถูกต้อง ... ย้ำทุกครั้งว่า 'ไม่ถูกต้อง' จะนำพาซึ่งปัญหามากมาย ทั้งอาชญากรรม รวมถึงแก๊งสเตอร์ ระดับที่ว่า มีชาวพม่าผู้ยิ่งใหญ่ในสมุทรสาคร สามารถปิดซอยจัดงานเลี้ยงวันเกิดลูกกันได้เลยทีเดียว...

ฉะนั้น ยาเสพติด ลักขโมย และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย คงไม่ต้องให้บรรยายแล้วเนาะ...

อย่าถูกชะตา 'แรงงานข้ามชาติ' จากค่าจ้างแสนถูก เพราะ 'โปรไฟล์ขั้นเทพในราคาย่อมเยา' ไม่มีอยู่จริง

เมื่อก่อนหน้าไม่นานมานี้นัก มีข่าวครึกโครมเรื่องที่แรงงานพม่า โปรไฟล์สวยหรู เรียนจบปริญญาด้านวิศวกรรมศาสตร์ แต่ขอเรียกเงินเดือนแค่ 12,000 บาท ทั้ง ๆ ที่เคยทำงานโปรเจกต์สร้างตึก Yoma Central ตึกขนาดใหญ่ย่านใจกลางกรุงย่างกุ้งมาแล้ว  

วันนี้ เอย่า จะมาวิเคราะห์ และบอกกล่าวอีกด้านหนึ่งให้ทราบกัน รวมถึงสิ่งที่ต้องรู้ต้องเตรียมตัว หากจะรับพนักงานต่างชาติมาให้ทราบโดยทั่วกัน

การจ้างลูกจ้างต่างชาติที่ไม่ใช่แรงงานในไทย มีข้อปฏิบัติที่บริษัทในไทยต้องคำนึงอยู่ไม่น้อย โดยจะขอแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มกิจการเพื่อให้ง่ายต่อการอธิบาย...

1. บริษัทที่จดทะเบียนเป็น BOI หรือ ส่งเสริมการลงทุน ซึ่งกลุ่มนี้จะมีข้อกำหนดในการที่จะรับคนต่างชาติเข้าทำงานชัดเจนคือ...

• บริษัทที่จะรับคนต่างชาติต้องเป็นกิจการที่อยู่ในขั้นตอนขอรับการส่งเสริมฯ หรือได้รับบัตรส่งเสริมฯ แล้ว 
• คนต่างชาติที่จะรับต้องเป็นช่างฝีมือหรือผู้ชำนาญการ 
• มีเหตุผลและความจำเป็นต้องจ้างทำงานในกิจการ BOI

• คนต่างชาติที่จะทำงานต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว คือ Non-B ประเภทธุรกิจ หรือ Non-IB ประเภทการลงทุนภายใต้กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมลงทุน โดยชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานกับบริษัทใน BOI ต้องมีอายุ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์ในข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้...

>> ประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 2 ปี ในกรณีที่วุฒิการศึกษาตรงกับตำแหน่งงานในระดับทั่วไป และมีอายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี นับถึงวันที่ยื่นบรรจุตัว

>> ประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 5 ปี ในกรณีที่วุฒิการศึกษาไม่ตรงกับตำแหน่งงาน หรือในกรณีที่มีตำแหน่งในระดับผู้จัดการ และมีอายุไม่ต่ำกว่า 27 ปี นับถึงวันที่ยื่นบรรจุตัว

2. บริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนกับ BOI จะมีเงื่อนไขสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับหน่วยงานที่สามารถรับชาวต่างชาติเข้ามาทำงานได้ ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท และมีพนักงานคนไทย 4 คน ต่อพนักงานต่างชาติ 1 คน รวมถึงบริษัทจะต้องเป็นผู้ขออนุญาตทำ Work Permit ให้แก่พนักงานดังกล่าว รวมถึง Visa ที่จะต้องเปลี่ยนจาก Tourist Visa เป็น Non-B visa ที่สามารถพักอาศัยในไทยได้เป็นเวลา 1 ปี

กลับมาที่ประเด็นจั่วหัวเริ่มต้น ถามว่าทำไมคนเมียนมาโปรไฟล์ดี ๆ ถึงมาเรียกเงินเดือนไม่สูงในประเทศไทย?

เอย่า ขอหยิบยกสิ่งที่เป็นคำกล่าวจากชาวต่างชาติที่ประกอบธุรกิจในเมียนมาและสิ่งที่เป็นพื้นฐานการศึกษาของประเทศเมียนมาอธิบายเพื่อให้เข้าใจกัน ดังนี้...

1. ในแง่ของการศึกษาในเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ได้มีการฝึกงานจากสถานประกอบการก่อนเรียนจบ จะมีแค่เพียงการไปดูงานเท่านั้น ดังนั้นคุณภาพคนที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในเมียนมาส่วนใหญ่จะเก่งแต่วิชาการ แต่ไม่ใช่การปฏิบัติงานจริง หลายครั้งจากปากของผู้ประกอบการในเมียนมาเองกล่าวว่า คนเมียนมาเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งที่ดี แต่ไม่สามารถ Generate job หรือ Problem solving ได้ในกรณีที่เกิดปัญหา ฉะนั้นในหลายบริษัทใหญ่ ๆ ในเมียนมา จึงมีการจ้างชาวต่างชาติเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาจุดนี้

2. คนเมียนมามีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษดีกว่าคนไทย เพราะตามประสบการณ์แล้ว คนเมียนมาส่วนใหญ่จะต้องทำงานใกล้ชิดกับชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็น ยุโรป, อเมริกา, อินเดีย, จีน หรือไทยเองก็ตาม และภาษาอังกฤษก็ถือว่าเป็นภาษากลางที่ใช้ในการสื่อสาร ยกเว้นในบางบริษัทที่ลงทุนจ้างล่ามมาเพื่อช่วยในการสื่อสารระหว่างระดับปฏิบัติการกับผู้บริหารระดับกลางที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้

3. โปรเจกต์ใหญ่ ๆ ในเมียนมานั้น คนเมียนมาส่วนใหญ่คือ ระดับปฏิบัติการหรือตรวจหน้างานเท่านั้น ส่วนคนที่อนุมัติแบบ ตัดสินใจโปรเจกต์และลงนามตรวจรับงาน ถ้าไม่ใช่คนเมียนมาที่มีดีกรีจบจากต่างประเทศมาก็จะเป็นชาวต่างชาติไปเลย

ในปัจจุบันชาวเมียนมาที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี จะหนีเข้ามาในประเทศไทยทางเครื่องบิน โดยถือวีซ่าท่องเที่ยว หรือ วีซ่าเพื่อการศึกษา เข้ามาในประเทศไทย หลังจากนั้นคนเหล่านี้ก็พยายามที่จะเข้าหางานในไทย เพื่อปรับสถานะวีซ่าของตนจากวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่าการศึกษามาเป็น 'วีซ่าทำงาน' เพื่อให้อยู่ในไทยได้อย่างปกติสุข 

นี่ไม่รวมถึงสวัสดิการอื่นที่จะได้จากบริษัท ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคม ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต รวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนะ!!

