Monday, 21 April 2025
ตำรวจภูธรภาค5

ตำรวจภูธรภาค 5 จัดงาน 'มวยไทย ตำรวจไทย มรดกไทย' ประจำปี 2566

ตำรวจภูธรภาค 5 กำหนดจัดงานตามโครงการ 'มวยไทย ตำรวจไทย มรดกไทย' ประจำปี 2566 ในวันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. ณ ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่  โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เป็นประธาน ร่วมกับ พล.ต.ต.นักรบ หลิ่มวิรัตน์ ผบก.ศฝร.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว บัญชาเมฆ)  ได้ดำเนินการตาม 'โครงการมวยไทย ตำรวจไทย มรดกไทย' ของตำรวจภูธรภาค 5 ประจำปี 2566

โดยโครงการนี้ได้ใช้กำลังนักเรียนนายสิบตำรวจจำนวน 700 นาย เป็นผู้ฝึกซ้อมผ่านการถ่ายทอดจากครูมวยจากค่ายมวยบัญชาเมฆ โดยการควบคุมของ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว บัญชาเมฆ) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าเสือ 'พระบิดาแห่งมวยไทย' อันเป็นศิลปะการป้องกันตัวและการต่อสู้ประจำชาติที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และเป็น soft power ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล  เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของ 'แม่ไม้มวยไทย' อันเป็นมรดกทางภูมิปัญญา สืบสานมวยไทย เป็นมรดกไทย มรดกโลก ให้แพร่หลาย 

เชียงใหม่- ตำรวจภูธรภาค 5 จัดการฝึกอบรมหัวข้อ 'การป้องกันและรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม' ให้กับข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการในสังกัด ภ.5 ส่วนกลาง

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 เวลา 15.00 -16.30 น. พล.ต.ต.ไพศาล  ลือสมบูรณ์  รอง ผบช.ภ.5 เป็นประธานในการกล่าวให้โอวาทแก่ข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการในสังกัดกองบังคับการอำนวยการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค 5 รวมจำนวน 100 นาย ในการฝึกปฎิบัติและรับฟังการบรรยายในหัวข้อ "การป้องกันและรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม" โดย กภ. ธีรภัทร์ ทัศนศรีวรการ นักกายภาพบำบัด ศูนย์สุขภาพพร้อม คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นวิทยากร 

ในการนี้ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์  รอง ผบช.ภ.5 รอง ผบช.ภ.5 ได้กล่าวขอบคุณและมอบของที่ระลึกให้กับวิทยากร กภ. ธีรภัทร์ ทัศนศรีวรการ นักกายภาพบำบัด ศูนย์สุขภาพพร้อม คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งการบรรยายในครั้งนี้ได้รับคำชื่นชมจากข้าราชการตำรวจผู้เข้ารับการฝึกอบรมดังกล่าว โดยสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันในการป้องกันและรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมได้จริง ตลอดจนเป็นการเพิ่มพูนความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลรักษาสุขภาพของข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานฝ่ายอำนวยการ โดยได้มีการฝึกปฏิบัติประกอบการรับฟังบรรยายด้วย ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมีตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เชียงใหม่-ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าว " ยุทธการบุกบ้านอันธพาลเชียงใหม่ "

ตำรวจภูธรภาค 5  แถลงข่าวการจับกุมเยาวชนหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นป่วนเมือง ของ สภ.หางดง และการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่น(คลองแม่ข่า) ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ " ยุทธการบุกบ้านอันธพาลเชียงใหม่ "

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม 2567  เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.กฤตธาพล  ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,พล.ต.ต.วรพงศ์  คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ,รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ผกก.สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการตาม "ยุทธการบุกบ้านอันธพาลเชียงใหม่" พร้อมทั้งได้แถลงข่าวการจับกุมเยาวชนหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นป่วนเมืองของ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ และการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่น (คลองแม่ข่า) ของ สภ.เมืองเชียงใหม่จ.เชียงใหม่  ณ ห้องประชุมชั้น 3 สภ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

