Tuesday, 22 April 2025
ดับปริศนา

‘สถานทูต’ พร้อมดูแล หลัง ‘คนไทย’ ดับในงาน Tomorrowland  เผย สาเหตุการเสียชีวิตยังไม่แน่ชัด อยู่ระหว่างการสืบสวน

เมื่อไม่นานมานี้ เทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ได้มีคนเสียชีวิตเพิ่มอีกแล้ว สำหรับเทศกาล Tomorrowland ที่จัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม โดยรายล่าสุดยืนยันว่าเป็นชายไทยอายุประมาณ 30 ปี

ตามรายงานจากผู้จัดคอนเสิร์ต เด็บบี เวล์มเซน รายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า ชายไทยอายุราว 30 ปี ได้หมดสติโดยมีเจ้าหน้าที่ช่วยกันปั๊มหัวใจในโซนวีไอพี ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และได้รับการยืนยันในเวลาต่อมาว่าเสียชีวิตขณะกำลังกู้ชีพที่โรงพยาบาล

อย่างไรก็ตามสาเหตุของการเสียชีวิตยังไม่ได้รับการเปิดเผย และยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตอยู่ในขณะนี้

ทางด้าน เวล์มเซน ได้ยืนยันว่าทางผู้จัดการได้พยายามอย่างดีที่สุดที่จะดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาร่วมงาน อย่างไรก็ตามทางทีมงานไม่สามารถควบคุมเรื่องของสภาพอากาศและการกระทำส่วนบุคคลได้

ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยว่าทีมงานวัย 26 ปี ได้เสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาดซึ่งเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเหตุการณ์ของชายไทย นอกจากนั้นเมื่อปี 2019 ชายชาวอินเดียวัย 27 ปี ก็เสียชีวิตในเทศกาลดนตรีนี้เช่นกันซึ่งสาเหตุครั้งนั้รเกิดจากการเสพยาเกินขนาด

โดยทีมผู้จัดงานได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวผู้สูญเสีย โดยยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ที่ผู้จัดงานไม่อยากให้เกิดขึ้น

ทางสถานทูตไทยในกรุงบรัสเซลล์ ได้เข้าดูแลเรื่องของการขันสูตรศพพร้อมประสานงานไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต เยื้องต้นทางสถานทูตยืนยันว่า ชายไมยรายนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับกรุ๊ปทัวร์ โดยไกด์ทัวร์จะเข้าพบกับทางสถานทูตในวันที่ 31 ก.ค. เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม

‘ตำรวจ’ เข้าตรวจ รร.ดัง หลังชาวเวียดนามเสียชีวิต 6 ราย พบ ‘ขวดสแตนเลส’ 2 ใบ เร่งตรวจสอบอย่างละเอียด

เมื่อวานนี้ (16 ก.ค. 67) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. ได้แถลงรายละเอียดเหตุพบศพนักท่องเที่ยว ชาวเวียดนาม 6 ศพ ในโรงแรมหรู

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่โรงแรม ได้เข้าไปทำความสะอาดห้องพักบริเวณชั้น 5 โดยห้องที่เกิดเหตุต้องทำการเช็กเอาท์ในช่วงบ่าย แต่ไม่ได้เช็กเอาท์จึงทำการตรวจสอบ และพบผู้เสียชีวิต จึงมาแจ้งผู้บริหาร และ สน.ลุมพินี หลังจากนั้น ทีมฝ่ายสอบสวนเข้ามา สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เข้ามา