เอาจริง ๆ เอย่า คงไม่สามารถปิดกั้นบริษัทใด ๆ ไม่ให้รับคนกลุ่มนี้มาทำงาน แต่อย่าลืมว่าการที่บริษัทใด ๆ บริษัทหนึ่งที่คิดจะลงทุนจ้างชาวต่างชาติเข้ามาทำงานให้ ก็มักจะมีหลายความคาดหวังที่บริษัทต้องการ โดยเฉพาะเรื่องของความคาดหวังในผลงานจากพนักงานคนนั้น ๆ

เอย่า ก็แค่อยากบอกให้คิดและตรึกตรองให้ดี ยิ่งกับเรื่องวีซ่าที่คนเหล่านี้ถือก่อนรับเข้ามาทำงาน หากเป็นกลุ่มที่มีครอบครัวอยู่ในไทย บริษัทจ้างคนกลุ่มนี้ไว้ก็คงไม่เดือดร้อนแน่นอน เพราะพวกที่มีครอบครัวในประเทศไทยเขาไม่ได้เดือดร้อนในการไม่มีที่อยู่ที่อาศัย แต่ถ้าเป็นวีซ่าอื่น ๆ หากเขาอยู่เกินข้อกำหนดของวีซ่าเขาก็ต้องกลับและเดินทางกลับมาใหม่หรือไม่ก็หนีเป็นผีน้อยในไทยในที่สุด

สุดท้ายอย่าลืมว่าหลายอาชีพเป็นอาชีพต้องห้ามที่ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติทำ ไม่ว่าจะเป็นงานเสมียนหรือเลขานุการ, งานมัคคุเทศก์, งานให้บริการทางกฎหมายหรืออรรถคดี ยกเว้นงานปฏิบัติหน้าที่อนุญาโตตุลาการและงานให้ความช่วยเหลือหรือทำการแทนในการดำเนินกระบวนพิจารณา ชั้นอนุญาโตตุลาการ ในกรณีที่กฎหมาย ซึ่งใช้บังคับแก่ข้อพิพาทที่พิจารณาโดยอนุญาโตตุลาการนั้นมิใช่กฎหมายไทย

ส่วนงานที่ให้คนต่างด้าวทำ โดยมีเงื่อนไขที่ให้คนต่างด้าวทำงานได้ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ หรือพันธกรณีที่ประเทศไทยมีความผูกพันภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย คือ งานให้บริการทางบัญชี, งานวิชาชีพในสาขาวิศวกรรม และงานทางสถาปัตยกรรม ซึ่งทั้ง 3 งานนี้คนต่างด้าวหรือต่างชาติที่จะทำ ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ หรือยกเว้นเป็นผู้ประกอบวิชาชีพดังกล่าวตามข้อตกลงยอมรับร่วมคุณสมบัตินักวิชาชีพของอาเซียน หรือ ASEAN Sectoral Mutual Recognition Arrangement (MRAs) ซึ่งมีหลักเกณฑ์แยกย่อยไปอีก (หากใครอยากทราบลองไปหาข้อมูลกันดูนะคะ)

อยากเลือกต่างชาติมาทำงาน ก็เลือกคนที่ทำถูกกฎหมาย จงมองความซื่อสัตย์ของพนักงาน ไม่ใช่มองแค่ค่าจ้างที่ถูกแสนถูกเพียงอย่างเดียว

เพราะในโลกนี้ไม่มีของดีราคาถูกหรอกค่ะ

เปิดวลีล่าสุดของฝ่ายฟอกขาวต่างด้าวพม่า เพื่อสร้างความชอบธรรมให้อยู่ต่อ ทั้งที่นานวันคนกลุ่มนี้ มีแต่ทวีการกระทำที่ผิดกฎหมาย กระทบเจ้าของประเทศ

- กองทัพพม่าจ้างอินฟลูไทยสร้างความเกลียดชังเพื่อส่งคนพม่ากลับไปเป็นทหาร?
- แรงงานพม่าสร้างชาติไทย?

เชื่อไหมคะว่าครั้งแรกที่ เอย่า ได้ยินประโยคและคำเหล่านี้ก็เฉย ๆ แต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มมีเสียงอื้ออึงกับคำ ๆ เดิมนี้ที่หนาหูมากขึ้น จนต้องขอใช้พื้นที่ในฐานะสื่อมาชี้แจงทำความเข้าใจกันสักหน่อย

ตอนนี้มี 2 ประโยคในหมู่พวกคนพม่าที่เป็นคนใช้แรงงานพูดกันแทบจะเรียกว่าออกมาจากบล็อกแม่พิมพ์เดียวกันเลยก็ได้

ประโยคแรกที่หนาหูตามโซเชียลคือ 'แรงงานพม่า - สร้างชาติไทย' คือ คนไทยเราต้องการแรงงานจริงไหม คำตอบคือ จริงค่ะ แต่เราไม่เคยระบุนะว่า เราต้องการแรงงานพม่า เราต้องการแรงงานประเทศไหนก็ได้ที่ ขยัน อดทน ไม่ขี้เกียจและไม่สร้างปัญหา ดังนั้นควรทำความเข้าใจก่อนนะ

ส่วนอีกประโยคหนึ่งที่มาไม่นานนี้แต่เริ่มหนาหูมากขึ้นคือ มีการกล่าวอ้างว่า 'กองทัพเมียนมาจ้างเพจไทยที่สนับสนุนกองทัพสร้างความเกลียดชังระหว่างคนไทยกับคนพม่าในไทย เพื่อหวังส่งคนพม่ากลับไปเป็นทหารในเมียนมา'  

