Tuesday, 13 May 2025
ณัฐชา

"ณัฐชา" ซัด "ประยุทธ์" ลำพองตัวคิดว่าเก่งกาจ เหยียบหัว ปชป. นั่งหัวโต๊ะบอร์ดแก้ปัญหาเกษตร หวั่น ปชช.ต้องรับกรรมซ้ำรอยโควิด

นาย​ณัฐชา​ บุญไชยอินสวัสดิ์​ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคก้าวไกล​ กล่าวถึง​กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “จับมือ รวมใจ พาไทยรอด” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 โดยระบุตอนหนึ่งว่า เรื่องการแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ เรากำลังตั้งคณะกรรมการซึ่งมีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นแกน เพื่อแก้ไขปัญหานี้

นายณัฐชา​ กล่าวว่า​ กี่ครั้งกี่หนที่เกิดวิกฤตชาติแล้วนายกรัฐมนตรีอาสานั่งหัวโต๊ะเพื่อแก้ปัญหาโดยรวบอำนาจทุกอย่างเอาไว้​ ประหนึ่งลำพองตัวเองว่าตนเก่งกาจจัดการได้ทุกเรื่อง​ แต่ผลที่ออกมาปรากฏว่าไม่มีวิกฤตใดเลยที่ พล.อ.ประยุทธ์ พาไปรอด และพอแก้ปัญหาไม่ได้ก็โยนบาปกลับไปให้เพื่อนพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอีกข้อที่น่าสังเกต คือ​ การอาสาแก้ปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้ เจ้าภาพควรเป็นกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ดูแลอยู่

การอาสาเข้ามานั่งตำแหน่งประธานบอร์ดแก้จน​แบบนี้ ต้องถามว่าจงใจจะล้วงลูกเหยียบหัวพรรคประชาธิปัตย์โดยทำเป็นอ้างปัญหาว่ามาจากความล่าช้าของระบบราชการใช่หรือไม่ หรืออีกด้านหนึ่งก็เพื่อต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้ช่วยโยนบาปให้พรรคประชาธิปัตย์ว่า ดูแลถึง 2 กระทรวงใหญ่ แต่ทำไมแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรไม่ได้ จึงต้องมีการตั้งบอร์ดชุดนี้เพื่อบอกว่าท่านอาสาเป็นอัศวินขี่ม้ามาช่วย​ ซึ่งคราวนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะขี่ม้าขาวหรือตกม้าตายกันแน่

'เสกสกล' ซัด 'ณัฐชา' ก่อนเสี้ยมพรรคอื่นแตกคอ ให้ย้อนดูพรรคตัวเอง ขัดแย้ง-งูเห่า

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนาย​ณัฐชา​ บุญไชยอินสวัสดิ์​ โฆษกพรรคก้าวไกล วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีนั้นรวบอำนาจ ว่า นายณัฐชา เป็นถึง ส.ส. ที่มาจากประชาชน ควรจะสนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ไม่ไช่ว่าจะออกมาขัดขวางการทำงานของรัฐบาล กีดกันไม่ให้ประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหา หรือได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล การทำงานหลายกระทรวงร่วมกัน เป็นการบูรณาการช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น ไม่ได้มีปัญหาอะไร อย่ามาพูดใส่ร้าย ยุยง เสี้ยมให้พรรคร่วมแตกคอกัน ไม่มีทางเกิดขึ้น ขอให้นายณัฐชา ย้อนมองดูพรรคการเมืองตัวเองก่อนว่าแตกคอกันมากน้อยแค่ไหน เห็นมีแต่งูเห่าเต็มไปหมด เพราะไม่มีใครอยากอยู่กับพรรคการเมืองที่จ้องแต่จะจาบจ้วง ก้าวล่วง ล้มล้าง โดยไม่สนใจความเป็นอยู่ของประชาชน

มติ ป.ป.ช. 3:3 ตีตกคำร้องเอาผิดจริยธรม กรณี ‘มงคลกิตติ์-พีระวิทย์-ณัฐชา’ ร่วมชุมนุมม็อบ ชู 3 นิ้ว

เมื่อวันที่ (24 มี.ค. 68) ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ตีตกข้อกล่าวหา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคไทยศรีวิไลย์ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคไทรักธรรม และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคก้าวไกล กระทำการอันเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธธรรมนูญและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

กรณีเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 -20 กันยายน 2563 ที่บริเวณท้องสนามหลวง และได้แสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว อันเป็นการสนับสนุนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

รายงานข่าวแจ้งว่า คดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 3 ต่อ 3 เสียง เห็นว่าไม่ผิดจริยธรรม และผิดจริยธรรมเท่ากัน โดยกรรมการ 3 เสียง ที่เห็นว่าไม่ผิดจริยธรรม คือ นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง , นางสุวณา สุวรรณจูฑะ และ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์

ส่วนกรรมการ อีก 3 เสียง ที่เห็นว่า ผิดจริยธรรม คือ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. , นายวิทยา อาคมพิทักษ์ และนายประภาศ คงเอียด ขณะที่ นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ  ลาการประชุม

ขณะที่ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ข้อ 19 ระบุว่า การลงมติของที่ประชุมเพื่อมีความเห็นว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ต้องมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

เมื่อคะแนนเสียงเท่ากันถือว่าข้อกล่าวหาตกไป

กล่าวสำหรับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ก่อนหน้านี้ ถูก ป.ป.ช.ไต่สวนคดี ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จำนวน 2 กรณี คือ

1. กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม จากการลาประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปชมภาพยนต์เรื่อง “4 KINGS อาชีวะ ยุค 90” เมื่อปี 2564

ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เสียงส่วนใหญ่เห็นว่า พฤติการณ์ของนายมงคลกิตติ์ เข้าข่ายไม่เหมาะสมผิดจริยธรรมแต่ไม่ร้ายแรง ขณะที่ปัจจุบัน นายมงคลกิตติ์ พ้นจากตำแหน่ง สส.ไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องส่งเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามข้อบังคับของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีก

2.กรณีใช้เฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “มงคลกิดดิ์ สุขสินธารานนท์” โพสต์รูปภาพและข้อความโดยเจตนาใส่ร้ายผู้กล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวและเป็นหญิงให้ความบันเทิงแก่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้บุคคลทั่วไปเชื่อว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อและเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2009 (COVID-19) ซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้กล่าวหาและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้รับความเสียหาย

ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ 7 เสียง เห็นว่า นายมงคลกิตติ์ มีความผิด ป.ป.ช.จะยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาโดยตรงต่อไป

ขณะที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น สส.กทม. พรรคประชาชน

ส่วน นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค เป็นอดีต สส. และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม เคยปรากฏข่าวถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี เนื่องจากจูงใจชาวบ้านให้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและตั้งสาขาพรรคในทางที่มิชอบตามกฎหมาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top