โดยพบศพผู้เสียชีวิต 6 คน ในโซนรับแขก 4 คน ห้องนอน 2 คน เป็นเพศชาย 3 คน เพศหญิง 3 คน โดยทั้งหมด เดินทางมาเช็กอินที่โรงแรมไม่พร้อมกัน เดินทางมาวันที่ 13 ก.ค. 1 ชุด และวันที่ 14 ก.ค. อีก 1 ชุด พักอยู่ที่ชั้น 7 ของโรงแรม 4 ห้อง และชั้น 5 อีก 1 ห้อง ทั้งหมด 5 ห้อง แจ้งการจองมา 7 คน แต่เช็กอิน 5 คน แต่พบศพ 6 ราย ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบว่าข้อมูลตรงกัน 5 ราย แต่พบ 6 ราย จากการตรวจที่เกิดเหตุ 4 ห้องในชั้น 7 ต้องเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมเมื่อวานตอนบ่าย โดยได้มีการเก็บกระเป๋าไปรวมไว้ที่ห้องชั้น 5 มีการเดินทางออกไป เพราะบุคคลที่นัดหมายมารับนั้น ไม่พบตัว และทางโรงแรมในเบื้องต้นให้ข้อมูลว่าไม่มีการชำระค่าใช้จ่าย

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่าเชื่อว่าทั้ง 6 คนเสียชีวิตเวลาประมาณ 13.53 น. เพราะเมนูอาหารที่สั่ง มีลักษณะเป็นอาหารจานเดียว 6 จานวางอยู่ในห้องรับแขก และมีถ้วยเครื่องดื่มลักษณะคล้ายการผสมเครื่องดื่มอีก 6 ถ้วย วางอยู่ที่จัดเตรียม 5 ถ้วย และอยู่บนโต๊ะ 1 ถ้วย และมีเศษตกค้างบนถ้วย ทาง พฐ. ได้เก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว ตรงกับผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย

โดยเบื้องต้นไม่พบร่องรอย การชิงทรพย์รื้อค้น ไม่พบบาดแผลที่ปรากฏชัดเจน และข้าวของยังอยู่เป็นปกติ เมื่อแม่บ้านเข้าไปตรวจดูพบว่าประตูถูกล็อกจากด้านใน ซึ่งต้องเข้าไปทางประตูหลังไปเปิด โดยขณะนี้ฝ่ายสืบสวน ตำรวจนครบาล สตม. สรุปแนวทางที่สอดคล้องกัน ได้แก่

1.ต้องตรวจสอบบุคคลที่ 7 ก่อนว่าเดินทางเข้ามาจริงหรือไม่

2.เก็บรายละเอียดทั้งหมดของบุคคลทั้ง 6 คน ผ่านทางสถานทูตและข้อมูลโซเชียลต่าง ๆ ที่ลงทะเบียนไว้

3.หากบุคคลที่ 7 ไม่มี ต้องหามูลเหตุจูงใจในครั้งนี้

กระเป๋าทั้งหมดที่อยู่ในห้องได้ประสานไปทางสถานทูตร่วมกับตำรวจนครบาล 5 ไปทำการพิสูจน์ร่วมกัน ว่าในกระเป๋ามีอะไรเป็นวัตถุพยานหรือพยานหลักฐานในครั้งนี้ได้ บ่งบอกว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้อง ตอนนี้คือทั้งหมดไม่ได้ทำร้ายตัวเองแต่ถูกคนอื่นทำให้เสียชีวิต

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวต่ออีกว่า ผู้เสียชีวิต เป็นคนเชื้อสายเวียดนามทั้งหมด แต่มีสัญชาติอเมริกาอยู่ในนั้น 2 ราย โดยห้องพักชั้น 7 เปิดเช็กอินวันที่ 13 ก.ค. แต่ห้องพักชั้น 5 เปิดเช็กอินวันที่ 14 ก.ค. ซึ่งทั้งหมดจะเช็กเอาท์ในวันที่ 15 ก.ค. ทั้งหมด อาหารที่พบในห้องเป็นอาหารไทย และยังไม่มีการรับประทาน ซึ่งเราจะเก็บสิ่งของทุกชิ้นภายในห้องไปตรวจสอบ พร้อมระบุอีกว่า เครื่องดื่มภายในแก้วถูกดื่มทั้งหมด และจากการตรวจสอบในห้องน้ำพบกระปุกชาที่ถูกซื้อมา ลักษณะคล้ายชาอู่หลง พร้อมน้ำเกลือแร่ 1 ขวด น้ำเปล่า 1 ขวด และทั้งสามชิ้นถูกเปิดใช้แล้ว ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน จะนำไปพิสูจน์อีกครั้ง เพราะเสียชีวิตเกิน 24 ชั่วโมง โดยลักษณะสภาพผู้เสียชีวิตไม่มีบาดแผล มีรายเดียวที่มีบาดแผลบนใบหน้าโดยสันนิษฐานว่าน่าจะล้มฟาดโดนวัสดุแข็ง ไม่ถูกทำร้าย