ข้อนี้ เอย่า ขอเป็นคนอธิบายให้ทราบกันดีกว่านะคะ

1. ถ้าเพจหลายเพจถูกจัดตั้งหรือจัดจ้างมาจริง จะมี Key Word มาให้คะ เพื่อให้เพจที่รับงานมาพยายามโปรโมต Key Word นี้ จนเป็นคนที่เสพเอาไปพูดต่อ 

ไม่ต้องคำว่าอะไรเลย แค่คำว่า 'พม่าสร้างชาติ' เนี่ย เป็นตัวอย่างที่ดีเลย โดยการนี้เชื่อว่ามีกลุ่มบางกลุ่มหนุนหลัง เพราะลำพังแรงงานพม่าไม่มาคิดเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ จากที่เราอยู่กับเขามาหลายสิบปี เรารู้ว่าคนเหล่านี้คิดอะไร

2. ตามที่เพจหลายเพจเริ่มออกมาส่งเสียง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพม่าเข้าเมืองผิดกฎหมายก็ดี พม่าทำอาชีพสงวนก็ดี พม่าออกไปชุมนุมในที่สาธารณะโดยไม่ได้ขออนุญาตทางการก็ดี หรือล่าสุดเรื่องหนุ่มพม่าบางบอน แม้หลายเพจจะพยายามออกมาแก้ต่าง แต่ถามว่า ถ้าเขาไม่ผิดจะมามอบตัวกับตำรวจทำไมคะ ก็เหมือนกับคนพม่าที่ฆ่าชาวต่างชาติที่พัทยาแล้วหนีไปมอบตัวกับ ตม. ขอให้ส่งกลับนั่นแหละ ไม่ต่างกัน  

เอาเป็นว่าทั้งหมดทั้งมวล มาจากการทำผิดกฎหมายในประเทศไทยทั้งนั้น พอโดนเขาแฉ โดนส่งกลับ อินฟลูฯ สายคุณก็รีบงับสร้างความชอบว่าเป็นเหยื่อ ถูกกระทำ เอาใหม่นะคะ!! คนที่ถูกกระทำคือ คนไทยและคนบริสุทธิ์ที่อยู่ในประเทศไทยค่ะ 

3. เรื่องเอาไปเป็นทหาร เรื่องนี้ เอย่า ไม่ทราบว่าจริงไหมนะ แต่เอย่ามีข้อมูลจากที่ไปคุยกับเพื่อนที่เป็นทหารมา เขาบอกว่า คนเป็นทหารไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ นะ ถ้าไม่มีใจ ให้ปืน ให้อาวุธไป คนพวกนี้ก็เอาไปให้ศัตรูหมด 

จากจุดนี้ถามว่าระหว่างคนกับปืนในพม่าอะไรมีค่ามากกว่ากัน? 

ข้อนี้ เอย่า ขอยกคำกล่าวพี่ทหารกะเหรี่ยงคนหนึ่งให้ฟังว่า ในกะเหรี่ยงนี่ ชีวิตคนมีค่าถูกกว่ากระสุนปืน ดังนั้นจึงมีคลิปหลุดออกมาอย่างเช่น PDF ที่หนีออกจากค่ายถูกฆ่าปาดคอ เพราะกระสุนปืนมันแพงกว่าชีวิตของ PDF พวกนี้ไงละคะ  

ฉะนั้น เอย่า คิดว่าในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครเอาคนที่ไม่มีใจจะไปรบ ไปเป็นทหารหรอกค่ะ ไหนจะเปลืองค่าฝึก ค่าข้าว และสุดท้ายอาวุธที่เอาให้ไปรบก็จะไปอยู่ในมือศัตรูได้อย่างง่ายดายด้วยเช่นกัน 

4. สภาพการณ์ในเมียนมาปัจจุบันนี้ ไม่ได้มีเงินถุงเงินไทย ถ้าใครเสพข่าวฝั่งเมียนมาจะรู้ว่าสภาพการณ์ในเมียนมา ณ วันนี้เริ่มเหมือน Failure State คือ ขาดแคลนเงินคงคลังภาครัฐ 

ถามว่าถ้าผู้นำอย่าง มินอ่องหล่าย จะจ่ายค่า IO ให้อินฟลูฯ ไทยจริง ต้องจ่ายกันเท่าไร เอาเป็นว่าเท่าที่แอดรู้คือ IO ของอดีตพรรคการเมืองที่เพิ่งถูกยุบพรรคไป มีเงินเข้ามานับล้านบาทต่อเดือน คิดว่ารัฐบาลเมียนมามีปัญญาจ่ายไหม ถ้าเขาจะทำเรื่องนี้จริง เขาทำไปตั้งแต่เขายึดอำนาจแล้ว ไม่รอมาทำจนมีวลีว่าจ้างอินฟลูฯ ไทยให้ฝั่งไทยจับพวกพม่าที่หลบหนีเข้าเมืองส่งกลับพม่าหรอก

5. สุดท้ายการเข้าเมืองผิดกฎหมาย มันเป็นความผิดระหว่างประเทศอยู่แล้ว การที่ทางการไทยจับคนเข้าเมืองผิดกฎหมายและผลักดันกลับประเทศนั้นไม่ได้ทำแค่ฝั่งพม่าอย่างเดียว ลาว, กัมพูชา รวมถึงประเทศอื่น ๆ ก็ทำ มันคือหน้าที่ของตำรวจไทย รวมถึงการที่ต่างด้าวทำผิดกฎหมายไทย และคำว่าต่างด้าวก็ไม่ใช่แค่ พม่า, ลาว หรือ กัมพูชา แต่รวมถึงทุกชาติที่ไม่ใช่คนไทย

การที่อินฟลูฯ สายต่อต้านกองทัพเมียนมาที่อยู่ดี ๆ ก็ออกมาสร้างวาทกรรมนี้ ถามว่าพวกคุณนับสิบเพจคิดออกพร้อม ๆ กันได้เลยเหรอ ขนาดอินฟลูฯ สายสนับสนุน เขายังไม่ได้ออกมาโจมตีประเด็นเดียวพร้อม ๆ กันเลย 