โดยมีรายละเอียดดังนี้
สรุปผลการจับกุมบุคคลต่างด้าว  “ยุทธการบุกบ้านอันธพาลเชียงใหม่”
ได้ปิดล้อมตรวจค้นหอพัก ในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่   จำนวน   6  แห่ง   ผลการปิดล้อมตรวจค้น ได้จับกุม ผู้กระทำความผิดบุคคลต่างด้าว   รวมจำนวน 27 คน  เป็นชาย 20 คน หญิง 7 คน  ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

สถานีตำรวจภูธรหางดง จังหวัดเชียงใหม่  จับกุมหัวหน้าแก๊ง SOHOT
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 สถานีตำรวจภูธรหางดง ได้รับแจ้งกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุคือ นายณัฐพงค์ หรือเฟรก คำแก้ว (หัวหน้าแก๊งค์ Sohot) ซึ่งนายณัฐพงค์หรือเฟรกฯ เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นมาแล้วหลายครั้ง และยังเคยใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้อื่น สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางดง  ได้ทำการสืบสวนติดตามไปถึงบริเวณบ้านพักของนายณัฐพงค์ หรือเฟรกฯ ที่บ้านเลขที่ 35/3 หมู่ที่ 11 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จว.เชียงใหม่ พบนายณัฐพงค์ หรือเฟรกฯ บริเวณบ้านพัก ลักษณะท่าทางมีพิรุธ รีบหลบเข้าไปในบ้านพัก จึงมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิด ประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนินช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ ทรัพย์สินนั้นจะถูกโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลาย หรือทำให้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจค้น นายณัฐพงค์ หรือเฟรกฯ ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น และเป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบกระสุนปืนลูกซองขนาด 12 จำนวน 2 นัด และปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 1 ปลอก ซุกซ่อนอยู่บริเวณในตู้เสื้อผ้า ชั้นบน ข้างที่นอนของนายณัฐพงค์ หรือเฟรกฯ สอบถามนายณัฐพงค์ หรือเฟรกฯ รับว่ากระสุนปืนและปลอกกระสุนปืนของกลางดังกล่าวเป็นของตน ยอมรับว่ากระสุนปืนดังกล่าวได้มาจากเพื่อนชื่อนายวุฒิ  ไม่ทราบชื่อ สกุลจริง บุคคลต่างด้าวเชื้อชาติไทยใหญ่ สัญชาติเมียนมา เมื่อประมาณ 1 เดือนเศษที่ผ่านมา จึงได้จับกุมตัวพร้อมของกลาง ดำเนินคดีในข้อหา มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน  สภ.หางดง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สภ.เมืองเชียงใหม่ จับกุมกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายผู้อื่น บริเวณคลองสะพานแม่ข่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 01.00 น. ได้มีกลุ่มวัยรุ่นชายจำนวน 6 คน รุมทำร้ายร่ายกายนายประวิทย์ฯ ซึ่งเป็นครูสอนมวย เป็นเหตุให้นายประวิทย์ฯ ได้รับบาดเจ็บ ตามที่ได้เผยแพร่ไปตามสื่อโซเชียล นั้นฃ

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2567 นายประวิทย์ ฯ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว จากนั้นชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายจำนวน 6 นายที่หลบหนีไป โดยสามารถติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้จำนวน 5 ราย หลบหนี  1 ราย  ดังนี้
1. นายอาหลู่ ไม่มีนามสกุล อายุ 18 ปี สัญชาติเมียนมาร์จับได้ที่บ้านพัก ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่
2. นายฉลอม ไม่มีนามสกุล อายุ 20 ปีสัญชาติเมียนมาร์จับได้ที่ริมถนนราชวิถี อ.ศรีภูมิ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
3. นายอาเล หลีจ๊ะ อายุ 18 ปี สัญชาติเมียนมาร์ จับได้ที่ริมถนนระแกง ซ.2 ใกล้คลองแม่ข่า
4. นายอาเบ ไม่มีนามสกุล อายุ 20 ปีสัญชาติเมียนมาร์จับได้ที่ริมถนนระแกง ซ.2 ใกล้คลองแม่ข่า
5. นายอาเล ไม่มีนามสกุล อายุ 18 ปีสัญชาติเมียนมาร์จับได้ที่ริมถนนระแกง ซ.2 ใกล้คลองแม่ข่า
6. นายอาส่า ไม่มีนามสกุล อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมาร์(หลบหนี)