เมื่อถามว่าภายใน 24 ชั่วโมงมีใครเข้าออกในพื้นที่เกิดเหตุหรือไม่ พลตำรวจโทธิติ ระบุว่า ตอนนี้กำลังไล่ดู ตั้งแต่ลงเครื่องบิน กำลังดำเนินการอยู่ แต่ในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบริเวณนี้ แล้วจะทำไทม์ไลน์ทั้งหมดนำมาสรุปอีกครั้ง และต้องรอผลการตรวจกระเป๋าของผู้ตายทั้ง 6 คน ที่ สน.ลุมพินี ส่วนรายละเอียดทั้งหมด ผบ.สพฐ. จะเป็นคนดูแลเพราะเราจำกัดพื้นที่ทั้งหมดในการเข้าที่เกิดเหตุ เราไม่ได้ตั้งประเด็นว่าเขาถูกวางยา แต่มีบุคคลคนหนึ่ง ประสงค์ที่ทำร้ายชีวิตร่างกาย แต่โดยวิธีการใดนั้น นิติวิทยาศาสตร์จะเป็นคนบอก พร้อมด้วยพยานหลักฐานมาเชื่อมโยงกัน หากสอดคล้องกันก็จะตอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และยืนยันว่าไม่มีการประทุษร้าย อีกทั้งจากการตรวจสอบมีบุคคลหนึ่งพยายามเข้ามาที่ประตู แต่มาไม่ถึง เพราะล้มอยู่หน้าประตู 2 ราย เป็นเพศชาย 1 ราย และเป็นเพศหญิง 1 ราย

ส่วนการเปิดประตู เดี๋ยวจะมีการสอบปากคำแม่บ้านอีกครั้ง โดยโซนชั้น 5 เป็นพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งจะมีห้องที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ และก็มีความเป็นไปได้ที่จะใช้เส้นทางนี้ในการหลบหนี แต่ต้องดูต่อว่าทางที่จะเดินมายังลิฟต์มีกี่ทาง โดยมีทางเดียว มิเช่นนั้นต้องกระโดดลงมา ตอนนี้เรากำลังตามหาบุคคลที่ 7 เพราะตัวเลขไม่ตรงกันกับที่เช็กอินไว้ 

ดังนั้นถ้ามาด้วยกันก็ต้องมี ข้อมูลในการเดินทางเข้าประเทศ ที่นั่ง สายการบิน ต้องดูว่าเดินทางเข้ามาจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้เรายังไม่ตัดประเด็น ต้องมีคำตอบนี้ให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากไม่มี ไม่มีเพราะอะไร และขณะนี้ให้ทางสถานทูตตรวจสอบว่าทำอาชีพอะไรและมีจุดประสงค์อะไรในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย พร้อมสอบปากคำพนักงานที่เข้ามาเสิร์ฟอาหารว่าเห็นความผิดปกติไม่