เอาที่ เอย่า ดูเหมือนแต่ละเพจ แต่ละคน ก็จะมีประเด็นแตกต่างกันไป ซึ่งแตกต่างจากฝ่ายต่อต้านที่ออกมารับลูกประเด็นเดียวกัน แบบนี้ใครควรถูกเรียกว่า IO ดีคะ

สุดท้ายก็คงต้องฝากทางการไทยในการสอดส่องดูแลนะคะ ว่าสุดท้ายรัฐบาลจะแคร์อะไรระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มเปราะบาง หรือคนส่วนใหญ่ในประเทศไทยที่จะได้รับผลกระทบจากคนเหล่านี้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

'ต่างด้าว' ผุดศูนย์การเรียนรู้ในไทยเพียบ หวั่น!! สอนคนต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย

(9 ก.ย. 67) ล่าสุดไม่นานมานี้ เอย่า ได้รับข้อมูลจากหลากหลายทางถึงการเปิดศูนย์การเรียนรู้ในไทยอย่างโจ่งครึ่ม ทั้งที่ในประเทศไทยมีนโยบายให้เรียนฟรี แม้จะเป็นเด็กต่างชาติก็ตาม

แต่ทว่าก็ยังมีการเปิดศูนย์การเรียนรู้ โดยให้การศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่เป็นไปตามหลักสูตรการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการไทยกำหนด รวมถึงการฝึกงานฝึกอาชีพ เพื่อรองรับงานที่ไม่ได้เป็นไปตามข้อกำหนดของแรงงานต่างด้าวให้เข้ามาฝึกอาชีพด้วยเช่นกัน

แต่ก่อนอื่น เราควรมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ศูนย์การเรียนรู้ในไทย ต่างจากโรงเรียนอย่างไร  

ศูนย์การเรียนรู้ หมายถึง การจัดพื้นที่การเรียนทางกายภาพ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถควบคุมการเรียนด้วยตนเองเป็นรายบุคคล หรือผู้เรียนในกลุ่มเล็ก ตามงานที่โปรแกรมกำหนดให้ โดยจัดเป็นคูหาหรือโต๊ะ และมีสื่อการเรียนในรูปแบบสื่อประสม ช่วยในการเรียนรู้โดยมีครูผู้สอนคอยแนะนำ  

โดยตามกฎหมายแล้วระบุไว้ว่า "ศูนย์การเรียนรู้ คือ สถานที่เรียนที่องค์กรชุมชนหรือเอกชนจัดตั้งขึ้นเพื่อจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยไม่แสวงหากำไร แต่การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยสามารถจัดการเรียนการศึกษานอกระบบได้ตามอัธยาศัยตามที่ศูนย์การเรียนรู้นั้น ๆ พัฒนาขึ้น แต่จะต้องยึดหลักคือ มุ่งเรียนรู้จากสถานที่จริง เป็นแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่หรือภูมิปัญญาท้องถิ่น"

แน่นอนว่าข้อกำหนดดังกล่าวนี้ เป็นการกำหนดกรอบกว้าง ๆ เพื่อให้ภาคเอกชนที่มีเจตจำนงที่ดีในการที่จะมอบความรู้ได้อย่างอิสระ มามอบความรู้ให้แก่ผู้สนใจ โดยใช้บ้านหรือพื้นที่ตนเองเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้หรือโรงเรียนปราชญ์ชาวบ้าน นั่นเอง

แต่ในปัจจุบัน ด้วยช่องโหว่ของกฎกระทรวงและความเพิกเฉยของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือก็มิอาจทราบได้ ทำให้มีกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้บัตรประชาชนไทยมาเปิดสมาคม-มูลนิธิ เพื่อใช้เป็นแหล่งพักเงินและใช้เงินเหล่านี้ในการเปิดศูนย์การเรียนรู้ที่จะเรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนของคนต่างด้าวที่สอนด้วยระบบของประเทศนั้น ๆ อย่างเป็นล่ำเป็นสัน 

เอย่า ทราบมาว่า ตอนนี้มีการเปิดศูนย์การเรียนรู้ในแม่สอด และอำเภอตามตะเข็บชายแดนนับร้อยศูนย์ โดยโรงเรียนเหล่านั้นไม่ได้สอนหนังสือตามแผนการศึกษาของไทยด้วยซ้ำ จนอดสงสัยไม่ได้ว่า สำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาอนุมัติให้เปิดมาได้อย่างไร  

และเช่นกัน ก็มีรายงานอีกว่า ในมหาชัยเองและรวมถึงในหลายเขตในกรุงเทพมหานครนั้น ก็มีศูนย์การเรียนรู้แบบนี้มากมาย และสอนด้วยครูที่หลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูด้วย อีกทั้งไม่ได้สอนในหลักสูตรของไทยอีกต่างหาก  

ที่สำคัญ!! เขาสอนอะไร? เขาปลูกฝังอะไรให้คนของเขาในประเทศไทย? และไม่มีใคร-หน่วยงานไหนไปประเมินเลยหรือ? รึว่าต้องการรายงานปีละครั้งจากศูนย์การเรียนรู้ตามที่กฎกระทรวงระบุไว้ก็พอ

หลังการรัฐประหารมีรายงานว่า กลุ่มผู้อพยพเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และเหล่าสมาคม มูลนิธีที่เป็น NGO เหล่านี้ ก็ตีอกชกปีก ตั้งตัวรับคนเหล่านี้มาทำงาน ตรงนี้ถามว่าผิดกฎหมายไทยหรือไม่? เห็นแล้วก็ไม่ค่อยแปลกใจเลยว่า ทำไมองค์กรเหล่านี้ถึงพยายามจะให้สิทธิ์คนต่างด้าวลืมตาอ้าปากได้แทนที่จะผลักดันให้กลับประเทศ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ประการสำคัญ ก็เป็นผลจากการที่เราไม่เคยเข้าไปตรวจสอบศูนย์การเรียนรู้เหล่านี้ และหากวันใดวันหนึ่งคนเหล่านี้จะลุกฮือขึ้นมายึดดินแดนไทยหรือเรียกร้องขอแบ่งแยกดินแดน แบ่งแยกการปกครอง ก็คงไม่แปลกนัก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในอดีตที่ไม่เคยมีใครกำกับดูแลก็มีให้เห็นมาแล้วว่า จนประเทศไทยต้องเสียชีวิต ทรัพยากรมากมายแค่ไหนกับการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทุกวันนี้ประเทศไทยให้โอกาสการศึกษาขั้นพื้นฐานแก่เด็กทุกชาติพันธุ์ให้ได้เรียนฟรีอยู่แล้ว ฉะนั้นคำถามคือ ณ วันนี้ เราควรต้องหันมาจัดการกำกับดูแลศูนย์การเรียนรู้พวกนี้ได้หรือยัง รวมถึงมองไปถึงกลุ่มมูลนิธิ สมาคม NGO ที่ให้การสนับสนุนว่ามีเส้นทางเงินมาจากไหน อีกทั้งกำกับดูแลการเรียนการสอนเพื่อให้ศูนย์การเรียนรู้ที่เปิดมีคุณภาพและเพื่อคนไทยหรือคนที่ต้องการจะอยู่ในไทยจริง ๆ 