โดยแจ้งข้อกล่าว “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 นาย เป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียรมาร์ ที่ลักลอบหลบหนีเข้ามายังประเทศไทยโดยใช้ช่องทางธรรมชาติและเข้ามาหาทำงานรับจ้างทั่วไปในตัวเมืองเชียงใหม่ ติดต่อกับกลุ่มบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาก่อนเพื่อขอทำงานและพักอาศัย ไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งและเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอยืนยันว่ามีความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชนและยังคงเน้นย้ำในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ทั้งนี้หากพบเห็นอาชญากรรมหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดโปรดแจ้ง 191 ตลอดเวลา 24ชั่วโมง หรือแจ้งผ่านไลน์ ผบช.ภ.๕ ไอดี @police5 

เชียงใหม่-ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมแก๊งวัยรุ่นก่อเหตุปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่น และการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ต่อเนื่องใน 5 พื้นที่

วันที่ 16 พ.ค.67 เวลา 11.00 น.พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวสมิตระกูล รอง ผบช.ภ.5, รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,รอง ผบก.สส.ภ.5, ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ และ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งวัยรุ่น จำนวน 3 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ และการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ต่อเนื่องใน  5  พื้นที่  ได้แก่ สภ.สันป่าตอง, หางดง, หนองตอง, ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ และ สภ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่  

โดยมีรายละเอียด ดังนี้
คดีที่ 1  คดีปล้นทรัพย์ ฯ ของ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์  จับกุมผู้ต้องหา 3 คน คือ นายอนุเดช หรือ บังพีท นายพลาธิป หรือออคิด และ ด.ช.น้ำหนึ่ง  โดยเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2567  เวลาประมาณ 05.30 น. นายกังสชิต ฯ และนายทักษ์ดนัย ผู้เสียหาย จำนวน 2 คน เล่นสเก็ตพื้นที่ของเอกชน อยู่ที่เขต ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่  ได้มีคนร้ายซึ่งเป็นชายวัยรุ่น จำนวน 3  คน ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาบริเวณลานสเก็ต หนึ่งในคนร้าย  ได้ใช้อาวุธมีดทำร้ายฟันผู้เสียหายบริเวณหน้าผาก  และทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทั้งสองได้รับบาดเจ็บ และคนร้ายได้หยิบทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เสียหายที่ไปประกอบด้วย บุหรีไฟฟ้า, บุหรี่ยี่ห้อ LM แดง จำนวน 1 ซอง, น้ำดื่มเอสรสลิ้นจี่ จำนวน 2 ขวด, แก้วเยติ  จำนวน 1 ใบ

ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.67 เวลาประมาณ 23.00 น. ได้ทำการสืบสวนทราบว่าคนร้ายทั้ง 3 คน คือ นายอนุเดช หรือ บังพีท นายพลาธิป หรือออคิด และ ด.ช.น้ำหนึ่ง  เจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงได้นำตัวนายพลาธิปฯ และ ด.ช.น้ำหนึ่ง ฯ มาซักถามปากคำ โดยทั้ง 2 ยอมรับว่าได้ร่วมกันกับนายอนุเดช หรือ บังพีท ก่อเหตุจริง ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค.67 ได้ทำการจับกุมตัวนายอนุเดช หรือบังพีช ตามหมายจับของ ศาลจังหวัดเชียงใหม่  พร้อมควบคุมตัวนายพลาธิป หรือออคิด และ ด.ช.น้ำหนึ่ง  มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 2 จับกุมตัวนายจักรกฤษ ฯ ภูมิลำเนา ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ จำนวน 5 ครั้ง ได้ทรัพย์สิน 1  ครั้ง เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2567 ในพื้นที่ สภ.หนองตอง ครั้งแรก ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีชมพู ไปก่อเหตุที่เขต สภ.สันป่าตอง ไม่ได้ทรัพย์สิน 
ครั้งที่สอง ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอฯ ไปก่อเหตุที่เขต สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ไม่ได้ทรัพย์สินไปแต่อย่างใด 

ครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2567 เวลาประมาณ 13.30น. ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ไปใช้ก่อเหตุ ในเขตพื้นที่ สภ.หนองตอง จ.เชียงใหม่ เมื่อ ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท นำไปขายที่ร้านทองจำชื่อ ภายในห้างในพื้นที่ ต.ช้างเผือก ในวันเดียวกับวันที่ก่อเหตุ 
ครั้งที่สี่ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 16.00น. ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำฯ ไปก่อเหตุในเขตพื้นที่ สภ.ช้างเผือกจ.เชียงใหม่ แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน 
ครั้งที่ห้า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 18.50น. ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำฯ ไปก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองลำพูน แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน 
รวมก่อเหตุทั้งหมด 5 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปเพียงครั้งเดียว คือ เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2567 ในพื้นที่ สภ.หนองตอง 

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอยืนยันว่ามีความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชนและยังคงเน้นย้ำในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ทั้งนี้หากพบเห็นอาชญากรรมหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดโปรดแจ้ง 191 ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง หรือแจ้งผ่านไลน์ ผบช.ภ.5 ไอดี @police5 

เชียงใหม่-ผบ.ตร.ขึ้นเหนือ แถลงจับคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 3 คดี รวมของกลางยาบ้า 13,980,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 เวลา 15.00 น. ตามนโยบายรัฐบาลให้หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ดุลเดชา  อาชวะสมิตระกูลรอง ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย , พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ,พล.ต.นิรันดร์ชัย  ทิพย์กาญจนกุล รอง ผบ.นบ.ยส.35 ,นายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติดภาค 5 , นายกองตรี ปิยะวุฒิ พิทักษ์บริบาล นายอำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง , พ.ต.อ.ชูวิทย์  กองแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง และ พ.ต.อ.รัชพล น้อยช่างคิด รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญของตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 3 คดี ที่ ลานสโมสรอินทนนท์ ตำรวจภูธรภาค 5  อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้สืบเนื่องผลมาจากการติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดของ นายป๋อลี หรือนายบุญชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด  ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายม้งในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา, อ.เทิง และ อ.พญาเม็งราย จว.เชียงราย เป็นแหล่งพื้นที่พักยาเสพติด เพื่อรอการลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ซึ่งตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการดำเนินการใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยีในการสืบสวน และระดมสรรพกำลังในการปฏิบัติ รวมถึงการประสานงานในรูปแบบการทำงานร่วมกันเป็นทีมงาน ระหว่างกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 และ ตำรวจภูธรจังหวัด ทั้ง 8 แห่งในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 รวมถึงการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงาน ณ ด่านตรวจ/จุดตรวจยาเสพติด โดยมีการนำระบบเทคโนโลยี AI และกล้องที่ติดตั้ง ในจุดต่าง ๆ มาร่วมในการวิเคราะห์ติดตามเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด รายละเอียดดังนี้

คดีที่ 1 ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยจะใช้รถยนต์ในการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และได้สั่งการให้ทำการสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์คันดังกล่าว ต่อมาวันที่ 13 ส.ค.67 พบรถยนต์คันที่กำหนดไว้เป็นเป้าหมายการสืบสวน จำนวน 3 คัน ได้ขับออกจากพื้นที่ จ.เชียงราย จึงได้เฝ้าติดตามโดยแบ่งหน้าที่ในการติดตามสะกดรอย จำนวน 3 ชุด ต่อมาวันที่ 14 ส.ค.67 เวลาประมาณ 23.54 น. รถยนต์เป้าหมาย รถนำคันที่ 1 ขับมาถึงด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกเพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย 

จึงได้ปล่อยรถยนต์คันดังกล่าวไป ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามรถยนต์อีก 2 คัน แจ้งว่ารถยนต์ทั้ง 2 คัน กลับรถที่จุดกลับรถ บ้านท่าชุม ก่อนถึงด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก ประมาณ 3 กม. จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบรถยนต์ทั้ง 2 คัน พบเป็นรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว จอดทิ้งไว้ที่บริเวณป่าข้างถนนพหลโยธิน บ้านท่าชุม ม.2 ต.พระบาทวังตวง ส่วนคนขับได้หลบหนีไป จึงทำการตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว

ผลการตรวจสอบพบกระสอบยาเสพติด(ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่ในแคป และท้ายกระบะ และรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา รถนำคันที่ 2 บริเวณข้างถนนพหลโยธิน บ้านท่าชุม ม.2 ต.พระบาทวังตวง จอดห่างกันประมาณ 1 กม. จึงได้ทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามรถนำคันที่ 1 จนสามารถจับกุมได้ที่บริเวณด่านตรวจแม่สลิด ต.แม่สลิด อ.บ้านตาก จ.ตาก จากนั้นได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมรถยนต์ของกลางทั้ง 3 คัน มาตรวจสอบโดยละเอียดที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก ผลการตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 25 กระสอบ รวมยาบ้าจำนวน 5,000,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก จ.ลำปาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และได้รับสั่งการให้ติดตามสืบสวนหาข่าว จนกระทั่ง เวลาประมาณ 04.00 น. ของวันเดียวกัน พบรถยนต์กระบะสี่ประตูมีโครงหลังคา ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน งย 4193 เชียงใหม่ ซึ่งมีลักษณะตรงกันกับที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ขับมาตามถนนสายหลังอำเภอ หมู่ 2 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย มุ่งหน้าไปทาง อ.เทิง จ.เชียงราย จึงได้ร่วมกันติดตามและสกัดกั้นรถยนต์คันดังกล่าวได้พบ นายวีรพล เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 17 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร และพบยาบ้า จำนวน 18 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ภายในหลังกระบะ รวมทั้งหมดจำนวน 35 กระสอบ รวมยาบ้าประมาณ 8,750,000 เม็ด จากนั้นจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ จ.
เชียงรายดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 13 ส.ค.67 เวลาประมาณ 19.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ทำการตรวจยึดยาเสพติที่ซุกช่อนอยู่ในพัสดุ ณ ศูนย์กระจายสินค้า Flash Express ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ - ลำปาง ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จำนวน 120,000 เม็ด ได้ทำการตรวจยึดไว้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากการตรวจสอบทราบว่ายังมีพัสดุหมายเลข TH650160022510 ที่มีผู้ส่งเป็นบุคคลคนเดียวกัน คือนายนิพนธ์ ที่อยู่ ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ถูกส่งไปยังปลายทางผู้รับชื่อนายฮาริส ที่อยู่ ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบพัสดุหมายเลขดังกล่าว อยู่ที่โกดัง Flash Express สาขาสันทราย จึงได้แจ้งแก่พนักงาน และขอทำการตรวจสอบผลการตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 110,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 แถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568

(2 เม.ย. 68) ตำรวจภูธรภาค 5 ระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และสืบสวนจับกุมกุมบุคคลตามหมายจับในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2568

วันอังคารที่ 1 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น.พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และสืบสวนจับกุมกุมบุคคลตามหมายจับ ในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2568 (ห้วงวันที่ 21-30 มี.ค.68) ดังนี้

1. การสืบสวนขยายผลปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้าอาวุธปืนออนไลน์ของ ภ.5 จำนวน  4 เครือข่าย
2. ผลการสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้ค้าอาวุธปืนออนไลน์ 4 เครือข่าย ในพื้นที่ ภ.5 จับกุมจำนวน 28 ราย 27 คนขยายผลในพื้นที่ ภ.2 จับกุมจำนวน 2  ราย 2 คน รวม 30  ราย 29 คน ของกลาง 21 รายการ
3.ผลระดมกวาดล้างอาวุธปืน On Ground ในพื้นที่ ภ.5 จับกุมจำนวน 356 ราย 334 คน ของกลาง 6 รายการ
4. สรุปผลระดมกวาดล้างอาวุธปืน Online และ On Ground ในพื้นที่ ภ.5 จับกุมจำนวน 61 คน
5. ผลการจับกุมบุคคลตามหมายจับ ทั้งหมด 1,409 หมาย แบ่งเป็นหมายจับ ตร. จำนวน 1,026 หมาย แยกเป็นหมายใน ภ.5 จำนวน 964 หมาย / นอก บช. 57 หมาย / หมายนอก 383 หมาย

โดยมี พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ ผกก.สภ.พื้นที่ ร่วมแถลงผลการจับกุม ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ชั้น 2 อาคารตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top