โดยพบว่าในที่เกิดเหตุมีวัตถุต้องสงสัยสองชิ้น เป็นวัตถุสแตนเลสสองขวด ซึ่งไม่ใช่วัตถุของทางโรงแรม แต่ปรากฏอยู่ในห้อง โดยยังไม่ได้ตรวจสอบเครื่องดื่มด้านใน และจากรูปถ่าย เล็บมือเล็บเท้าของผู้เสียชีวิต มีลักษณะดำคล้ำแต่อาจเกิดจากสาเหตุการเสียชีวิตมาประมาณ 24 ชั่วโมง โดยการชันสูตรพลิกศพครั้งนี้ส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่ปิด และขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีใครติดต่อกับผู้เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 13 ถึง 14 ก.ค. หรือไม่ ตอนนี้ต้องขอสอบปากคำแม่บ้านก่อน หากมีข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาก็ส่งมา

ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ใน 6 ศพเป็น make up artist ชื่อดังของเวียดนาม ทราบชื่อ ‘phu Gia gia’

'เศรษฐา' ยัน!! ท่องเที่ยวไม่กระทบ ปมสลดเวียดนามดับ 6 ราย เหตุ!! เป็นเรื่องภายในกลุ่มผู้ตาย ไม่สะเทือนความมั่นคงในไทย

(17 ก.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเหตุชาวเวียดนามเสียชีวิต 6 ศพ ในโรงแรมย่านราชประสงค์ ข้อเท็จจริงเป็นการฆ่าตัวตายหรือเป็นการฆาตกรรม ว่า สรุปจริง ๆ แล้วยังต้องคอยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ หรือโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่ผ่าพิสูจน์ศพอยู่ แต่จากการสันนิษฐานเบื้องต้นเป็นเรื่องภายในกันเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องของการปล้นทรัพย์ หรือเกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในของเราก็ไม่เกี่ยว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบกับการท่องเที่ยวใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เกี่ยว

เมื่อถามว่า ทราบว่านายกฯ ได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตเวียดนามแล้ว นายเศรษฐา กล่าวว่า ใช่ครับ เพราะท่านทราบ ท่านก็มาและตนเองก็ไปด้วย จะได้พูดคุยกันได้ อันนี้เป็นเหตุผลหลักที่เดินทางไป ทั้งนี้ให้ความมั่นใจว่าเราให้ความเป็นธรรมทุกอย่าง อย่างน้อยถ้าเกิดว่าข้อมูลเบื้องต้นบอกมาว่าเป็นอย่างไรเราจะได้แจ้งให้เขาทราบ เพื่อเขาจะได้รายงานให้ญาติพี่น้องของเขาทราบ ไม่อยากให้พี่น้องกังวล จะได้เคลียร์ไปทีละเปราะ ๆ ไป

เมื่อถามว่า เบื้องต้นนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาเมืองไทยประจำหรือเพิ่งมาครั้งแรก นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวขอให้ทางตำรวจเป็นคนบอกดีกว่า เพราะเวียดนามกับไทยพื้นที่ใกล้เคียงกัน เหมือนเราไปสิงคโปร์หรือไปฮ่องกง อย่าเพิ่งไปอะไร รอให้ทางตำรวจแถลงข่าวโดยรวมดีกว่า อย่าจับเอาจุดเล็ก ๆ แล้วไปต่อกันเอง จะทำให้เกิดความสับสน

เมื่อถามว่าเห็นทางตำรวจ สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ลงไปในพื้นที่ด้วยตรงนี้เขาห่วงเรื่องอะไร นายกฯ กล่าวว่า เป็นธรรมดา เพราะมีคนสัญชาติอเมริกัน 2 คน กับเป็นคนเวียดนาม

ถามอีกว่า เห็นว่าวันเดียวกันนี้จะมีการประชุมรัฐมนตรีพลังงานของรัสเซีย ที่โรงแรมที่เกิดเหตุดังกล่าวจะต้องมีการเปลี่ยนสถานที่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่น่า เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของการก่อการร้าย หรือความหละหลวมทางด้านการรักษาความปลอดภัย และคิดว่าทุกอย่างดำเนินการตามปกติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top