ไม่ใช่โรงเรียนต่างแดนของคนพลัดถิ่นหรือที่ซ่องสุมเพื่อใช้ฟอกขาวในการเป็นคนไทยในอนาคต

10 เหตุผล ที่บางพรรคพยายามหนุน 'เมียนมา' ให้มาอยู่ไทย แต่ทำไมไม่สนับสนุน 'ลาว' หรือ 'กัมพูชา' สักเท่าไร

(18 ก.ย. 67) หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมกลุ่มพรรคการเมืองบางพรรครวมถึงกลุ่ม NGO บางกลุ่มในไทย พยายามผลักดันผู้อพยพชาวเมียนมาให้มาอยู่ในไทยได้ แต่ทำไมไม่สนับสนุนลาวหรือกัมพูชาบ้าง วันนี้ เอย่า จะมาวิเคราะห์ให้ทราบกัน...

1. เครือข่ายเดียวกัน เราจะพบว่าผู้อพยพส่วนใหญ่คือ กลุ่มสามกีบพม่าที่เกลียดรัฐบาลทหาร ซึ่งคนพวกนี้จะสนับสนุนรัฐบาล NUG ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากตะวันตกเช่นเดียวกับ NGO และพรรคการเมืองบางพรรคที่น่าสงสัยว่ามีกลุ่มชาติตะวันตกให้การสนับสนุน

2. ถ้าเปรียบเทียบคนต่างด้าวที่มาอยู่ก่อนจะพบว่า คนพม่ามีประวัติดี มีจิตใจดี ขยัน ซื่อสัตย์อดทน ไม่เรียกร้องเหมือนลาวกับกัมพูชา

3. มีเครือข่ายสมาคม ชมรมในไทยที่เป็นคนชาติเดียวกันหรือชาติพันธุ์เดียวกัน พร้อมช่วยเหลือกันอย่างลับ ๆ พร้อมกับมีฝ่ายกฎหมายที่พร้อมจะโจมตีผู้เห็นต่าง

4. มีพวกพ้องไม่ใช่เฉพาะแรงงาน แต่รวมไปถึงเศรษฐีและผู้ประกอบการ

5. ประเทศไทยเป็นแหล่งพักเงินและจัดหาสิ่งต่าง ๆ สำหรับส่งให้ฝ่ายต่อต้านง่าย ทั้งเสบียงและอาวุธ

6. ในกลุ่มโซเชียลคนพม่าเองบอกว่า ข้าราชการไทยชอบเงิน ซื้อได้ทุกคน ขอแค่มีเงินจ่าย

7. ประเทศไทยเดินทางสะดวก ทั้งที่พม่าและประเทศอื่น หากกรณีจะออกไปต่อประเทศที่ 3

8. คนไทยอะไรก็ได้ คนไหนเคยผิดกฎหมายบ้านเมืองตัวเอง แต่หากทำดีกับคนไทยในชุมชนนั้น ๆ คนไทยก็พร้อมจะมองข้ามและปกป้องด้วยอีกต่างหาก

9. ประเทศไทยเปลี่ยนกฎหมายง่าย เมื่อเปลี่ยนผู้นำและมีนโยบายต่อคนต่างด้าวเป็นมิตร

10. คนไทยไม่สนใจอดีต แม้จะเคยเป็นต่างด้าวมาก่อน ก็สามารถรับราชการใหญ่โตในไทยได้ ทำให้คนที่แม้จะได้สัญชาติไทย แต่จิตใจยังเป็นชาติพันธุ์ จึงพยายามผลักดันให้กลุ่มชาติพันธุ์มีบทบาทมากกว่าคนไทย

เริ่มปิดไม่มิด!! กลิ่นโชย 'ต่างด้าวผิดกฎหมาย' คลุ้ง มุ้งการเมืองเริ่มสะกิด ติดตรงเก้าอี้ใหญ่เอาไงต่อ

(19 ก.ย. 67) ปัญหาชาวต่างชาติแย่งงานคนไทยดูจะไม่ใช่ปัญหาเล่น ๆ เสียแล้ว เพราะเท่าที่เห็นผ่านสายตา ก็มีดาวดังประจำสภาอย่างน้อย 2 คน หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาถกแบบยกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น 'กอล์ฟ-ศาสตรา ศรีปาน' ผู้แทนของคนหาดใหญ่ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ กับ 'ไอซ์-รัชนก ศรีนอก' สาวเสื้อส้มตัวแทนคนบางบอน 

ศาสตรา เขย่าเรื่องนี้ โดยยกเอาเรื่องต่างชาติแย่งงานคนไทย และต่างชาติแปลงร่างเป็นนายทุนมาหารือในรัฐสภาแล้วหลายครั้ง เพราะปัญหาดังกล่าวผุดขึ้นในพื้นที่หาดใหญ่เอง โดยมีชาวต่างชาติประกอบอาชีพต้องห้ามหลายอาชีพ รวมไปถึงในเชียงใหม่, ภูเก็ต และเมืองท่องเที่ยวอีกหลายเมืองที่มีชาวต่างชาติแปลงร่างเป็นนายทุนเจ้าของกิจการหลายกิจการ 

เรื่องน่าห่วงที่ผู้แทนหาดใหญ่จากรวมไทยสร้างชาติ คนนี้กลัวและมักจะทิ้งท้ายให้รัฐบาลเปิดรับฟังเยอะ ๆ เพราะเริ่มเห็นช่องการดึงเงินออกนอกประเทศแบบ 100% จากต่างชาติเหล่านี้ คล้าย ๆ กับกรณีที่เกิดขึ้นแล้วแบบทัวร์ศูนย์เหรียญ ก็ต้องดูว่าจะมีประกาศิตจากรัฐบาลที่เริ่มเจอเสียงกดดันดังขึ้นแค่ไหน...

ข้ามมาฟากบางบอน 'ไอซ์ รัชนก' ออกลูกอึ้ง!! หลังเจอพม่าครองแผงตลาดบางบอน พร้อมจี้ให้รัฐบังคับใช้กฎหมาย-เก็บภาษีให้คุ้มนั้น ก็ต้องบอกว่างวดนี้น้องไอซ์ออกเชิงสวนกระแส สส.พรรคส้มเขตปทุมวัน ที่รายนั้นดอดออกตัวปกป้องคนต่างชาติบางประเทศ จนถูกประชาชนโซเชียล ติดแฮชแท็ก #พรรคประชาชนพม่า #สสพรรคประชาชนพม่า 

จะว่าไปแล้ว กระแสต่างด้าวสาวไส้ไปสักคืบ ก็จะพบว่า มีประเด็นที่ถูกจุดติดมาจาก AYA IRRAWADEE หนึ่งในคอลัมนิสต์ของ THE STATES TIMES ที่กัดไม่ปล่อยกับขบวนการต่างด้าวยึดบางกอก ซึ่งว่ากันว่า พอลอกคราบออกมาแล้ว มีเลือดสีส้มเจือปนอยยู่ในระดับอนุบาล พาลกระทบไปถึงคนทำงานในหน่วยงานภาคราชการต้องร้อน ๆ หนาว ๆ 

แน่นอนว่า 'ข้าของประชาชน' ตัวจริง ที่รู้ข่าวก็ใช่ว่าจะเงียบกริบ โดยล่าสุดหนึ่งในข้าราชการประจำของกรุงเทพมหานคร อย่าง 'อุ๊-วรชล ถาวรพงษ์' ผู้อำนวยการเขตบางกอกน้อย ก็ขยับตัวออกมาตรวจสอบเขตพื้นที่ต่าง ๆ เอง โดยเฉพาะตลาดวังหลัง ซึ่งผลคือพบ 'คนต่างด้าว-ต่างชาติ' ทั้งมีบัตรและไม่มีบัตรเดินขายของกันว่อน แถมคนพวกนี้ยังมีการอัปเดตผลงานให้แฟนคลับติดตามชมเป็นระยะ ๆ ใน Tiktok เสียด้วย...

ย้อนไปอีกนิดกับ 'อุ๊-วรชล' ถือเป็นข้าราชการฝีมือดีคนหนึ่ง ที่มักจะขยับตัวได้อย่างรวดเร็วเวลาเกิดประเด็นดรามาต่าง ๆ ในสังคม ครั้นตั้งแต่การเริ่มแจกผ้าอนามัยฟรีที่เขตบางขุนเทียน / 'แคมเปญคุณกั๊กเราเก็บ' ที่ไล่จัดการกับการกั๊กที่จอดรถหน้าบ้าน รวมถึงจัดการปัญหาหาบเร่โบ๊เบ๊ที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และล่าสุดก็กับต่างด้าวบางกอกน้อย 

สุดท้าย มีตัวเลขมาฝากให้คิดตามจาก 'กรมการจัดหางาน' กระทรวงแรงงาน ที่ได้รายงานผลปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบ จับกุม และดำเนินคดีนายจ้าง/สถานประกอบการ และคนต่างชาติ ที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมายระหว่างวันที่ 5 มิถุนายน - 11 กรกฎาคม 2567 รวม 36 วัน

โดยมีการเข้าตรวจสอบสถานประกอบการที่จ้างแรงงานข้ามชาติทั่วประเทศ 8,776 แห่ง ดำเนินคดีแล้ว 280 แห่ง และตรวจสอบพบคนต่างชาติ จำนวน 108,875 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 80,913 คน, กัมพูชา 16,507 คน, ลาว 7,804 คน, เวียดนาม 104 คน และสัญชาติอื่น ๆ 3,547 คน ซึ่งในนี้มีการดำเนินคดีทั้งสิ้น 726 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 473 คน กัมพูชา 74 คน ลาว 101 คน เวียดนาม 14 คน และสัญชาติอื่น ๆ 64 คน

นี่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นของแรงงานต่างชาติที่ถูกตรวจตราในช่วงครึ่งปี ยังไม่นับก่อนหน้าที่มีอยู่อีกเท่าไรต่อเท่าไรที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยโดยไม่เคารพกฎหมายและอยู่ภายใต้กรอบแรงงานต่างชาติ เช่น ใบอนุญาตทำงานถูกต้อง และทำงานตามสิทธิ (ทำได้-ทำไม่ได้) ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เพื่อให้สามารถทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แบบไม่ต้องหลบซ่อนและได้รับการคุ้มครองตามสิทธิที่พึงมี

ก่อนไทยแลนด์จะกลายเป็นแดนต่างด้าว...จะรัฐบาลหรือจะใคร หากรีบโชว์พาวไว ๆ กระแสเลือดรักชาติอาจเทให้กระจุยเชียวนะ...ทำเป็นเล่น!!

เดินหน้าคัดสำมะโนครัว ขจัดกลุ่มต่อต้าน แยกเมียนมา 'น้ำดี-น้ำเสีย' ไทยต้องรับมือ 'พายุไร้สัญชาติ' ให้ดี มีกลุ่มหนุนที่ต้องรีบกำราบ

ดูเหมือนการที่ NGO ฝั่งไทยและบางพรรคที่พยายามหาเรื่องเข้าช่วยชาวเมียนมาที่อพยพเข้ามาอยู่ในไทยแบบโจ่งแจ้ง จะกลายเป็นการเสริมแรงให้แผนของฝั่งกองทัพเมียนมาที่กำลังจะมีการสำรวจสำมะโนประชากรในเดือนหน้า เพื่อคัดแยกคนในชาติตัวจริง ดูจะยิ่งเป็นสิ่งเข้าล็อกยิ่งขึ้น

เพราะมุม เอย่า คาดว่า การทำสำมะโนประชากรครั้งนี้ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของกองทัพเมียนมาที่จะแยก 'น้ำดี-น้ำเสีย' แบบจริงจัง พูดง่าย ๆ ก็คือ ฝั่งกองทัพฯ เองก็คงจะถือโอกาสนี้กรองจำนวนผู้ไม่รักชอบในกองทัพเมียนมา และตีตราให้เมียนมาชังทหาร กลายเป็นพวกไร้สัญชาติ จนต้องบีบตนเองให้เผ่นหนีออกนอกประเทศไปเอง

ขยายภาพให้...หลังจากที่กองทัพฯ ทำการสำรวจสำมะโนประชากรเสร็จ จะเกิดภาพแบบไหนขึ้น? ตรงนี้ เอย่า เชื่อว่า ทางการจะเริ่มกำหนดให้ว่า ใครคือ คนเมียนมาที่แท้จริง แล้วมีอยู่เท่าจำนวนที่เขาสำรวจหรือไม่ เพื่อจะเตรียมตัวไปสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป ส่วนเศษที่เหลือจะไม่นับว่าเป็นชาวเมียนมา และความซวยของคนกลุ่มหลัง ก็คือ พาสปอร์ตของคนเหล่านั้นจะต้องหมดอายุลง โดยที่คนเหล่านี้จะไม่สามารถดำเนินการต่ออายุพาสปอร์ตได้อีกต่อไปด้วย

แน่นอนว่า เรื่องนี้เหมือนพวก NGO พม่าในไทยและ NGO ไทยจะรู้ดี จึงพยายามเปิดทางให้ พายุไร้สัญชาติเหล่านี้เข้ามาในอยู่ระบบของประเทศไทย ซึ่งหากไทยตามเกมไม่ทันแล้วล่ะก็ คนเหล่านี้จะค่อย ๆ กลายร่างเป็นประชากรไทยในอนาคตได้ไม่ยาก ผ่านเครื่องมือที่เลื่องลืออย่าง 'ไทยแลนด์คอร์รัปชัน' 

และ ๆ ๆ การคอร์รัปชันนี้ จะเป็นผลดีต่อพรรคการเมืองบางพรรคที่มีแผนการบางอย่างต่อการดึงมวลชนเมียนมาเข้าไทย ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ที่เริ่มเบิกเนตรคงจะเริ่มทราบจุดประสงค์กันดี เพราะมีหลักฐานมากมายที่ 'คน-พรรค' นี้ ไปร่วมกิจกรรมกับเหล่าผู้อพยพและชาติพันธุ์อยู่บ่อยหน

อย่างไรก็ดี ก็ไม่ต้องไปกลัวชาวเมียนมาไร้สัญชาติจนเกินเหตุ เพราะไทยจะเอาจริงก็จัดการได้ เพียงแต่เรื่องนี้ เอย่า แค่อยากมาช่วยกระตุกให้ท่านผู้มีอำนาจในบ้านเมืองวันนี้ ตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นไว้เท่านั้น ซึ่งพวกท่านสามารถที่จะช่วยป้องกันแก้ไขสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อยู่แล้ว

วิเคราะห์ต่ออีกนิด หากการเลือกตั้งในเมียนมาเกิดขึ้นได้แบบสำเร็จลุล่วง เอย่า เชื่อว่าประเด็นหลาย ๆ อย่างในเมียนมาจะเบาลง แต่กลุ่มชาวเมียนมาไร้สัญชาติที่อยู่นอกประเทศตัวเอง จะทวีความเคลื่อนไหวแบบรุนแรง เพื่อหาทางมอบสัญชาติให้ตัวเอง ซึ่งถ้าไทยเล่นไม้แข็งก็จบเห่ ไอ้ครั้นจะหนีไปยุโรปก็ยาก เพราะขณะนี้ยุโรปต่างก็ออกนโยบายไม่เอาผู้อพยพลี้ภัยถ้วนหน้าแล้ว 

ฉะนั้น จุดนี้คงจะเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่ เอย่า แค่อยากมากระตุ้นรัฐบาลและผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทยให้ช่วยหาทางจัดการกับคนพวกนี้ไว้แต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่าปล่อยให้บรรดา NGO และพรรคการเมืองหนึ่งที่พยายามดิ้นรนแบบสุดลิ่ม กรุยทางลากคนไร้สัญชาติเข้ามาล้นแผ่นดินสยาม 

เพราะฐานคนไร้สัญชาติ ที่พร้อมกลายเป็นสัญชาติไทยเหล่านี้ อาจเขย่าอำนาจการเมืองและความมั่นคงของไทยในระยะยาวได้ ถึงตอนนั้นไม่รู้ด้วย...

‘สาวนิวยอร์ก’ นั่งเครื่องครึ่งโลกมาไทยกว่า 18 ชม. เพียงเพื่อให้ได้พบ ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปแคระสุดน่ารัก

'หมูเด้ง' ฟีเวอร์ของแท้ ‘มอลลี สวินดัลล์’ สาวชาวรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ อดทนนั่งเครื่องบินจากนิวยอร์กมาไทยกว่า 18 ชั่วโมง เพื่อมาหา 'หมูเด้ง' แถมซื้อของที่ระลึกเสื้อผ้าหมูเด้งไปใส่ด้วย

กลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล เมื่อ 'มอลลี สวินดัลล์' สาวชาวรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เดินทางไกลกว่า 12,800 กิโลเมตร หรือมากกว่า 18 ชั่วโมง มายังสวนสัตว์เปิดเขาเขียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดและบ้านของหมูเด้ง ฮิปโปแคระสุดน่ารักที่กำลังขโมยหัวใจของคนทั่วโลก

สำหรับ สวินดัลล์ เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่โด่งดังมาจากการเผยคลิปวิดีโอในฐานะแฟนคลับตัวยงของเทเลอร์ สวิฟต์ โดยได้ระบุในช่องติ๊กต็อกของเธอว่า เธอตัดสินใจบินจากนิวยอร์กไปกรุงเทพฯ ในนาทีสุดท้ายเพื่อพบกับหมูเด้ง "ดิว่าสาวในตำนานอย่างหมูเด้ง ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะพบเธอ"

อย่าโทษสายตา ‘คนไทย’ ที่มอง ‘เมียนมา’ เปลี่ยนไป ชี้!! หลายพฤติกรรม และ คำพูด ล้วนบั่นทอนความเป็นมิตร

(3 ต.ค. 67) ช่วงนี้โซเชียลเน็ตเวิร์กชาวเมียนมาหลายคนออกมาร้องไห้กันว่าถูกคนไทยมองด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ในขณะที่หลายคนเริ่มจะกลัวที่จะออกไปเดินตลาด หรือ เดินทางไปไหนมาไหน เพราะเจ้าหน้าที่เคร่งครัด และตรวจสอบคนต่างด้าวกันมากขึ้น

จากที่เอย่าให้ทีมงานในไทยไปสังเกตการณ์ตามตลาดที่เคยเป็นแหล่งที่มีชาวเมียนมาพลุกพล่าน ก็พบว่ามีคนเมียนมาบางตาไปจริงๆ ส่วนหนึ่งเพราะกลัว และไม่มีความรู้ ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งนั้น คือ คนที่เข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง

คงจะมาว่าต่อว่าคนไทยไม่ได้ เพราะเอย่า ย้ำเสมอว่า ประเทศไทยให้โอกาสคนต่างด้าวเสมอ เพียงแต่ต้องอยู่ และกระทำตัวให้เหมาะสมกับการที่เข้ามาอาศัยในต่างบ้านต่างเมือง

จากการที่มีคลิปออกตามโซเชียลที่ผ่านมา ตั้งแต่มีชาวต่างด้าวเข้าชุมนุมทางการเมืองขับไล่ผู้นำไทยในรัฐบาลก่อนก็ดี หรือการไปชุมนุมตามที่สาธารณะก็ดี หรือการออกคลิปตามโซเชียลที่กระทำ หรือพูดอะไรที่ไม่เป็นไปตามครรลองของประเทศไทย นั่นคือ ชนวนที่เป็นระเบิดเวลาทำลายความเชื่อมั่นของคนไทยที่มีต่อคนต่างด้าวในไทย

ยิ่งด้วยสภาพเศรษฐกิจในไทยทุกวันนี้ด้วยแล้ว คนไทยหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกต่างด้าวแย่งงานแย่งอาชีพคงไม่ได้รู้สึกยินดีที่คนเหล่านั้นมาได้ดีในประเทศไทย

และดูเหมือนว่าคนพม่าที่อยู่ในเมียนมาก็ไม่ได้แยแสกับคนเมียนมาที่อยู่ในไทยเช่นกัน หลายคนกล่าวว่าก็เลือกจะไปเองก็ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ เอย่าก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวเมียนมาที่เข้ามาอย่างถูกต้องไม่ต้องกลัว หากเรามีเอกสารสามารถสำแดงตัวตนว่าเราเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องเจ้าหน้าที่ก็คงจับเราไม่ได้ ส่วนเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจของคนไทยก็คงต้องอาศัยเวลา และอัธยาศัยของคนเมียนมาที่มีน้ำใจไมตรีค่อย ๆ เปลี่ยนภาพลักษณ์ และมุมมองของคนไทยที่มีต่อชาวเมียนมานั้นขอให้อดทน

องค์การสวนสัตว์ฯ เปิดตัวบัตรสมาชิก ‘สโมสรผู้รักสวนสัตว์’ ลายใหม่ หมูเด้งสุดน่ารัก ราคา 2,999 บาท สิทธิประโยชน์ติดบัตรเพียบ

(8 ต.ค. 67) องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ZPOT) เผยแพร่บัตรสมาชิก "สโมสรผู้รักสวนสัตว์แห่งประเทศไทย" ลายใหม่ "หมูเด้ง" รายได้นำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์ในสวนสัตว์ทุกแห่ง ราคาใบละ 2,999 บาท อายุบัตร 2 ปี เข้าชมสวนสัตว์ฟรีพร้อมกัน 5 คน และที่จอดรถฟรี 1 คัน

จากกระแสความนิยมของ "หมูเด้ง" ฮิปโปแคระที่กลายเป็นขวัญใจชาวเน็ตทั้งไทยและต่างประเทศ ล่าสุดวันนี้ (8 ต.ค.) เฟซบุ๊ก "องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ - ZPOT"

ได้เผยแพร่บัตรสมาชิก "สโมสรผู้รักสวนสัตว์แห่งประเทศไทย" หรือ Zoo Lovers Society ลายใหม่ "Moo Deng" เพื่อนำรายได้ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์ในสวนสัตว์ทุกแห่งในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ฯ ได้แก่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา สวนสัตว์อุบลราชธานี สวนสัตว์ขอนแก่น โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ และสวนสัตว์ที่จะเปิดให้บริการในอนาคตโดยบัตรสมาชิกสโมสรผู้รักสวนสัตว์ ราคาใบละ 2,999 บาท บัตรมีอายุ 2 ปี 

สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกสโมสร ได้แก่ มีสิทธิ์ผ่านประตูสวนสัตว์ภายใต้สังกัด ฟรี ทั้ง 6 แห่ง (สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา สวนสัตว์อุบลราชธานี สวนสัตว์ขอนแก่น) ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ระยะเวลา 2 ปี 

เข้าชมสวนสัตว์ได้พร้อมกัน 5 ท่าน รวมเจ้าของบัตร เปลี่ยนผู้ติดตามได้ และฟรีค่าธรรมเนียมจอดรถ 1 คัน โดยเงื่อนไข เจ้าของบัตรสมาชิกสโมสรฯ ต้องมาด้วยทุกครั้ง พร้อมแสดงบัตรประชาชนควบคู่ทุกครั้ง บัตรนี้ไม่สามารถเปลี่ยนมือเจ้าของบัตรได้

สำหรับผู้สนใจสมัครสมาชิกได้ด้วยตัวเอง ณ สำนักงานสโมสรฯ ขององค์การสวนสัตว์ ตามวันและเวลาราชการ วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. หรืออินบ็อกซ์ข้อความให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ โดยแจ้งชื่อ นามสกุล (ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่สำหรับจัดส่งบัตรสมาชิก ที่เฟซบุ๊กเพจ "องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ - ZPOT" และสามารถซื้อมอบเป็นของขวัญได้ โดยแจ้งระบุชื่อผู้ถือบัตรอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top